@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 10 ธ.ค 2555

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 10 ธ.ค 2555

“ไม่หรอก ฉันว่าคุณต้นเขาก็ไม่เลวนะ”
“นายต้นเนี่ยนะ”
“เมื่อคืนแกดื้อด้านมาหลับอยู่ข้างสระ ฉันตามลงมาก็เลยเห็นคุณต้นน่ะเอาผ้ามาห่มให้แก นั่งเฝ้าแก พอฉันมาเขาก็ช่วยอุ้มพาแกกลับขึ้นห้อง เชื่อฉันเถอะว่าเขาไม่เลวจริงๆ” พิมภาอึ้ง
ฤชวีเดินออกมามาที่รถ ฤชวีเปิดประตูด้านหลังเอากระเป๋าตัวเองขึ้นรถ พิมภามองๆ แล้วจะขึ้นที่นั่งคนขับ
“แนน ไป”
ฤชวียั้งประตูไว้ พิมภามองทำนองว่าอะไรอีก

“ผมขับให้เองดีกว่า คุณคงเพลีย”
พิมภายังไม่ทันตอบ เสียงมือถือพิมภาดัง
“แม่” พิมภากดรับ “ค่ะแม่”

พิมมาลานั่งอยู่ที่บ้านโดยมี ภาณุวัฒน์กับภัทรพลนั่งโขกหมากรุกกันอยู่
“แม่กำลังเข้ากรุงเทพฯแล้วนะลูก พิมจะกลับบ้านกี่โมง”
“เอ่อ วันนี้พิมงานยุ่ง เข้าไปมืดๆ หน่อยก็ได้จ๊ะ” เสียงเตือนว่าแบตหมด สายถูกตัดไป “แบตหมด เฮ้อ อะไรกันนักกันหนา”
ภาณุวัฒน์กับภัทรพลหันมองอย่างสนใจ



“เป็นยังไงบ้างแม่”
“น่าจะง้อกันอยู่ เราเข้าไปถึงมืดหน่อยก็ได้”
“งั้นมาเล่นต่อ วันนี้พ่อไม่ชนะแก พ่อไม่เลิก”
“ได้เลยพ่อ”
ภัทรพลกับภาณุวัฒน์โขกหมากรุกต่ออย่างเมามันส์ พิมมาลายิ้มพอใจ

พิมภาหันมาหาฤชวี
“รีบไปให้ไวที่สุดเลยคุณ เราต้องไปถึงก่อนพ่อกับแม่ฉัน แนน ขึ้นรถ”
พิมภาขึ้นนั่งข้างที่นั่งคนขับ ฤชวีประจำที่นั่งคนขับ นันทิกานต์ขึ้นด้านหลัง ฤชวีออกรถกำลังจะแล่นไปแต่มิ้นท์วิ่งมาขวางรถไว้ ฤชวีเบรกเอี๊ยด!
“อะไรเนี่ย”
“มิ้นท์ มันอันตรายนะมิ้นท์ มาขวางไว้ทำไม” ฤชวีลงจากรถมาต่อว่าน้องสาว
“พี่ลืมโน้ตบุ๊คไว้ มิ้นท์เอามาให้เกือบไม่ทัน”
นันทิกานต์ พิมภาลงจากรถ พิมภามองมิ้นท์อย่างสงสัยว่าเป็นใคร
“นายต้น คนนี้ใคร”
มิ้นท์ยิ้มกว้างให้พิมภาทันที
“สวัสดีค่ะคุณพิม ชื่อมิ้นท์ค่ะ เป็นน้องสาวแท้ๆ ของพี่ต้นค่ะ”
“น้องรู้จักพี่ได้ยังไง” พิมภาถามอย่างแปลกใจ
“ก็พี่ต้นพูดถึงคุณบ่อยๆ พอได้เห็นตัวจริง มิ้นท์ถึงเข้าใจแล้วว่า...”
ฤชวีเห็นท่าไม่ดี รีบปิดปากมิ้นท์
“พูดมากไปแล้ว” ฤชวีหันมาหาพิมภา “คุณรีบไม่ใช่เหรอครับ ไปกันเถอะ”
“เดี๋ยว” พิมภาดึงมิ้นท์ให้หลุดจากการปิดปากของฤชวี “น้องคะ พี่ของน้องพูดถึงพี่ว่ายังไงคะ”
ฤชวีอึ้งๆ มองมิ้นท์ เห็นมิ้นท์ยิ้มล้อเลียน ฤชวีส่งสายตาว่าอย่านะ มิ้นท์มองหน้าฤชวีคิดแกล้ง
“พี่ต้นบอกว่า...คุณพิมสวยมากน่ะค่ะ” พิมภาที่กะจะเอาเรื่องเลยทำหน้าไม่ถูก “เจอตัวจริงก็เห็นว่าสวยจริงไม่ผิดที่พี่ต้นพูดเลยค่ะ”
“พี่ชื่อแนนเป็นเพื่อนพี่พิมนะจ๊ะ” นันทิกานต์แนะนำตัวเอง
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”
ฤชวีเห็นพิมภาทำหน้าไม่ถูก เลยยิ้มล้อเลียน
“คุณพิมไม่รีบไปแล้วเหรอครับ”
“ไปสิ...ยินดีที่ได้รู้จักนะคะน้องมิ้นท์”
มิ้นท์ยิ้มตอบ ฤชวีกับพิมภา นันทิกานต์ขึ้นรถ ฤชวีขับรถออกไป มิ้นท์มองตามพลางบ่น

“เข้าใจละ ทำไมฤาษีต้นกล้าอยากตบะแตก” มิ้นท์ยิ้มชอบใจ
ฤชวีขับรถมาตามถนน นันทิกานต์นั่งสังเกตการณ์อยู่ด้านหลัง พิมภาเหลือบมองฤชวี ฤชวีรู้สึกว่าถูกมองก็เหล่พิมภา พิมภาทำเบือนหน้าไปทางอื่น
“คุณพิมมีอะไรอยากจะถามผมหรือเปล่าครับ”
“ฉันอยากรู้ว่าทำไมน้องสาวนายถึงรู้จักฉัน”
“ผมกับน้องสาวเราไม่เคยมีความลับต่อกัน”
“งั้นน้องนายก็รู้เรื่องที่นาย...” พิมภาตกใจ
“เป็นสามีกำมะลอน่ะเหรอครับ รู้สิครับ”
“นายไม่ควรเอาเรื่องของฉันไปพูดเป็นเรื่องสนุกปาก” พิมภาบอกอย่างไม่พอใจ
“ผมไม่ได้คิดจะเอาเรื่องของคุณพูดเป็นเรื่องสนุก แต่คิดถึงความเป็นจริงว่าผมต้องมาช่วยคุณ หมายความว่าผมต้องหายออกจากบ้าน แล้วคนทางบ้านผมจะคิดยังไง...ผมไม่อยากโกหกครอบครัวของผมเอง”
“โหย เจ็บอ่ะ” นันทิกานต์แกล้งบอก
“นี่นายหลอกด่าฉันเหรอ”
“นี่เป็นความคิดที่ผมมีต่อครอบครัวผม เราเป็นคนละคนกัน คุณก็มีเหตุผลของคุณ” พิมภาจะโวย “อย่าเหวี่ยงครับผมอาจเปลี่ยนใจได้”
ฤชวีพูดขัดขึ้นมา พิมภาหมั่นไส้มากแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะต้องพึ่งเขาจริงๆ เธอจึงได้แต่กอดอกอย่างขัดใจนันทิกานต์ยกนิ้ว พูดไม่มีเสียง
“สุดยอด”
ฤชวีมองผ่านกระจกหลังยิ้มนิดๆ ฤชวีอมยิ้มแอบมองพิมภาที่นั่งหน้างอขัดใจสุดชีวิต

ฤชวีขับรถเข้ามาจอดที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“ทานข้าวก่อนนะครับ”
“ฉันไม่หิว ฉันกำลังรีบ”
“คุณไม่หิวแต่ผมหิว เรากระเพาะคนละอันเข้าใจไหมครับ คุณแนนสนใจไหมครับ”
“สนสิคะ หิวไส้จะขาดอยู่แล้ว”
พิมภาตาเขียวใส่เพื่อน แต่นันทิกานต์ทำหน้าซื่อใส่ไม่สน พิมภาอึ้ง ฤชวีถอดเบลท์
“ตอนนี้แดดแรงมากถ้าคุณจะรอในรถก็ได้ แต่ผมเชื่อว่าในร้านลมเย็นกว่าและอาหารร้านนี้อร่อยมาก”
“ไม่กินจริงๆ เหรอพิม อร่อยด้วยนะ”
“ไม่”
“ตามใจ”
ฤชวีลงจากรถ พิมภาสีหน้าเข่นเขี้ยวหมั่นไส้สุดๆ จังหวะนั้นท้องพิมภาร้อง พิมภาจึงตัดสินใจลงจากรถ ฤชวีมอง
“ฉันไม่อยากอยู่ในรถ มันร้อน”
ฤชวียิ้มแบบไม่ได้ว่าอะไรนี่ครับ นันทิกานต์แอบขำไม่ให้เพื่อนเห็น พิมภาดึงนันทิกานต์เดินนำเข้าไป ฤชวีมองตามยิ้มๆ

ฤชวีกับพิมภาเดินมาที่โต๊ะแล้วดึงเก้าอี้ให้พลางหันมองพิมภา พิมภาทำเป็นเดินไปนั่งอย่างจำใจมาก ฤชวีดึงเก้าอี้อีกตัวให้นันทิกานต์ นันทิกานต์นั่งอย่างยินดี
“ขอบคุณค่ะ”
ฤชวีนั่งลงอีกด้าน
“เร็วๆ นะ ฉันรีบ” พิมภาบอก
“ครับ”
เด็กเสิร์ฟเอาเมนูมาให้ ฤชวียังไม่ทันขยับ พิมภาหยิบเมนูเปิดสั่งอาหารอย่างคล่องแคล่ว
“ไม่หิวนะ รีบด้วย สั่งไม่ถามใครเลย” นันทิกานต์แซว พิมภาจึงนึกได้หันมาถามฤชวี
“แล้วนายจะกินอะไร”
“ก็ตามที่คุณสั่งผมทานได้หมด”
“งั้นพี่เอาแค่นี้ เร็วหน่อยนะ พี่หิว” พิมภาหลุดปากแล้วนึกได้ “เพื่อนพี่หิวน่ะ” ฤชวีกับนันทิกานต์อมยิ้ม พิมภาเห็นฤชวียิ้มก็ไม่พอใจ “นายยิ้มอะไร”
“คุณเสียฟอร์มแล้วพาล น่ารักดี”
“โห โดน” นันทิกานต์บอกอย่างชอบใจผิดกับพิมภาที่ อึ้งไม่คิดว่าจะเจอคำตอบนี้จึงทำเมินมองไปทางอื่นซะเลย
“จะเขินทำไมเนี่ย” พิมภาบ่นตัวเองแล้วทำตึง ๆ แต่เหลือบมองทุกอิริยาบถของฤชวี
ฤชวีเช็ดแก้ว เช็ดจานเช็ดช้อน ตักน้ำแข็งให้เรียบร้อย พออาหารมาวางก็ตักข้าวให้ พอพิมภาเห็นอาหารก็ลืมเก็บอาการกินๆ ด้วยความหิว ฤชวีมองยิ้มๆ กินข้าวอย่างมีความสุข

ที่บริษัทนารี ซูซี่วางแฟ้มเอกสารตรงหน้าลัลนา
“แฟ้มรายละเอียดของสินค้ากับยอดขายที่ผ่านมาทั้งหมดของปีที่แล้วรวมกับของต้นปีแบบละเอียดยิบ น้องลัลก็รู้ทั้งหมดแล้ว จะเอาแฟ้มพวกนี้ไปทำอะไรเหรอคะ”
“ลงมือก่อนได้เปรียบค่ะ”
“เรื่องอะไรคะ”

ลัลนามองแฟ้มยิ้มๆ
ตรีวิญมองแฟ้มเอกสารตรงหน้าแล้วมองลัลนาที่ยิ้มโปรยเสน่ห์ให้
“ลัลคิดว่าคุณวิญอาจจะอยากได้ข้อมูลของสินค้ากับยอดขายของนารีที่ผ่านมา ลัลก็เลยรวบรวมมาให้ค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
ตรีวิญจะดึงแฟ้ม ลัลนาวางมือบนปลายแฟ้มเหมือนรั้งไว้ ตรีวิญชะงักมองลัลนาว่ามีอะไร
“คุณเพิ่งมาถึงเมืองไทยไม่กี่วัน สนใจจะไปแฮงค์เอาท์ด้วยกันไหมคะ”
ตรีวิญมองท่าทีลัลนาอย่างคิดๆ
“ผมสนใจ...” ลัลนายิ้มว่าเข้าเป้า “ที่จะพักผ่อนเงียบๆ ที่บ้านตามลำพังมากกว่าครับ ขอบคุณสำหรับคำ
ชวนนะครับ” ลัลนาอึ้งที่โดนปฏิเสธ “ไม่ทราบว่าติดต่อคุณพิมภาได้หรือยัง”
“ยังไม่ได้ค่ะ ถ้าคุณวิญห่วงเรื่องวันพรุ่งนี้ ลัลจะแก้ปัญหานี่ให้เองคะ”
“แต่มันไม่ใช่ปัญหาของคุณ”
“ปัญหาของบริษัทคือปัญหาของลัลค่ะ”
ตรีวิญมองลัลนาอย่างพินิจอยากเห็นศักยภาพเหมือนกัน
“งั้นคุณลองจัดการดูก็ได้”
ลัลนายิ้มอย่างมั่นใจ

ทางด้านพิมภา เมื่อกลับถึงกรุงเทพเธอก็พาฤชวีกับนันทิกานต์เข้ามาในห้อง
“เพราะนายแวะกินข้าวแท้ๆ ถึงกลับมาเย็นป่านนี้ แถมรถยังติดเสียเวลาที่สุด” พิมภาบ่น
“ครับ”
พิมภามองฤชวีอยากจะบ่นแต่รู้ว่าบ่นไปก็เท่านั้น
“แนน เดี๋ยวแกช่วยฉันดูเรื่องยัยเบอรี่อะไรนั่นก่อนนะ”
“ก็ถ่อมากับแกเพื่อสิ่งนั้นล่ะ”

ที่หน้าจอโน้ตบุ๊กของพิมภา เป็นBlog ที่ลงข้อความโจมตีพิมภา พิมภาไล่อ่านสีหน้าเครียดมาก นันทิกานต์อยู่ข้างๆ ฤชวีนั่งมองอยู่ห่างๆ
“แกเคยมีเรื่องกับยัยเบอรี่อะไรนี่หรือเปล่า”
“นี่มันตั้งใจใส่ร้ายฉันชัดๆ แกดูวันที่สิ วันที่มันระบุเป็นวันหลังจากงานแต่งงานไม่กี่วัน ช่วงนั้นฉันอยู่ที่สมุยจะไปมีเรื่องที่ช็อปนารีได้ยังไง”
“แต่ยัยเบอรี่นี่แต่งเรื่องละเอียดมากนะ ทั้งชื่อ ตำแหน่งแก แล้วยังรู้ด้วยว่าช็อปนี้เป็นโซนที่แกดูแล ตอนนี้มันบิ้วท์ไปซะเรื่องใหญ่โต”
“ใครนะมันทำฉัน ทำบริษัทเราขนาดนี้! ฉันจะไม่ยอมให้บริษัทต้องเสียหายเพราะฉัน”
“แล้วแกจะทำยังไง”
“คนอย่างพิมภาก็ต้องแก้ปัญหาอยู่แล้ว ยิ่งมันไม่ใช่เรื่องจริงมันก็ต้องชนกันสักตั้งควานหาคนบงการว่ามันเป็นใคร”
ฤชวีมองพิมภาอย่างเป็นห่วง เสียงกริ่งของห้องดังขึ้น ทุกคนมองไปที่จอกล้องที่ติดหน้าห้องจึงเห็นภาณุวัฒน์ ภัทรพล พิมมาลามาอยู่ที่หน้าห้อง
“พ่อกับแม่มาแล้ว” พิมภาหันมาหาฤชวี “คุณพร้อมนะ” ฤชวีพยักหน้า “แนน แกอย่าพูดเรื่องที่บริษัทกับพ่อแม่ฉันนะ ฉันไม่อยากให้ที่บ้านเป็นห่วง”
นันทิกานต์พยักหน้า พิมภาสูดลมหายใจเรียกำลังใจแล้วเดินไปเปิดประตู กลุ่มภาณุวัฒน์เข้ามา
“สวัสดีค่ะ คุณพ่อ คุณแม่ พี่ภัทร”
“ไอ้แนน มาเป็นกขค.ทำไมเนี่ย”
“พี่ภัทรพูดบ้าอะไร แนนมันมาคุยงานกับพิม”
“งั้นดีเลย อยู่ทานข้าวด้วยกันนะ แม่ซื้อกับข้าวมาเยอะแยะเลย”
“ดีเลยค่ะ ทุ่นไปอีกมื้อ”
พิมภาผลักหัวนันทิกานต์
“ยัยงก”
นันทิกานต์ช่วยพิมมาลาถือกับข้าวไปจัดใส่จาน พิมภาตามไปอีกคน ภัทรพลเข้ามายืนข้างฤชวี
“ดีกันแล้วใช่ไหม”
ฤชวีสะดุ้งเล็กน้อย
“ครับ”
“ลิ้นกับฟัน กระทบกันบ้างก็ต้องใจเย็นๆ เข้าใจไหม”
“ครับ”

ภาณุวัฒน์กับภัทรพลไปนั่งที่โต๊ะ ฤชวีมองอย่างหนักใจแต่พอหันไปมองพิมภาที่กำลังช่วยจัดกับข้าวก็อดยิ้ม ไม่ได้ดีใจที่มีโอกาสอีก
ทุกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร ฤชวีนั่งข้างพิมภา ถัดไปเป็นนันทิกานต์ ตรงข้ามเป็นภัทรพล พิมมาลา ภาณุวัฒน์
พิมมาลานั่งมองเห็นพิมภากับฤชวีทานข้าวเงียบๆ พิมมาลาสบตากับภัทรพล ภาณุวัฒน์ มีพยักหน้าให้ภัทรพลช่วยจัดการบรรยากาศให้มันดีที
“นี่แนนรู้จักกับนายต้นด้วยหรือเปล่า”
ฤชวี นันทิกานต์ พิมภาสบตากันชั่วแว้บ
“รู้จักสิพี่ สามีเพื่อนรักไม่รู้จักได้ไง”
“รู้จักกันนานแล้วเหรอ”
“เดือนเดียวเองค่ะแม่”
“เดี๋ยวนายต้นเคยเรียนที่เดียวกับยัยพิม แนนก็เรียนมารุ่นเดียวกับพิม ทำไมถึงเพิ่งรู้จักนายต้นล่ะ”
“เอ่อ...อ่า” นันทิกานต์อึกอักไม่รู้จะตอบยังไง
“ต้นเขาอยู่คนละคณะกับพิมจ๊ะ พิมกับแนนเรียนบริหาร ต้นเรียนมนุษยศาสตร์จะรู้จักกันได้ยังไง” พิมภาแก้ตัวแทนเพื่อน
“ไม่เคยเจอกันเลยเหรอ มหาวิทยาลัยเดียวกันตั้งสี่ปีนะ”
“แนนไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมด้วย ก็เลยไม่ค่อยเจอเพื่อนต่างคณะหรอกพี่”
“ต้นเขาแอบชอบพิมก็ไม่เปิดเผยตัว แนนมันก็เลยไม่รู้จักนะจ๊ะ”
ฤชวีมองพิมภากับนันทิกานต์ที่ช่วยกันแต่งเรื่อง ฤชวีมองไปแล้วชะงักที่เห็นสายตาพิมมาลากับภาณุวัฒน์มองมาที่ตัวเองเหมือนจับตาอยู่
“ผมไปหยิบน้ำให้นะครับ” ฤชวีเดินหนีไปที่ครัว
“แล้วรู้ตอนว่าสองคนนี้จะแต่งงานกัน” ภาณุวัฒน์ถามต่ออย่างสงสัย นันทิกานต์สบตาพิมภาว่าไม่ไหวแล้วนะเว้ย พิมภาจึงแกล้งพูดเสียงดังขึ้นมา
“แนน แกต้องรีบกลับไม่ใช่เหรอ”
“รีบกลับ ใช่ พอดีแนนมีธุระต้องรีบไปน่ะค่ะ งั้นแนนไปเลยดีกว่า สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่”
“เดี๋ยวพิมเดินไปส่งแนนก่อนนะจ๊ะ”
พิมภารีบดันนันทิกานต์ให้ออกไป
“อ้าว จะรีบทำไมนักหนา” ภาณุวัฒน์ พิมมาลา ภัทรพลมองตาม “แม่ พ่อว่าดูแปลกๆ นะ”
“สงสัยยังไม่ดีกันแน่เลยแม่”
พิมมาลาคิดๆ ว่าจะจัดการยังไง

พิมภาดันนันทิกานต์ให้เข้ามาที่หน้าลิฟต์
“ไอ้พิม ฉันจะตกนรกเพราะแกนี่ล่ะ ให้ฉันมุสาผู้ใหญ่เป็นฉากๆ ขนาดนี้”
“ฉันถึงได้ลากแกออกมานี่ไง”
“พ่อแม่แกมาอยู่แบบนี้ แกกับคุณต้นต้องแอ็คติ้งเป็นสามีภรรยายี่สิบสี่ชั่วโมงจะไหวเหรอแก”
“ไม่ไหวก็ต้องไหว ยังไงก็ต้องไม่ให้พ่อแม่จับได้”
“ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องต้องเล่นละครแต่หมายถึงแกอยู่ใกล้กับคุณต้น แกจะไหวเหรอ ยิ่งตอนนี้มาเห็นใกล้ๆ ฉันว่าเขาหล่อ แมน คะเนดูน่ากล้ามแน่นอยู่”
“อืม ก็แน่นอยู่”
พิมภาเผลอตัวออกมา นันทิกานต์ถึงกับชะงัก
“ไอ้พิม แกไปจับเขาตอนไหนถึงได้รู้ว่าแน่นไม่แน่น”
“ไอ้บ้าไม่ใช่อย่างที่แกคิดหรอกน่า”
“แล้วมันอย่างไหนล่ะ เล่ามา”
“ไปๆ ๆ พรุ่งนี้เจอกันที่ออฟฟิศแต่เช้านะ”
“ทำเป็นไม่ตอบ เพื่อให้สมจริงคืนนี้แกก็ต้องอยู่กับคุณต้นสองต่อสอง ฮื่อ” นันทิกานต์ทำเสียง ทำหน้าหื่นๆ แกล้งพิมภา
“ไอ้แนน”
พิมภาจะหยิกแต่นันทิกานต์หลบวูบเข้าลิฟต์ที่มาพอดี
“ฮะๆ ฮ่า โชคดีนะเพื่อน ฮื่ออ” นันทิกานต์โบกมือให้แต่ยังทำเสียงหื่นใส่ ล้อเลียนไม่เลิก พิมภาอยากจะตามแต่ลิฟต์ปิดพอดี พิมภาจะเดินกลับห้องรู้สึกหนักใจ

พิมภากลับเข้ามาในห้องแล้วห้องชะงักที่เห็นภาณุวัฒน์กับภัทรพลเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนเรียบร้อยถือหมอนผ้าห่มเข้ามาที่ห้องพิมภา ขณะที่ฤชวีล้างจานอยู่
“นี่พ่อกับพี่ถือหมอนกับผ้าห่มมาทำไม” พิมภาถามอย่างแปลกใจ
“คืนนี้พ่อแม่ พี่ภัทรจะนอนที่ห้องพิมนะ”
“ปกติก็นอนห้องข้างๆ กันนี่จ๊ะ”
“วันนี้มากะทันหันไม่ได้ทำความสะอาดห้อง แม่เหนื่อย ห้องพิมก็มีห้องนอนตั้งสองห้องนี่ พิมกับต้นต้องนอนห้องเดียวกันอยู่แล้ว เหลือห้องหนึ่งให้พ่อกับแม่กับพี่นอนไม่ได้หรือไง”
พิมภาพูดไม่ออก ภัทรพล พิมมาลา ภาณุวัฒน์มองหน้ากันแอบยิ้ม ฤชวีกับพิมภามองหน้ากัน

พิมภาดันฤชวีเข้ามาในห้อง พลางหันไปพูดกับด้านนอกว่า
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะพ่อแม่”
พอประตูปิดลง พิมภามองฤชวีที่ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ในห้อง

“เพื่อให้สมจริงคืนนี้แกก็ต้องอยู่กับคุณต้นสองต่อสอง ฮื่อ” พิมภานึกถึงคำพูดนันทิกานต์จึงมองฤชวีอย่างระแวง ฤชวีมองไปรอบห้องหันมาเจอสายตาพิมภาที่ดูระแวง ฤชวีชะงักว่าจะเอายังไงดี
พิมภาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนที่ดูรัดกุมมากเดินมานั่งที่เตียงเอาผ้าห่มคลุมตัว พลางมองฤชวีไม่วางตา
ฤชวีเข้ามาหยิบหมอน พิมภาขยับถอยอย่างระแวง ฤชวีเดินไปที่มุมประตูระเบียงวางหมอนแต่หันมายังเห็นพิมภานั่งจ้องตัวเอง
“นั่งจ้องทั้งคืนมันเหนื่อยนะครับ นอนเถอะครับ ผมสาบานว่าจะไม่เข้าใกล้คุณเกินห้าเมตร”
“ฉันจะเชื่อคุณได้ยังไง”

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 10 ธ.ค 2555

ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทประพันธ์โดย ปัณณพร
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก กำกับการแสดงโดย เมธี เจริญพงศ์
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก ผลิตโดย บ.เมกเกร์ เจ กรุ๊ป จำกัด(โดยคุณนก จริยา แอนโฟเน)
ติดตามชมละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รักได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา manager