@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 23 ธ.ค. 55

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 23 ธ.ค. 55

“นภา...ประเทศนี้จะจดจำคุณไว้ คุณเป็นสตรีหมายเลขหนึ่งที่เข้มแข็งและกล้าหาญ คุณทำหน้าที่ปกป้องดูแลสามีจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต"
แสงกล้ายืนฟังแล้วรู้สึกสะเทือนใจ เดินออกไปจากห้องไป แพรไพลินมองตามแต่ไม่ได้ตามออกไป
“คุณเหนื่อยมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่คุณต้องพักบ้าง พวกเราจะดูแลท่านนายกแทนคุณเอง ท่านต้องฟื้น...ดอกเตอร์เมฆาต้องกลับมาทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง”
ผู้การอินทนนท์เคร่งขรึม เต็มไปด้วยความเครียด

ทุกคนเดินออกมาจากห้อง... คมศรรายงานสถานการณ์
"ผมจะเก็บศพคุณนภาไว้ จนกว่าท่านนายกฟื้นแล้วค่อยทำพิธีครับ"
“ผมเห็นด้วย สามีควรทำหน้าที่ในพิธีศพของภรรยา”



อินทนนท์แปลกใจที่แสงกล้าหายไป
“หมวดแสงกล้าไปไหน”
ผู้การอินทนนท์หันมาถามแพรไพลิน เพราะคิดว่าเธอน่าจะรู้ว่าแสงกล้าอยู่ที่ไหน

แสงกล้าเดินขึ้นมาที่ริมขอบดาดฟ้า เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตะโกนระบายอารมณ์ออกไป
“มันไม่ยุติธรรมเลย นี่เหรอผลตอบแทนของความดี ทำไมคนทำดีต้องตาย ถ้าเป็นแบบนี้ คนจะทำความดีไปเพื่ออะไร”
"สังคมจะแย่ไปกว่านี้ถ้าคนดีท้อแท้" เสียงผู้การอินทนนท์ดังขึ้น
แสงกล้าหันกลับมาเจออินทนนท์ยืนอยู่
“ท่านผู้การก็เห็นว่า ผลลัพธ์ของคนดีคืออะไร กี่คนมาแล้ว ทอรุ้ง ผู้กองคราม ดอกเตอร์เมฆา แล้วยังคุณนภาอีก ผลตอบแทนของคนดีคือความตายเหรอครับ"
“ความตายไม่ได้หมายถึงความสูญเสียเสมอไป ถ้าเรารู้ว่าเราตายเพื่ออะไร”
แสงกล้าแปลกใจกับคำพูดของอินทนนท์
“สิ่งที่พวกเขาทำมันคือวีรกรรม เหมือนวีรชนที่สละชีวิตเพื่อกอบกู้บ้านเมืองทั้ง ๆ ที่รู้ว่าต้องตาย ฉันเชื่อมั่นว่าผู้กองครามหรือนภามีความสุขใจ.. ภาคภูมิใจที่ได้เสียสละชีวิตเพื่อยืนหยัดในความดี ปกป้องประเทศนี้”
“แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันบั่นทอน มันทำให้คนดีเสียขวัญและขลาดกลัว ไม่กล้าเผชิญหน้ากับสิ่งชั่วร้าย ทำให้หยุดนิ่ง ไม่กล้าทำอะไรอีกเลย”
“การนิ่งเฉยต่อสถานการณ์ที่เลวร้าย ก็เท่ากับเราสมรู้ร่วมคิดกับคนชั่ว”
“มีอะไรที่ทำให้คนดีมีความกล้าได้อีกล่ะครับ”
“ศรัทธา ศรัทธาที่เชื่อว่าความดีจะไม่มีวันตาย เหมือนอย่างที่ฉันเชื่อมั่นเสมอว่า เธอคือคนดีที่มีศรัทธา"
ผู้การอินทนนท์เอามือจับไหล่แสงกล้าทั้งสองข้างไว้ มองด้วยสายตาให้กำลังใจ
“แสงกล้า...เธอคือแสงสว่างที่จะนำความกล้าหาญ ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อความถูกต้อง”
แสงกล้าค่อยคลายความหดหู่ เข้าใจอะไรมากขึ้น พร้อมจะยืนหยัดสู้ต่อไป...
“ท่านครับ ท่านกลับมารับตำแหน่งในสำนักงานสืบฯ อีกครั้งได้มั้ยครับ ช่วงเวลานี้เราต้องการหัวหน้าและผู้นำที่ขาวสะอาด"
"เธอก็รู้ว่าฉันเกษียณอายุราชการแล้ว"
“แต่ท่านก็รู้ว่า ผ.บ.รวิเป็นคนยังไง”
ผู้การอินทนนท์ส่ายหัวแล้วเดินออกไป แสงกล้าตะโกนบอก
“ท่านครับ ท่านดูแลอุปการะผมเหมือนเป็นลูกแท้ ๆ มาตั้งแต่เล็ก วันนี้ เวลานี้ ผมขอร้องท่านในฐานะลูกของพ่อ กลับมาทำงานต่อเถอะครับ”
อินทนนท์หันมาหาแสงกล้า
“ในฐานะพลเมืองของประเทศนี้ ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้บ้านเมืองพังไปต่อหน้า และในฐานะพ่อของลูก ไม่มีพ่อคนไหนทนเห็นลูกถูกทำร้ายได้หรอก”
อินทนนท์ยิ้มให้แสงกล้าแล้วเดินออกไป...
บอดี้การ์ดสองคนเดินเข้ามาโค้งรับ แล้วเดินตามหลังอินทนนท์ไป
แสงกล้ามองตามแต่ไม่เข้าใจในคำพูดของอินทนนท์

แสงกล้ายืนริมหน้าต่างเห็นวิวความมืดด้านนอก บรรยากาศเหงา และเศร้าสลด เขากำลังคิดทบทวนสิ่งที่อินทนนท์พูด แพรไพลินเดินเข้ามาหา
"คุณคิดจะทำอะไรต่อไป"
“ยังไม่รู้ ผมรู้แต่เพียงว่าจะไม่ยอมแพ้ ผมจะสู้ต่อไป”
"ฉันก็จะใช้วิชาชีพของฉัน ค้นหาความจริงจับตัวคนผิดให้ได้"
"คุณไม่กลัวเหรอ คุณยังปกป้องตัวเองไม่ได้เลย"
"นั่นเป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องอารักขาฉัน ถ้าฉันเกิดอะไรขึ้น ฉันจะถือว่าคุณบกพร่องในหน้าที่"
แพรไพลินยิ้มให้แสงกล้าเพื่อให้กำลังใจ แสงกล้ายิ้มรับ
“ผมไม่มีวันปล่อยให้คุณได้รับอันตรายเด็ดขาด ผมสัญญา”
แสงกล้ายื่นมือให้ แพรไพลินยื่นมือมาจับ ทั้งสองมุ่งมั่นที่จะช่วยกันทำงานต่อไป

วันใหม่ น้ำใสยืนรายงานข่าว อยู่ในบริเวณที่นภาตกลงมาจากตึกของโรงพยาบาลเมื่อคืน
“ค่ำวานนี้...หลังจากเกิดเหตุ ดอกเตอร์เมฆา ฐานรัฐ เข้าโรงพยาบาลฉุกเฉินโดยไม่มีใครทราบสาเหตุ ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญอีกครั้งเมื่อ นางนภา ฐานรัฐ ภรรยาท่านนายกฯ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานสืบสวนพิเศษถูกทำร้ายจนตกจากตึกชั้นที่ 17 ของโรงพยาบาล ทำให้เสียชีวิตในทันที”
ระหว่างรายงาน มีการตัดภาพข่าวเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเข็นรถนำร่างของนภาออกจากห้องฉุกเฉิน

ณ มุมหนึ่งของชุมชน ประชาชนยืนดูข่าวจากจอตามสี่แยก เป็นภาพเจ้าหน้าที่เข็นนำร่างนภาเข้าไปยังห้องดับจิต...
“ศพของนางนภาจะถูกเก็บไว้...รอจนกว่าท่านนายกฯจะฟื้นเพื่อบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป"
บริเวณใจกลางเมือง จอทีวีที่ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เปิดทีวีพร้อมกันสิบกว่าเครื่อง ในจอเป็นภาพน้ำใสรายงานข่าวมีกลุ่มประชาชนยืนมุงดูข่าว
“สำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ว่างลงนั้น ทางคณะรัฐมนตรีมีมติด่วนเป็นเอกฉันท์ให้ นายจักร อมตฤทธา รองนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่งขึ้นรักษาการแทนในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จนกว่าดอกเตอร์เมฆาจะหายเป็นปกติค่ะ”

จักร อมตฤทธาเดินตรงไปยังห้องพักในโรงพยาบาลของเมฆา วิญญูและปราบเดินตามหลัง จักรจะเข้าไป แต่คมศรดักไว้ที่หน้าประตู
“ขอโทษครับ ท่านนายกฯต้องการพักผ่อน”
“ลืมไปแล้วเหรอว่าตอนนี้ฉันดำรงตำแหน่งอะไร”
“รักษาการแทนท่านนายกฯ แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นนายกฯ”
“เจ้านายแกยังหายใจเองไม่ได้ อย่ามาทำอวดดีกับฉัน!”
คมศรยืนขวางไว้ ทั้งจักรและคมศรจ้องหน้ากันอยู่พักหนึ่ง ก่อนจำต้องปล่อยให้จักรเข้าไปเพราะตำแหน่งน้อยกว่า จักรกำลังจะเดินเข้าไป แต่เห็นวิญญูเดินแยกไปอีกทาง จักรเดินเข้ามากระซิบถาม
“จะไปไหน”
“มีคนบอกว่าสตรีหมายเลข 1 กระดูกเหล็กจะไปดูให้เห็นกับตาว่าตายจริง ฉันไม่เชื่อใครนอกจากสายตาตัวเอง”
วิญญูเดินแยกออกไป จักรไม่สนใจวิญญูเดินตรงเข้าไปในห้องพักของเมฆาทันที

ภายในห้องไอซียู จักรเดินตรงมายังร่างของเมฆาที่นอนนิ่งเป็นเจ้าชายนิทรา
"ท่านนายกฯ ตอนนี้อำนาจการบริหารประเทศตกเป็นของฉันแล้ว ลุกขึ้นมาแสดงความยินดีกับฉันหน่อยสิ ลุกขึ้นมา”
จักรกระชากคอเสื้อเมฆาลุกขึ้นมาประจันหน้า
“บอกให้ลุกขึ้นมายังไงล่ะ ฮึ ๆ อยากขัดขวางอะไรฉันก็ลุกขึ้นมา...ตื่นมาสิ !”
จักรโยนร่างเมฆาล้มลงนอนบนเตียงแล้วหัวเราะสะใจ

วิญญูเดินตรงมาหยุดที่หน้าห้องดับจิต เมื่อวิญญูเพ่ง ประตูเปิดออกเองโดยอัตโนมัติ วิญญูเดินตรงเข้าไป

ร่างของเมฆายังคงนิ่ง หายใจด้วยระบบเครื่องช่วยหายใจ สายให้เลือด สายน้ำเกลือระโยงระยาง
“ดูสภาพแกตอนนี้...น่าสมเพช ! วัชพืชยังมีวันเจริญเติบโตและมีประโยชน์กว่าผักเน่า ๆ อย่างแก คนที่หายใจเองไม่ได้ก็เท่ากับตายไปแล้ว ! ใช่..แกตายไปแล้ว ฉันไม่อยากให้แกต้องทรมานอีกต่อไป ฉันจะช่วยแกเอง !”
จักรดึงเครื่องช่วยหายใจออก ร่างของเมฆานิ่งสงบลง สัญญาณชีพจรช้าลงเรื่อย ๆ จักรหัวเราะชอบใจแล้วเอาเครื่องช่วยหายใจมาครอบใส่ต่อ
“ไม่ !แกยังตายไม่ได้เพราะแกเป็นคนดี ฮึ ๆ ๆ คนดีที่ยังไม่ถึงที่ตาย เพราะฉะนั้นแกต้องฟื้นมาดูความสำเร็จของฉัน แล้ววันนั้นแกต้องกระอักเลือดตายไปเอง ! ฮ่า ๆ ๆ”
จักรหัวเราะอย่างสะใจ เมฆาที่นอนนิ่งไม่รับรู้เรื่องราวอะไรเลย

ภายในห้องดับจิต วิญญูยืนเพ่งมองตู้ที่เก็บศพนภา ลิ้นชักเลื่อนออกมาทันที เขาเดินเข้ามาใกล้ ๆ ลิ้นชักนั้น ยืนมองร่างนภาเพื่อตรวจให้แน่ใจ ดวงตาของวิญญูเพ่งมองตรงไปยังตำแหน่งหัวใจของนภา ภาพหัวใจด้านใน หยุดเต้นโดยสิ้นเชิง ! วิญญูยิ้มเหี้ยมอย่างพอใจกับภาพนภาที่ไร้วิญญาณ
“ไปรอในนรกก่อน อีกไม่นานไอ้เมฆาจะตามไป ฮึ ๆ ๆ”

จักรเปิดประตูห้องไอซียูออกมา คมศรยืนคุมเชิงอยู่ไกลไป วิญญูเดินเข้ามาหาจักรพอดี คมศรไม่ได้ยินที่ทั้งสองคุยกัน
“นังนภาตายแล้วแน่นอน”
“ดี..ต่อไปนี้จะไม่มีใครขวางทางฉันได้อีกแล้ว”
จักรกับวิญญูเดินออกไปอย่างทรนงเหมือนได้รับชัยชนะ

หลายวันต่อมา จักร อมตฤทธาเดินมาที่บริเวณแถลงข่าวหน้าพรรคไทธิวัตถ์ เพชรแท้เอาช่อดอกไม้เข้าไปแสดงความยินดี
“ขอแสดงความยินดีกับท่านนายกฯด้วยค่ะ”
“ขอบคุณมากครับ ผมก็แค่รักษาการ”
“ถึงจะเป็นรักษาการ...แต่ก็มีอำนาจไม่ต่างจากท่านนายกฯหรอกค่ะ ท่านมีอำนาจในการอนุมัติโครงการต่าง ๆ ได้อีกมากมาย”
เพชรแท้พูดเป็นนัยให้รู้ถึงเป้าหมายในการทำโครงการเพื่อผลประโยชน์ในอนาคต
นักข่าวรุมเข้ามาถ่ายภาพ เพชรแท้ยิ้มรับพร้อมเสนอหน้าเป็นข่าว น้ำใสแทรกตัวเข้ามายิงคำถาม
“ทำไมท่านถึงแต่งตั้งคุณวิญญูเป็นเลขาฯ ตำแหน่งนี้มีหน้าที่ควบคุมสำนักงานสืบสวนพิเศษ ทั้ง ๆ ที่มีเจ้าหน้าที่คนอื่นที่มีประสบการณ์มากกว่า”
วิญญูหันมามองน้ำใสอย่างไม่พอใจในคำถามแต่เก็บอาการไว้
“ตำแหน่งนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของประเทศ ผมต้องเลือกคนที่ไว้ใจมากที่สุด"
ผู้สื่อข่าวชื่อ พล ตั้งคำถามต่อ
“ทำอย่างนี้ก็เท่ากับท่านเห็นแก่พวกพ้อง”
จักรชี้หน้าถาม
“คุณอยู่ช่องไหน”
พลไม่ตอบ แต่จ้องหน้าจักรแบบไม่กลัวเกรง
“ผมจะบอกให้ทุกคนรู้ไว้ ผมเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี การตัดสินใจของผมถือถูกต้องและดีที่สุด”
นักข่าวคนอื่นเริ่มกลัวและเกรง แต่ตะวัน ผู้สื่อข่าวอีกคนพูดสวนขึ้น
“ท่านมีนโยบายขยายโครงการดาวเทียมเพิ่ม ทั้ง ๆ ที่ท่านนายกดอกเตอร์เมฆาสั่งให้ทำประชามติ ท่านมีเหตุผลอะไร”
“โครงการนี้จะเป็นการพัฒนาระบบการสื่อสารภายในประเทศให้ดีขึ้น”
“แต่แหล่งข่าวแจ้งว่า ท่านมีสายสัมพันธ์กับบริษัทที่รับสัมปทานดาวเทียม”
ตะวันจ้องมองไปยังเพชรแท้ นักข่าวคนอื่นๆก็หันไปจับภาพเพชรแท้
เพชรแท้ยิ้มถอยห่างจากจักร และเก็บอาการไว้
“ไม่เกรงว่าจะเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อนเหรอครับ”
“คิดมากไปแล้ว ผิดตรงไหนถ้าบริษัทของคุณเพชรแท้มีประสิทธิภาพและดีที่สุด พูดกันแบบตรงไปตรงมา ถ้าเค้าเยี่ยม เค้าก็ต้องชนะในโครงการนี้”
เพชรแท้ยิ้มรับหน้าระรื่นที่จักรออกตัวเชียร์
“ผมทำทุกอย่างเพื่อให้ประเทศก้าวหน้า คนทำงานได้ประโยชน์ วิน ๆ ทุกฝ่าย”
“แล้วโครงการถ่านหินล่ะครับ เพิ่งรับตำแหน่งรักษาการณ์ได้แค่เดือนเดียว ท่านจะอนุมัติอีกสักกี่โครงการ" พลถาม
ตะวันจะตั้งคำถามอีกแต่จักรไม่สนใจ เดินหนีออกไป วิญญูและบอดี้การ์ดเดินนำจักรไปที่รถ
"ท่านครับ"

จักรเดินไปที่รถ หันไปบอกวิญญูที่เดินตามมา
"จัดการเห็บหมัดพวกนี้ซะ อย่าปล่อยให้มันมากัดฉันอีก"
จักรขึ้นรถ ขบวนรถของจักแล่นออกไป วิญญูยืนนิ่ง สายตาเหี้ยมเหมือนกำลังคิดจัดการทำอะไรบางอย่าง

บริเวณลานจอดรถข้างถนนใกล้ที่ทำการพรรคฯ น้ำใสเดินเข้าไปคุยกับพล
“ถามแรงแบบนั้น เสี่ยงนะพี่”
“ถ้ากลัวคนเลวก็อย่ามาทำงานนี้ อาชีพนักข่าวนี้เป็นของคนกล้าที่พร้อมเผชิญหน้ากับความจริง"
"ถ้าทุกสำนักข่าวเป็นอย่างพี่ ประเทศเราคงดีขึ้น พี่จะไปไหน"
"เอาข่าวไปส่ง พี่ไปก่อนล่ะ"
พลกำลังจะเดินไปที่รถยนต์ของตัวเองที่จอดไกลออกไป แต่แล้วจู่ ๆ รถก็ระเบิดขึ้น...ตูม !
พลกระโดดหลบแทบไม่ทัน แถวนั้นโกลาหลกันยกใหญ่ น้ำใสเห็นเหตุการณ์ก็ตกใจ วิ่งเข้าไปหาพล
“พี่เป็นไงบ้าง”
พลตกใจรู้ดีว่า ถูกข่มขู่เรื่องข่าวจักร
วิญญูอยู่ในรถคันหนึ่ง มองมาแล้วยิ้มเหี้ยม น้ำใสเห็นวิญญู รู้ดีว่า จักรสั่งเล่นงานนักข่าว รถวิญญูแล่นออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ตะวันที่นั่งอยู่บนรถรับโทรศัพท์จากน้ำใส
“อะไรนะ มันขู่กันขนาดนั้นเลยเหรอน้ำใส”

น้ำใสคุยโทรศัพท์เตือนตะวัน ด้านหลังเห็นพลและเจ้าหน้าที่ยืนตรวจสอบรถที่โดนระเบิด
“มันต้องการขู่พวกเรา ยังไงพี่ตะวันต้องระวังตัวด้วย”

ตะวันกำลังขับรถพร้อม ๆ กับพูดสมอล์ทอล์ก
“ขอบใจมาก แต่พี่ไม่กลัวพวกมันหรอก เกิดมาเป็นนักข่าวต้องไม่กลัวตาย พี่พร้อมสู้กับพวกขายชาติขายแผ่นดิน"
ทันใดนั้นก็ปรากฎเงาดำวูบผ่านหน้ารถ ตะวันตกใจหักรถหลบทันที
น้ำใสได้ยินเสียงหักรถกะทันหัน เธอตกใจมาก
"เกิดอะไรขึ้นพี่ตะวัน"
ตะวันหักรถหลบชนต้นไม้ข้างทาง กระจกหน้าแตกนิดหน่อย
“นกคงบินตัดหน้ารถ พี่หักหลบชนต้นไม้ ไม่เป็นอะไรหรอก ไม่ต้องเป็นห่วง”
ทันใดนั้นกระจกหน้าเริ่มปริแตกจากจุดเล็ก ๆ ลามกระจายทั่วทั้งแผ่น แล้วก็ร่วงลงหน้ารถ
น้ำใสได้ยินเสียงกระจกแตกก็ถาม
"พี่...เสียงอะไร"
“กระจกแตกน่ะ”
ตะวันคิดว่าทุกอย่างเป็นปกติ แต่แล้วเศษกระจกที่แตกทั้งหมด กลับพุ่งเข้ามาแทงร่างของตะวัน
"โอ๊ย"
“พี่ตะวัน ตะวัน” น้ำใสร้องด้วยความตกใจ

มุมหนึ่งที่ท้องถนน รถสำนักงานสืบสวนพิเศษวิ่งเข้ามา ร.ต.ต.แสงกล้า อภิไชยรีบวิ่งลงจากรถไปหาน้ำใสที่ยืนมองร่างตะวัน เพื่อนนักข่าวซึ่งตายคาพวงมาลัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่สำนักงานสืบฯ กำลังตรวจสอบและจะนำศพออกมา
“แสงกล้า”
น้ำใสโผเข้าซบกอดร้องไห้กับแสงกล้า
“พี่ ๆ สื่อถูกข่มขู่เล่นงาน...ช่วยฉันด้วย”
"ไม่ต้องกลัวนะ ฉันอยู่นี่แล้ว"
น้ำใสกอดแสงกล้าร้องไห้อย่างเสียขวัญ จ่าสมิงเดินเข้ามามองสภาพกระจกแล้วรับรู้ได้ถึงพลังบางอย่าง สมิงหันไปมองที่รถฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นรถคันเดียวกับที่วิญญูนั่งอยู่ รถคันนั้นรีบวิ่งออกไปทันที สมิงรู้ว่า เป็นการตายที่ผิดธรรมชาติ
สมิงหันมาที่ศพของตะวัน แล้วยืนสงบนิ่ง สวดมนต์ส่งวิญญาณ ร.ต.ต.แสงกล้ากอดปลอบใจน้ำใส และเห็นสมิงกำลังยืนสวดมนต์อยู่

ในเวลากลางคืนวันเดียวกัน ที่หน้าทาวน์โฮมของแพรไพลิน แสงกล้าเปิดประตูรถ น้ำใสถามอย่างแปลกใจ
"พาฉันมาที่นี่ทำไม บ้านใครเหรอ"
“บ้านแฟนของ...” สมิงพูดแทรกขึ้น
แสงกล้า สวนขึ้นทันที
“บ้านดอกเตอร์แพรไพลิน ฉันอยากรู้ผลการชันสูตรศพวันนี้”
แสงกล้าเดินนำน้ำใสเข้าไปในบ้าน
“หาข้ออ้างมาหาแฟนก็บอกเหอะ”
แสงกล้าเดินมาที่หน้าประตูบ้านแพรไพลิน คมศรเปิดประตูให้แสงกล้า
"คุณคมศร"
“พอดีผมทราบข่าว อยากรู้รายละเอียดทั้งหมดก็เลยรีบมาที่นี่...เชิญด้านในครับ”
แสงกล้าและน้ำใสเดินเข้าไป
“เอาละเหวย..รถไฟชนกันโครมเบ้อเร้อ” สมิงว่า

พญ. แพรไพลิน นวิยากุลรายงานผลการชันสูตร โดยมีกุ๊บกิ๊บเป็นผู้ช่วย แพรไพลินเปิดคอมพิวเตอร์แสดงภาพกราฟฟิค ประกอบคำอธิบาย ภาพดูทันสมัย
“จากการชันสูตรศพพบว่า การแตกของกระจกผิดธรรมชาติ เศษกระจกไม่ได้ตกตามแรงโน้มถ่วง แต่กลับพุ่งย้อนเข้าร่างผู้ตาย”
“แล้วที่น่าแปลกใจมาก ๆ ก็คือ กระจกนิรภัย แต่กลับแตกละเอียดยิบตัดเส้นเลือดสำคัญขาดทุกเส้น” กุ๊บกิ๊บบอก
“ทุกอย่างผิดหลักอุบัติเหตุ เรียกได้ว่าผิดธรรมชาติ!”
“ไสยดำ” สมิงโพล่งขึ้น
“อีกแล้วเหรอ มันทำอย่างนี้ทำไม” แสงกล้าว่า
“กำจัดทุกคนที่ขวาง” สมิงตอบ
“ฉันมั่นใจว่ารองจักรน่าจะเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะตอนรถพี่พลโดนวางระเบิด ฉันเห็นนายวิญญู เลขารองจักรใกล้ที่เกิดเหตุ” น้ำใสบอก
“เท่ากับว่ารองจักรเกี่ยวข้องกับพวกไสยดำ” แพรไพลินว่า
“เรายังสรุปอย่างนั้นไม่ได้ แต่ก็เป็นสมมติฐานที่ต้องรีบพิสูจน์ เพราะตอนนี้ รองจักรแทรกแซงการทำงานทุกกระทรวง อนุมัติโครงการต่าง ๆ ที่เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง" คมศรบอก
“คณะรัฐมนตรีเห็นด้วยกับความคิดของเค้าเหรอครับ” แสงกล้าถาม
“มีคนไม่เห็นด้วย แต่ไม่มีใครกล้าค้าน”
“สื่อก็คงไม่กล้าเล่นเรื่องนี้ เพราะกลัวถูกเล่นงานและต้องตายอย่างพี่ตะวัน” น้ำใสพูดขึ้น
“เมื่อเราคิดสู้กับคนชั่ว จงอย่ากลัวตายเพราะพญามัจจุราชกำลังยืนอยู่หลังเรา” สมิงบอก
"ฉันพร้อมเดินหน้าหาความจริง ฉันไม่สนว่าคนผิดจะเป็นใคร" แพรไพลินยืนยัน
“ถ้าพวกเราร่วมมืออย่างจริงจัง ต้องหยุดยั้งความชั่วร้ายได้!” แสงกล้าว่า
“เยี่ยม!ขอให้ทุกคนลุกขึ้นยืน ผมมีคาถาดีไว้ให้ทุกคนป้องกันตัว” สมิงบอก
“บอกมาเลยค่ะ กุ๊บกิ๊บจะท่องวันละสามครั้งก่อนอาหาร” กุ๊บกิ๊บว่า
“ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ถ้ากลัว ก็ต้องทำ !” สมิงบอกคาถา
ทุกคนยิ้มออกมากับคาถาของสมิง กุ๊บกิ๊บพูดตามอยู่คนเดียว
“ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ถ้ากลัว..(นึกได้) ว้าย...ไม่ทำได้มั้ยคะ”
“ต้องทำ!”
กุ๊บกิ๊บใจเสีย ทุกคนส่ายหัวกับคาถาของสมิง

ที่มุมหนึ่ง กุ๊บกิ๊บเดินออกไปจากบ้าน พร้อมถามสมิง
“สมิง มีคาถาทำให้รักให้หลงบ้างมั้ย”
“จะใช้กับใครครับ”
“สบายใจได้ ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่สมิงแน่”
สมิงหมดอารมณ์บอก “ไม่มี!”
สมิงเดินหนีไปที่หน้าบ้าน กุ๊บกิ๊บวิ่งตามไป
“ขอหน่อยนะ อยากมีแฟนกับเขาสักที”
ที่มุมหนึ่งแสงกล้าเดินเข้าไปลาแพรไพลิน...
“คุณระวังตัวด้วยนะ เรากำลังตกเป็นเป้า”
“คุณเองก็เหมือนกัน” แพรไพลินบอก
"เป็นห่วงผมด้วยเหรอ" แสงกล้าถาม
แพรไพลินยิ้มแต่ไม่ตอบ
“มีอะไรผิดปกติ รีบโทรหาผมทันที”
“ขอบคุณค่ะ”
คมศรเข้ามายืนเคียงข้างแพรไพลิน
“หมวดไม่ต้องห่วงครับ...คืนนี้ผมจะอยู่เป็นเพื่อนหมอเอง”
“เอ้อ... ครับ”
น้ำใสเดินเข้ามาหาแสงกล้า

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 23 ธ.ค. 55

เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์
เหนือเมฆ2 บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ
เหนือเมฆ2 กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิบุตร
เหนือเมฆ2 ผลิตโดย : บริษัท เมตตามหานิยม จำกัด โดยผู้จัด ฉัตรชัย เปล่งพานิช
เหนือเมฆ2 แนวละคร : ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี
เหนือเมฆ2 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เหนือเมฆ2 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manage