@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[2] วันที่ 31 ธ.ค. 55

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[2] วันที่ 31 ธ.ค. 55

“อย่าหาว่าสอนเลยนะผู้การ... ผ.บ. บางครั้งการสู้กับอิทธิพลมืดเนี่ย สุภาพนัก มักไม่ได้เรื่อง”
"หมายความว่าไงจ่า”
“ของพรรค์นี้มันต้องตาต่อตา .. ฟันต่อฟัน มันเถื่อนมา เราก็เถื่อนไป มันถึงจะสาสม”
นภามองหน้าสมิงด้วยแววตาครุ่นคิด
"จ่าพูดเหมือนมีวิธีจัดการกับพวกมัน"
จ่าสมิงยิ้มด้วยแววตาเจ้าเล่ห์
“ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วครับ ผบ. ความชั่วไม่มีวันกลบมิดหรอก”

วันใหม่ เวลากลางวัน ศพที่ถูกโบกปูนอยู่ในถังขนาดใหญ่ลอยอยู่เหนือน้ำแห่งหนึ่งในชนบท ชาวบ้านต่างมามุงดูกันเต็มไปหมด ตำรวจ, สำนักงานสืบฯ และ เนติเทคฯช่วยกันดึงถังปูนนั้นขึ้นมาจากน้ำ
CUT /
ถังปูนขนาดใหญ่โดนสกัดออก มีศพหญิงสาวอยู่ภายใน เจ้าหน้าที่เนติเทคฯกำลังพิสูจน์หลักฐานตามวิธีการ ตำรวจนายหนึ่งเดินเข้ามารับรายงานจากเจ้าหน้าที่
“สภาพศพถูกเทปูนทับ ใบหน้าเละจนระบุไม่ได้ว่าเป็นใครครับ”
ตำรวจพยักหน้า เนติเทคฯอีกคนส่งหลักฐานให้ตำรวจนายนั้น
“พบเอกสารสำคัญในตัวศพ เป็นบัตรประจำตัวค่ะ”
ตำรวจคนนั้นรับบัตรประจำตัวขึ้นมาดูแล้วนิ่วหน้า

เวลากลางคืน วันเดียวกัน ยุทธการกำลังเดินขึ้นบันไดมาตามทางเดินในสำนักงานตำรวจ ตำรวจเดินผ่านแล้วทำความเคารพ ยุทธการพยักหน้ากำลังจะเดินเข้าห้องทำงาน แต่แล้วจู่ๆ ไฟดับพรึ่บไปทั้งสำนักงานฯ เขาชะงักไปนิดหนึ่ง แล้วจึงเปิดประตูห้องเดินเข้าไป
ตำรวจปลอมคนนั้นยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องยุทธการ เหมือนไม่ต้องการให้คนอื่นเข้าไป เมื่อตำรวจคนนั้นเสยหมวกขึ้นมานิดหนึ่ง... ปรากฏเป็นใบหน้าของแสงกล้าอย่างชัดเจน !

ยุทธการเดินเข้ามาในห้องทำงานตัวเองที่มืดสนิทเพราะไฟดับ แต่แล้วจู่ๆ ไฟก็เปิดสว่างขึ้น พร้อมๆ กับร่างนภาที่นั่งอยู่เบื้องหน้ายุทธการภายในห้องทำงาน เขาชะงักนิดหนึ่ง
“ผบ.นภา"
"ขอบคุณค่ะที่ยังจำฉันได้"
“คุณบุกเข้ามาที่นี่ทำไม”
"เพราะท่านเป็นคนอนุมัติให้จับฉันกับผู้การอินทนนท์ในข้อหาที่ไม่ได้ทำ"
“ก็หลักฐานของ ผบ.รวิ บ่งชี้อย่างนั้น”
"แล้วท่านเชื่อ"
“ถ้าเป็นผม... คุณคงต้องทำแบบนั้น ผมไม่เคยเชื่อว่า ผบ.นภากับผู้การอินทนนท์จะทรยศต่อประเทศ เพียงแต่ผมไม่มีทางเลือก"
“ตอนนี้ท่านมีทางเลือกแล้วค่ะ”
"จะให้ผมร่วมมือกับคนที่มีหมายจับอย่างคุณน่ะเหรอ"
“ขึ้นอยู่กับท่านใช้สมองหรือใช้หัวใจในการตัดสินปัญหา ฉันพร้อมบอกที่ซ่อนตัวท่านไปจับพวกเราได้ทุกเมื่อ”
ยุทธการนิ่งเหมือนกำลังใช้สมองคิด นภาจ้องเขม็งมาที่ยุทธการเหมือนกำลังรอคำตอบ
“คุณต้องการอะไร”
“ท่านคงได้รับรายงานแล้ว เมื่อเช้าวันนี้สำนักงานสืบสวนพิเศษกับเนติเทคฯพบศพฆาตกรรมอำพราง"
"ใช่"
“แล้วยังมีหลักฐาน บัตรประจำตัวระบุด้วยว่านั่นคือศพของผู้กองธาราที่หายตัวไปเมื่อสองปีก่อน"
"เนติเทคกำลังชันสูตรอยู่ คงต้องรอหลักฐานจากดีเอ็นเออีกครั้ง"
"หลังจากธาราหายสาปสูญไป รวิก็ได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานสืบสวนพิเศษทันที ด้วยการสนับสนุนโดยตรงจากนักการเมืองสายรองจักร"
“คุณกำลังจะบอกว่าสองคนนั่นมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยใช่มั้ย”
“ในทางการข่าว ท่านคงพอรู้ว่า รองจักร กับ ผบ.รวิ ทำงานไม่โปร่งใส”
“ทั้งคู่มีพฤติกรรมน่าสงสัย แต่เราไม่มีหลักฐานพอจะเล่นงาน”
“ขอเวลาฉันไม่เกิน 7 วัน คนชั่วต้องรับกรรมที่ตัวเองก่อไว้ แต่ท่านต้องร่วมมือกับฉันเพื่อบ้านเมืองของเรา"
"ยังไง"
“ตั้งหน่วยเฉพาะกิจ...ให้รับคำสั่งโดยตรงจากท่านและคมศร สืบสวนและไล่ล่าการทำผิดกฏหมายของ รองจักร กับ ผบ.รวิ"
“แล้วหลักฐาน”
“พวกฉันมีหน้าที่หามาให้ท่านเอง”
นภาจ้องหน้ายุทธการเหมือนมีแผนการในใจ ยุทธการมองตอบ

เวลาเดียวกัน ภายในโรงพยาบาล เพชรแท้ที่ขาดสติร้องกรี๊ดเสียงดังลั่นห้องและดิ้นอยู่บนเตียง เหวี่ยงไปมาทั้งที่แขนและขาถูกล็อกติดกับเตียง พยาบาลกำลังดูแลอย่างโกลาหล พยายามฉีดยาระงับประสาทให้
ที่หน้าห้องพัก แพรไพลินมองผ่านกระจกเข้าไปด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักเพราะเป็นห่วงแม่มาก หมอคนหนึ่งยืนอยู่ข้างเธอมีสีหน้าเป็นกังวลไม่น้อยไปกว่ากัน
“อาการแย่ลงเรื่อยๆ จะให้ยาระงับประสาทไปตลอดคงไม่ไหวนะครับ” หมอว่า
"เราคงต้องแก้ที่สาเหตุ" แพรไพลินว่า
“แล้วหมอทราบสาเหตุแล้วเหรอ”
แพรไพลินไม่ตอบหมอ มองภาพแม่ที่คลุ้มคลั่งราวกับเสียสติ เธอน้ำตาคลอด้วยความเป็นห่วง

วงจรปิดขนาดเล็กบนเพดานห้องทำงานรวิ มีไฟแดงสว่างวาบเหมือนกำลังทำงานอยู่ พ.ต.ต. หญิง รวิ อิงคพัฒน์เดินเข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับวิน ท่าทางเธอหัวเสียมาก เธอชี้หน้าวิน
"อธิบายให้ฉันเข้าใจหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเนติเทคฯถึงไปพบศพนั่น"
"ชาวบ้านพบศพนั่นลอยขึ้นเหนือน้ำ"
"แต่แกบอกว่ากำจัดนังธาราไปแล้ว"
กล้องวงจรปิดไฟสว่างแดงวาบๆ โดยรวิไม่รู้ว่ากำลังถูกแอบถ่ายอยู่
"ศพนั่นไม่ใช่นังธาราแน่นอน"
“แต่มีบัตรประจำตัวนังธาราอยู่ในศพนั่น”
“ยังไงก็ไม่ใช่นังธารา ผมเผาทำลายศพมันเองกับมือ มีคนจงใจสร้างศพใหม่ขึ้นมาเพื่อโยงมาถึงพวกเรา”
"สืบให้รู้ว่าเป็นใคร ฉันไม่ยอมจนมุมเพราะเรื่องโง่ๆ แค่นี้หรอก"
รวิชะงักไปทันที รู้สึกได้ว่า ตัวเองกำลังติดกับดักอะไรบางอย่าง เหลียวมองรอบตัวแล้วเงยหน้าขึ้นเห็นกล้องวงจรปิดขนาดเล็กบนเพดานห้องตัวเอง
“กล้องวงจรปิด ห้องฉันไม่เคยมีกล้อง”
แล้วจู่ๆ คมศรก็นำกองกำลังตำรวจเฉพาะกิจอีกส่วนหนึ่งก็บุกเข้ามาภายในห้องของรวิ
“คมศร”
“คนทำชั่วทำเลวไม่มีวันหนีความจริงไปได้พ้น ในที่สุด ผบ.ก็สารภาพออกมาเอง”
คมศรหันไปทางตำรวจเฉพาะกิจ ทั้งหมดตรงเข้าคุมตัวรวิกับวิน
“ผบ.ร่วมมือกับผู้กองวิน ฆาตกรรมรองผบ.ธารา !”
“วงจรปิดนั่นเป็นของแก แต่แกไม่มีสิทธิทำแบบนี้”
“ผมได้รับคำสั่งจากท่านยุทธการ ให้นำหน่วยเฉพาะกิจพิเศษติดตั้งอุปกรณ์อิเลคโทรนิคเพื่อสืบหาตัวคนร้ายที่ฆ่าผู้กองธารา”
คมศรแสดงใบหมายให้รวิ รวิรับมาดูแล้วนิ่วหน้า
“ทำดีได้ดี...ทำชั่วได้ชั่ว สุภาษิตนี้ยังเป็นความจริงเสมอนะรับท่านผบ.”
รวิสีหน้าไม่ดี แต่ทำอะไรไม่ได้ ต้องถูกควบคุมตัวอยู่ตรงนั้น

ภายใน ห้องส่งสกายนิวส์เน็ทเวิร์ค วันเดียวกัน ภาพนิ่งหน้า พ.ต.ต. หญิง รวิ อิงคพัฒน์เต็มจอ พร้อมกับตัวหนังสือกราฟิก “ผบ.สำนักงานสืบฯ พัวพันฆาตกรรมอำพราง”
น้ำใสเดินเข้ามาเหมือนกำลังจะวิเคราะห์ข่าว
"ข่าวการบุกจับผู้บัญชาการสำนักงานสืบสวนพิเศษเมื่อเช้าวันนี้ กำลังเป็นที่สนใจของประชาชน เมื่อหน่วยปราบปรามเฉพาะกิจบุกเข้าจับผบ.รวิกับพวกถึงในห้องทำงาน สำนักงานสืบสวนพิเศษ ด้วยข้อหาฆ่ารองผู้บัญชาการสำนักงานสืบสวนพิเศษที่หายตัวไปเมื่อสองปีก่อน ในเบื้องต้นได้รับรายงานว่า ผบ.รวิ ถูกพักงาน และถูกตั้งกรรมการสอบสวนทันที”
ภาพการให้สัมภาษณ์ของยุทธการกับนักข่าว...
"พลตำรวจตรียุทธการ วิหควัฒนากูร เปิดเผยว่าจะเร่งสอบสวนให้เร็วที่สุด และโดยในขณะนี้ ผบ.รวิถูกคุมตัวอยู่ที่สำนักงานสืบสวนพิเศษค่ะ”

จอทีวีในเซฟเฮ้าส์กำลังเปิดดูการวิเคราะห์ข่าวของน้ำใส นภาดูโทรทัศน์พลางหันมาทาง
อินทนนท์กับสมิง
“สอยลงได้ไปหนึ่ง หมดผบ.รวิไปซะคน พวกมันก็ไม่มีตำรวจสนับสนุน” สมิงบอก
“หวังว่ายุทธการคงจะสาวไปถึงตัววิญญูกับจักรนะ” อินทนนท์ว่า
นภากับสมิง
“แผนตาต่อตาฟันต่อฟันของจ่าได้ผล ฉันเริ่มมีความสุขกับการใส่ร้ายคนชั่วให้ได้รับโทษแล้วละสิ”
นภายิ้มขรึมๆ ด้วยความพอใจ

วิญญู จักร ดาหลากำลังดูข่าวที่รายงานต่อเนื่องโดยน้ำใส ทั้งสามคนสีหน้าไม่สบอารมณ์
น้ำใสในจอภาพ กำลังทำการวิเคราะห์ข่าวอย่างเร้าใจ
“ประเด็นที่ทีมการเมืองสกายนิวส์เน็ตเวิร์คตั้งข้อสังเกตก็คือ ผบ.รวิ ผู้บัญชาการสำนักงานสืบสวนพิเศษคนปัจจุบัน ได้รับการแต่งตั้งจากสายการเมืองภายในพรรคไทธิวัตถ์ เชื่อกันว่าได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากนายจักร อมตฤทธา รักษาการนายกฯ คนปัจจุบัน”
จักรหันมามองหน้าวิญญูด้วยสีหน้าไม่พอใจ
น้ำใสกำลังทำการวิเคราะห์การเมืองในหน้าจอโทรทัศน์ โดยมีรูปวิญญูและจักร เป็นกราฟิก
ประกอบอยู่ทางด้านหน้า
“เป็นไปได้หรือไม่ว่าผบ.รวิ ไม่ได้ทำงานคนเดียว เธอเป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่ง ยังมีตัวละครการเมืองที่น่าสนใจอีก 2 คน.. รองจักรและที่ปรึกษาส่วนตัว นายวิญญู บางทีความเลวร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมอาจจะกำลังถูกเปิดโปงเร็วๆ นี้ ในเบื้องต้นเราคงต้องฝากความหวังกับหน่วยปราบเฉพาะกิจของผู้การ
ยุทธการกันแล้วล่ะค่ะ ว่าจะสืบสวนโยงใยไปถึงผู้บงการได้หรือไม่"
จักรกดรีโมทปิดด้วยความไม่พอใจ หันไปทางวิญญู
“รวิเป็นคนของแก”
“ รู้แล้ว" วิญญูพูดเสียงนิ่ง
"ไม่คิดจะทำอะไรบ้างเลยเหรอ"
วิญญูแววตาแข็งกร้าว หันขวับไปมองจักร ก่อนจะเดินออกไป จักรกับดาหลามองตามด้วยสีหน้าไม่พอใจ

รวิกับวินถูกควบคุมตัวอยู่คนละห้องกันในสำนักงานสืบฯ ทั้งสองคนสีหน้าเครียด รวินั่งนิ่งอยู่ภายในห้องคุมตัวฯ ขณะที่วินเดินกระสับกระส่ายเพราะหาทางออกให้กับตัวเองไม่ได้

บริเวณหน้าห้องควบคุมตัว ตำรวจที่นั่งเฝ้าทั้งสองคน ไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดสังเกตุ เงาดำทะมึนทาบอยู่บริเวณพื้นหน้าห้องควบคุมตัว บังเกิดเป็นร่างวิญญูรางๆ ขึ้นโดยไม่มีใครมองเห็น ร่างนั้นแอบเข้าไปภายในห้องควบคุมตัวห้องหนึ่ง ที่วินโดนคุมขังอยู่

ภายในห้องควบคุมตัว วินกำลังเดินกระสับกระส่ายก่อนนั่งลงกับเก้าอี้ ถอนหายใจยาวด้วยความกลัดกลุ้ม แต่แล้วเหมือนกับเขาโดนอะไรบางอย่างทำร้าย วินก้มลงมองที่หน้าอกด้านซ้ายตรงหัวใจที่เกิดรอยบุ๋มลึกลงไปเรื่อยๆ เหมือนโดนทะลวงหัวใจ เลือดสาดไหลชุ่ม
วินตาเหลือกด้วยความตกใจ จะร้องออกมาแต่ร้องไม่ออก ปากปิดแน่นเพราะโดนอาคมบังคับ
วิญญูในภาพเลือนรางนั้นกำลังเอามือเข้าทะลวงหน้าอกวิน หัวใจวินถูกดึงออกมาจากร่าง เลือดไหลนองลงพื้น วินขาดใจตายอยู่ตรงนั้น... โดยร้องไม่ออกเลยสักแอะ

อีกห้องหนึ่ง รวินั่งนิ่งสีหน้าเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พยายามหาทางออกให้กับตัวเอง ที่มุม หนึ่ง ร่างใสๆ ของวิญญูก้าวทะลุประตูเข้ามาภายในห้อง รวิหันขวับไปทันทีเหมือนรู้สึกได้ พลางยิ้มยินดีเดินเข้ามาหาวิญญู
"ท่าน ท่านมาช่วยฉันแล้ว"
วิญญูหันขวับไปทางกล้องวงจรปิดที่อยู่มุมบนของห้อง จ้องเขม็งไปที่ตรงนั้น วงจรปิดไฟฟ้าลัดวงจร...ไฟลุกพรึ่บ ! ทำงานไม่ได้ทันที ร่างวิญญูปรากฏชัดเจน เมื่อไม่มีกล้องวงจรปิด รวิตรงเข้าไปสวมกอดวิญญูทันที ด้วยความรักและผูกพันกับผู้ชายคนนี้
"ฉันลืมไปว่ามีกล้องวงจรปิดอยู่ในห้องนี้"
“ปล่อย... ฉันบอกให้ปล่อย”
วิญญูสะบัดตัวเองออกจากรวิ รวิมองวิญญูด้วยความไม่เข้าใจ
“ทำไมท่านทำแบบนี้... อย่าบอกนะคะว่าเพราะฉันทำงานพลาด”
รวิมองหน้าวิญญูด้วยแววตาผิดหวัง นึกถึงความหลังที่เคยมีระหว่างเธอกับเขา
ในอดีต วิญญูเคยบอกเธอว่า
"ไม่ต้องเสียใจ ต่อจากนี้ฉันจะดูแลเธอเอง"
“ท่าน ท่านเป็นใคร... ทำไมถึงเมตตาฉัน”
"เพราะเธอเป็นเธอ"
รวิสีหน้างงถาม
“หมายความว่ายังไงคะ"
"ฮึ ๆ ฉันต้องการ ผู้ช่วย คู่คิด คนที่เกิดในวันโลกาวินาศ วันที่ โลก ดวงจันทร์ และ ดวงอาทิตย์ โคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน"
ปัจจุบัน วิญญูตรงหน้ารวิสีหน้าเรียบเฉยประหนึ่งไม่มีความรู้สึกผูกพัน แตกต่างจากอดีตโดยสิ้นเชิง
"ขอบคุณมากนะคะ ที่ทำให้ฉันก้าวขึ้นมาถึงวันนี้"
"คนมีความสามารถอย่างเธอ คู่ควรกับตำแหน่งนี้อยู่แล้ว"
"ฉันจะไม่ลืมบุญคุณของท่านเลย... มีอะไรที่ฉันจะทดแทนท่านได้บ้างมั้ย"
"แล้วเธอจะรู้เองว่าควรจะทำอะไร ฮึ ๆ"
"ฉันยินดีจะทำทุกอย่างเพื่อท่าน"
“ไม่ใช่แค่วันนี้ แต่เป็นตลอดไป”

วิญญูกำลังฝังลูกสะกดเข้าในศีรษะของรวิโดยเธอไม่รู้ตัว
“ต่อไปนี้... เธอกับฉันจะผูกพันกันไปตลอดชีวิต”
กลับมาที่ปัจจุบัน รวิจ้องหน้าวิญญูด้วยแววตาค้นหา
“ท่านเคยบอกว่าจะดูแลฉัน สัญญาว่าเราคือส่วนหนึ่งของกันและกัน เราจะดูแลกันตลอดไป”
“ฉันเคยหมายความอย่างนั้นจริงๆ” วิญญูบอก
“ทำไมท่านพูดแบบนี้”
“ทุกอย่างกำลังจะสำเร็จ ฉันไม่ปล่อยให้เธอเป็นอุปสรรคในสิ่งที่ฉันต้องการทั้งชีวิต"
รวิคิดนิดหนึ่งแล้วนึกรู้
“ท่านกำลังจะเป็นเจ้าของศาสตราวุธทั้งสี่ ท่านไม่จำเป็นต้องมีฉันอีกต่อไปแล้ว”
วิญญูนิ่งจ้องหน้ารวิด้วยแววตาอำมหิต
“เธอไม่ควรจะทำงานพลาด”
วิญญูหันหลังกลับจะเดินออกไป รวิกอดรั้งเขาไว้ด้วยความรักอย่างจริงใจ
“ไม่นะ ท่านต้องไม่ทิ้งฉันนะ ฉันขาดท่านไม่ได้ ไม่นะคะ”
วิญญูจะดันร่างรวิออกไป แต่เธอแข็งขืนไม่ยอม วิญญูสะบัดมือขึ้นเหนือร่างรวิ บังเกิดแสงวาบขึ้นมา บริเวณศีรษะของรวิ ลูกสะกดที่ฝังอยู่ส่องประกายขึ้นวาววับ
รวิเอามือกุมหัวด้วยความเจ็บปวด ร้องขึ้นมาเบาๆ
“โอ๊ย”
วิญญูเดินออกไปอย่างไม่ใยดี ปล่อยให้รวิร้องโอดโอยอยู่ตรงนั้น
ร่างใสๆ ของวิญญูเดินออกมาจากห้องโดยไม่มีใครเห็น เขาหยุดเดิน หลับตาส่งอำนาจเข้าควบคุมลูกสะกดในหัวของรวิ
เสียงรวิร้องโอดโอยเสียงดังลั่น
“โอ๊ย”
ตำรวจรีบเข้าไปในห้องทันที

รวินอนร้องเจ็บปวดอยู่ที่พื้นห้องราวกับหัวจะระเบิดออกมา ตำรวจตรงเข้ามา
“โอ๊ย”
ตำรวจวิทยุเรียก
“เรียกรถพยาบาลมาด่วน ผบ.รวิจะแย่แล้ว”
รวิดิ้นพราดทุรนทุรายมาก ฃ

บริเวณเซฟเฮ้าส์แห่งใหม่ ในวันเดียวกัน ร.ต.ต. แสงกล้า อภิไชยกำลังจับวัชระในมือ จ้องมองอย่างตั้งใจ จ่าสมิงเดินเข้ามาจับที่ไหล่แสงกล้าบอก
"ตั้งใจ รวบรวมสมาธิตั้งสติให้มั่น ทำจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียวกับวัชระ หมวดมีพลังในตัวมากกว่าที่คิด"
แสงกล้านิ่งมองวัชระ บังเกิดแสงสว่างวาบเหนือวัชระ
"พลังแห่งความดีนี้จะสามารถต่อสู้กับอำนาจไสยศาสตร์ดำของพญามาร"
แสงกล้าจ้องวัชระนั้น แสงสว่างบังเกิดรังสีสวยงามมากขึ้นเรื่อยๆ แสงกล้ายิ้มเหี้ยมดีใจ
แต่ในที่สุดวัชระก็ร้อนแดงวาบ จนแสงกล้าจับไม่อยู่ต้องทิ้งลงจากมือ
แสงกล้า สะบัดมือเพราะร้อน
"เกิดอะไรขึ้น"
"ใจเย็นๆ อย่ารีบร้อน สมาธิหมวดยังไม่เป็นหนึ่งเดียว"
"หมายความว่ายังไง"
"หมวดยังมีความแค้นอยู่ในจิตใจ"
“ผมต้องการแก้แค้นมัน มันฆ่าพ่อของผม”
"แต่พลังแห่งความดีไปกันไม่ได้กับความอาฆาตพยาบาท ถ้ายังขจัดกิเลสตัวนี้ไปไม่หมด หมวดจะยังไม่มีทางสู้กับพญามารได้แน่"
สมิงก้มลงหยิบวัชระแล้วส่งให้แสงกล้าอีกครั้ง
"พยายามใหม่... ผมมั่นใจว่าหมวดทำได้ มีแต่หมวดเท่านั้นที่จะสู้กับมัน...พญามารไสยศาสตร์ดำ !”
สมิงมองหน้าแสงกล้าด้วยแววตาเชื่อมั่น

ภายในห้องพักในโรงพยาบาล เพชรแท้ยังคงนอนนิ่งไม่ได้สติอยู่บนเตียง กุ๊บกิ๊บตรวจดูขวดน้ำเกลือที่แขวนอยู่ข้างเตียง แล้วจึงหันมาบอกแพรไพลินที่ถือแฟ้มตรวจอยู่
“พยาบาลเพิ่งให้ยาระงับประสาทไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วค่ะ”
แพรไพลินปิดแฟ้มพลางถอนหายใจ
"ต้องให้ยาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ"
"หมอคงต้องหาทางรักษาให้ได้นะคะ ไม่งั้นคุณแม่แย่แน่ๆ เลย"
แพรไพลินสีหน้าไม่สบายใจ

เตียงรวิถูกเข็นมาตามทางเดินหน้าห้องฉุกเฉิน รวิยังคงร้องเจ็บปวดอย่างรุนแรง ในมือกุมหัวไว้
"โอ๊ย เป็นเพราะไอ้ลูกกลมสะกดวิญญาณนั่น เป็นเพราะมัน โอ๊ย”
รวิพยายามดึงรั้งบริเวณศีรษะตัวเอง เหมือนต้องการจะดึงเอาลูกสะกดออกมาจากหัวตัวเองให้ได้
พยาบาลที่เดินตามเตียงมารั้งมือเธอไว้ แต่โดนสะบัดเต็มแรงและยื้อกันอยู่
เตียงรวิถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน

ร่างของรวิยังคงดิ้นด้วยความเจ็บปวดอยู่บนเตียงผ่าตัดในห้องฉุกเฉิน อุปกรณ์ช่วยชีวิตมีอยู่รายรอบ ด้านข้างเตียงเห็นมีมีดผ่าตัดวางเรียงรายกันอยู่ พยาบาลหลายคนพยายามรั้งร่างดิ้นพราดๆ ของรวิไว้


อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์[2] วันที่ 31 ธ.ค. 55

เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์
เหนือเมฆ2 บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ
เหนือเมฆ2 กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิบุตร
เหนือเมฆ2 ผลิตโดย : บริษัท เมตตามหานิยม จำกัด โดยผู้จัด ฉัตรชัย เปล่งพานิช
เหนือเมฆ2 แนวละคร : ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี
เหนือเมฆ2 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เหนือเมฆ2 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manage