@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก[2] วันที่ 29 ธ.ค 2555

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก[2] วันที่ 29 ธ.ค 2555

“อยากได้คัตตั้นบัตมาแยงหูแต่มีปัญญาแค่...” พิมภามองทางเอกพล “ใช้เศษฟางมาม้วนแล้วปั่นแก้คัน ก็ทำได้แค่เห่าน่ะจ๊ะ น่าสมเพชนะจ๊ะ”
“อ๋อ เอาใบตองแห้งมาให้หมามันเห่านี่เอง”
แก๊งค์ลัลนาขำตีมือกันอย่างชอบใจ การะเกตุมองพิมภาแค้นมาก พิมภายิ้มสะใจ เอกพลมองพิมภาอย่างไม่พอใจปราสินีมองเหตุการณ์แต่สีหน้าไม่ค่อยดีนัก หน้าจะมืด ผู้กำกับฟังอ้าปากหวอ ลัลนาหันมาเห็น
“ทำงานสิค้า ผู้กำกับ”
“ครับ พร้อมนะ แอ็คชั่น”

ภาพที่มอนิเตอร์ โฟมโดนยิงเข้ามา ฤชวียืนหล่อ กิ่งแก้วค่อยๆ ทำตามคิว ฤชวีหน้าเคลิ้ม พิมภากับคนอื่นๆ มองพอใจ แต่การะเกตุมองพิมภาคิดจะหาทางเล่นงาน การะเกตุมองโฟมที่ถูกปล่อยออกมาแล้วได้ความคิดบางอย่าง
“คัท” การะเกตุบอกเสียงดัง ทุกคนหันมองการะเกตุ “คุณต้นหน้ายังไม่ได้อารมณ์เท่าไหร่ ฉันอยากให้เขาเคลิ้มกว่านี้ สั่งให้คนปล่อยโฟมมาเยอะๆ” การะเกตุหันไปบอกเอกพล



“ทำไมครับ”
“ฉันสั่ง”
“ครับ”

เอกพลรับคำสั่งหน้าตึง การะเกตุรีบเดินไปหาฤชวี พิมภา ลัลนารีบตามไป ผู้กำกับมองงง
การะเกตุตรงเข้าไปหาฤชวีด้านใน ฤชวีกับกิ่งแก้วงงว่ามีอะไร

“คุณต้นคะเกตุอยากให้ตอน...”
การะเกตุเอามือวางที่แขนของฤชวีแล้วลูบ ฤชวีอึ้งแต่ยังไม่ทันขยับออก พิมภาก็รีบเข้ามาแทรกดันการะเกตุออก
“คุณเกตุต้องการอะไร เดี๋ยวดิฉันจัดการให้”
เอกพลสั่งคนปล่อยโฟมให้ปล่อยโฟม ภายในโฟมถูกปล่อยออกมา ทุกคนตกใจ
“เฮ้ย! ใครสั่งปล่อยโฟมวะ”
ผู้กำกับถามอย่างตกใจ ข้างในบล็อกทุกคนกำลังงง การะเกตุได้ทีช่วงที่โฟมหนาผลักพิมภาล้มไปทันที
“ว้าย”
ฤชวีกับกิ่งแก้วที่โดนโฟมบังมองไม่เห็น การะเกตุตามลงไปจะเล่นงานพิมภา แต่พิมภาที่ตั้งสติได้ถีบการะเกตุปึ้ก พิมภาตามไปนัวกับการะเกตุภายในโฟม
“คุณพิม”
ลัลนากับนันทิกานต์เห็นท่าไม่ดี
“แนน”
ลัลนากับนันทิกานต์ตามเข้าไปช่วยนัวสุดฤทธิ์ เสียงผัวะ เพียะดังออกมา เห็นสลับเป็นการะเกตุโผล่ออกมาทางกิ่งแก้ว กิ่งแก้วมองซ้ายมองขวาแล้วผลักการะเกตุกลับเข้าไป
“ตายแล้ว ลื่นเหรอคะนั่น” กิ่งแก้วแอบยิ้ม
การะเกตุโผล่ขึ้นมาอีกแล้วโดนจิกหายเข้าไปในโฟม มีพิมภาโผล่บ้างแต่การะเกตุล็อคคอกลับเข้าไป ฤชวีโผเข้าไปในโฟมพยายามจะช่วยพิมภาออกมา ฤชวีออกมาพร้อมกับอุ้มพิมภาที่ตัวเลอะฟองออกมา
“ปล่อยฉัน คุณต้น”
“ทุกคนมองอยู่นะครับ คุณพิม” ฤชวีกระซิบข้างหูพิมภา พิมภาได้สติชะงักก่อนจะแอ็คติ้งอย่างเนียนๆ
“คุณเกตุลื่นน่ะค่ะ ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง”
“คุณเกตุ! ช่วยคุณเกตุออกมาสิโว้ย”
เอกพลวิ่งเข้ามาและไม่ทันขาดคำร่างการะเกตุก็ถูกโยนออกมาจากกลุ่มโฟมในสภาพสะบักสะบอมมาก เอกพลเข้าไปดู ปราสินีมองอย่างเจ็บปวด ลัลนากับนันทิกานต์เดินออกมาจากโฟม ตัวเลอะแต่สีหน้าสะใจมาก
“ลัลตกใจแทบแย่เลยค่ะ เห็นคุณเกตุลื่นคิดว่าจะเป็นอะไรไปซะแล้ว”
“หืม ดูสิ ล้มหน้าคว่ำ เป็นรอยหมดเลยค่ะ เจ็บมั้ยคะ”
การะเกตุมองอย่างแค้น
“เสียเวลามามากแล้วทำงานต่อเถอะค่ะ”
การะเกตุยืนจ้องพิมภา
“ออกจากเซ็ทด้วยครับ จะทำงานครับ”
ผู้กำกับบอก การะเกตุจำต้องเดินกลับมาที่หน้ามอนิเตอร์อย่างหงุดหงิด ลัลนา นันทิกานต์เดินมาหาพิมภา แล้วตีมือยิ้มกันอย่างสะใจ ก่อนจะเดินกลับไปที่มอนิเตอร์ กิ่งแก้วกับฤชวีกลับไปเข้าที่
“สู้คน หัวไว ใจถึงแบบนี้ เหมือนคุณย่าชุติภาเลยนะ ถ้าเข้าขากันได้ล่ะก้อ” กิ่งแก้วบอกฤชวียิ้มๆ
“ต้นคงตายแน่ล่ะ”
“อันนี้จริง”
“พร้อมนะครับ แอ็คชั่น”
ผู้กำกับสั่ง โฟมถูกปล่อยออกมา

ภาพในมอนิเตอร์ ฤชวีกับกิ่งแก้วเล่นได้ตามคิวไม่มีที่ติ
“ผ่านครับ เลิกกอง”
ผู้กำกับดีใจออกนอกหน้าที่งานเสร็จ พิมภาส่งผ้าขนหนูให้ฤชวี ฤชวีหันมองทางมอนิเตอร์เห็นปราสินีดูสีหน้าไม่ดีนัก ปราสินีเดินหลบออกไป
“ทุกอย่างโอเค คุณเก่งมาก เสร็จงานวันนี้แล้ว เปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วค่ะ” พิมภาบอกกับฤชวี
“ผมขอไปห้องน้ำก่อนนะ”
ฤชวีรีบเดินออกไป พิมภามองตามท่าทีฤชวีที่ดูรีบร้อน

ปราสินีเดินออกมาด้านนอก เธอเครียดจนปวดท้อง ฤชวีเข้ามารับไว้
“คุณ เป็นยังไงบ้าง”
“ฉันปวดท้อง ฉันไม่ไหว”
“ไปโรงพยาบาลดีกว่านะครับ”
ฤชวีพาปราสินีออกมาที่ถนนแล้วโบกแท็กซี่ ฤชวีพาปราสินีขึ้นรถไป พิมภาออกมาเห็น
“คุณต้น คุณต้น”
พิมภากดมือถือโทรหาฤชวี
บนรถแท๊กซี่ ปราสินีนั่งพิงเบาะอย่างหมดแรงสีหน้าปราสินีดูแย่มาก
“คุณฝากท้องไว้ที่ไหนครับ”
ฤชวีถาม ปราสินีมองฤชวีอึ้ง
“ทำไมคุณรู้”
“ผมเห็นคุณกับคุณเอกพล...”
ปราสินีหน้าเสียนิ่งไป เสียงมือถือฤชวีดังขึ้น ฤชวีกดรับ
“ครับคุณพิม”
“คุณไปไหน”
“ผมกำลังจะ...” ปราสินีจับแขนฤชวียึดไว้ ส่ายหน้าไม่ให้บอก “คุณย่าเรียกตัวผมด่วนน่ะครับ ผมเลยต้องรีบออกมาก่อน คุณไปรอที่คอนโดนะครับ ผมจะรีบตามไป”
พิมภาวางสายโกรธที่ฤชวีโกหก ปราสินีมองฤชวีอย่างขอบคุณ
“ขอบคุณนะคะที่ไม่บอกพิมเรื่องฉัน คุณคงรู้ว่าฉันทำเรื่องร้ายๆ ไว้มาก ฉันไม่อยากโดนซ้ำเติม”
“คุณพิมไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกครับ ถ้าคุณบอก...”
“อย่านะคะ อย่าบอกพิมกับแนน ปลาขอร้อง นะคะ...แค่เรื่องพี่เอกปลาก็รับไม่ไหวแล้ว ปลาขอร้องอย่าบอกคนที่นารีนะคะ สัญญานะคะ” ปราสินีน้ำตาคลอ
“ครับ ผมสัญญา”
ฤชวีรับปากอย่างหนักใจ

เอกพลกับการะเกตุออกมาจากสวนสาธารณะ
“เจ็บใจนัก พวกมันรุมฉัน แล้วปราสินีล่ะ”
การะเกตุตะคอกถามเอกพลอย่างหงุดหงิด เอกพล หน้าตึงแต่ยังเก็บอาการ
“ไม่ทราบครับคงกลับไปแล้ว”
กลุ่มลัลนาออกมา กิ่งแก้ว ตรีวิญเดินออกมามองหา
“คุณแนน คุณพิมล่ะครับไปไหน”
นันทิกานต์มองหาแล้วเดินไปที่รถส่องดู
“ไอ้พิม” นันทิกานต์เคาะกระจก พิมภาเปิดประตูออกมา “แกมาหลบทำไมตรงนี้”
“ฉันไม่ค่อยสบาย”
“แล้วนี่ต้นไปไหนล่ะคะ ถ่ายเสร็จก็หายไปเลย” กิ่งแก้วถามหาฤชวี ทำให้พิมภาจี๊ดขึ้นมา
“เขากลับไปแล้วค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะไปส่งคุณพิมนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวแนน...”
“ดีเหมือนกันค่ะ รบกวนคุณตรีวิญด้วยนะคะ”

“เฮ้ย ไอ้พิม”
พิมภาตามตรีวิญไป กิ่งแก้วมองนันทิกานต์

“คุณแนนคะ ทำไมคุณพิมถึง...”
“ต้องมีอะไรแน่ๆ”
แก๊งลัลนามองตามอย่างงงๆ ทุกอย่างอยู่ในสายตาการะเกตุกับเอกพล
“พิมภากับนายตรีวิญนี่ดูจะแปลกๆ นะ”
การะเกตุบอก เอกพลจึงยกมือถือให้ดู
“ก็คงเพราะ...”
การะเกตุเห็นภาพตรีวิญจับมือพิมภา การะเกตุมองยิ้มร้าย ที่มือถือการะเกตุดัง
“สวัสดีค่ะ คุณย่าชุติภา มีอะไรเหรอคะ”

การะเกตุกับสินีนาฎมาหาชุติภาที่บ้าน ทั้งคู่ถึงกับอึ้งกับสิ่งที่ชุติภาบอก
“สองคนนั้นไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ เหรอ”
“พวกนั้นโกหกฉัน”
“พวกนั้นคงเห็นเธอโง่มาก” ชุติภายิ่งโกรธ “ไม่ใช่เรื่องจริงก็ดี เราก็จัดการแยกสองคนนั้นเลยสิ”
“แต่ตาต้นน่ะรักพิมภาจริงๆ น่ะสิ ตาต้นลองดื้อล่ะก็ ฉันก็เอาไม่อยู่หรอกนะ” ชุติภาบอกอย่างหนักใจ
“ไม่มีปัญหาค่ะ เกตุมีวิธีให้สองคนนั้นแยกกันโดยที่เราไม่ต้องลงมือเลย”
การะเกตุบอกยิ้มๆ ชุติภา สินีนาฎมองว่าวิธีอะไร
ทางด้านพิมภา ขณะนั่งรถมากับตรีวิญ พิมภาเอาแต่นั่งเงียบ มือกำมือถือไว้แน่นใจอยากจะโทรออกแต่ก็ไม่ทำ ตรีวิญแอบสังเกตอาการพิมภารู้ว่าพิมภาอยากโทรหาฤชวีแต่ไม่ทำ
“ขอโทษนะครับคุณพิม อยู่ๆ คุณฤชวีหายไปไหนเหรอครับ”
ตรีวิญรู้ว่าคำถามของตัวเองกระทุ้งต่อมนอยด์ของพิมภาอย่างจัง แต่ก็ปั้นหน้าทำเป็นอยากรู้จริง
“คุณต้นมีธุระน่ะค่ะ”
“แล้วเค้ารู้รึเปล่าครับว่าคุณไม่สบาย”
พิมภาพยายามสะกดความน้อยใจเอาไว้แต่ก็ไม่วายแสดงอาการออกมาให้ตรีวิญเห็นจนได้
“ไม่รู้ค่ะ”
“โทรบอกดีมั้ยครับ”
ตรีวิญถามทั้งที่รู้ว่าพิมภาไม่อยากโทร
“ไม่ค่ะ”
พิมภานิ่งไม่ตอบ แต่นึกถึงตอนที่ฤชวีโกหกว่าชุติภาเรียกตัว
เสียงมือถือฤชวีดังขึ้น ฤชวีกดรับ
“ครับคุณพิม”
“คุณไปไหน”
“ผมกำลังจะ...” ปราสินีจับแขนฤชวียึดไว้ ส่ายหน้าไม่ให้บอก “คุณย่าเรียกตัวผมด่วนน่ะครับ ผมเลยต้องรีบออกมาก่อน คุณไปรอที่คอนโดนะครับ ผมจะรีบตามไป”
พิมภาวางสายโกรธที่ฤชวีโกหก
พิมภารู้สึกตัวอีกทีเพราะเสียงโทรศัพท์มือถือของพิมภาดัง พิมภาหวังให้เป็นฤชวีโทรมาแต่เห็นว่าเป็นภัทรพลโทรมา
“ไอ้พิม แกอยู่ไหน”
“กำลังกลับบ้าน คุณตรีวิญมาส่ง”
“แล้วทำไมแกไม่กลับมาพร้อมคุณต้น คุณต้นกลับมาถึงบ้านตั้งนานแล้วนี่แกแผลงฤทธิ์อะไรกับคุณต้นอีกรึเปล่า”
เสียงภัทรพลดังแผดออกมากจนตรีวิญได้ยิน
“คุณต้นเค้าถูกคุณย่าเรียกตัวด่วน เค้าไม่ได้บอกพี่ภัทรเหรอ หรือว่าเค้าบอกไม่ตรงกัน” พิมภาพูดเองก็รู้สึกเจ็บเอง “แค่นี้นะพี่ภัทร พิมใกล้ถึงแล้ว”
พิมภาวางสายแล้วมองไปนอกรถนิ่งๆ ตรีวิญมองอาการของพิมภานิ่งๆ แต่แววตาแสดงอาการพอใจ

ฤชวีมองอย่างกระวนกระวายที่พิมภายังไม่กลับมา จะโทรหาพิมภาแต่ภัทรพลเดินเข้ามาพอดี
“ไม่โทรต้องหรอก ไอ้พิมใกล้ถึงแล้ว” ภัทรพลมองหน้าฤชวี “นี่ทำไมคุณถึงทิ้งพิมไว้แบบนั้น”
“ผมมีธุระครับ”
ภัทรพลอ่านน้ำเสียงและสีหน้าของฤชวีออกว่าต้องเป็นเรื่องที่พิมภารู้ไม่ได้
“ธุระที่บอกไอ้พิมไม่ได้ใช่มั้ย”
“ครับ”
“คิดว่าโกหกไอ้พิมแล้วมันจะจบเรื่องเหรอคุณต้น”
ภาณุวัฒน์กับพิมมาลาที่นั่งอยู่ใกล้ๆ และฟังอยู่นานแล้ว มองหน้ากันแล้วตัดสินใจพูดกับฤชวี
“ผู้ชายน่ะ ชอบคิดว่าการโกหกเป็นการรักษาน้ำใจผู้หญิง ดีกว่าให้เค้ารู้ความจริงที่เค้าไม่อยากรู้”
“แล้วอยากรู้มุมมองของผู้หญิงบ้างมั้ยล่ะ”
“ว่ามาสิแม่ ถ้าผู้ชายบอกความจริงจะโกรธมั้ย”
“โกรธ แต่ยังดีกว่าการโกหก เพราะมันจะทำให้เรื่องบานปลาย โดยเฉพาะถ้าเค้ารู้เรื่องนั้นจากคนอื่น แต่ถ้าโชคร้ายเค้าสืบรู้เอง นึกภาพออกมั้ยว่าจะเป็นยังไง”
ฤชวีหน้าเสีย รู้แล้วว่าตัวเองพลาดไปแล้ว
“คือ”
ฤชวียังไม่ทันจะเล่าอะไร พิมภาก็เปิดประตูเข้ามา ฤชวีดีใจที่พิมภากลับมา แต่แล้วก็ต้องชะงัก เพราะตรีวิญเดินตามเข้ามาด้วย ฤชวีมองหน้าพิมภา พิมภานิ่งไม่พูดอะไร
“คุณพิมไม่สบายครับ ผมก็เลยมาส่ง”
ตรีวิญบอก ฤชวีมองหน้าพิมภาอย่างเคืองๆ พิมภามองตอบ สองคนยืนจ้องหน้ากัน บรรยากาศทั้งห้องตึงเครียด

พิมภากับฤชวีต่างคนต่างนอนอยู่ในที่ตัวเองหันหลังให้กัน มีแค่ไฟหัวเตียงที่ยังเปิดอยู่ พิมภานอนลืมตาอยู่ในความมืดด้วยใบหน้าตึง เครียด น้อยใจ ความเงียบยิ่งทำให้ทั้งคู่อึดอัด ฤชวีคิดๆ แล้วทนไม่ไหว พลิกตัวขึ้นมานอนหงายแต่ยังไม่หันหน้าไปทางพิมภา เสียงฤชวีดังขึ้นมาทำลายความเงียบ
“คุณพิมไม่สบายทำไมไม่บอกผมครับ”
“ธุระของคุณย่าคุณ ปราสินีเกี่ยวด้วยเหรอคะ” ฤชวีตกใจที่ได้ยินพิมภาพูดแบบนั้น “บอกไม่ได้สินะคะ โอเคค่ะ เราต่างก็มีพื้นที่ส่วนตัว มีเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องบอกให้อีกฝ่ายรู้”
ฤชวีรู้สึกว่าเรื่องมันจะไปกันใหญ่ ตัดสินใจจะบอกความจริงกับพิมภา
“คุณพิมครับ คือ...”
“ไม่ต้องบอกหรอกค่ะ ฉันไม่อยากรู้ ขอโทษนะคะ ฉันง่วงนอนแล้ว”

พิมพาตัดบทแล้วดับไฟหัวเตียง ฤชวีพลิกตัวหันหลังให้พิมภาเหมือนเดิม
วันต่อมาขณะที่พิมภากำลังดูแฟ้มรายงานยอดขายสินค้าอย่างตั้งใจ ตรีวิญแอบมองและหาจังหวะพูด
“อาการป่วยของคุณเป็นไงบ้างครับ”
“ดีขึ้นแล้วค่ะ พิมว่าหลังจากหนังตัวแรก อีกสองอาทิตย์เราจะปล่อยหนังโฆษณาตัวที่สองออกตามกันไปเลยดีกว่าค่ะ”
“แล้วคุณฤชวีว่าอะไรรึเปล่าครับที่ผมไปส่งคุณที่บ้าน”
“ขอโทษนะคะคุณตรีวิญ พิมอยากคุยเรื่องงานให้จบก่อน” ตรีวิญอึ้ง หน้าตึง “ขอโทษค่ะ คือลูกทีมของพิม
รอประชุมกับพิมต่อ พิมต้องรีบสรุปงานนะคะ”
พิมภาดันแฟ้มให้ตรีวิญอ่านอีกครั้ง ตรีวิญปิดแฟ้ม พิมภามองหน้าตรีวิญ
“คุณพิมครับ นอกจากเรื่องงาน เรามีเรื่องอื่นคุยกันบ้างได้มั้ยครับ”
สายตาและน้ำเสียงของตรีวิญถามอย่างมีความหมาย และพิมภาก็เข้าใจว่าหมายความว่าอะไร
“ไม่ควรมีค่ะ”
“แต่ผมมี”
“คุณตรีวิญคะ พิมไม่รู้ว่าพิมเข้าใจสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ถูกต้องมั้ย แต่พิมแต่งงาน มีสามีแล้ว เรื่องที่คุณกำลังจะพูด พิมคิดว่าไม่ควรพูดกับผู้หญิงที่มีสามีแล้วนะคะ” พิมภารวบแฟ้ม แล้วยืนขึ้น “ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้ว พิมขอกลับไปประชุมกับลูกทีมก่อนนะคะ” พิมภาตัดบทแล้วรีบเดินออกไป ตรีวิญลุกตามมา แล้วคว้ามือพิมภาไว้ พิมภามองหน้าตรีวิญแล้วมองมือตรีวิญที่จับมือพิมภาอยู่ พิมภาแกะมือตรีวิญออกอย่างสุภาพที่สุด “คุณตรีวิญที่พิมเคยรู้จัก ไม่เป็นแบบนี้นะคะ กรุณาให้เกียรติพิม และให้เกียรติตัวคุณเองด้วยนะคะ”
พิมภาเดินออกไป ตรีวิญมองตาม สายตาแสดงให้เห็นว่าไม่ยอมแพ้
“คุณเป็นคนทำให้ตัวตนที่แท้จริงของผมออกมาไงพิมภา ยังไงผมก็จะไม่ยอมแพ้”
มือถือของตรีวิญดัง เห็นว่าการะเกตุเป็นคนโทรเข้ามา

ตรีวิญมาพบกับการะเกตุที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตรีวิญนั่งอยู่ตรงข้ามการะเกตุที่ละเลียดจิบกาแฟอย่างใจเย็น
“ความจริงแล้ว คุณย่าของคุณต้นหมั้นหมายเกตุเอาไว้ให้คุณต้น แต่คุณต้นก็ถูกพิมภาหลอกให้แต่งงานด้วยซะก่อน” ตรีวิญงงว่าการะเกตุพูดเรื่องนี้กับเขาทำไม “บอกตามตรงนะคะ ฉันอยากได้คุณต้นคืนจากพิมภา”
“คุณมาพูดเรื่องนี้กับผมทำไมครับ”
“ยากมั้ยคะ การรักษาภาพให้ดูเป็นคนดีตลอดเวลาแบบนี้เนี่ย” การะเกตุจ้องหน้าตรีวิญอย่างเย้ยๆ ตรีวิญยังรักษาอาการมองการะเกตุอย่างประเมินว่าต้องการอะไร “ทั้งที่ความจริง คุณเองก็อยากได้เมียคนอื่นจนเห็นได้ชัดเลยล่ะคะ”
“ถ้าคุณยังไร้สาระแบบนี้อยู่ ผมขอตัวนะครับ”
ตรีวิญขยับจะลุก แต่การะเกตุชิงพูดเข้าเรื่องซะก่อน
“พิมภากับคุณต้นไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ ฟังดูน่าสนใจมั้ยค่ะ”
ตรีวิญชะงัก หันกลับมาหาการะเกตุ
“คุณว่าอะไรนะ”
“สองคนนั่นแต่งงานกันหลอกๆ”
“เค้าจะทำแบบนั้นทำไม”
“ฉันไม่สนว่าเค้าจะทำทำไม แต่ฉันต้องได้คุณต้นมาเป็นของฉัน”
“คุณก็เลยคิดจะใช้ผมเป็นเครื่องมือ แยกคุณพิมกับสามีออกจากกัน คุณการะเกตุคุณบังคับผมไม่ได้หรอกนะครับ”
“ก็ทำไมฉันต้องบังคับคุณให้เหนื่อยล่ะคะ ในเมื่อคุณเองก็อยากทำแบบนั้นอยู่แล้ว” ตรีวิญอึ้งที่การะเกตุรู้ความคิดของเขา “เป็นคนดี แต่ต้องแพ้ คุณยังอยากจะเป็นอีกเหรอคะ”
การะเกตุจ้องหน้าตรีวิญอย่างยั่วยุให้คล้อยตาม ตรีวิญคิดหนัก

คืนนั้นพิมภาเดินออกมาจากห้องนอนจะมานั่งที่ห้องรับแขก แต่เห็นฤชวีนั่งทำงานอยู่ พิมภาจะเดินกลับเข้าห้องแต่ถูกพิมมาลาคว้าตัวไว้ แล้วลากมานั่งที่โซฟา
“พิมทาเล็บให้แม่หน่อยสิลูก”
พิมภาจำใจต้องมานั่งที่โซฟากับพิมมาลา ฤชวีเห็นว่าพิมภาตึงๆ ใส่จะลุกหนี แต่ภาณุวัฒน์ถือไอโฟนเข้ามาหาลากฤชวีไปนั่งที่โซฟาข้างๆ พิมภา
“คุณต้นสอนพ่อใช้แอพนี้หน่อยสิ จะแต่งรูปแม่เค้าลงอินสตาร์แกรม”
“ครับ”
“ไม่เอาแล้วนะ คราวที่แล้วก็เอารูปแอ๊บแบ๊วของแม่ไปอัพทีนึงแล้ว เพื่อนๆ แม่ยังล้อไม่เลิกเลย”
“พ่อไม่สน ก็พ่อรักของพ่อนิ”
“คุณพ่อคุณแม่นี่รักกันดีจังนะครับ แถมวัยรุ่นอีกต่างหาก”
“แน่นอน ถึงพ่อกับแม่จะแก่” พิมมาลากระแอม “เอ่อ สูงวัย”
“อ่าฮะ” พิมมาลาพอใจที่ภาณุวัฒน์ใช้คำว่าสูงวัย
“ถึงพ่อกับแม่จะสูงวัย แต่หัวใจเราแค่สิบแปด แถมความรักเราก็หวานซึ้งไม่เคยเปลี่ยน”
“ประกาศแสนยานุภาพอีกแล้วนะพ่อ”

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก[2] วันที่ 29 ธ.ค 2555

ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทประพันธ์โดย ปัณณพร
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก กำกับการแสดงโดย เมธี เจริญพงศ์
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก ผลิตโดย บ.เมกเกร์ เจ กรุ๊ป จำกัด(โดยคุณนก จริยา แอนโฟเน)
ติดตามชมละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รักได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา manage