@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร เหนือเมฆ2 วันที่ 5 ธ.ค. 55

อ่านละคร เหนือเมฆ2 ตอนมือปราบจอมขมังเวทย์ ตอนที่ 1 วันที่ 5 ธ.ค. 55

ที่ทำการพรรคไทธิวัตถ์ มีผู้สื่อข่าวมากมายมารอทำข่าว ทั้งโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ หลายคนกำลังรายงานอยู่กับกล้องถ่ายทอดสด ที่หน้าบันไดมีโพเดี้ยมวางอยู่ตรงกลาง เหมือนกำลังรอการแถลงข่าวจากนายกรัฐมนตรี ดร.เมฆา ฐานรัฐ

บริเวณทางเดินทอดยาวในพรรคฯ เมฆาเดินเข้ามาโดยมีคมศร สุริยน เลขาฯ ส่วนตัวนายกรัฐมนตรีเดินตามอยู่ด้านข้าง ถือไอแพดเหมือนกำลังบรี๊ฟงานให้เมฆา มีบอดี้การ์ดเดินนำและอารักขาโดยรอบอยู่ 4 คน เป็นชาย 3 หญิง 1

“ผลการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลเป็นยังไงบ้าง”

คมศรกดไอแพดเพื่อตรวจสอบข้อมูลก่อนรายงาน “รองนายกฯอนันต์กำลังเจรจาอยู่ครับ แต่ท่าทางจะไม่สำเร็จ ท่านนายกฯอาจจะต้องยอมอนุมัติโครงการโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ตามที่พรรคร่วมเสนอ”



“ไม่มีทาง... ฉันไม่มีวันยอมกินตามน้ำ”

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น คมศรยกขึ้นดู “รองอนันต์”

“บอกไปว่าฉันยืนยันตามคำพูดเดิม จะไม่มีการอนุมัติโครงการใด ๆ ทั้งสิ้นจนกว่าจะมีการทำประชาพิจารณ์ และผลสรุปด้านความปลอดภัย”

คมศรพยักหน้ารับทราบ แล้วเดินเลี่ยงออกไปรับโทรศัพท์ผ่านทางบลูทูธที่ติดอยู่ข้างหู “ยกเลิกการประมูลครับ”

เมฆาสีหน้าเครียด ก่อนจะเดินนำหน้าเปิดประตูห้องทำงานเข้าไปด้านในด้วยอารมณ์เครียด แล้วนิ่วหน้าเมื่อมองไปเห็นจักร อมตฤทธา ที่ปรึกษาพิเศษพรรคไทธิวัตถ์นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขา ท่าทางกร่างยโสเป็นอย่างยิ่ง

“ใครอนุญาตให้เข้ามา”

“ลองอ่านแฟ้มนี้หน่อยสิ” จักรโยนแฟ้มโครมลงบนโต๊ะตรงหน้าเมฆา

“ที่นี่เป็นห้องทำงานส่วนตัว”

“รู้ แต่อยากให้นายกฯอ่าน อ่านแล้วเซ็นอนุมัติซะ”

เมฆาจ้องหน้าจักรด้วยความไม่พอใจ แล้วจึงปรายตาลงมองที่โต๊ะทำงาน เห็นหน้าแฟ้มเอกสารระบุชื่อโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ “ไม่มีใครบังคับฉันได้! คิดว่าตัวเองเป็นใคร”

“เจ้าของเงินสนับสนุนพรรคไทธิวัตถ์ ! เลือกตั้งครั้งที่แล้ว ดอกเตอร์เมฆา ฐานรัฐ ได้เป็นนายกฯ เพราะใคร”

“เพราะประชาชน”

“แน่ใจ?.. ถามรองอนันต์บ้างสิว่าเงินอุปถัมภ์พรรคได้มาจากไหน”

“ฉันเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศนี้ มีหน้าที่ทำงานเพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชน สนองคุณแผ่นดิน ไม่จำเป็นต้องตอบแทนบุญคุณใคร”

“อยู่กันแค่สองคน ไม่จำเป็นต้องสร้างภาพ อนุมัติซะ...อย่าทำอะไรให้มันยาก รึต้องการค่าลายเซ็น เป็นแค่ไม้ใกล้ฝั่ง...อย่าทำตัวดื้อด้าน โลกใบนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว การเมืองของคนรุ่นใหม่ ทัศนคติต้องทันต่อความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่”

“โลกแห่งความถูกต้อง จะกี่สิบกี่ร้อยปีก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงการเมืองเป็นเรื่องของอำนาจ แต่อำนาจต้องสร้างความดีงามและถูกต้อง ตราบใดที่ เมฆา ฐานรัฐ ยังเป็นนายกฯ จะต้องไม่มีการโกงกินบ้านเมืองเพื่อตอบแทนบุญคุณใคร... ออกไป”

“เราจะต้องเจอกันอีกแน่”

จักรจ้องหน้าเมฆาแล้วจึงเดินออกไปอย่างท้าทาย เมฆามองตามด้วยแววตาไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง

คมศรเดินเข้ามาหาเมฆา “ท่านนายกฯ ครับ งานแถลงข่าวพร้อมแล้ว”

เมฆาพยักหน้ารับทราบ ติดกระดุมสูทจัดไทด์ให้เรียบร้อย กำลังจะเดินออกไป แต่แล้วชะงักหันมาบอกคมศร

“โทรฯ ไปบอกคุณนภาด้วยว่านัดวันนี้ยกเลิก”

“แต่วันนี้...”

“หลังแถลงข่าวยังมีเรื่องต้องทำอีกเยอะ นภาเข้าใจ”

เมฆาเดินออกไป คมศรมองตามอย่างไม่ค่อยเข้าใจนักแล้วจึงเดินตามออกไป

ที่รีสอร์ทริมภูเขาสวยแห่งหนึ่ง นภากำลังพูดโทรศัพท์ สีหน้าเรียบเฉยเหมือนไร้ความรู้สึก

“ฉันเข้าใจ บอกดอกเตอร์เมฆาให้ดูแลสุขภาพด้วย ฉันจะอยู่ที่นี่ถึงวันอาทิตย์...ถ้ามาได้ก็แวะมาหน่อย” นภาปิดโทรศัพท์ แล้วยิ้มแบบกำลังพยายามทำใจให้ยอมรับได้

บริเวณแถลงข่าวหน้าพรรค มีผู้คนเตรียมการอยู่พร้อมแล้ว จักรนั่งอยู่ในรถที่จอดอยู่ตรงลานด้านหน้าด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ยกโทรศัพท์ไอโฟนขึ้นมากดเปิดโปรแกรมเฟซไทม์พูดโทรศัพท์แบบเห็นหน้ากับใครบางคนอยู่

“ฉันต้องมีอำนาจมากกว่านี้”

“เวลานั้นใกล้เข้ามาแล้ว”

“จะทำอะไรก็เร่งมือ ฉันเบื่อจะรอ”

“ภายในเจ็ดวัน...ดอกเตอร์เมฆาต้องเปลี่ยนรองนายกฯ คนใหม่ ใช้คนที่มีวิสัยทัศน์เหมาะสม”

“ฉันไม่ต้องการแค่นั้น”

“เพื่อความมั่นคง.. รากฐานต้องแน่น เรากำลังจะได้ของชิ้นแรกมาแล้ว อีกไม่นานหรอก.. อีกไม่นาน”

ที่ศูนย์ศิลปะร่วมสมัยแห่งเอเชีย…มูลนิธิไททัศน์ มีนักข่าวจากสถานีโทรทัศน์หลายแห่งมารวมกันทำข่าว รอบอาคารมีกองกำลังตำรวจดูแลอยู่เต็มไปหมด ทั้งในเครื่องแบบ และตำรวจจากสำนักงานสืบฯ

น้ำใสกำลังยืนรายงานข่าวต่อหน้ากล้อง “สกายนิวส์เน็ตเวิร์กกำลังติดตามการเคลื่อนย้ายวัตถุโบราณชิ้นสำคัญ ซึ่งรัฐบาลไทยเพิ่งได้รับมาจากประเทศเพื่อนบ้านค่ะ ขณะนี้ดิฉันอยู่กับคุณเจนภพ เทวสถิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์ศิลปะร่วมสมัยแห่งเอเชีย สวัสดีค่ะท่านผอ. พอจะบอกได้มั้ยคะว่าตรีศูลวัชระ วัตถุโบราณชิ้นนี้มีความสำคัญยังไง”

“ตรีศูล..เป็นอาวุธประจำกายของพระศิวะ ตามคัมภีร์ยุทธสงครามโบราณเชื่อว่าตรีศูลวัชระ เป็นหนึ่งในเครื่องราง เทวาศาสตราวุธ มีความเชื่อว่า... ถ้าผู้ใดได้ครอบครองเทวาศาสตราวุธทั้ง 4 ชิ้น จะเกิดมงคลสูงสุดกับชีวิต มีทั้งอำนาจคุณไสยฯ และบารมีครับ”

“ศาสตราวุธโบราณทั้ง 4 ชิ้นมีอะไรบ้างคะ”

“ตามคัมภีร์.. เทวาศาสตราวุธทั้งสี่ประกอบไปด้วย ตรีศูลวัชระ อนันตคทา จักระนารายณ์ และสังข์ไชยมงคล”

“และนี่คือความเชื่อที่กำลังรอการพิสูจน์ในโลกยุคดิจิทัล แต่สำหรับคนรุ่นใหม่คงไม่มีไสยศาสตร์หรือเวทมนตร์สำคัญไปกว่ามันสมองและสองมือของมนุษย์ .. น้ำใส ภูมิภักดิ์สกายนิวส์เน็ตเวิร์ก รายงาน”

ฉับพลันที่สิ้นคำพูดของน้ำใส บังเกิดลมพัดแรงราวกับพายุแรงพัดซัดถาโถมเข้ามา น้ำใสถึงกับตัวปลิวต้องหาที่เกาะรั้งร่างตัวเองไว้ เธอถึงกับหน้าถอดสี ผู้คนที่อออยู่ทางด้านหน้าศูนย์ศิลปะร่วมสมัยต่างแตกตื่นกับปรากฏการณ์ครั้งนี้ ลมยังพัดหมุนวนไม่หยุด

เจนภพตรงเข้าไปประคองร่างน้ำใสไว้ ทั้งสองมองไปบนท้องฟ้าเบื้องบน เห็นจู่ ๆ หมู่เมฆก็ตรงเข้าบดบังดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า บรรยากาศทั่วทั้งบริเวณสลัวมืดไปในทันที ท้องฟ้าเบื้องบนแปรปรวนอย่างรุนแรง ฟ้าคำรามร้องดังลั่นราวกับกำลังจะเกิดพายุ

บริเวณลานจอดรถด้านหน้าอาคาร ท่ามกลางลมหมุนใบไม้ปลิวราวกับเกิดพายุ มอเตอร์ไซค์ตำรวจสองคันนำรถตู้ที่ขนย้ายตรีศูลวัชระเข้ามา พอ ร.ต.ต.แสงกล้า อภิไชย หน่วยปฏิบัติการกลยุทธ์ สำนักงานสืบสวนพิเศษถือกล่องแก้วใส่ตรีศูลวัชระลงมาจากรถ วางลงบนรถเข็นที่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเข็นมาให้ ฉับพลันสภาพโดยรอบที่มืดมิดกลับสว่างขึ้น

แสงกล้าเดินเข็นตรีศูลเข้าไปยังบริเวณศูนย์ฯ ด้านใน ลมพายุที่โหมกระหน่ำเมื่อครู่ กลับหายไปโดยสิ้นเชิง! ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เจนภพหันไปมองน้ำใส ทั้งสองคนอยู่ในอารมณ์ตกใจกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น

ภายในห้องแสดงโบราณวัตถุ เจนภพเดินนำทีมเจ้าหน้าที่โบราณคดี เปิดกล่องใสออก แล้วเริ่มตรวจสอบตรีศูลด้วยอุปกรณ์ทันสมัย แสงกล้าถอยออกมา แล้วหันไปสั่งตำรวจลูกน้อง

“ตรวจสอบรอบห้องอีกครั้ง ระดับความปลอดภัยขั้นสูงสุด ห้ามผู้สื่อข่าวหรือผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาในนี้เด็ดขาด”

แสงกล้ากำลังคุมตำรวจลูกน้องตรวจสอบโดยรอบห้องเพื่อความปลอดภัย ขณะเจนภพตรวจตรีศูล เวลาเดียวกันนั้นเอง บริเวณหน้าอาคาร รถถ่ายทอดสดและรถนักข่าวกำลังออกไปจากบริเวณนั้นแล้ว ตำรวจหลายนายกำลังล้อมรอบอาคารนั้นอยู่ ต่างตรวจสอบจุดต่าง ๆ ดูแลรักษาความปลอดภัย บรรยากาศโดยรอบคล้ายมีคลื่นพลังงานบางอย่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีใครรู้

ที่ประตูด้านหลังอาคาร...ดาบแหบกำลังชี้นิ้วสั่งให้ลูกน้องตรวจสอบความเรียบร้อยอยู่ เผลอทำวิทยุสื่อสารตก ดาบแหบก้มลงเก็บวิทยุ มองที่พื้นเห็นเงาตำรวจคนหนึ่งทอดยาวอยู่บนพื้น จู่ ๆ เงานั้นก็รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว เงาที่ทอดยาวลงพื้นกลับกลายเป็นกลุ่มควันสีดำ แล้วรวมตัวกันกลายเป็นร่างมนุษย์ ดาบแหบตาเหลือกด้วยความตกใจ กำลังจะร้อง...ฉับพลันแสงและควันดำวูบเข้าใส่หน้า ดาบแหบล้มลงทันที วิทยุสื่อสารยังคงตกอยู่ข้างกาย ตำรวจหลายคนในบริเวณนั้น โดนแสงและควันดำวูบใส่ ทุกคนล้มวูบไปทันที

“ดาบแหบ...ด้านนอกเป็นยังไงบ้าง ดาบแหบ...รายงานความเรียบร้อยด้วย” เสียงแสงกล้าดังออกมาจากวิทยุสื่อสารที่ตกอยู่บนพื้น

ดาบแหบเข้ามาหยิบวิทยุสื่อสารออกไป น้ำเสียงเหมือนปกติ แต่แววตาเหม่อลอยคล้ายโดนสะกด “ดีครับหมวด รีบ ๆ เคลียร์งานด้านในเหอะ ผมนัดเมียไว้...จะรีบไปขายบะหมี่ยำ”

แสงกล้าปิดกล่องแก้วที่ครอบตรีศูลวัชระ แล้วผนึกด้วยกลไกกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ ใช้ลายนิ้วมือตัวเองประทับสแกนล็อกเรียบร้อย...น้ำใสแอบอยู่หลังแท่นโบราณวัตถุชิ้นหนึ่ง กำลังแอบถ่ายแสงกล้ากับเจนภพ

“คนที่เปิดกุญแจนี้ออกมีแต่ท่านกับผม”

เจนภพพยักหน้ากับแสงกล้าเป็นเชิงขอบ ใจ แล้วเอามือแตะที่ไหล่ “ฝากด้วยนะหมวด...”

เจนภพกับนายตำรวจทั้งหมดเดินออกไปจากห้อง แสงกล้าเดินตรวจบริเวณรอบ ๆ ห้องอย่างระแวดระวัง ขณะที่น้ำใสยังคงแอบถ่ายวิดีโอ แสงกล้ารู้สึกได้ถึงความผิดปกติ นิ่วหน้าหันกลับมาอย่างรวดเร็วพร้อม ๆ กับกระชากปืนออกมา

“ใคร...”

น้ำใสที่หลบอยู่ด้านหลังแท่นโบราณวัตถุชิ้นหนึ่ง สะดุ้งสุดตัว หลับตาปี๋ด้วยความกลัว

“บอกให้ออกมา หรือจะให้ยิงเข้าไป”

“อย่ายิงเข้ามานะ ออกไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” น้ำใสทำหน้าจ๋อย ๆ ค่อย ๆ เดินชูกล้องวิดีโอออกมาหาแสงกล้า “อย่าทำอะไรฉันเลย น้ำใสเอง... น้ำใสเพื่อนรักของแสงกล้าไง ฉันเข้ามาเก็บภาพตรีศูลวัชระ”

แสงกล้ามองหน้าน้ำใสแล้วส่ายหัว ค่อย ๆ ลดปืนลง “เข้ามาทำไม”

“โอ๊ย...กลัวจนฉิ๊งฉ่องจะราด เก็บปืนเหอะ”

น้ำใสเดินไปจับมือข้างที่แสงกล้าถือปืน ประคองมือแสงกล้าเอาปืนไปเก็บที่เอวให้หน้าตาเฉย แสงกล้ามองมือน้ำใสที่จับมือตัวเอง กระอักกระอ่วนเล็กน้อยที่ผู้หญิงมาจับมือ

น้ำใสเห็นอาการแสงกล้าแล้วนึกรู้ “โอ๊ย...ผู้หมวดเนื้อทอง ไม่อยากถูกตัวนักหรอก ฮะ ๆ”

“ไม่ขำ”

แสงกล้ากระชากกล้องออกมาจากมือน้ำใส กด ๆ ๆ ลบภาพทั้งหมด เสร็จก็จับมือน้ำใสขึ้น แล้วเอากล้องยัดใส่มือน้ำใส น้ำใสยิ้ม ๆ มองมือแสงกล้าที่จับมือตัวเองอยู่ แสงกล้าก้มลงเห็นรีบกระตุกมือออก

“แหม ๆ ตั้งแต่ได้มาอยู่สำนักงานสืบสวนพิเศษ เฮี้ยบเกินเหตุนะเพื่อนรัก”

“ออกไปได้แล้ว”

“ก็ได้...ก็ได้ ไปก็ไป” น้ำใสเดินออกไปแบบจ๋อย ๆ

แสงกล้ามองตามด้วยสายตาระอา มองไปรอบ ๆ แล้ววิทยุออกไปด้านนอกอีกครั้ง “ภายในโถงจัดแสดงเรียบร้อย กำลังจะออกไป...”

จ่าหวานที่กำลังช่วยกันกับตำรวจสำนักงานสืบฯ ตรวจความเรียบร้อยที่ด้านนอก ยกวิทยุขึ้นตอบ “ด้านนอกมีกี่ร้อยก็เรียบ รอหมวดเป็นชาติ ตั้งโต๊ะป๊อกเด้งได้เลย”

น้ำใสเปิดประตูเดินออกมา จ่าหวานยิ้มหวานให้แล้วสะดุ้งนิดหนึ่ง เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าน้ำใสเข้าไปได้ยังไง จ่าหวานหันไปทางประตูกระจกด้านหนึ่ง ส่องกระจกดูหน้าตัวเองแล้วยิ้ม ๆ ฉับพลันขมวดคิ้วกับเงาตัวเอง เมื่อเห็นภาพสะท้อนในนั้นเปลี่ยนไปกลายเป็นใบหน้าของขมังเวทย์ คลื่นควันดำวูบออกมาจากในกระจกอย่างรวดเร็ว กระแทกเข้าที่หน้าจ่าหวาน สลบล้มตึงไป ตำรวจที่อยู่ด้านข้างจ่าหวานสงสัยหันหน้ามาดู แล้วโดนคลื่นควันดำนั้นกระแทกอย่างรวดเร็วจนล้มไปหมดทุกคน

ประตูห้องจัดแสดงเปิดออก มวลควันรวมกันเป็นร่างขมังเวทย์ในมาดเหี้ยมน่าเกรงขามเต็มตัว เดินเข้าห้องไป แสงกล้าที่กำลังเดินตรวจห้องจัดแสดง รู้สึกได้ว่ามีคนอยู่ทางด้านหลัง เขาคิดว่าเป็นน้ำใส

“น้ำใส...ถ้ายังไม่เลิกวุ่นวาย ฉันจับเธอขังแน่”

“ฮึ ๆ ๆ”

แสงกล้าได้ยินเสียงขมังเวทย์ก็ตกใจ รีบกระชากปืนออก หมุนตัวแขนเหยียดตรงจะลั่นกระสุนเข้าใส่ ขมังเวทย์จ้องตาเขม็ง บังเกิดคลื่นควันดำพุ่งถาโถมเข้าใส่แสงกล้า แต่แสงกล้ากลับยืนนิ่งไม่สะทกสะท้าน ไม่สลบเหมือนคนอื่น ๆ คลื่นควันดำผ่านตัวไป... ขมังเวทย์จ้องตาเขม็งอีกครั้ง คลื่นควันดำพุ่งเข้าใส่แสงกล้าอีกหน แต่แสงกล้ายังคงเป็นปกติ

“ดวงจิตแก่กล้า”

“ออกไป...แกเป็นใครกันแน่”

“ฉันควรถามมากกว่า...แกเป็นใคร”

ขมังเวทย์สืบเท้าเข้าไปใกล้แสงกล้า แสงกล้าตัดสินใจลดปืนลงยิงเข้าใส่ขาทั้งสองข้างของขมังเวทย์ เปรี้ยง..เปรี้ยง...กระสุนพุ่งทะลุเข้าใส่ร่างขมังเวทย์ แต่กระสุนกลับกระดอนออกมาหน้าตาเฉย

ขมังเวทย์พุ่งเข้าใส่แสงกล้า แสงกล้ายิงกระหน่ำเข้าใส่ร่างขมังเวทย์ เปรี้ยง ๆ ๆ ๆ ๆ ร่างทั้งร่างสะท้าน เห็นกระสุนที่พุ่งเข้าร่างขมังเวทย์ไม่ทันถูกร่างกระสุนก็บี้เหมือนวิ่งเข้าชนเหล็กกล้า กระสุนร่วงลงพื้นทีละนัด ทีละนัด เหมือนคงกระพัน ขมังเวทย์เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยท่วงท่าที่เหมือนเร็วกว่าแสงกล้าหนึ่งจังหวะ เขาตรงเข้าปะทะกับแสงกล้า ต่อสู้ด้วยมือเปล่า

ทั้งสองต่อสู้กันด้วยลีลาสวยงาม แต่ขมังเวทย์มีลีลาการต่อสู้รวดเร็วกว่าแสงกล้าเสมอในทุกท่วงท่า แสงกล้าโดนเล่นงานจนย่ำแย่แต่ก็ยังสู้ไม่เลิก ไม่ยอมแพ้ แต่ในที่สุดแสงกล้าก็ล้มลงกองกับพื้น ปืนแสงกล้าหลุดออกจากมือ ไถลออกไปกับพื้น

อ่านละคร เหนือเมฆ2 ตอนที่ 1 วันที่ 5 ธ.ค. 55

เหนือเมฆ2 : ตอนมือปราบจอมขมังเวทย์
เหนือเมฆ2บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : คฑาหัสถ์ บุษปะเกศ
เหนือเมฆ2 กำกับการแสดง : นนทรีย์ นิมิบุตร
เหนือเมฆ2ผลิต : บริษัท เมตตามหานิยม จำกัด โดยผู้จัด ฉัตรชัย เปล่งพานิช
เหนือเมฆ2 แนวละคร : ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี
เหนือเมฆ2 ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
เหนือเมฆ2 เริ่มออกอากาศตอนแรกวันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ที่มา เดลินิวส์