@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 31 ธ.ค. 55

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 31 ธ.ค. 55

“ผมใส่ใจความรู้สึกของคนที่อยู่ในใจผมเสมอ มีอะไรไม่สบายใจเหรอ... เรื่องคุณแม่ใช่มั้ย"
“ก็ไม่มีอะไรมาก วันนี้เป็นวันเกิดคุณแม่ ฉันลังเลว่าควรจะทำยังไงดี”
“มีอะไรต้องลังเลอีก แม่ยังไงก็คือ แม่ ความผูกพันระหว่างคุณกับท่านไม่มีวันจะขาดกัน ดีซะอีกสิ.. วันนี้อาจจะเป็นวันเริ่มความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณกับแม่ก็ได้นะ”
"ฉันควรจะทำยังไงคะ"
“ลืมความขัดแย้งในอดีต เย็นวันนี้ไปหา ไปกอดท่าน ทานข้าวกับท่าน ทำให้คุณแม่รู้ว่าคุณไม่เคยลืมท่านเลย”
“แต่ว่าฉัน”

“ไม่มีอะไรสำคัญกว่าความเป็นครอบครัว เราควรจะดีต่อคนในครอบครัวในยามที่
ยังมีโอกาส ผมอยากจะเป็นคุณจะแย่ ได้มีโอกาสกอดแม่ในยามที่ท่านยังมีชีวิตอยู่"
แพรไพลินนิ่งคิดเหมือนกำลังตัดสินใจ แต่ภายในความคิดคล้อยตามแสงกล้าอยู่มาก
“ยังไงซะ.. แม่ก็ยังคงรักคุณเสมอนะ แพรไพลิน”
เสียงรถยนต์แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน แพรไพลินขยับเดินไปมองทางหน้าต่าง แล้วหันมาบอกแสงกล้า
“คุณแม่ฉันมา...”



แสงกล้า ยิ้มบอก
“เห็นมั้ย... แสดงว่าท่านก็คิดถึงคุณเหมือนกัน ปรับความเข้าใจกันซะนะครับ ผมเอาใจช่วย ขอให้วันนี้เป็นวันเริ่มต้นของความเข้าใจระหว่างกัน โชคดีนะครับ”
"ขอบคุณค่ะ"
แพรไพลินกดปุ่มปิดระบบเฟซไทม์ ภาพแสงกล้าหายไปจากหน้าจอ เธอหันไปมองที่หน้าต่างอีกครั้ง เห็นเพชรแท้กำลังเดินลงมาจากรถ เธอนิ่งๆ เหมือนกำลังตัดสินใจ แล้วจึงตัดสินใจเดินออกไป ตั้งใจจะสานความสัมพันธ์ที่ดีกับเพชรแท้ในวันนี้
แพรไพลินเปิดประตูให้มองเพชรแท้ด้วยสายตาแปลกใจ ขณะที่เพชรแท้ยิ้มให้
เพชรแท้ยิ้มถาม
“จำได้มั้ยว่าวันนี้เป็นวันอะไร"
“วัน...เกิดคุณแม่”
“เย็นนี้ขอทานข้าวกับหนูสักมื้อนะจ๊ะ เราจะทานเลี้ยงฉลองวันเกิดกันสองคนแม่ลูก"
“เอ้อ... ค่ะ”
เพชรแท้หันไปสั่งคนรถ
“เอาอาหารเข้าไปไว้ในครัว... เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
คนรถเดินค้อมตัวเข้าไปภายในบ้าน แพรไพลินมองตามของที่ยกเข้าไปด้วยสายตาแปลกใจมากขึ้นไปอีก
“แม่แวะซื้อมาจากร้านอาหารอิตาเลียนหน้าหมู่บ้าน มีแต่ของที่หนูชอบทั้งนั้นเลย เดี๋ยวมาลองดูกันนะ ว่าแม่ยังจำของที่หนูชอบได้หมดทุกอย่างรึเปล่า"
เพชรแท้โอบแพรไพลินเดินเข้าไปในบ้าน แพรไพลินมีสีหน้ากระอักกระอ่วนรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของเพชรแท้ที่ปฏิบัติต่อเธอในครั้งนี้

ภายในเซฟเฮ้าส์ใหม่ นภากำลังเรียกประชุมทีมงานทั้งหมด เพื่อปฏิบัติภารกิจแย่งชิงศาสตราวุธกลับมา
“รองจักรกับไอ้วิญญูมันต้องหาทางชิงวัชระของแสงกล้าไปแน่ๆ ฤกษ์การหลอมรวมศาสตราวุธทั้งสี่ใกล้เข้ามาแล้ว" จ่าสมิงบอก
"เมื่อไหร่" ผู้การอินทนนท์ถาม
“สิ้นเดือนนี้.. ในวันที่ ดวงจันทร์ โลก และ ดวงอาทิตย์ ทำมุมอยู่ในองศาเดียวกัน”
“เราจะไม่รอให้มันเข้ามาหา แต่เราจะเปิดเกมรุกกับพวกมันเต็มรูปแบบ เปิดโปงรองจักรกับไอ้วิญญูให้ทุกคนรู้จักความเลวร้ายของพวกมัน" นภาว่า
“ด้วยวิธีไหนครับ ตั้งแต่ดอกเตอร์เมฆาป่วย รองจักรวางคนของตัวเองไว้ในทุกหน่วยงาน ถ้าจะเล่นงานตรงๆ คงลำบาก" แสงกล้าบอก
“รวิ.. ฉันจำได้ว่ารวิเข้ารับตำแหน่งในสำนักงานสืบฯ อย่างมีข้อกังขา” นภาว่า
ผู้การอินทนนท์คิดนิดหนึ่งแล้วจำได้บอก
“ใช่... ตอนนั้นรวิมีคู่แข่งอีกคนหนึ่งชื่อ ธารา แต่จู่ๆ ธาราก็ถอนตัวออกไปอย่างไม่มีเหตุผล"
นภาหันไปสั่งจ่าหวานกับดาบแหบ
“ส่งข่าวเข้าไปที่พวกของเราในสำนักงานสืบฯ ฉันต้องการข้อมูลส่วนตัวของรวิกับธาราอย่างละเอียดที่สุด”
“ถ้าเล่นงาน ผบ.รวิได้... โอกาสที่ไอ้พญามารจะเสร็จพวกเราก็มีมากขึ้น อุ๊บะ... ชักคันไม้คันมือ อยากอัดกับไอ้วิญญูซะแล้วสิ"
แสงกล้านิ่งคิด เมื่อสมิงพูดถึงวิญญู

อีกมุมหนึ่งในเซฟเฮ้าส์ใหม่ แสงกล้านิ่งคิดเรื่องราวของตัวเอง เขาจับวัชระที่แขวนอยู่บนคอ มองด้วยแววตาครุ่นคิด สมิงเดินเข้ามาทางด้านหลัง มองแสงกล้าที่กำลังใช้ความคิดอยู่
“ผมอยากเผชิญหน้ากับไอ้วิญญูอีกสักครั้ง” แสงกล้าบอก
"เพื่ออะไร" สมิงถาม
“ผมอยากเห็นแววตาของคนเลว... คนที่ฆ่าได้ทั้งอาจารย์ ทั้งศิษย์รุ่นพี่ที่ร่ำเรียนด้วยกันมา จิตใจมันทำด้วยอะไร”
สมิงชะงักไปนิดหนึ่ง แล้วตอบน้ำเสียงราบเรียบแบบขอไปที
"จะเอาอะไรกับคนเลว ขึ้นชื่อว่าชั่ว มันทำได้ทุกอย่างแหละ"
“พ่อโชติฌาณของผมตายยังไง”
สมิงอึกอัก
“เอ้อ...”
“ผมต้องการรู้ว่าพ่อตายยังไง”
“ผมก็ไม่รู้... วันนั้นผมรีบไปบอกให้แม่หมวดหนีไปก่อน พอกลับมาที่บ้านพัก อาจารย์กับพ่อหมวดก็โดนฆ่าตายไปแล้ว”
แสงกล้าครุ่นคิดด้วยความเคียดแค้น
“ไอ้วิญญู... ฉันไม่มีวันให้อภัยแก แกต้องชดใช้กรรมในสิ่งที่ทำไว้กับทุกๆ คน !”
แสงกล้าแววตาแข็งกร้าว สมิงจ้องแสงกล้าด้วยแววตาไม่ค่อยสบายใจเท่าใดนัก

บนโต๊ะอาหารภายในทาวน์โฮม เพชรแท้กำลังทานอาหาร แพรไพลินท่าทางยังทำตัวไม่ถูกกับแม่ที่จู่ๆ มาดีกับเธอมากมาย ขณะที่เพชรแท้ยิ้มแย้มดูจริงใจ
“ทานให้เยอะๆ นะลูก หนูผอมเกินไปแล้วนะ”
“คุณแม่คะ...”
“ทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้นล่ะจ๊ะ ไม่เอาสิ.. วันนี้เป็นวันเกิดแม่ หนูต้องยิ้ม ห้ามทำหน้าอมทุกข์แบบนี้"
แพรไพลินยังคงนิ่งๆ เดาอารมณ์เพชรแท้ไม่ถูก
“แพร... แม่รู้ว่ากระทำผิดต่อหนูมาก บังคับหนูมาทั้งชีวิต แต่พอมีเรื่องที่เนติเนคฯ แม่ถึงได้ตระหนักว่าแม่รักหนูมากแค่ไหน ยังไงซะครอบครัวเราก็เหลือกันอยู่แค่สองคน แม่ไม่อยากเสียหนูไปจ้ะ”
แพรไพลินน้ำเสียงจริงจัง
“แม่คะ ที่ผ่านมา หนูขอโทษ”
เพชรแท้ชะงักมองหน้าแพรไพลินอย่างจริงจัง
“หนูเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไป ไม่คิดถึงจิตใจของคุณแม่เลยสักนิด หนูสัญญาค่ะว่าต่อจากนี้ไป หนูจะคิดถึงตัวเองให้น้อยลง เข้าใจคุณแม่ให้มากขึ้น ให้โอกาสหนูแก้ตัวนะคะแม่"
เพชรแท้เดินเข้ามาดึงร่างแพรไพลินไปกอดไว้ เธอยังไม่กอดตอบเพชรแท้
"แม่ไม่เคยคิดโกรธหนูเลยนะแพร ที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เรามาเริ่มกันใหม่ แม่จะเป็นแม่ที่รักและเข้าใจลูกให้มากขึ้น แม่จะเลิกบงการชีวิตหนู หนูยังคงเป็นลูกสาวที่น่ารักของแม่เสมอจ้ะ...แพรไพลิน”
แพรไพลินซึ้งใจกอดตอบเพชรแท้ เธอถึงกับน้ำตาซึม
“หนูรักแม่ค่ะ”
"แม่ก็รักหนูจ้ะ"
เพชรแท้ยิ้มแย้ม ดันร่างแพรไพลินออกมา เห็นเธอน้ำตาซึมจึงเช็ดน้ำตาให้
"ไม่เอาสิ... จะมาร้องไห้วันเกิดแม่ได้ไง ไม่เอา"
เพชรแท้เดินจูงแพรไพลินมาที่เค้กวันเกิดที่วางอยู่อีกด้านหนึ่งของโต๊ะ
"เรามาเป่าเค้กวันเกิดดีกว่า... ฉลองความเข้าใจระหว่างเราสองคนแม่ลูก"
แพรไพลินจุดเทียนบนขนมเค้ก ยิ้มให้เพชรแท้แล้วร้องเพลง Happy Birthday ให้กับเพชรแท้
ทั้งสองคนร้องเพลง Happy Birthday to you (me)…

แพรไพลินกอดเพชรแท้บอก
“Happy Birthday to you…ขอให้คุณแม่มีความสุขมากๆ นะคะ”
เพชรแท้เป่าเทียนบอก
“ขอบใจมากจ้ะลูก...ขอบใจมาก"
เพชรแท้เดินไปหยิบมีดเล่มยาวจะเอามาตัดเค้ก
"มา... หนูเลือกเลยว่าจะเอาชิ้นไหน เดี๋ยวแม่จะตัดให้ชิ้นโตๆ เลย"
แพรไพลินยิ้มมีความสุข
“เอ.. เอาชิ้นไหนดีล่ะคะ ชิ้นไหนที่อ้วนน้อยหน่อย”
แพรไพลินยิ้มแย้ม ชี้เลือกไปที่ขนมเค้กอย่างมีความสุข จู่ๆ เพชรแท้ก็ชะงักไปนิดหนึ่ง แววตาที่อ่อนโยนกลับกลายเป็นแววตาที่แข็งกร้าวขึ้น แพรไพลินไม่รู้ตัว เพราะมัวแต่สนใจอยู่ที่การเลือกชิ้นขนมเค้ก
มือข้างที่ถือมีดของเพชรแท้เกร็งแน่น เงื้อมีดขึ้นเต็มที่ แล้วฟันลงมาเลือดหยดลงมาแดงฉานเต็มหน้าเค้ก แพรไพลินตกใจมาก หันไปมองและร้องเรียก
“แม่ !”
เพชรแท้ที่กำลังร้องกรีดร้องเสียงดังลั่น พร้อม ๆ กับเอามีดตัดเค้กปาดที่ข้อมือตัวเองอีกครั้ง จนเลือดไหลออกมา แพรไพลินตกใจมาก
"แม่คะ...ทำไมแม่ทำแบบนี้"
เพชรแท้กรีดร้อง เงื้อมีดจะปาดข้อมืออีก
“แม่คะ... หยุด หยุดเถอะค่ะแม่”
แพรไพลินตรงเข้าไปยื้อยุดมีดกับเพชรแท้ที่กำลังกรีดร้องเสียงดังและต่อสู้ตบตีแพรไพลิน
แพรไพลินจับเพชรแท้กอดไว้ บิดข้อมือจนในที่สุดสามารถแย่งมีดจากเพชรแท้ โยนทิ้งไปได้สำเร็จ
เพชรแท้โดนแพรไพลินจับเอามือไขว้หลัง แต่เลือดยังไหลไม่หยุด เธอดิ้นเต็มแรงพยายามจะให้หลุดจากการโดนจับ เพชรแท้กรีดเสียงร้องลั่น
“สงบสติอารมณ์เถอะค่ะแม่...แม่คะ"
ขณะที่เพชรแท้ดิ้น แพรไพลินเหลือบมองไปที่ท้ายทอย เห็นลูกกลมสะกดชัดเจนฝังอยู่
“แม่ !”
เพชรแท้หันขวับมามองแพรไพลิน แววตาที่อ่อนโยนกลายเป็นแววตาแข็งกร้าว พูดออกมาแต่เสียงเป็นวิญญู
“แม่แกจะคลุ้มคลั่งมากกว่านี้ ถ้าแกไม่ทำตามคำสั่งฉัน”
“วิญญู...”
“น่าดีใจที่ยังจำกันได้ หมอแพรไพลิน”
“ทำร้ายแม่ฉันทำไม แกต้องการอะไร”
“หมอน่าจะรู้นะว่าฉันต้องการอะไร... วัชระบนคอหมวดแสงกล้า”
จู่ๆ เสียงวิญญูก็หายไป เพชรแท้ที่กำลังจ้องหน้าแพรไพลินอยู่ แววตากลับมาดังเดิมแล้วกรีดร้องลั่นเอามือกุมหัวด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
“โอ๊ย”
เพชรแท้สลบวูบล้มกองลงไปแทบพื้นทันที แพรไพลินรีบเข้าไปประคองไว้ เลือดที่ข้อมือของเพชรแท้ยังคงไหลรินออกมาไม่หยุด
แพรไพลินรีบหันไปหากล่องปฐมพยาบาล จะนำมาพยาบาลแม่ให้เลือดหยุดไหล
เสียงวิญญูดังกึกก้องไปทั่วบ้านทั้งหลัง
“ฉันต้องการวัชระจากไอ้แสงกล้า เอามามอบให้ฉันภายใน 7 วัน ไม่อย่างนั้น”
จู่ๆ เพชรแท้ที่สลบไม่ได้สติก็ตาลุกวาวขึ้นมา ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นเอามือกุมหัวด้วยความเจ็บปวด
"โอ๊ย"
เพชรแท้ร้องอย่างเจ็บปวดจนสลบไปอีกครั้ง แพรไพลินมองแม่ด้วยสายตาเป็นห่วงอย่างที่สุด

พยาบาลเข็นรถเข็นพาร่างที่ไร้สติของเพชรแท้เข้ามาในห้องพยาบาล บริเวณแขนและข้อมือของเพชรแท้ได้รับการปฐมพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
พญ. แพรไพลิน นวิยากุลตรงเข้าตรวจความเรียบร้อยของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้อง ล็อกแขนขาของเพชรแท้ไว้เพื่อความปลอดภัย กุ๊บกิ๊บตรงเข้ามาช่วยดูแล พร้อมๆ กับมองไปที่ร่างของเพชรแท้ด้วยความสงสัย
"เกิดอะไรขึ้นกับคุณเพชรแท้คะ"
แพรไพลินไม่ตอบแต่ออกคำสั่ง
“จัดพยาบาลเฝ้าไข้ 24 ชั่วโมง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นให้รีบแจ้งฉันทันที"
"ต้องล็อกข้อมือข้อเท้าไว้แบบนี้เลยเหรอคะ"
แพรไพลินสั่งต่อ
“ดูแลให้พยาบาลฉีดยาระงับประสาทตามเวลา อย่าให้พลาดนะ !”
“ค่ะ... แล้วทำไม”
กุ๊บกิ๊บจะพูดต่อ แต่แพรไพลินพูดสวนขึ้นทันที
“ฉันต้องการเวลาอยู่กับแม่สองคน”
แพรไพลินจ้องเขม็ง กุ๊บกิ๊บชะงักพูดไม่ออก
"เอ้อ... ค่ะๆ”
กุ๊บกิ๊บกับพยาบาลพากันออกไปจากห้องตามคำสั่งของแพรไพลิน พอกุ๊บกิ๊บกับพยาบาลเดินออกจากห้องไป แพรไพลินก็ทิ้งตัวลงนั่งข้างเพชรแท้ จ้องมองหน้าแม่ด้วยความรู้สึกรักและผูกพัน คิดถึงเรื่องราวระหว่างเธอกับแม่ ทั้งเรื่องดีและไม่ดี
แพรไพลินในชุดครุยยืนคู่กับเพชรแท้ ท่ามกลางช่างภาพและนักข่าวที่รุมกันถ่ายรูป เพชรแท้ปรายตามองแพรไพลินด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจ แต่ระงับอาการเพราะอยู่ต่อหน้านักข่าว
เพชรแท้มีปากเสียงกับแพรไพลิน
"ทำไม.. จะยิ้มให้สมกับความภูมิใจไม่ได้เหรอ วันนี้เป็นวันจบปริญญาของแกนะ ฉันอุตส่าห์พานักข่าวไปทำข่าวตั้งมากมาย"
"หนูไม่ได้ต้องการแบบนั้น คุณแม่ทำไปก็เพื่อหน้าตา เพื่อฐานะทางสังคมของคุณแม่"
"แต่แกก็อยู่ในสังคม วันนึงแกต้องยอมรับ"
"ไม่มีทางค่ะ หนูจะไม่ทนกับชีวิตทุนนิยมอย่างคุณแม่ เงินไม่ใช่คำตอบของทุก ๆ เรื่อง ชีวิตคนน่าจะมีค่ามากกว่านั้น”

“แพร แม่รู้ว่ากระทำผิดต่อหนูมาก บังคับหนูมาทั้งชีวิต แต่พอมีเรื่องที่เนติเนคฯ แม่ถึงได้ตระหนักว่าแม่รักหนูมากแค่ไหน ยังไงซะครอบครัวเราก็เหลือกันอยู่แค่สองคน แม่ไม่อยากเสียหนูไปจ้ะ"
แพรไพลินน้ำเสียงจริงจัง
"แม่คะ ที่ผ่านมา... หนูขอโทษ"
เพชรแท้ชะงักมองหน้าแพรไพลินอย่างจริงจัง
"หนูเอาแต่ใจตัวเองมากเกินไป ไม่คิดถึงจิตใจของคุณแม่เลยสักนิด หนูสัญญาค่ะว่าต่อจากนี้ไป หนูจะคิดถึงตัวเองให้น้อยลง เข้าใจคุณแม่ให้มากขึ้น ให้โอกาสหนูแก้ตัวนะคะแม่"
เพชรแท้เดินเข้ามาดึงร่างแพรไพลินไปกอดไว้ แพรไพลินยังไม่กอดตอบเพชรแท้
"แม่ไม่เคยคิดโกรธหนูเลยนะแพร ที่ผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เรามาเริ่มกันใหม่ แม่จะเป็นแม่ที่รักและเข้าใจลูกให้มากขึ้น แม่จะเลิกบงการชีวิตหนู หนูยังคงเป็นลูกสาวที่น่ารักของแม่เสมอจ้ะ...แพรไพลิน”

แพรไพลินกุมมือเพชรแท้ไว้ จ้องหน้าเพชรแท้ที่ยังไม่ได้สติอยู่เวลานี้
“แม่คะ... ถึงเรื่องราวระหว่างเราจะเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ แต่หนูก็รักแม่มากที่สุด หนูปล่อยให้แม่เป็นอันตรายไม่ได้"
แพรไพลินน้ำตาซึมเอ่อล้นดวงตา พยายามระงับความเศร้าโศกเสียใจ

แพรไพลินเดินเข้ามาตามทางเดิน สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ เธอเอาตัวพิงกำแพงด้านหนึ่ง แล้วค่อยๆ ทรุดตัวลง น้ำตาท่วมด้วยความเป็นห่วงแม่

ในคืนเดียวกัน ภายในห้องนอนของรวิ มีเสื้อผ้าหลายชิ้นของรวิกองอยู่ที่พื้น บนผนังสะท้อนภาพจากเตียงนอนแสงสวย เห็นภาพเงาสะท้อนการกอดรัดฟัดเหวี่ยงระหว่างรวิกับวิญญู
รวิดันร่างขึ้นมากอดวิญญูไว้ พลางหันมาคุยพร้อมรอยยิ้มเต็มหน้า
“ฉันดีใจ ที่ท่านอารมณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ”
“ไม่มีอะไรให้ต้องอารมณ์เสีย ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามความต้องการของเรา”
“ภารกิจของเราใกล้สำเร็จแล้วใช่มั้ยคะ”
“ใช่... เหลือเพียงแค่วัชระเพื่อมาประกอบตรีศูล พลังอมตะและอำนาจที่ยิ่งใหญ่จะเป็นของเราตลอดไป"
"เราจะจัดพิธีหลอมรวมศาสตราวุธที่ไหนคะ"
“ศาสตราวุธทั้งสี่ชี้เป้าให้เราแล้ว การหลอมรวมต้องเกิดขึ้น ณ ถ้ำใต้ภูผามหาคีรี แรม 15 ค่ำคืนเดือนดับ วันที่ ดวงจันทร์ โลก และ ดวงอาทิตย์ ทำมุมอยู่ในองศาเดียวกัน”
“ถ้ำใต้ภูผามหาคีรี”
“สถานที่ๆ ศาสตราวุธทั้งสี่ถูกสร้างขึ้น” วิญญูบอก
“แล้วรองจักรล่ะคะ เค้าทำเหมือนเจ้าของศาสตราวุธทั้งหมด”
"แล้วไง"
“ฉันไม่เชื่อว่าท่านทำทุกอย่างเพื่อคนอื่น” รวิบอก
“จักรมันมีค่าเพียงเศษไม้ที่ใช้ค้ำ ทำให้ฉันได้ทุกสิ่งที่ต้องการ เราจะรื้อไม้ค้ำเมื่อไหร่ก็ได้"
"หมายความว่า...”
“ทันทีที่เราหลอมรวมศาสตราวุธทั้งสี่สำเร็จ เศษไม้ที่ไร้ค่าจะถูกโยนทิ้ง”
วิญญูหันไปเชยคางรวิขึ้นจ้องหน้ามองด้วยแววตาพอใจ
“เธอจะได้สร้างผลงานจับนักการเมืองเลวเข้าคุก หลังจากนั้น เราจะยิ่งใหญ่ไปพร้อมๆ กัน รวิ"
วิญญูหันไปหยิบขวดคริสตัลใส ภายในใส่ไวน์สีเข้ม รินใส่แก้วสองใบ แล้วส่งแก้วใบหนึ่งให้รวิ
วิญญูชูแก้วของตัวเองขึ้น
"ดื่มให้กับความสำเร็จของเราสองคน"
รวิชูแก้วรับ
“แด่ความสำเร็จของเราค่ะ”
ทั้งสองคนยิ้มแล้วดื่มไวน์จนหมดแก้วก่อนโยนแก้วไวน์ทิ้งไปอย่างไม่แยแส ทั้งสองก้มลงกอดจูบกัน
บรรยากาศเต็มไปด้วยความพิศวาส
ขวดคริสตัลที่บรรจุไวน์สีเข้มนั้นมีบางสิ่งบางอย่างผสมอยู่

ภายในห้องทำงาน ดาหลาอ่านข้อมูลจากหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วหันมารายงานจักร
“เมื่อตอนเย็นดอกเตอร์แพรไพลินเพิ่งส่งคุณเพชรแท้เข้าโรงพยาบาล บันทึกคนไข้ระบุ ยังไม่มีทางรักษา"
“ฮึๆ ไสยศาสตร์ดำของวิญญูยังไว้ใจได้เสมอ” จักรบอก
“มั่นใจเหรอคะว่าแพรไพลินจะเอาวัชระมาให้เรา” ดาหลาถาม
“มันไม่ปล่อยให้แม่ตายอย่างทรมานหรอก อีกไม่นานเราจะได้ของมาครบทั้งสี่ชิ้น”
“แล้วท่านจะทำยังไงต่อไปคะ”
จักรนิ่งคิดนิดหนึ่ง สีหน้าและแววตาดูเหี้ยม
“ไอ้วิญญู มันเป็นหอกข้างแคร่ พร้อมที่จะแว้งกัดทรยศได้ตลอดเวลา ยังไงเราก็เอามันไว้ไม่ได้”
“แต่ท่านวิญญูมีไสยศาสตร์ดำ” ดาหลาว่า
“ยังไงมันก็ยังมีความเป็นคนอยู่”
จักรหยิบหลอดแก้วหนึ่งออกมาจากโต๊ะ ภายในบรรจุยาสีดำเข้ม
“ให้รู้ไปสิว่าส่วนที่เป็นคนของมันจะทนยาพิษชนิดร้ายแรงที่สุดได้ ฉันป้อนยาพิษให้มันกินทีละน้อยๆ โดยที่มันไม่รู้ตัว”
ที่แท้ ก็คือ ขวดคริสตัลไวน์ที่วิญญูเพิ่งรินทานไปกับรวิเมื่อครู่นี้
จักรแววตาเหี้ยม ส่องยาในหลอดแก้วนั้น
“ถูกกระตุ้นเมื่อไหร่ ยาพิษที่สะสมภายในร่างของมันจะออกฤทธิ์ ยังไงมันก็ไม่มีทางรอด”

เวลากลางวัน ภายในเซฟเฮ้าส์แห่งใหม่ ดาบแหบกับจ่าหวานกำลังจัดเตรียมอาวุธออกจากลัง
ด้านข้าง นภา อินทนนท์ แสงกล้า สมิง กำลังปรึกษางานกัน
โปรเจคเตอร์แบบพกพาฉายภาพตำรวจหญิงคนหนึ่ง พร้อมกับประวัติด้านข้าง
“คนของเราที่สำนักงานสืบฯ เพิ่งแจ้งเข้ามา ... ผู้กองธาราที่เคยเป็นคู่แข่งของรวิ หายสาปสูญไป หลังจากถอนตัวไม่รับตำแหน่ง ผบ.สำนักงานสืบฯ” แสงกล้าบอก
“ถูกฆ่าปิดปากแน่นอน” ผู้ว่าอินทนนท์ว่า
“นี่เราไม่มีทางทำอะไรพวกมันจริงๆ เหรอ” นภาพูดขึ้น
"ถ้าเล่นงานรวิไม่ได้ โอกาสที่จะสาวถึงตัวรองจักรคงยากขึ้น" อินทนนท์บอก
สมิงกดปุ่มปิดเครื่องฉายโปรเจคเตอร์โครมแบบไม่เกรงใจ อินทนนท์กับนภาหันขวับมาทางสมิง
“อย่าหาว่าสอนเลยนะผู้การ... ผ.บ. บางครั้งการสู้กับอิทธิพลมืดเนี่ย สุภาพนัก มักไม่ได้เรื่อง”
"หมายความว่าไงจ่า”

อ่านละคร เหนือเมฆ 2 มือปราบจอมขมังเวทย์ วันที่ 31 ธ.ค. 55

เหนือเมฆ2 : มือปราบจอมขมังเวทย์
เหนือเมฆ2 บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ
เหนือเมฆ2 กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิบุตร
เหนือเมฆ2 ผลิตโดย : บริษัท เมตตามหานิยม จำกัด โดยผู้จัด ฉัตรชัย เปล่งพานิช
เหนือเมฆ2 แนวละคร : ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี
เหนือเมฆ2 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เหนือเมฆ2 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manage