@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 18 ธ.ค. 55

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 18 ธ.ค. 55

แสงกล้าฮึกเหิมลุกขึ้นถือปืนประจันหน้าอีกครั้ง
“ระดับแกอย่าสู้กับฉันเลย สู้กับคนของฉันดีกว่า ฮึ ๆ ๆ ๆ”
ขมังเวทย์เพ่งไปยังแพรไพลินที่ทรุดตัวอยู่ ลูกสกดที่ฝังอยู่บริเวณท้ายทอยแพรไพลินเริ่มทำงาน เธอลุกขึ้นยืน แววตาเปลี่ยนไปเป็นแข็งกร้าว ยืนตาขวางมองแสงกล้า แสงกล้าบอก
“หนีออกมา”
ขมังเวทย์โยนปืนสองกระบอกส่งให้ แพรไพลินรับปืนด้วยมือซ้ายและขวา
“ฆ่ามันซะ !” ขมังเวทย์สั่ง

“อย่าไปฟังมัน ทิ้งปืน”
แพรไพลินยิงปืนสองมือใส่ แสงกล้าวิ่งหลบกระสุน และกระโดดเข้าไปหลบที่มุม ๆ หนึ่ง
“ออกมายิงต่อสู้สิ ออกมาเลย”



ขมังเวทย์หัวเราะชอบใจที่แสงกล้าไม่กล้ายิง แพรไพลินเหยียดปืนทั้งสอง หาจังหวะยิงแสงกล้า แต่แสงกล้าหลบไม่ออกมา...
“ถ้าแกไม่ออกมา ผู้หญิงคนนี้ต้องรับเคราะห์แทน !”
ขมังเวทย์กระชากมีดยาวออกมาถือไว้ ก่อนเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้แพรไพลินมากขึ้นเรื่อย ๆ ขมังเวทย์เงื้อมีดในมือสุดแขน เหมือนจะจ้วงแทงเข้าใส่แพรไพลินที่ไม่ได้สติอยู่นั้น แสงกล้าตกใจ รีบลุกขึ้นมาห้าม
“อย่านะ อย่าทำอะไรเธอ ปล่อยตัวคุณหมอซะ”
“ฮึ ๆ ผู้ชายมีจุดอ่อนที่น่ากลัวที่สุดคือ ผู้หญิง ...ฆ่ามัน !” ขมังเวทย์พูดแล้วหันไปสั่งแพรไพลิน
แพรไพลินหันเล็งปืนใส่แสงกล้าทันที เปรี้ยง !
วิถีลูกกระสุนกำลังจะพุ่งมาใส่แสงกล้า แล้วจู่ ๆ ก็มีถังโกยขยะมาขวางทิศทางกระสุน !ไว้ได้ทันท่วงที แสงกล้าแปลกใจ...หันไปเห็นพนักงานทำความสะอาดที่ถอดหมวกออก..เผยให้เห็น “จ่าสมิง”
“สมิง”
“ผมเตือนหมวดแล้วให้อาบแสงจันทร์ก่อนแล้วจะโชคดีมีชัย”
“ช่วยคุณหมอด้วย”
“ไม่ต้องห่วง ผมเป็นพระเอกไม่ปล่อยให้แฟนพระรองเจ็บแม้แต่ปลายนิ้วก้อย”
“เลิกพูดเล่นซะทีได้มั้ย”
“ไม่ได้ มันเป็นสันดาน ! เหมือนกับไอ้พญามารตัวนี้ สันดานชั่วคงแก้ไม่หายนอกจากฆ่าให้ตาย !”
ขมังเวทย์ไม่พอใจ หันไปสะกดให้แพรไพลินยิงปืนใส่สมิง
“เมื่อหัวค่ำฝากของขวัญมาเม็ดเดียวมันน้อยไป คราวนี้เอาไปซักกำมือ”
สมิงล้วงหยิบเบี้ยแก้อีกหนึ่งกำมือจากถุงผ้าที่ผูกอยู่ข้างตัว โยนเข้าใส่ร่างแพรไพลิน
“อาการน่าจะดีขึ้นนะหมอ !” สมิงว่า
เบี้ยแก้นับสิบลอยเข้าใส่ร่างแพรไพลิน แสงสว่างจ้าเกิดขึ้นโดยรอบตัวแพรไพลิน พลังการบังคับของขมังเวทย์ลดลงไปทันที แพรไพลินคืนสติและมีท่าทางอ่อนแรงลง
“ขอยืมปืนหน่อยนะหมอ”

จ่าสมิงเพ่งจิตเต็มที่ แพรไพลินหันไปยิงปืนรัวใส่ขมังเวทย์ไม่ยั้งเปรี้ยง ๆ ๆ ขมังเวทย์ถูกกระสุนอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่ไม่เป็นอะไร กระสุนทำอะไรเขาไม่ได้
“ฮึ ๆ ๆ กระสุนกระจอกทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”
จ่าสมิงหันขวับไปที่ข้างตัวดันโต๊ะขนาดใหญ่ข้างแคทวอร์ค กระแทกเข้าใส่ร่างขมังเวทย์
สมิงร้องลั่นเรียกพลัง “อ๊าก”
โต๊ะขนาดใหญ่พุ่งตามแรงดันของสมิง ลำตัวขมังเวทย์กระแทกเข้ากับลำโพงขนาดใหญ่ข้างเวทีเต็มแรง
บังเกิดไฟฟ้าลัดวงจรที่ลำโพง ช็อตร่างขมังเวทย์พรึ่บ ! ขมังเวทย์ทรุดตัวนิ่ง
แพรไพลินหลุดจากการควบคุมของขมังเวทย์ เธอล้มลง ทุกคนในงานต่างรู้สึกตัวแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น แสงกล้ารีบวิ่งไปช่วยแพรไพลิน “คุณ”
แสงกล้า นึกเป็นห่วงคราม รีบออกคำสั่ง
“ดาบแหบและจ่าหวานรีบพาผู้กองครามไปโรงพยาบาล”
ดาบแหบและจ่าหวานวิ่งไปพาร่างครามออกไป
ทุกคนภายในงานตกใจรีบวิ่งหนีไปเพราะเห็นว่ามีการต่อสู้ เพชรแท้เห็นแพรไพลินก็เข้าไปหา
“แพร...ลูกเป็นอะไร”
“รีบพาคุณแพรออกไปก่อนครับ คุ้มกันคุณแพรและดูแลมงกุฏเพชร” แสงกล้าสั่ง
เพชรแท้และกุ๊บกิ๊บวิ่งเข้ามาช่วยประคองแพรไพลินออกไป ตำรวจเข้ามาคุ้มกัน
น้ำใสหันไปสั่งช่างกล้อง
“เก็บภาพไว้ทุกมุม”
“ออกไปจากที่นี่ให้หมด!” แสงกล้าบอก
น้ำใสตกใจรีบพาทีมงานออกไป ทุกคนออกไปจากห้องจนหมด
แสงกล้าเดินเข้ามาหาขมังเวทย์ที่ฟุบอยู่ข้างลำโพง พลางหันไปบอกจ่าสมิง
“มันคือคนที่บุกเข้าไปขโมยตรีศูลวัชระและกำลังจะโจรกรรมเพชรยอดสังข์”
“มันต้องการเทวาศาสตราวุธ !”
ทันใดนั้นร่างขมังเวทย์ก็ลุกขึ้นแล้วลอยเหนือพื้น ท่าทางน่ากลัวมากแสงกล้าตกใจผงะถอยออกห่าง ขณะที่จ่าสมิงยืนนิ่งเหมือนกำลังเตรียมพร้อมต่อสู้
“ไม่ได้เจอคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อมานานแล้ว อย่างนี้สิถึงจะสมศักดิ์ศรี”
ขมังเวทย์จ้องเขม็งเข้าใส่จ่าสมิง สมิงยืนเผชิญหน้าอย่างไม่เกรงกลัว!!
สมิงกับขมังเวทย์กระชากปืนออกมาพร้อม ๆ กัน สั่นกระสุนพร้อมกัน เปรี้ยง ! เปรี้ยง !
กระสุนทั้งสองนัดพุ่งตรงมาชนกันตรงกลางแล้วก็ระเบิด...ปัง !
“ฉันไม่มีวันให้แกเอาเทวาศาตราวุธไปทำร้ายใคร” จ่าสมิงบอก
“แต่น่าเสียดาย ที่แกคงต้องตายในวันนี้ !” ขมังเวทย์ว่า
ขมังเวทย์ใช้พลังกระชากเก้าอี้ในห้องซึ่งอยู่ด้านหลังจ่าสมิง ลอยไปกระแทกร่างสมิงที่ไม่ทันตั้งตัว..โครม ! สมิงทรุดลง... แสงกล้าตกใจ
“สมิง”
ขมังเวทย์ลอยไปยืนมองร่างสมิงที่นอนนิ่ง....
“ความประมาทเป็นหนทางสู่หายนะ”
จู่ ๆ สมิงที่แน่นิ่งไปก็ลืมตาขึ้น
“แต่ความมั่นใจเกินไป...เป็นหนทางสู่นรก !”
สมิงยิงปืนใส่ขมังเวทย์ เปรี้ยง ๆ ๆ
หัวกระสุนชนิดพิเศษลงอาคม ที่บริเวณหัวปรากฏอักขระขอมพุ่งเข้าใส่ร่างขมังเวทย์แบบเต็มๆจนล้มลงแทบพื้น เลือดไหลออกมาจากร่างหมดทางต่อสู้
ขมังเวทย์พึมพำเบาๆ
“กระสุนอาคม”
แสงกล้าดีใจ แล้วรีบวิ่งไปรื้อเอาเก้าอี้ออกจากร่างสมิง
“สมิง.. เป็นยังไงบ้าง”
“ฮึ ๆ ลองมาโดนโต๊ะล้มทับบ้างมั้ยล่ะหมวด เบ๊าเบา...”
แสงกล้าส่ายหัวระอาในความยียวนของจ่าสมิง
สมิงพยุงตัวเองลุกขึ้นบอก
“วันนี้วันพระ...พระเอกไม่ตายหรอกครับ ไป...ไปช่วยเก็บศพคนชั่วส่งนรกดีกว่า”
สมิงและแสงกล้าจะเดินไปที่ร่างขมังเวทย์ แต่ร่างนั้นได้หายไปแล้ว!
“แยกย้ายกันตามหา มันหนีไปได้ไม่ไกลหรอก”
“ไม่ไกล แต่ยังไงก็หาตัวไม่พบ”
สมิงมั่นใจว่าขมังเวทย์หนีหายไปแล้ว

แสงกล้าเดินออกมาที่ล็อบบี้โรงแรม แพรไพลินรออยู่เป็นห่วง
“คุณเป็นยังไงบ้าง”
“ผมปลอดภัยดี แต่ผู้กองครามได้รับบาดเจ็บหนัก”
“ฉันขอบคุณคุณมากนะที่ช่วยฉัน”
“ขอบคุณผิดคนแล้วล่ะครับ” จ่าสมิงบอก
“สมิงเป็นคนช่วยคุณและทุกคนไว้”
“ขอบคุณมากนะคะจ่า”
“ไปขอบคุณทำไม พวกคุณต่างหากที่ต้องโดนตำหนิ...ที่ปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้น ชีวิตประชาชนต้องตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะพวกคุณทำงานไร้ประสิทธิภาพ" เพชรแท้ว่า
“คุณแม่คะ”
“รึฉันพูดไม่จริง ไป..กลับได้แล้ว”
เพชรแท้พาแพรไพลินออกไป เธอหันมาขอบคุณแสงกล้าอีกครั้ง
“ขอบคุณนะคะ”

แสงกล้ายิ้มรับมองตามแพรไพลินที่เดินออกไป สมิงสะกิดแสงกล้า
“หายเหนื่อย หายเป็นปลิดทิ้ง สาวขอบคุณคำเดียว.. สดชื่น !”
แสงกล้า แกล้งกลบเกลื่อนพูดเรื่องอื่นทันที
“จ่ามาทำไม ไหนบอกว่าต้องอาบแสงจันทร์”
“อาบนานเดี๋ยวตัวเปื่อย แล้วอีกอย่าง...ผมปล่อยให้หมวดตายไม่ได้ ไม่งั้นผมจะกลายเป็นคนกินนาย !”
จ่าสมิงเดินออกไป พร้อมกับพูดเพ้อไปเรื่อย
“โอ้แสงจันทรามหาเวทย์ สุดวิเศษเลิศล้ำฉ่ำใจฉัน”
แสงกล้ามองสมิงแล้วอดขำไม่ได้ แต่ก็อดขอบคุณไม่ได้ ที่สมิงช่วยชีวิต ตะโกนออกไป
“ขอบคุณมากนะจ่า”
สมิงได้ยินก็ยิ้มออกมาแต่ทำฟอร์มไม่ได้ยิน ร่ายกลอนเดินออกไปทาง
“อยากจะอาบแสงจันทร์ทุกคืนวัน....แสนสุขสันต์หัวใจไร้โรคา”

แสงกล้าเดินออกมา เห็นน้ำใสนั่งร้องน้ำตาคลอ เขาเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ
“ยังไม่หายตกใจอีกเหรอ” แสงกล้าถาม
น้ำใสส่ายหัวบอก
“ไม่ได้ตกใจ”
น้ำใสพูดพลางเช็ดน้ำตาที่เริ่มไหลเอ่อมาอาบแก้ม
“กลัวตายล่ะสิ”
“ถ้ากลัวตายไม่มาเป็นนักข่าวหรอก”
“แล้วร้องไห้ทำไม”
“เทปที่ถ่ายทั้งหมดใช้ไม่ได้”
น้ำใสเปิดเทปให้ดู … พบว่า มีแค่คลื่น...ไม่มีภาพ!!
“อ้าว...ฉันตั้งใจจะขอเทปไปเกาะรอยจับโจร เธอก็ทำหลักฐานพังหมด”
“อย่ามาว่าฉันสิ ฉันก็เซ็งนะ นักข่าวที่ไม่มีข่าวก็เท่ากับร่างที่ไร้วิญญาณ”
“งั้นล่องลอยเฝ้าโรงแรมไปก็แล้วกัน”
แสงกล้าลุกเดินหนีจะออกไป
“เฮ้ย ไม่ปลอบใจฉันหน่อยเหรอ ฉันเสียใจนะ”
แสงกล้าทนตื๊อไม่ไหวเข้าไปสวมกอดน้ำใส
แพรไพลินนั่งอยู่ในรถกับเพชรแท้ หันมาเห็นภาพแสงกล้ากอดน้ำใสก็ชะงักนิดหนึ่ง
เพชรแท้หันไปมองอย่างแปลกใจที่แพรไพลินมองแสงกล้า เพชรแท้รีบสะกิดให้คนขับ ขับรถออกไปทันที
น้ำใสรู้สึกดีที่ได้กอดแสงกล้าจึงกอดไว้แน่น แสงกล้ารีบดันตัวออกแล้วโวยเล็กๆ
“พอ ๆ ๆ พอ.. เยอะไปแล้ว ฉันกลับล่ะ”
แสงกล้าเดินออกไป น้ำใสยิ้มดีใจที่ได้กอดแสงกล้า

ท้องฟ้าที่ใสกลับกลายเป็นเมฆดำทะมึนลอยผ่านอย่างรวดเร็ว
ขมังเวทย์นอนหลับตาจมกองเลือดอยู่ที่ในแคปซูลที่มีแสงไฟพราวเต็มไปหมด เลือดที่ไหลออกมาค่อย ๆ ไหลย้อนกลับไปแต่แล้วก็ทะลักออกมาอีก !
ขมังเวทย์ลืมตาโพลง ค่อยๆลุกขึ้นมานั่ง รู้ดีว่าคนที่ต่อสู้ด้วยไม่ใช่คนธรรมดา!!

สมิงนั่งนิ่ง....คิดทบทวนเหตุการณ์ที่ต่อสู้กับขมังเวทย์ … เช่นเดียวกับขมังเวทย์ที่นั่งคิดถึงทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมา...
ตอนขมังเวทย์และสมิงยิงปืนใส่กันและกระสุนระเบิดกลางอากาศนั้น เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นในอดีตมาแล้วครั้งหนึ่ง ขมังเวทย์แปลกใจและพึมพำเรียกชื่อใครบางคนกับตัวเอง
“มงคล!”

ในอดีต … บริเวณริมผา มงคลยืนประจันหน้ากับวิญญู สายตาทั้งคู่ต่างไม่เกรงกลัวกันเลยแม้แต่น้อย
“ถึงเราไม่ได้เป็นพี่น้องกันโดยสายเลือด แต่ฉันรักและนับถือพี่เหมือนเป็นพี่ชายแท้ ๆ ทำไมเราต้องมาเข่นฆ่ากันด้วย" มงคลถาม
“บนโลกใบนี้ มหาคุณไสยฯ ต้องมีอยู่เพียงแค่หนึ่ง !” วิญญูบอก
วิญญูลอยตัวกลางอากาศ มงคลยืนจ้องประจันหน้า (เหมือนช็อตในห้องประชุมเดินแบบ)
“พี่กำลังปล่อยให้กิเลสครอบงำจิตใจ แท้จริงแล้วบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรจีรัง ทุกอย่างมีเกิด ต้องมีดับ มันเป็นสัจธรรมของโลก!”
วิญญูไม่ฟัง ทั้งสองดูเชิงกันก่อนกระชากปืนยิงใส่กัน ครั้งนั้นแหละที่กระสุนของทั้งสองฝ่ายชนและระเบิดตรงกลาง...ปัง !
ทั้งสองต่างยิงปืนรัวใส่กันอีกครั้งจนได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ครั้งนั้น มงคลโดนวิญญูเล่นงานจนกระอักเลือดล้มคว่ำไปเพราะสู้ไสย์เวทย์ดำไม่ได้
“อย่าทำชั่วทำเลวอีกเลยกลับมาเป็นคนเดิมเถอะ !”
วิญญูไม่ฟังซัดใส่มงคลอีกครั้งจนใกล้หมดสติ วิญญูจ้องมงคลตาเขม็งแล้วเดินจากไป ก่อนภาพทั้งหมดจะดับวูบ

สมิงระลึกเหตุการณ์ในอดีตก็สะดุ้งตกใจ
“พญามารไสยศาสตร์ดำ มันกลับมาแล้ว1”
ขมังเวทย์ลืมตาสะดุ้ง
“มงคล.. เป็นไปได้ไงก็มันตายไปแล้ว”

ภายในห้องผ่าตัดของโรงพยาบาล เวลากลางคืน
ครามที่นอนนิ่ง หมอกำลังผ่าตัด พยาบาลซับเหงื่อที่หน้าหมอ เครื่องช่วยหายใจดังขึ้นลง กราฟชีพจรต่ำลง
หมอเอากระสุนเม็ดแรกออกมาวางบนถาด กราฟชีพจรครามดีขึ้น
หมอกำลังคีบอีกเม็ดออก เสียงกราฟชีพจรตกลงทันที!!

ทอรุ้งสีหน้าตื่นตระหนกวิ่งอย่างเร็วเข้ามายังบริเวณทางเดินในโรงพยาบาล เมื่อพยาบาลก็ตรงเข้าไปคว้าตัวถามทันที
“ผู้กองครามละคะ ผู้กองครามเป็นยังไงบ้าง”
พยาบาลคนนั้นทำหน้าตาไม่รู้เรื่อง ทอรุ้งรีบผละไปถามพยาบาลอีกคนทันที
“พยาบาลคะ ผู้กองครามอยู่ที่ไหน”
พยาบาลงงอีกเช่นเคย หัวหน้าพยาบาลเดินเข้ามา
“คุณคะใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งเอะอะรบกวนคนไข้คนอื่น”
ทอรุ้งฟิวส์ขาด เสียงดังขึ้น
“ฉันรู้ว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาล แต่คนรักของฉันโดนยิงอาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน จะให้ฉันใจเย็น รอคุณทำหน้าตาไม่รู้เรื่อง ถามอะไรก็ไม่รู้ อย่างนี้เหรอคะ”
เหล่าพยาบาลหน้าเสียไปตามๆกัน
“ผู้กองครามอยู่ที่ไหน”

ในห้องผ่าตัด ครามนอน กราฟชีพจรเริ่มตกลงอย่างเร็ว
ทอรุ้งหันไปถามพยาบาล
“ผู้กองครามอยู่ไหน”
มือหนึ่งมาจับที่ไหล่ ทอรุ้งสะบัดบอก
“ไม่ต้องมาห้าม”
ทอรุ้งหันกลับไปก็ชะงัก
“ผบ.นภา”
ทอรุ้งเห็นดร. เมฆา ฐานรัฐก้าวมายืนข้างนภา
“ท่านนายกฯ”
“เราได้ข่าวคราม” นภาบอก
“ไม่ต้องกังวลทอรุ้ง หมอที่เก่งที่สุดกำลังช่วยชีวิตครามอยู่”
ทอรุ้งมองนภากับเมฆาด้วยความเชื่อมั่น จนสีหน้าผ่อนคลายความเครียดลงไปได้

ในห้องผ่าตัด ครามนอนนิ่ง เครื่องช่วยหายใจยุบขึ้นยุบลงแผ่วๆ กราฟชีพจรครามต่ำลงเรื่อยๆ
หมอเร่งมือพยาบาลซับเหงื่อที่เต็มหน้า กระสุนวางลงในถาดอีก 3 เม็ด

ทอรุ้งนั่งอยู่หน้าห้องผ่าตัด นภานั่งอยู่เคียงข้าง ดร. เมฆายืนห่างออกมามองทั้งคู่ คมศรเดินเข้ามารายงานเมฆา
“ผบ.รวิ กำลังเดินทางมา ตามคำสั่งของดอกเตอร์ครับ”
ดร. เมฆาพยักหน้ารับรู้ รอบ ๆ ชั้นมีตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเดินตรวจตราอยู่
นภากุมมือทอรุ้งไว้เพื่อให้กำลังใจ
“ครามต้องไม่ยอมพลาดงานสำคัญที่สุดในชีวิต”
ทอรุ้งน้ำตาเอ่อ เงยหน้ามองนภาด้วยแววตาหวาดหวั่น
“เค้ามาเชิญฉันกับท่านนายกฯให้ไปเป็นเจ้าภาพในงานแต่งงานของเค้า”
ทอรุ้งน้ำตาหยด นภาบีบมือให้กำลังใจ
“ขอแค่ครามไม่เป็นอะไร ฉันก็ดีใจที่สุดแล้วค่ะ”
เมฆาสบตานภาที่กุมมือให้กำลังใจทอรุ้ง
พ.ต.ต. หญิง รวิ อิงคพัฒน์เดินเร็วเข้ามา คมศรเดินเข้าไปเพื่อพามาหาเมฆา เมฆาถามรวิทันที
“ได้ความคืบหน้าอะไรบ้าง”
“เราสั่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยให้เร่งตามหาคนร้ายอยู่ค่ะ”
ดร. เมฆา ฐานรัฐหันมองรวิ ด้วยแววตาคมเฉียบขาด
“หมายความว่า ยังไม่รู้ว่าคนร้ายเป็นใคร ทำไมถึงกล้าลงมือกลางงานที่มีตำรวจเป็นร้อย แล้วตำรวจทั้งร้อย ก็ยังไม่รู้ว่าคนร้ายคนเดียวหนีไปไหนอย่างงั้นเหรอ!”
รวิเสียหน้า นภาเอ่ยขึ้นเรียบ ๆ
“คนที่ลงมือขนาดนี้ได้ ต้องเตรียมทางหนีทีไล่ไว้อย่างดีแล้วล่ะค่ะ”
รวิยิ่งเหมือนโดนนภาหักหน้า มองผ่านเมฆาไปที่นภาอย่างคุมอารมณ์เต็มที่
“ขอบคุณค่ะที่เข้าใจการทำงานของเรา อดีต ผบ.นภาคงทราบดีว่า กว่าจะจับกุมและกระชากหน้ากากคนร้ายได้สักคน ตำรวจอย่างเราต้องทุ่มเทแค่ไหน"
นภาฟังแล้วรู้สึกเหมือนโดนรวิด่ากระทบเรื่องที่ในอดีตที่เมฆาเคยเป็นผู้ร้าย
“ใช่... ฉันเคยทำคดีที่ซับซ้อนที่สุด เพราะไม่รู้ว่าใต้ใบหน้าของคนดี ๆ จะซ่อนอีกหน้าที่เลวทรามเอาไว้"
นภาจ้องรวิ พูดด้วยเสียงอารมณ์ราบเรียบแต่มีอำนาจ
“แต่ฉันจะไม่เสียเวลากับการตีฝีปาก รอเล่าผลงานที่คาดว่า หรือ คิดว่าจะจับได้ เพราะทุกนาทีที่เสียไป หมายถึงโอกาสที่คนร้ายจะหนี และจะมีคนบริสุทธิ์ต้องตายเพิ่มขึ้น !”
ผู้บัญชาการ สำนักงานสืบสวนพิเศษตัวเกร็งเพราะ รู้สึกได้ว่า นภากำลังสอนมวยต่อหน้าคนทั้งหมด
รวิหันไปทางเมฆา
“ดิฉันขอตัวไปตามล่าคนร้ายก่อนค่ะ”
“รายงานความคืบหน้าทุกชั่วโมง บอกมาทางคมศร”
รวิหันไป คมศรยิ้มให้อย่างมีมารยาท
“ค่ะ ท่านนายกฯ”
รวิก้มหัวทำความเคารพเมฆา และพูดก่อนจะเดินออก
“ที่นี่จะมีคนของสำนักงานสืบเฝ้าไว้ทุกชั้น จนกว่าผู้กองครามจะพ้นขีดอันตราย”
“ไม่ใช่แค่ผู้กองครามพ้นขีดอันตราย ผมต้องการให้คุ้มกันผู้กองครามจนกว่าจะจับคนร้ายได้ !”
“ค่ะท่าน”
รวิรับคำแล้วรีบหลังออกไป นภานั่งลงข้างทอรุ้งเหมือนเดิม

ในห้องผ่าตัด กราฟชีพจรครามตกลงอีก หมอมองหน้ากัน หมอคนหนึ่งก้มลงผ่าตัดต่อไป หมอใช้ปากคีบที่ลึกเข้าไปในเนื้อ เสียงจังหวะเต้นของหัวใจแผ่วลง เส้นกราฟตกต่อเนื่อง

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 18 ธ.ค. 55

เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์
เหนือเมฆ2 บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ
เหนือเมฆ2 กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิบุตร
เหนือเมฆ2ผลิต : บริษัท เมตตามหานิยม จำกัด โดยผู้จัด ฉัตรชัย เปล่งพานิช
เหนือเมฆ2 แนวละคร : ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี
เหนือเมฆ2 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เหนือเมฆ2 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manager