@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 12 ธ.ค 2555

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 12 ธ.ค 2555

เบอรี่เสียงแข็งใส่ ลัลนาพยายามสะกดอารมณ์เต็มที่
“ใจเย็นนะคะ แล้วดิฉันจะจัดการให้คุณพิมทำตามที่ลูกค้าต้องการนะคะ”
“ดี ฉันจะรอ ถ้าไม่ทำมีเรื่องแน่” ลัลนาพยายามยิ้มรับอย่างฝืนเต็มที “ถ้างั้นพวกเราก็กลับได้แล้ว”
เบอรี่กับกลุ่มออกไป นักข่าวตามไป ซูซี่ จุ๋มจิ๋ม ลิลลี่ ยอมปล่อยนันทิกานต์
“ทำอะไรของเธอยัยลัล”
“ก็แก้ปัญหาที่เพื่อนเธอทำไว้ไง”
“แต่พิมกำลังมาเธอไม่น่าสอด”
“แล้วไหนล่ะเพื่อนเธอ อยู่ไหน” นันทิกานต์อึ้ง ลัลนายิ้มเยาะ “หมดหน้าที่ของฉัน ฉันต้องกลับไปรายงานคุณตรีวิญก่อนนะ”
ลัลนา ซูซี่ จุ๋มจิ๋ม ลิลลี่ออกไป

“แล้วพี่พิมอยู่ไหนคะพี่แนน” เดียถาม นันทิกานต์เครียดตอบไม่ได้เหมือนกัน
รถของพิมภาแล่นมาจอดที่หน้าห้าง พิมภาถอดเบลท์
“นายเอารถไปจอดแล้วรีบตามไปที่ช็อปนารีชั้น 2 นะ”
“คุณพิม ต้องใจเย็นๆ นะครับ”
พิมภาพยักหน้ารับแล้วรีบวิ่งไปทันที



นันทิกานต์ เดีย ฤทธิ์ยืนอยู่หน้าช็อปสีหน้าเครียด พิมภาวิ่งเข้ามา
“แนน” พิมภามองไปรอบๆ ไม่เห็นมีคนมาก่อม็อบ “พวกนั้นยังไม่มาใช่ไหม”
“มาแล้ว”
“ไหนล่ะ”
“ไปแล้วค่ะ”
“อ้าว แกเคลียร์เองเหรอ” พิมภาถามนันทิกานต์
“ไม่ใช่พวกฉัน”
“แล้วใครเคลียร์...นี่มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า” พิมภาเห็นสามคนอึกอัก “เงียบแบบนี้หมายความว่ายังไง”

ฤชวีจอดรถเรียบร้อยแล้วลงจากรถจะรีบไปหาพิมภา ฤชวีมองชั้นลานจอดรถ
“ชั้น 3 A ช็อปอยู่ชั้น 2”
ฤชวีจะลงบันไดลานจอดรถ
“แต่ยัยพิมภาไม่มานะพี่”
ฤชวีชะงักที่ได้ยินชื่อพิมภา
“ไม่เป็นไร เพราะว่าเรื่องนี้มันไม่จบง่ายๆ หรอก”
ฤชวีหามุมแอบดูเห็นปราสินีที่ยืนหันหลังคุยกับเบอรี่
“แล้วพี่จะให้ทำยังไงต่อ ไปด่ายัยพิมภาอะไรนั่นที่บริษัทเลยไหม”
ฤชวีตัดสินใจหยิบมือถือขึ้นมาหาช่องถ่ายคลิปวีดีโอไว้
“ไว้พี่จะบอกเองว่าจะต้องทำยังไงต่อ” ปราสินีส่งซองเงินให้กับเบอรี่ “ค่าจ้างตามที่ตกลง เอาไปจัดกาแจกจ่ายให้เรียบร้อย”
“แล้วพวกพี่นักข่าวล่ะพี่”
“แล้วพี่จะจัดการคุยเอง”
ปราสินีเดินออกไปโดยที่ฤชวียังไม่เห็นหน้า ฤชวีมองตามปราสินีไป เบอรี่ออกไปอีกทาง ฤชวีเก็บมือถือรีบเข้าไปในห้างด้วยความเป็นห่วงพิมภา

ฤชวีรีบเข้ามาที่หน้าช็อปนารีแล้วชะงักที่เห็นพิมภากำลังอารมณ์เสียมาก นันทิกานต์ เดีย ฤทธิ์กำลังพยายามปลอบ
“ใจเย็นๆ ไอ้พิม”
“ยัยลัลไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องนี้ ไป เข้าบริษัทเลย วันนี้ฉันไม่ยอม” พิมภาบอกด้วยความโมโห
“คุณพิม เมื่อกี้ที่ลานจอดรถผม...” ฤชวีพยายามจะบอกเหตุการณ์ที่ลานจอดรถแต่พิมภาขัดขึ้น
“นายเอารถกลับไปก่อนเลย ฉันจะกลับไปบริษัทกับแนน”
นันทิกานต์มองฤชวี แล้วมองพิมภา
“คุณต้น...มา...กับพิมเหรอคะ”
พิมภากำลังเลือดขึ้นหน้าจนไม่สนเรื่องใดๆ ทั้งนั้น
“แนน ไปเร็วสิ”
“ไปแล้ว ไปเดี๋ยวนี้เลย”
นันทิกานต์ต้องรีบวิ่งตามพิมภาไป เดียกับฤทธิ์รีบวิ่งตามนันทิกานต์กับพิมภาไป ฤชวีมองตามแล้วมองไปรอบๆ จนเห็นกล้องวงจรที่ติดตั้งอยู่ ฤชวีมองอย่างคิดหาทางพิมภา ฤชวีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก
“กิ่ง ต้นมีเรื่องอยากให้ช่วย”

ฤชวีเข้ามาในห้องทำงานกิ่งแก้ว
“กิ่งตามคุณเกษมมาแล้วใช่ไหม”
“อีกสักแป๊บคงมาถึง เขาอยู่แถวนี้เอง”
“ขอบใจนะ”
“จะไหวเหรอต้น ถ้าไปพัวพันมากๆ ใจต้นจะไม่ไหวเองนะ”
“มิ้นท์โทรมาบอกแล้วใช่ไหม”
“มิ้นท์เป็นห่วงต้นนะ เพราะรู้ว่าต้นน่ะเซ้นท์ซิทีฟมาก เขาก็กลัวพี่ชายจะไม่ไหว”
“ผมไม่อยากขัดใจตัวเอง” กิ่งแก้วมองว่าหมายความว่ายังไง “ใจมันบอกว่าไม่ให้หยุดน่ะกิ่ง”
กิ่งแก้วรู้ว่าห้ามไม่ได้แน่
“งั้นกิ่งจะเอาใจช่วย ถ้าคิดว่าอกหักดีกว่ารักไม่เป็นก็เดินหน้าไปเลย”

“แบบนี้สิค่อยสมเป็นญาติกัน ไม่รู้ว่าคุณพิมจะเป็นยังไงบ้าง”
ที่บริษัทนารี ลัลนานั่งจิบกาแฟอย่างอารมณ์ดี
“ดื่มให้กับการจบปัญหาอย่างสวยงาม”
“ครั้งนี้น้องลัลจัดการแก้ปัญหาได้อย่างละมุนละม่อมที่สุด”
พิมภาเปิดประตูเข้ามา
“ลัลนา”
ลัลนาลุกขึ้นอย่างเตรียมพร้อม
“จะมาขอบใจฉันเหรอจ๊ะ”
“เธอมัน ไร้มารยาทที่สุด”
“แต่ตอนนี้น้องพิมกำลังทำตัวไม่มีมายาทอยู่นะคะ น้องลัลเข้าไปรับหน้าช่วยแก้ปัญหาให้น้องพิมแทนที่จะขอบใจกัน”
“ก็มันเป็นปัญหาของคนที่ชื่อพิมภา คนที่ต้องแก้ไขเรื่องนี้ก็คือคนที่ชื่อพิมภาไม่ใช่ลัลนา รู้ใช่ไหมว่ายุ่งกับเรื่องของคนอื่นแบบนี้เขาเรียกว่าอะไร”
ลัลนายังไม่ทันตอบ เสียงตรีวิญดังขึ้น
“เรียกว่ารักองค์กรไงครับ”
ทุกคนหันไปเห็นตรีวิญเดินเข้ามา พิมภามองตรีวิญ
“คุณ”
พิมภาจำได้ว่าตรีวิญคือคนที่ช่วยเปิดประตูห้องน้ำให้เธอ จนเธอเสียหลักล้มทับเขาที่หน้าห้องน้ำ
“ที่คุณลัลนาต้องเข้ามายุ่งกับปัญหาของคุณ เพราะคุณไม่อยู่แก้ปัญหาไงครับ แต่ที่จริงต้องเรียกว่าแก้ปัญหาของบริษัทมากกว่า เพราะชื่อของคุณทำให้บริษัทเสียหาย ผมพูดถูกไหม”
พิมภาอึ้ง หน้าตึงขึ้นมาทันที
“คุณเป็นใครมีสิทธิ์อะไรมาวิพากษ์วิจารณ์ฉัน”
“ต๊าย น้องพิมยังไม่รู้จักคุณตรีวิญ Marketing Manager คนใหม่ของนารีเหรอจ๊ะ”
พิมภามองอย่างไม่อยากเชื่อ ตรีวิญยิ้ม มองพิมภา
“ทีนี้คุณคงไม่สงสัยแล้วใช่ไหมว่าทำไมผมถึงมีสิทธิ์เข้ามายุ่งกับเรื่องนี้” พิมภาอึ้ง

ฤชวีต่อโทรศัพท์เข้าโน้ตบุ๊คของกิ่งแก้ว ภาพหน้าจอเป็นภาพตอนที่เบอรี่กับเพื่อนมาโวยวายที่หน้าช็อปของนารี กับอีกภาพที่ฤชวีถ่ายได้ในลานจอดรถ
“ผมเช็กกับกล้องวงจรปิดที่หน้าช็อปแล้วว่าสองคนนี้คือคนที่มาโวยวายที่หน้าshopของคุณพิม ถ้าเอามาประกอบกันแล้ว ผู้หญิงคนนี้” ฤชวีชี้ปราสินีในภาพที่หันหลังไม่เห็นหน้า “ตั้งใจจะเล่นงานคุณพิมแน่ ผมอยากจะให้คุณช่วยสืบหาว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร” ฤชวีบอกกับเกษม
“ยากเหมือนกันนะต้นเห็นแต่ด้านหลังแบบนี้” กิ่งแก้วบอก
“แล้วกล้องวงจรปิดในลานจอดรถล่ะครับ”
“ตรงนั้นผมมองจนทั่วแล้วแต่ไม่เห็นกล้องวงจรปิดนะครับ คงต้องรบกวนคุณเกษมด้วยนะครับ”
เกษมยิ้มกระตือรือร้นมาก
“ยินดีมากครับ fc (แฟนคลับ) อย่างผมทุ่มสุดตัวอยู่แล้วครับ ไม่เกินสามวันผมจะรีบมาแจ้ง”
“ขอบคุณมากครับ”
“ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวไปเริ่มงานเลยนะครับ” เกษมจะไปแล้วนึกได้ “อ้อ” เกษมเดินกลับมาพร้อมกับหยิบปากกา “ขอลายเซ็นสักนิดเถอะครับ” เกษมดึงชายเสื้อให้ฤชวี ฤชวีเซ็นชื่อให้เกษมที่ชายเสื้อ “ขอบคุณมากครับ”
เกษมยิ้มปลื้มแล้วเดินออกไป
“คุณเกษมนี่แฟนตัวจริงหนังสือต้นเลยนะ ทุ่มสุดตัวเชียว” กิ่งแก้วมองฤชวีล้อเลียน “แต่กิ่งว่าไม่ใช่แค่คุณเกษมที่ทุ่มสุดตัวหรอกจริงไหม”
ฤชวียิ้มๆ ไม่ตอบ

พิมภายืนอยู่ในห้องตรีวิญ พิมภามองตรีวิญอย่างประเมิน
“ผมเป็นคนอนุญาตให้คุณลัลนาเข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้เอง”
“ถ้าอย่างนั้นก็เป็นคุณที่ทำไม่ถูก”
“แล้วในเรื่องนี้ คุณทำถูกอย่างนั้นเหรอ”
“ฉันไม่ได้คิดว่าตัวเองถูกในการที่ฉันหายไปในช่วงเวลาที่มีปัญหา”
“ถ้าคุณรู้ว่าคุณผิดก็ควรจะยอมรับ”
“ที่ดิฉันไม่ยอมรับ ไม่ใช่ว่าใครเป็นคนถูกหรือผิด แต่ดิฉันไม่ยอมรับวิธีการแก้ปัญหาแบบที่ลัลนาทำ เพราะข้อกล่าวหาที่ว่าดิฉันก้าวร้าวกับลูกค้าไม่เป็นความจริง ข้อความทั้งหมดเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น การที่ลัลนาขอโทษออกสื่อแบบนี้เท่ากับทำให้คนเข้าใจว่าดิฉันทำผิดทั้งที่ดิฉันไม่ได้ทำ”
“แล้วคุณมีหลักฐานอะไรมาแก้ต่างว่ามันเป็นการใส่ร้าย”
“ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ แต่ในเมื่อมันไม่เคยเกิดขึ้น ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่มีหลักฐานเหมือนกันมีแต่คำกล่าวหา”
“แล้วคุณมีความคิดจะรับมือกับเรื่องนี้ยังไง”
“ดิฉันคิดว่าควรจะยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ เพราะเรื่องครั้งนี้ต้องมีคนจงใจใส่ร้ายดิฉัน”
“แสดงว่าคุณคือต้นเหตุของปัญหา”
พิมภายอมรับอย่างไม่หวั่น
“คิดว่าอย่างน้อยก็ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ค่ะ เขาระบุว่าเป็นดิฉันแสดงว่าจงใจพุ่งเป้ามาที่ดิฉัน ดิฉันจะขอแก้ปัญหาในครั้งนี้เอง”
“คุณคิดว่าจะจัดการเรื่องนี้ได้งั้นเหรอ”
“แน่นอนค่ะ ดิฉันทำให้บริษัทต้องเสียชื่อเสียง ดิฉันจะล้างมลทินให้กับบริษัทให้ได้”
ตรีวิญมองพิมภาอย่างประเมิน
“ได้ ผมจะคอยดู”

พิมภามองตรีวิญอย่างไม่ยอมแพ้
ที่ห้องทำงานลัลนา ลัลนาเปิดจอโน้ตบุ๊กอ่านข้อความ โดยมีซูซี่ยืนอยู่ข้างๆ
“ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้” ลัลนาหัวเสีย
“ตอนนี้ยัยเบอรี่ยิ่งสร้างกระแสหนักไปใหญ่เลยนะคะน้องลัล แทนที่เรายอมขอโทษแล้วจะจบ กลายเป็นว่ายัยนี่เอาเรื่องนี้มาโจมตีมาตรฐานการบริการของบริษัทเรา พอน้องพิมไม่ได้ไปขอโทษเองก็กลายเป็นเราปกป้องคนผิด แล้วดูเวลาที่โพสท์มันหลังจากที่น้องลัลขอโทษไม่ถึงสองชั่วโมงเลยนะคะ พี่ว่างานนี้มีคนอยากทำลายน้องพิมกับบริษัทให้ถล่มจมดินเลยนะคะ”
“จบกัน นี่ลัลเชือดคอตัวเองเหรอเนี่ย”
พิมภาเปิดประตูเข้ามา
“เห็นผลของการแก้ปัญหาด้วยวิธีโง่ๆ ของเธอหรือยัง” ลัลนาเจ็บใจ
“ฉันทำในสิ่งที่ควรทำต่างหาก ถ้ามันเป็นเคสปกติทั่วไป เธอก็ต้องทำแบบนี้เหมือนกัน”
“เธอควรจะฉลาดตั้งแต่เห็นข้อความครั้งแรกว่ามันไม่ใช่เคสทั่วไป ตามัวเพราะมองแต่จะสร้างผลงานจนไม่มีหัวคิดทำชื่อเสียงบริษัทตกต่ำ”
“คนที่ทำให้บริษัทตกต่ำมันเธอต่างหาก ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ บริษัทจะโดนโจมตีแบบนี้ได้ยังไง”
“คนที่ทำเรื่องเลวๆ แบบนี้ได้มันประกาศว่าเป็นศัตรูกับฉัน” พิมภามองลัลนา “วางแผนได้ทุเรศจริงๆ สร้างเรื่องแล้วก็ขังฉันในห้องน้ำ ตัวเองไปเอาหน้าสร้างผลงาน แต่ไอ้วิธีคิดทำร้ายฉันด้วยการทำลายบริษัท มันสิ้นคิด”
“ปัญญาอ่อนแล้วนี่มันบริษัทของพ่อฉันเหมือนกัน ฉันจะทำทำไม”
“โอ้ย ศึกนอกก็หนัก หนอนในบริษัทก็มี ยังจะทะเลาะกันอีก ฉันไม่เข้าใจความคิดคนสมัยนี้เลยเว้ย คงได้พังกันหมดล่ะคราวนี้” นันทิกานต์บอก
“ฉันไม่ยอมแน่” ลัลนากับพิมภาบอกออกมาพร้อมกัน
“ฉันจะลากคอตัวการเรื่องนี้มาให้ได้”
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะหาหนอนที่มันเอาความลับเราไปขายเอง” พิมภามองลัลนาอย่างพอใจ
“งั้นดูสิว่าใครจะสำเร็จก่อนกัน”
“ต้องเป็นฉันแน่”
พิมภายิ้มหยามๆ ว่าแน่ใจเหรอ
พิมภากับลัลนาเหมือนจะร่วมมือกันแต่ยังฟอร์มเชิดใส่กันสุดฤทธิ์ นันทิกานต์กับซูซี่มองงง

พิมภาเดินกลับเข้าห้องทำงาน นันทิกานต์เดินตาม
“พิม นี่แกจะญาติดีกับยัยลัลเหรอ”
“ไม่มีทาง”
“เอ้า แล้วที่แบ่งหน้าที่กันเมื่อกี้ล่ะ”

“ก็แค่เป็นพันธมิตรชั่วคราว”
ลัลนาบอกกับซูซี่
“น้องลัลจะช่วยน้องพิม โลกจะแตกแน่ๆ”
“ลัลช่วยตัวลัลเองต่างหาก พี่อย่าลืมว่าเรามีปัญหาเรื่องสินค้าถูกก็อปอยู่ ถ้าเกิดชื่อเสียงบริษัทเสียหาย รองพื้นที่เราจะเปิดตัว ยอดต้องแป็กแน่ๆ เป็นแบบนั้นเราจะสร้างยอดขายได้ยังไง พี่เข้าใจไหม”
“จริงค่ะ แล้วน้องลัลจะให้ทำยังไงต่อ เราเช็คในแผนกมาร์เก็ตติ้งหมดแล้ว ไม่มีใครได้เห็นสินค้านอกจากน้องลัลกับพี่ นี่จับมือใครดมไม่ได้เลยนะคะเนี่ย”
“ถ้ากลางทางกับปลายทางไม่เจอ เราก็ต้องย้อนขึ้นไปว่าตัวอย่างจะต้องผ่านมือใครบ้าง”
ซูซี่คิดตาม

ที่ห้องทำงานพิมภา พิมภาหันกลับมาหานันทิกานต์
“แนน แกไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าshop ทั้งหมด ย้อนไปจนถึงวันที่ยัยนั่นระบุว่ามีเรื่องกับฉันด้วยนำ เอามาเก็บเป็นหลักฐาน”
“ได้ เย็นนี้จะเอามาให้เลย”
เสียงมือถือพิมภาดัง พิมภามองแล้วกดรับ
“นายมีอะไร”

ฤชวีนั่งอยู่ในรถคุยมือถือกับพิมภา
“ผมจะบอกคุณว่า ผมจอดรถรอคุณอยู่ในซอยเลยทางเข้าออฟฟิศมาสองซอยนะครับ”
“ก็ฉันบอกให้นายกลับไปก่อนไง”
“ถ้าผมเอารถไปแล้วคุณจะกลับบ้านยังไงล่ะครับ”
“ฉันกลับเองได้น่า”
“เอาเป็นว่าคุณทำงานเสร็จแล้วโทรมานะครับ ผมจะรอ”
“ฉันบอกว่าไม่ต้อง...” ฤชวีวางสายไม่รอให้ปฏิเสธ พิมภาได้ยินเสียงสัญญาณโทรศัพท์ถูกตัด “ฮัลโหล นี่นายต้น” พิมภามองโทรศัพท์อย่างหมั่นไส้ “รอไปเถอะย่ะ”

พิมภาหยิบแฟ้มมาอ่านต่อไม่สนใจ
ที่นาฬิกาเวลาผ่านจากห้าโมงกลายเป็นสองทุ่ม พิมภายังนั่งอ่านเอกสาร เสียงโทรศัพท์มือถือดัง พิมภารับโทรศัพท์ทั้งที่ไม่มองหน้าจอ
“สวัสดีค่ะ”
พิมมาลาจัดโต๊ะไปพลางคุยโทรศัพท์มือถือไปด้วย
“พิม อยู่ที่ไหนแล้วลูก”
“ออฟฟิศค่ะแม่ ยังทำงานอยู่เลย”
“แล้วตาต้นล่ะอยู่กับพิมใช่ไหม”
“นายต้นยังไม่กลับไปอีกเหรอคะแม่”
“ยังนี่ มีอะไรหรือเปล่า”
“เอ่อ เปล่าคะ พิมบอกให้ต้นเอารถกลับไปก่อนตั้งนานแล้วน่ะคะ”
“แต่แม่ยังไม่เห็นเลยนะลูก”
“อย่าบอกนะว่า...”
“มีอะไรเหรอลูก ทะเลาะกันเหรอ”
“เปล่าค่ะแม่ พิมกำลังคิดว่าต้นอาจจะไปธุระน่ะค่ะ งั้นพิมจะรีบกลับเดี๋ยวนี้ค่ะแม่ แค่นี้ก่อนนะคะ” พิมภา วางสายแล้วนั่งคิด “ไม่รอหรอกน่า หรือว่ารอ”
พิมภาคว้ากระเป๋าแล้วรีบออกไป

พิมภารีบเดินออกมาที่ถนนหน้าบริษัทแล้วมองหาฤชวี
“ในซอย”
พิมภาเดินมาซอยที่สองถัดมาจากแถวทางเข้าบริษัท พิมภามองเข้าไปในซอยก็เห็นรถตัวเองจอดหลบอยู่ในซอยตามที่ฤชวีบอกไว้จริง พิมภารีบเดินไปที่รถ
ภายในรถฤชวีนั่งหลับอยู่ฝั่งที่นั่งคนขับ แง้มกระจกไว้เล็กน้อย พิมภาเห็นแล้วอึ้งก่อนจะตัดสินใจเคาะกระจกเบาๆ
“นี่ นายต้น นายต้น”
พิมภาเคาะแรงขึ้น ฤชวีรู้สึกตัวตื่นหันมองมาทางกระจกจึงเห็นพิมภาก็เด้งตัวตื่นขึ้นมามองพิมภา สีหน้าปลาบปลื้มมาก ฤชวีเปิดประตู
“คุณพิม งานเสร็จแล้วใช่ไหมครับ”
“ฉันบอกนายกลับบ้านไปก่อน แล้วมารอทำไมแล้วก็เปิดกระจกไว้นิดเดียว ไม่ร้อนหรือไง”
“ร้อนครับ”
“แล้วทำไมไม่กลับบ้านไปก่อน”
“ผมเป็นห่วงไม่อยากให้คุณกลับแท็กซี่นี่ครับ”
“แล้วเราจะกลับได้หรือยัง นายขับไหวไหม ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวฉันขับเอง”
“ไหวครับ คุณทำงานมาเหนื่อยๆ ผมขับให้นั่งดีกว่า”
พิมภาเดินไปขึ้นที่นั่งข้างคนขับ ฤชวีมองพิมภายังไม่ออกรถ
“ก็ขับไปสิ”
“คือ” ฤชวีหยิบถุงแซนวิชกับนมขึ้นมายื่นให้พิมภา “คุณพิมหิวไหมครับ ผมซื้อแซนวิชกับนมไว้ให้ รองท้องก่อนไหมครับ”
“ขอบใจนะ”
พิมภาเปิดแซนวิชกิน ฤชวีมองยิ้มๆ แล้วจัดการสตาร์ทรถ ค่อยๆ ขับออกไป

พิมภากินแซนวิชไปพลางแอบเหลือบมองฤชวีอย่างพินิจ ฤชวีรู้สึกว่าถูกแอบมองก็หันมามองพิมภา พิมภาทำเป็นเบือนหน้ามองออกไปทางหน้าต่าง ฤชวีแอบมองพิมภา พิมภาจากทำไม่รู้ไม่ชี้จะหันกลับมามองก็สบตากับฤชวีพอดี แต่พอสบตากันต่างคนต่างก็หันมองไปทางอื่นเนียนๆ ฤชวีอมยิ้ม พิมภาก็รู้สึกดี

ฤชวีกับพิมภาเดินเข้ามาในห้องแล้วชะงักที่เห็น ภาณุวัฒน์ พิมมาลา ภัทรพลนั่งรออยู่
“มาซะที พี่หิวไส้จะขาดอยู่แล้ว”
“ทำไมไม่ทานกันไปก่อนล่ะพี่”
“กินกันพร้อมหน้าครอบครัวสิมันถึงจะอร่อย นั่งสิตาต้นนั่งๆ”
ฤชวีนั่งลงกับพิมภา พิมมาลาตักข้าวส่งให้
“แม่ไม่รู้ว่าต้นชอบกินอะไร ก็เลยทำหลายอย่างหน่อย”
“ไม่ต้องยุ่งยากหรอกแม่ ต้นเขาเป็นคนง่ายๆ ไม่เรื่องมากเหมือนพิมนี่ล่ะ ไม่มีไข่ตุ๋นเหรอแม่”
“ไม่บอกแม่ก่อนก็ไม่ได้ทำสิ จะกินมั้ยแม่ทำให้แป๊บเดียว”
“ไม่ต้องหรอกแม่ แกนี่ง่าย ๆ ไม่เรื่องมากเลยนะ กับข้าวมีตั้งเยอะดันอยากกินไข่ตุ๋น กินมันเท่าที่มีนี่ล่ะ แม่ทานข้าวเลยเดี๋ยวจะปวดท้อง”
“แค่ถามถึงทำไมต้องโวยวายด้วยนะพี่ภัทร”
“เอาอย่างนี้ครับ” ทุกคนหันมองฤชวี “ทานกันก่อนนะครับ คุณพิมรอแป๊บเดียวนะครับ”
“นายจะทำอะไร นายต้น”
“แป๊บเดียวจริง ๆ ครับ”
ฤชวียิ้มแล้วลุกเดินไปที่มุมครัว
“ว่าแต่วันนี้ลูกกับตาต้นไปไหนมาทำไมถึงกลับมาช้านัก” ภาณุวัฒน์กระซิบถามพิมภา
“พิมเคลียร์งานอยู่จ๊ะพ่อ ให้ต้นเขากลับมาก่อนก็ไม่ยอม ไปจอดนอนรออยู่ตั้งนาน บ้าจัง”
“ปากว่าบ้าทำไมต้องยิ้มหน้าบานด้วยไอ้พิม”
พิมภาสะดุ้งจับหน้า
“ยิ้มอะไรไม่ได้ยิ้ม”
“ยิ้ม” ภาณุวัฒน์ ภัทรพล พิมมาลายืนยันพร้อมกัน
“แต่ก็ดีแล้วนะ ลูกมีคนดูแลเอาใจใส่แบบนี้ พ่อกับแม่ก็จะได้สบายใจ”

“อย่าให้ดีแตกเหมือนไอ้เอกพลก็พอ”
พิมภาหน้าเสีย พิมมาลาหยิกภาณุวัฒน์
“พ่อ”
“พ่อขอโทษ พ่อลืมตัว”
“แกจะไปรู้สึกกับอดีตเลวๆ ทำไม ในเมื่อปัจจุบันของแกอยู่ในครัวโน่น”
“มาแล้วครับ”
ฤชวีถือหม้อออกมา ฤชวีวางแผ่นไม้รองของร้อนไว้ที่โต๊ะแล้ววางหม้อลง ฤชวีเปิดฝาเห็นไข่ตุ๋นฟูเต็มหม้อ
“ไข่ตุ๋นสูตรราชบุรีครับ ลองชิมสิครับ”
ภาณุวัฒน์ตักชิม
“อร่อยนะ”
พิมมาลากับภัทรพลชิมมั่ง
“อร่อยด้วย เนื้อแน่นๆ แปลกดีนะ”
“ชิมดูสิครับ”
พิมภาตักชิมสีหน้าบอกว่าอร่อยแต่ต้องทำฟอร์ม
“ก็ใช้ได้นะ”
“แบบนี้เรียกว่าอร่อยแล้ว ได้ไข่ตุ๋นสมใจแกก็กินข้าวกันเถอะ”
“ชอบไหมครับ” ฤชวีถามพิมภายิ้มๆ พิมภาอึกอักนิดหน่อย
“ชอบ”
ฤชวียิ่งยิ้ม ตักไข่ตุ๋นใส่จานให้พิมภา
“ทานเยอะๆ นะครับ”
พิมภาพยายามทำหน้าให้เป็นปกติแต่ภัทรพล พิมมาลา ภาณุวัฒน์ดูออกว่าพิมภาดูเขินนิดๆ ฤชวีหันมาเห็นภัทรพล ภาณุวัฒน์ พิมมาลามองอยู่ก็เสไปตักไข่ตุ๋นให้กับทุกคนด้วย ฤชวีตักกับข้าวพิมมาลามาทาน

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 12 ธ.ค 2555

ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทประพันธ์โดย ปัณณพร
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก กำกับการแสดงโดย เมธี เจริญพงศ์
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก ผลิตโดย บ.เมกเกร์ เจ กรุ๊ป จำกัด(โดยคุณนก จริยา แอนโฟเน)
ติดตามชมละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รักได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา manager