อ่านละคร ดุจตะวันดั่งภูผา ตอนที่ 7 วันที่ 12 ธ.ค. 55
คนงานตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย อดสะท้อนใจไม่ได้ อีกไม่กี่วันก็จะสิ้นเดือนแล้ว...ขณะที่ไทเริ่มเป็นห่วงอนาคตของเหล่าพนักงานในสวนสัตว์ บุ๊นหยิบบัตรประจำตัวพนักงานของไทขึ้นมาดูอย่างพิจารณา ก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“ไท ธัญธรณี...เทอด ธัญธรณี” แล้ววางบัตรนั้นลงบนโต๊ะทำงาน พลางถอนใจ จังหวะนั้น อาฮวดเดินเข้ามาหา บุ๊นเห็นสีหน้าเขาแล้วถามทันทีว่าไทไม่ยอมรับข้อเสนอใช่ไหม
“ก็ไม่เชิงครับ...คงต้องให้เวลาเขาตัดสินใจ”
“งั้นเราคงต้องรอ...แล้วเรื่องเจียงล่ะ รู้หรือยังว่าใครฆ่า”
อาฮวดให้คนไปสืบแล้วแต่ยังไม่ได้เรื่องอะไร คาดว่าน่าจะเป็นนักฆ่ารุ่นใหม่ที่มาจากทหารรับจ้าง
บุ๊นพยักหน้ารับรู้ แล้วถามถึงพวกที่ดักทำร้ายตน รู้หรือยังว่าเป็นพวกไหน
“เอ่อ...เป็นคนของคุณเจียงครับ” อาฮวดอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียงนัก
“อาเจียงคิดเองหรือ...ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นมั้ง” บุ๊นคิดอยู่ในใจว่ามังกรต้องมีเอี่ยวด้วยแน่นอน...
ระหว่างที่ความสัมพันธ์ของพี่น้องร่วมสาบาน บุ๊นกับมังกรเริ่มร้าวลึก ข่าวการตายของเจียงรู้ถึงหูพ่อของเขาซึ่งอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ สีหน้าท่านบิดเบี้ยวด้วยความแค้น ทำอะไรไม่ได้เพราะเป็นอัมพาตได้แต่นั่งอยู่บนรถเข็น มีเพียงน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม เขาพยายามจะพูดคำว่า “บุ๊น” แต่ออกเสียงไม่ได้
ooooooo
เย็นวันเดียวกัน คู่หูของฉัตรเห็นวันนี้เป็นวันเงินเดือนออก จึงนำเอกสารการจองปืนสวัสดิการลอตใหม่มาวางที่โต๊ะตรงหน้าฉัตร จะได้สั่งจองไว้ใช้แทนกระบอกเก่าที่ชำรุด
“เอาไว้ก่อนเถอะวะ เรื่องที่ให้ตามว่าใครที่มาซื้อโรงแรมของนายบุ๊นบ้าง ไปถึงไหนแล้ว”
“ก็มีหลายคน หนึ่งในนั้นก็คือนายมังกร...แต่ที่น่าสนใจก็คือ เมื่อสิบกว่าปีก่อน บุ๊นซื้อโรงแรมนี้มาจากพ่อของเจียง ว่ากันว่าใช้วิธีสกปรกนิดหน่อยโดยผ่านสมาคมโรงแรมโลก แล้วตอนนี้ก็มีสองพี่น้องรอยกับเอียนมาประสานงานกับสมาคมด้วย” คู่หูพูดจบ เอารูปสองพี่น้องชาวต่างชาติที่ว่าให้ฉัตรดู
“ไอ้สองคนนี่ฉันรู้จัก แต่ก่อนมันเป็นนายหน้าระดับอินเตอร์ นักฟอกเงินแล้วผันตัวมาเป็นกรรมการ
สมาคมโรงแรมโลก แสดงว่านายบุ๊นนี่ก็ไม่เลวเลย ทำหน้าซื่อมือสะอาด แล้วเอาชิ้นปลามันไปกิน...ลองตามดูว่าตอนนี้นายบุ๊นกำลังจะทำอะไร” ฉัตรว่าแล้วมองใบจองปืนที่คู่หูเอามาให้ ก่อนจะลุกออกไป
ครู่ต่อมา ฉัตรมาถึงร้านขายเครื่องดนตรี ควักเงิน
เดือนออกมานับว่ามีพอจะซื้อเครื่องดนตรีที่ลูกชอบไหม นับแล้วนับอีกอยู่หลายรอบก็ไม่พอกับราคาของมันสักที จนกระทั่งเจ้าของร้านเดินมาล็อกประตูหน้าร้าน แล้วกลับป้ายแขวนจาก “เปิด” เป็น “ปิด” ฉัตรถอนใจเฮือก เดินหน้าเครียดผ่านไป...
ในขณะที่ไทฝึกซ้อมแมวน้ำอย่างขะมักเขม้น ปลายฟ้าหยิบเชลโล่ขึ้นมาบรรเลงเพลงไพเราะอยู่บนอัฒจันทร์ เขาหยุดมองเธอครู่หนึ่งก่อนจะตะโกนแซว ทำไมเพลงถึงเศร้านัก
“เพลงก็คือเพลง จะเศร้าหรือไม่อยู่ที่ใจคน”
“จ้ะ...แม่นักปรัชญา...มามะลิ มาซ้อมกันต่อ
ดีกว่า” ประโยคหลัง ไทพูดกับแมวน้ำตัวเก่งประจำสวนสัตว์ ปลายฟ้าสีเชลโล่ต่อไป แม้เพลงจะเศร้า แต่สีหน้าเธอไม่ได้เศร้าตามอาจเป็นเพราะมีไทอยู่ใกล้ๆ...
หลังจากฝึกแมวน้ำเสร็จ ไทถือเชลโล่มาส่งปลายฟ้าที่รถของเธอ อดสงสัยไม่ได้ในเมื่อเธอหลงใหลในเสียงเพลงขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงมาเลือกทำงานที่สวนสัตว์แทนที่จะเลือกทำงานทางสายดนตรี
“ตอนแรกว่าจะไม่เอาหรอก แต่พอเจอ...” เธออยากจะบอกว่าเป็นเพราะเจอไทแต่ไม่กล้า เลี่ยงไปอ้างอย่างอื่นแทน “เอ่อ...เจอ...สัตว์พวกนี้ ก็เลยรักมัน”
“เธอนี่ก็เข้าท่าเหมือนกันนะ แล้วถ้าสมมติว่าต้องโดนเลย์ออฟจากที่นี่ล่ะ”
ปลายฟ้านิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะย้อนถามว่าถ้าเป็นเขาจะทำอย่างไร ไทเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน
“เอาไว้หัวหน้ารู้ก่อน แล้วฉันจะบอก” ปลายฟ้ายิ้มหน้าทะเล้น แล้วขับมอเตอร์ไซค์ออกไป
ooooooo
ค่ำวันเดียวกัน ขณะโอตี่กำลังฟังเพลงคลาสสิกอย่างสบายอารมณ์อยู่บนระเบียงบ้านตัวเอง มังกรพรวดพราดเข้ามาปิดเครื่องเล่นแผ่นเสียง เขาหันขวับมองพ่ออย่างเสียอารมณ์ ก่อนจะถามว่ามีเรื่องอะไร
“ฉันข้องใจเรื่องประเทศมากันดี ประเทศมันคงรวยมากล่ะสิ มีแต่เหมืองทอง”
“รวยอะไรกันป๊า เหมืองทองที่มีน่ะ มันเป็นของนายทุนจากยุโรปหรือไม่ก็อเมริกา ของมันน่ะมีแต่ทรัพยากรแต่ไม่มีปัญญา นักการเมืองมันก็กอบโกยผลประโยชน์ คอรัปชันปล่อยให้ประชาชนมาเป็นทาสต่างชาติ...ทำไม...ป๊าจะไปสมัครเป็นประธานาธิบดีหรือ” โอตี่กระเซ้า
“จะบ้าหรือวะ...แค่สงสัยว่าทำไมพี่ใหญ่ถึงไปติดต่อกับคนพวกนั้น”
“หรือว่าลุงบุ๊นกำลังจะคิดทำเหมืองทอง...มันไกลไปมั้ง ป๊า...” โอตี่หัวเราะร่วนราวกับเป็นเรื่องตลก...
ทางด้านไทยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะรับข้อเสนอของอาฮวดดีหรือไม่ จึงแวะไปหาฉัตรที่กำลังนั่งดื่มเบียร์อยู่คนเดียวที่ท่าเทียบเรือข้ามเกาะเผื่อจะมีคำแนะนำดีๆให้ จากนั้น ไทเล่าให้ฟังว่ากำลังคิดจะเปลี่ยนงาน
“จริงหรือ เห็นเอ็งรักสัตว์นักรักสัตว์หนา ทำไมถึงจะเปลี่ยนงานล่ะ”
“ค่าตอบแทนดีกว่ามั้ง” ไทตอบเลี่ยงๆฉัตรรู้ดีว่าเขาไม่ใช่เป็นคนเห็นแก่เงิน จึงไม่เชื่อเหตุผลนั้น
“ใครคือคนฉลาดคนนั้น”
พอรู้จากไทว่าคนคนนั้นคือบุ๊น ฉัตรแทบสำลักเบียร์ มองหน้าชายหนุ่มแบบไม่อยากจะเชื่อ ถามว่าแน่ใจแล้วหรือจะรับงานนี้ เขาส่ายหน้า เป็นทำนองว่ายังไม่แน่ใจเหมือนกัน...
ฝ่ายปลายฟ้ากลับถึงที่พักทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรง แต่พอลืมตาขึ้นมองอีกที ตกใจแทบหล่นจากเตียง เมื่อเห็นแป้งพอกหน้าพอกตาจนดูเละเทะไปหมด
“แกทำอะไรเนี่ย ดูสิอย่างกับซอมบี้แน่ะ”
“ก็ดูแลตัวเองไง คุณพีทเขาจะได้สนใจฉันมากขึ้น”
“แกนี่จะบ้าไปกันใหญ่แล้ว แกรู้จักเขาดีพอแล้วหรือ เขาทำงานอะไรแกรู้หรือ” ปลายฟ้าติงด้วยความหวังดี แต่เธอไม่สนใจ จะลองจีบเขาดูสักตั้ง แล้วนึกขึ้นได้ว่าถามเรื่องงานให้เพื่อนรักแล้ว ไม่มีร้านไหนรับสมัครคนงาน แต่ไม่ต้องเป็นกังวล เธอจะลองถามคุณพีทให้ รวยขนาดนั้นคงจะรู้จักพวกนักธุรกิจใหญ่ๆ
“ห้ามบอกเรื่องนี้กับนายพีทเด็ดขาด” ปลายฟ้าสั่งเสียงเฉียบ แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ...
มืดแล้ว ไทยังไม่กลับที่พัก เดินครุ่นคิดมาตามทางเดินในสวนสัตว์ ขณะผ่านตึกอำนวยการ เขาเห็นไฟในห้องทำงานของธงยังเปิดอยู่ จึงแวะเข้าไปหา ธงเล่าให้ฟังว่าพรุ่งนี้เป็นวันเงินเดือนออก คงจะต้องแจ้งให้พนักงานทุกคนทราบเรื่องที่สวนสัตว์ถูกเทกโอเว่อร์ จะได้มีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจ ไทสงสารพวกพนักงานมาก
“ทำไงได้ แล้วไทจะเอายังไงต่อไป”
“บางที พวกเราอาจจะไม่มีใครไปไหนก็ได้...ถ้าผม...ผมไปนอนดีกว่า บางทีพรุ่งนี้อาจจะดีกว่าวันนี้ก็ได้ ฝันดีนะพี่ธง” ไทยิ้มเหมือนตัดสินใจบางอย่างได้ แล้วลุกออกไป ธงมองตามไม่เข้าใจ...
ไม่นานนัก ไทกลับถึงห้องพัก เก็บข้าวของเครื่องใช้รวมทั้งรูปถ่ายสมัยเด็กๆที่ถ่ายกับพ่อและแม่ใส่ลังกระดาษ แล้วหยิบหนังสือนิยายที่อ่านค้างไว้ขึ้นมาเปิดไปยังหน้าที่เขาคั่นเอาไว้
“มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมเคยผ่านมา...และที่นี่ก็จะเป็นอีกอย่างหนึ่งที่กำลังจะผ่านไป...ชีวิตมันเริ่มต้นใหม่ ได้ทุกวันจริงๆ” เขาอ่านจบเก็บหนังสือใส่ลัง หันไปหยิบปืนที่ห่อผ้าเอาไว้ขึ้นมาเปิดดู เห็นปืนทองของพ่อแล้วนึกถึงคำสอนของท่าน ที่เขาท่องจำจนขึ้นใจ
“ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเรา เริ่มที่ตัวเรา พ่ออยากให้แกหนักแน่นดุจภูผาต่อการทำดี แม้ว่ายังมองไม่เห็นผลตอบแทน และเอื้ออาทรต่อผู้ยากไร้ดุจแสงตะวันที่สาดส่องอย่างซื่อตรง โดยไม่เลือกชนชั้น แค่นี้เราก็จะมีชีวิตอยู่อย่างมีคุณค่า...ดุจตะวัน ดั่งภูผา”
ooooooo
อ่านละคร ดุจตะวันดั่งภูผา ตอนที่ 7 วันที่ 12 ธ.ค. 55
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา บทประพันธ์ / บทโทรทัศน์ : ภูมิแผ่นดินละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา กำกับการแสดง : เฉิด ภักดีวิจิตร
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา แนวละคร : แอ็คชั่น โรแมนติก ดราม่า
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา ดำเนินงานสร้าง : อาหลอง จูเนียร์
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา ดูแลงานสร้าง : บุญจิรา ตรีติยะ
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ