@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ดุจตะวันดั่งภูผา ตอนที่ 11 วันที่ 26 ธ.ค. 55

อ่านละคร ดุจตะวันดั่งภูผา ตอนที่ 11 วันที่ 26 ธ.ค. 55

“เอ่อ...ฉันอยากคุยเรื่องงานกับเจ๊พัดหน่อยน่ะ เธอกลับไปก่อนก็แล้วกัน”

ลิลลี่ยิ้มอย่างรู้ทัน ก่อนจะจํ้าพรวดๆออกไป ครู่ต่อมา พีทมาถึงหน้าห้องทำงานของพัด ปลายฟ้าพูดดักว่าท่านรองประธานกำลังคุยธุระอยู่ เขาไม่ได้มาหาพี่สาว แต่อยากมาคุยกับปลายฟ้าต่างหาก เธอปฏิเสธอย่างสุภาพว่าไม่เหมาะสม พีทยืนกรานจะคุยให้ได้

“ได้ค่ะ...ถ้าคุณพีทต้องการอย่างนั้น เชิญเลยค่ะ มีอะไรก็คุยมาถ้าตอบได้ฉันก็จะตอบ”

เรื่องที่พีทถามล้วนเกี่ยวข้องกับไททั้งนั้น และคำตอบที่ได้ทำให้ตระหนักว่าปลายฟ้ามีใจให้ไทมากแค่ไหน พีทไม่พอใจมาก ตัดพ้อต่อว่าไม่พอ ยังทวงบุญคุณอีกต่างหาก เขาอุตส่าห์ทุ่มเทให้เธอมากมาย ทำไมถึงไม่เห็นความดีกันบ้าง ปลายฟ้าชักจะไม่พอใจ แต่พยายามข่มอารมณ์ไว้



“คุณพีทคะ...ฉันไม่เคยขอร้องให้คุณมาทำอะไรเพื่อฉันเลย ถ้าคุณคิดว่าจะมาทวงบุญคุณล่ะก็ ฉันก็ไม่รู้จะบอกคุณ ว่ายังไง นอกจากบอกว่า ฉันสำนึกในบุญคุณของคุณเสมอ แต่คุณรู้เอาไว้อย่างนะคะว่า บุญคุณหมดเมื่อทวง” คำพูดของปลายฟ้าทำเอาพีทถึงกับสะอึก ยังไม่ทันจะโต้ตอบ พัดซึ่งได้ฟังรายงานเรื่องแพรไหมเรียบร้อย เดินออกมาจากห้องกับเรียวเสียก่อน

“อ้าว...พีท ทำไมมานั่งที่นี่ล่ะ”

“เอ่อ...พอดีเห็นเจ๊มีธุระน่ะ” พีทแก้ตัวไปเรื่อย พัดว่างพอดีจึงชวนน้องเข้ามาคุยกันในห้อง...

หลังจากได้รับรายงานจากสายสืบ มังกรหันมาบอกสมุนมือขวาว่าไม่เห็นมีอะไรน่าสงสัย แค่บุ๊นรับรองแขกต่างประเทศแก่ๆ คนหนึ่งเท่านั้น อาเพียวยังคาใจเรื่องคนป่วยที่โอตี่บอก จะให้ทำอย่างไรต่อไป

“ถ้าเป็นนายมนัสจริง...ยายแก่คนนั้นเกี่ยวอะไรด้วย” มังกรสีหน้าครุ่นคิด

พลันภาพในอดีตผุดขึ้นมาในความคิดคำนึงของ มังกร ตอนนั้นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ที่บ้านของนายมนัสเขาพยายามเกลี้ยกล่อมแกมบังคับให้นายมนัสเซ็นชื่อในเอกสารสำคัญฉบับหนึ่ง

“เซ็นเถอะมนัส ขืนนายดื้อดึง พี่ใหญ่อาจจะไม่พอใจ...ดูเทอดเป็นตัวอย่างสิ”

นายมนัสนึกถึงการตายของเทอดขึ้นมา ความกลัวเริ่มจู่โจม ตัดสินใจเซ็นเอกสารให้ มังกรยิ้มพอใจดึงเอกสารฉบับนั้นมา แล้วออกไปขึ้นรถ พลางยกมือถือขึ้นมาโทร.บอกว่าเรียบร้อยแล้วพี่ใหญ่ ทันทีที่รถของมังกรแล่นออกไป อาเพียว ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด ลอบยิงทั้งนายมนัสและเมียของเขา รวมทั้งคนรับใช้ ขณะที่แพรไหมนั่งตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว

ooooooo

ที่บ้านพักตากอากาศของบุ๊น หลังจากเดินสำรวจรอบบ้านเสร็จ ไทเข้าครัวไปหาน้ำดื่มดับความร้อน ยามบ่าย เจอพยาบาลกำลังนั่งดื่มน้ำชาอยู่จึงทักทายถามไถ่ว่ามาทำงานที่นี่นานแล้วหรือ ได้ความว่า เธอทำงานมาสิบกว่าปี แล้ว ตั้งแต่นายมนัสถูกยิง ไทเริ่มสนใจซักอีกว่าถูกยิงเรื่องอะไร

“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ท่านประธานบุ๊นท่านเมตตารับคุณมนัสมาดูแล”

“แสดงว่าคุณมนัสนี่สำคัญต่อท่านประธานน่าดูสินะครับ”

พยาบาลว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะท่านดูแลอย่างดีทั้งนายมนัสและคุณแพรไหมลูกสาวของเขา ยังไม่ทันที่ไทจะถามอะไรอีก มีเสียงกริ่งดังมาจากห้องของนายมนัสเสียก่อน เธอจึงขอตัวไปดู ไทมองตามสีหน้าครุ่นคิด ไม่แน่ใจว่านายมนัสคนนี้จะเป็นคนเดียวกับที่น้าฉัตรพูดถึงหรือเปล่า...

หลังจากแตะมือเปลี่ยนเวรกับพยาบาล แพรไหมเดินถือหนังสือเล่มโปรดที่เพิ่งอ่านให้พ่อฟังลงมาหาน้ำดื่มในครัว สังเกตเห็นไทมองหนังสือในมือตนเองอย่างสนใจ จึงอธิบายว่านี่เป็นหนังสือประจำตัวของพ่อ ซึ่งชอบให้พยาบาลอ่านให้ฟังเป็นประจำ ไทคาดไม่ถึง เพราะเป็นหนังสือประจำตัวเขาเช่นกัน แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อ่าน

“พ่อผมซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต”

“จริงหรือคะ...เสียใจด้วยค่ะ...งั้นอ่านฆ่าเวลาไหมคะ” แพรไหมว่าแล้วยื่นหนังสือให้แล้วขอตัวไปดูพ่อต่อ ไทอดแปลกใจไม่ได้ที่นายมนัสชอบหนังสือเล่มเดียวกับตนเอง

จากนั้นเขาค่อยๆเปิดหนังสือเล่มนั้นไล่ไปทีละหน้า เจอรูปถ่ายเก่ามากรูปหนึ่งคั่นอยู่ ในรูปมีบุ๊น มังกร และนายมนัสสมัยไปล่าสัตว์ด้วยกัน และยังมีอีกคนหนึ่งซึ่งถูกคนอื่นนั่งบังอยู่ด้านหลังสุด เขาอยากรู้ความเป็นมาเป็นไปของรูปนี้ ถือโอกาสตอนที่พยาบาลลงมาหยิบของสอบถามดูว่าพอจะรู้อะไรบ้างหรือเปล่า

“อ๋อ...ภาพคุณมนัสกับเพื่อนๆ นี่คุณบุ๊นและนี่คงเป็นน้องชายคุณบุ๊น นี่คุณมนัส แต่คนนี้ไม่รู้จัก เห็นคุณบุ๊น

บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ คุณมนัสแกรักภาพนี้มากนะ ให้ฉันหยิบออกมาดูทุกวันเลย แกชอบดูคนที่มองไม่เห็นหน้านี่แหละค่ะ”

ไทยิ่งมั่นใจว่าต้องเป็นนายมนัสคนที่น้าฉัตรพูดถึงแน่นอน ที่สำคัญต้องเกี่ยวข้องกับพ่อของเขาด้วย...

ด้านลิลลี่ไปพบโอตี่ที่ร้านกาแฟตามนัด เธอสงสัยมีเรื่องด่วนอะไรนักหนาถึงโทร.ไปตาม เขาเล่าเรื่องธุรกิจของครอบครัวให้ฟังคร่าวๆ ว่าตอนนี้เวลาของพวกเราเหลือน้อยเต็มทีแล้ว ลิลลี่แปลกใจ ทำไมไม่ขอความช่วย เหลือจากลุงบุ๊น โอตี่ไม่คิดว่าเขาจะช่วย แต่ไหนแต่ไรมา ลุงบุ๊นไม่เคยช่วยพวกเรา มีแต่หยิบยื่นเงินทองเล็กๆน้อยๆให้เท่านั้น ทางเราจะซื้อโรงแรมก็ไม่ขายให้ จะทำธุรกิจ
ที่ดินที่เคยซื้อด้วยกันเขาก็ไม่ยอมโอนที่ให้

“แล้วกิจการของเฮียล่ะ”

“ตอนแรกมันก็ดีๆ แต่มันพังเพราะไอ้พีทแฟนยูไง ไอบอกตรงๆว่าไอก็ทำธุรกิจไม่ค่อยสะอาดเท่าไหร่ เห็นว่าค่าตอบแทนมันดีก็เลยยอมเสี่ยง”

ลิลลี่รับปากจะไปพูดกับพีทให้ โอตี่ไม่ได้ต้องการให้ทำอย่างนั้น พีทแอบถ่ายคลิปตอนที่เขาขนของผิดกฎหมาย และเอาคลิปนั้นมาแบล็กเมล์เรียกส่วนแบ่งจากเขาโดยไม่ต้องทำอะไร เขาอยากได้เมมโมรี่การ์ดในโทรศัพท์ของพีทคืน ลิลลี่ยินดีทำให้ด้วยความเต็มใจ

ooooooo

ในเวลาเดียวกันที่ห้องทำงานของฉัตร คู่หูเดินถือแฟ้มคดีเก่าของนายมนัสเข้ามา เห็นฉัตรนั่งลูบคลำอูคูเลเล่ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ อดแซวไม่ได้ คิดจะเปลี่ยนอาชีพจากตำรวจไปเป็นวณิพกหรือ

“ไอ้บ้า....ข้าซื้อไปให้หนูเอมโว้ย แหมเห็นข้าเป็นวณิพกไปได้...มีอะไรก็ว่ามา”

“คดีฆาตกรรมนายมนัส มีพยานให้ปากคำว่าคนสุดท้ายที่อยู่กับนายมนัสก่อนตายคือนายมังกร”

ฉัตรสีหน้าครุ่นคิดสงสัย มังกรไปหานายมนัสทำไมกัน คู่หูแนะให้ไปถามเจ้าตัวเอาเองถ้าอยากจะรู้ ฉัตรปิ๊งไอเดียทันที ครู่ต่อมาฉัตรกับคู่หูมาถึงบ้านของมังกร เพื่อสอบถามเรื่องที่มีพยานให้การว่ามังกรเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับนายมนัสก่อนตาย อยากรู้ว่าไปพบกันเรื่องอะไร มังกรอ้างว่าเรื่องเกิดขึ้นนานมากแล้วจำไม่ได้

“วันนั้นลูกสาวของผู้ตายได้ยินเสียงคุณกับนายมนัสเถียงกัน พอจะบอกได้ไหมว่าเรื่องอะไร”

“ก็บอกแล้วไงว่ามันนานมากแล้ว ผมจำไม่ได้ว่า ไปหามนัสเขาทำไม แล้วจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเถียงหรือคุย กันเรื่องอะไร” มังกรชักมีอารมณ์ขึ้นมา ฉัตรไม่ยอมแพ้ ยังคงซักถามต่อไป

เจ้าของบ้านหมดความอดทน ไม่ขอตอบคำถามอะไรอีก สั่งให้อาเพียวไปส่งแขก ฉัตรรู้ทันทีว่าถูกไล่ทางอ้อมจึงลุกออกมากับคู่หู โดยไม่ล่วงรู้เลยว่าการกระทำครั้งนี้จะนำภัยมาสู่ตัว ขณะทั้งคู่เดินกลับมาขึ้นรถ ไทโทร.มานัดฉัตรให้ไปพบค่ำนี้ที่เดิม มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย...

เย็นวันเดียวกัน ลิลลี่เดินตามแผนการที่โอตี่วางไว้ โดยแวะมาหาพีทที่คอนโดฯที่พัก คอยปรนนิบัติพัดวีให้ พีทพอใจที่มีคนคอยเอาใจ ถึงกับออกปากดีใจที่เราสองคนกลับมาคบกันอีก อย่างน้อยเขาจะได้ไม่เหงา ลิลลี่ไม่เชื่อถามตรงๆแล้วจะเอาปลายฟ้าเลขาฯคนใหม่ของเจ๊พัดไปทิ้งไว้ไหน เขาถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะยอมรับ

“คนนี้ฉันชอบมาก และคิดว่าจะแต่งงานกับเธอด้วยซ้ำ แต่เธอไม่เล่นด้วย แต่ฉันยังไม่ยอมแพ้หรอกนะ จะพยายามต่อไป...ขอโทษที่ต้องบอกกับเธอตรงๆ เราคบกันชั่วคราวไม่ใช่หรือ”

ลิลลี่ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ มีเสียงมือถือของพีทดังขึ้น โจโทร.มาชวนเขาไปหาอะไรดื่มกันที่ผับเจ้าประจำ เขาตัดสายแล้ววางมือถือไว้บนโต๊ะหัวเตียง

“ฉันจะไปหาอะไรดื่ม ไปด้วยกันไหม”

“ไม่ล่ะ ไม่อยากไปขัดความสุขกับพวกสาวๆของเธอ ฉันว่าจะไปกินข้าวกับเจ๊พัดดีกว่า”

“ก็ดี...ฉันไปแต่งตัวก่อนนะ อ้อ...สงสัยวันนี้เจ๊ไม่ว่างหรอก ไปเยี่ยมเพื่อนที่มาจากเมืองนอกที่บ้านพักตากอากาศของพ่อฉันน่ะ...สงสัยเธอคงต้องบินเดี่ยวแล้วล่ะ” พีทพูดจบเดินเข้าห้องน้ำ ลิลลี่ไม่รอช้าหยิบเมมโมรี่การ์ดที่เตรียมไว้ออกมาแล้วเปลี่ยนกับการ์ดในมือถือของพีท ขณะจะวางคืนที่เดิม เขาเดินออกมาพอดี ชักสีหน้าไม่พอใจ ลิลลี่แก้ตัวว่าแค่อยากดูมือถือเท่านั้น

“อยากดูว่าใครโทร.มาหรือไง”

ลิลลี่ได้ทีรับสมอ้าง “ผู้หญิงไม่ว่าจะอยู่ในฐานะอะไร มันก็ต้องมีการหึงกันบ้าง”

“ทีนี้เข้าใจความรู้สึกที่เธอทิ้งฉันไปหรือยัง” พีทยิ้มอย่างผู้ชนะขณะที่ลิลลี่แอบยิ้มสะใจ

อ่านละคร ดุจตะวันดั่งภูผา ตอนที่ 11 วันที่ 26 ธ.ค. 55

ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา บทประพันธ์ / บทโทรทัศน์ : ภูมิแผ่นดิน
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา กำกับการแสดง : เฉิด ภักดีวิจิตร
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา แนวละคร : แอ็คชั่น โรแมนติก ดราม่า
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา ดำเนินงานสร้าง : อาหลอง จูเนียร์
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา ดูแลงานสร้าง : บุญจิรา ตรีติยะ
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ