@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ดุจตะวันดั่งภูผา ตอนที่ 9 วันที่ 19 ธ.ค. 55

อ่านละคร ดุจตะวันดั่งภูผา ตอนที่ 9 วันที่ 19 ธ.ค. 55

แป้งเป็นปลื้มขนาดหนักเมื่อพีทเสนอตัวรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ทั้งหมดของปลายฟ้า นี่ถ้าไม่ติดว่ากำลังเดินอยู่หน้าโรงพยาบาล เธอจุ๊บให้รางวัลเขาไปแล้ว พีทถึงกับขนลุกเกรียว แป้งเห็นสมควรแก่เวลาจึงขอตัวกลับ

ไทซึ่งเดินเตร่อยู่แถวนั้น รอจนเธอลับสายตา รีบเดินเข้าไปหาพีท จังหวะนั้นมีตำรวจหลายนายกรูกันเข้าไปด้านใน พีทมองสงสัย หันไปถามไทว่ามีเรื่องอะไรกัน

“เรื่องมันยาว...ไปจากที่นี่ก่อนเถอะ” ไทพูดจบ เดินนำเขาไปที่รถ ไม่นานนัก สองหนุ่มมาถึงคอนโดฯที่พักของพีท ไทเตือนว่าช่วงนี้ให้เขาระวังตัวไว้หน่อย ไม่รู้ว่าใครกำลังจ้องทำอะไรอยู่



“จะต้องระวังไปทำไม มีนายอยู่ทั้งคน...พรุ่งนี้มารับฉันแต่เช้าหน่อย”

“เขาเปิดให้เยี่ยมตอน 10 โมงเช้า” ไทดักคออย่างรู้ทันว่าเขาจะรีบไปเยี่ยมปลายฟ้า พีทแก้ตัวน้ำขุ่นๆ

ที่ให้มารับแต่เช้าเพราะจะต้องไปซื้อของเยี่ยมก่อน บอดี้การ์ดหนุ่มมองยิ้มๆแล้วเดินจากไป...

ใน เวลาไล่เลี่ยกัน เรียวขับรถมาจอดหน้าตึกใหญ่เพื่อให้พัดลงก่อน มองเธอเดินเข้าข้างในด้วยสายตาเปี่ยมสุข ก่อนจะเลื่อนรถไปเก็บในโรงจอด อาฮวดซึ่งเพิ่งมาถึงก่อนหน้าเล็กน้อย เห็นเหตุการณ์โดยตลอด เข้าใจความรู้สึกที่เรียวมีต่อเจ้านายสาว เข้าไปตบไหล่เขาเบาๆ ถามว่าวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง

“ทุกอย่างเรียบร้อยครับ พอดีคุณพัดไปกินข้าวเลยมาส่งค่ำไปหน่อย”

“คืนนี้นายคงฝันดีสินะ” อาฮวดกระเซ้าแล้วขยับจะไป เรียวเรียกไว้

“อาฮวดครับ...คือ มีคนติดตามคุณพีทแล้วหรือครับ”

“อือ...ฉัน ลืมบอกไป นายคงเห็นแล้วใช่ไหม เอาไว้ฉันจะแนะนำให้รู้จัก ฉันไปพบท่านประธานก่อน” อาฮวดพูดจบผละจากไป เรียวคิดจะบอกเรื่องไทกับ

คุณ พัด อ้าปากจะเรียกเขาอีกครั้ง แต่เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาได้แต่ยืนมองเขาหายเข้าไปในตึกใหญ่ สักพักอาฮวดมาถึงที่ห้องลับ บุ๊นอยากรู้ว่าเรื่องที่ท่าเทียบเรือ พีทมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วยหรือเปล่า อาฮวดรายงานว่าไม่เกี่ยว เขาแค่อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น บุ๊นถึงกับโล่งใจ

“ดีแล้ว...เกลือคงเป็นหนอนสินะ”

“ครับ...แต่ผมคิดว่าไม่ใช่คนของคุณเจียงหรอก”

“ฉัน รู้...เงินกับอำนาจมันแยกกันไม่ออกจริงๆ บางทีมันอาจจะถึงเวลาแล้วก็ได้...ไม่มีอะไรแล้วไปพักผ่อนเถอะ” บุ๊นนึกอะไรขึ้นมาได้ เรียกอาฮวดไว้ “พรุ่งนี้นัดมังกรมาดื่มน้ำชาด้วยนะ แล้วก็ไปเอารถออก”

ครู่ต่อมา อาฮวดขับรถพาบุ๊นมายังบ้านพักตากอากาศซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของเมือง ภายในบ้านหลังนั้น มีคนป่วยอาการโคม่านอนรักษาตัวอยู่โดยมีพยาบาลพิเศษคอยดูแลอย่างใกล้ชิด บุ๊นเดินเข้าไปยืนข้างเตียงจับมือคนป่วยไว้ด้วยสีหน้าอ่อนโยนและเห็นใจ...

ขณะ โอตี่กับเบตตี้นั่งดื่มเหล้าที่ผับหรูหลังจากฆ่าปิดปากสมุนตัวเองเรียบร้อย แล้ว เธอติว่าฝีมือยิงปืนของเขาตกไปเยอะ โอตี่คุยโว ถ้าจะยิงบอดี้การ์ดของพีทจริงๆคงตายตั้งแต่กระสุนนัดแรกแล้ว เบตตี้อดสงสัยไม่ได้แล้วทำไมถึงไม่ยิง เขาเกิดถูกใจหมอนั่นขึ้นมา เพราะนอกจากจะใจถึงแล้ว ยังมีฝีมืออีกต่างหาก ถ้าใครได้ไว้ใช้งานเท่ากับติดปีกให้เสือ เธอทักท้วง จะเป็นไปได้อย่างไรใครจะแปรพักตร์กันง่ายๆ

“ไม่รู้สิ...ความรู้สึกของฉันมันบอกว่า วันหนึ่งมันต้องมาสยบแทบเท้า รับใช้ฉัน” โอตี่สีหน้ามั่นใจ

ooooooo

บุ๊น นัดมังกรมาดื่มน้ำชาที่บ้านในวันรุ่งขึ้น พร้อมกับชวนตกปลาไปในตัว เขารู้ดีว่าน้องร่วม สาบานคนนี้กำลังคิดจะทาบรัศมี จึงใช้การตกปลาซึ่งเขามีฝีมือเหนือกว่าบอกเป็นนัยๆว่ามังกรไม่มีทางชนะเขา มังกรไม่ยอมรับ อ้างว่าแค่การตกปลา จะเอามาผูกกับเกมชีวิตไม่ได้ บุ๊นรู้เท่าทันความคิดของเขา กร้าวใส่ทันที

“เหมือนกับที่แกกำลังทำอยู่นี่ใช่ไหม แกคิดว่าจะทำอะไรฉันได้หรือ”

“พี่ใหญ่รู้ก็ดีแล้ว มันถึงเวลาที่เราจะต้องคุยเรื่องที่ดินผืนนั้นกันเสียที” มังกรกร้าวใส่บ้าง

“มันก็ถึงเวลาแล้วเหมือนกันที่ฉันจะบอกแกว่าแกจะไม่ได้ครอบครองที่ดินผืนนั้น แม้แต่ตารางนิ้วเดียว”

มังกรโกรธจัด ตบโต๊ะเปรี้ยง ทำแบบนี้เท่ากับโกงกันชัดๆ บุ๊นโต้ว่าเขาต่างหากที่ขี้โกง บุญเท่าไหร่แล้วที่ไม่เอาเข้าคุกฐานฆ่าคนตาย

“มัน จะมากไปแล้ว แน่จริงก็เอาสิ พี่ใหญ่จะเอาฉันเข้าคุกก็ได้” มังกรเลือดขึ้นหน้า ชักปืนออกมาข่มขวัญด้วยความว่องไว อาฮวดชักปืนขึ้นมาเช่นกัน อาเพียวและสมุนกรูกันล้อมทั้งคู่ไว้ บุ๊นไม่หวั่นเกรงจ้องมังกรเขม็ง

“แกมันไม่รู้จักประมาณตัวจริงๆ ฉันไม่จำเป็นต้องทำหรอก ยังมีคนอื่นที่พร้อมจะเล่นงานแกได้ทุกเมื่อ”

“ถ้า คิดว่าจะเอาผิดฉันได้ก็เชิญ แต่ฉันจะทำทุกวิถีทางที่จะได้ที่ดินผืนนั้นมา” มังกรเก็บปืน แล้วเดินนำเหล่าสมุนกลับไปอย่างคับแค้นใจ บุ๊นมองตามสีหน้าเยือกเย็น...

ทางด้านพีทร้อนใจมากอยากไปเยี่ยมปลายฟ้า เร็วๆ หันไปเร่งไทซึ่งหอบของเยี่ยมพะรุงพะรังให้รีบตามมาที่เบื้องหน้าไม่ไกลกัน นัก แป๊ดกำลังเข็นรถเข็นพาหนูเอม ออกมาสูดอากาศ ไทเหลือบไปเห็น รีบยกช่อดอกไม้ขึ้นบังหน้า ขณะเดินสวนกัน หนูเอมรู้สึกสะดุดตา หันกลับไปดูเห็นหลังไทไวๆ สะกิดแม่แป๊ดเคราดกให้หยุดเข็นรถ

“หนูเอมเหมือนเห็นพี่ไทค่ะ”

แป๊ด หันขวับไปมองเป็นจังหวะเดียวกับไทเดินลับตัวตึกพอดี “ไม่เห็นมีใครเลย ไป...ไปชมสวนกันดีกว่าอากาศกำลังสดชื่น” ว่าแล้วเขาเข็นรถเข็นต่อไป ส่วนหนูเอมคิดว่าตัวเองคงตาฝาดเพราะคิดถึงไทมากไป

ooooooo

หลังจากโอ ตี่ได้ฟังพ่อเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น สรุปทันทีว่า นายมนัสเป็นไพ่ใบสำคัญของเรื่องนี้ มังกรพยักหน้ารับ ถ้าไม่ได้มนัส ที่ดินพันกว่าไร่ที่ปากช่องคงไม่ตกมาถึงมือตนกับบุ๊น โอตี่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าพ่อมีที่ดินแถวนั้นด้วย เขาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่าที่ดินแปลงนี้ได้มาอย่างไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่

“ทำไมผมไม่เคยเห็นโฉนดเลยล่ะ”

“มัน มีแค่สัญญาใจแต่ไม่มีโฉนด พี่ใหญ่เป็นคนเก็บโฉนดไว้ทั้งหมด เราตกลงกันว่าจะมาแบ่งโฉนดกันภายหลัง แต่เมื่อเช้าพี่ใหญ่แบเบอร์มาแล้วว่าจะไม่แบ่งที่ดินให้ฉัน”

โอตี่ไม่ อยากจะเชื่อ เพราะเท่าที่เห็น ลุงบุ๊นไม่ใช่คนที่จะกลับคำง่ายๆ ต้องมีอะไรสักอย่างแน่นอน มังกรเริ่มหงุดหงิด ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ตนจะต้องมาตอบปัญหา แต่เป็นเวลาที่ต้องช่วยกันแก้ปัญหา โอตี่พยักหน้าเข้าใจ อยากรู้ว่าตอนนี้นายมนัสที่พ่อว่าอยู่ที่ไหน เขาให้อาเพียวฝังไปตั้งนานแล้ว

“อ้าว!...แล้วจะต้องมานั่งกังวลทำไม”

“บางทีฉันอาจจะเก็บกวาดไม่สะอาดก็ได้” มังกรยิ้มเหี้ยม นึกถึงใครบางคนขึ้นมาทันที...

ระหว่าง นั่งรถไปบริษัท บุ๊นสอบถามอาฮวดเรื่องพนักงานที่ท่าเทียบเรือขนส่งสินค้าว่าคืบหน้าไปถึงไหน แล้ว ได้ความว่าพนักงานคนนั้นไม่มีประวัติด่างพร้อย ก่อนมาทำงานที่นี่เคยอยู่บริษัทก่อสร้างของมังกร

“อืม...เคยทำงานกับ มังกรด้วยหรือ เขาเริ่มรุกแล้วสินะ....ฉันอยากจะคุยอะไรกับนายไทก่อน” บุ๊นคิดแผนบางอย่างอยู่ในใจ ก่อนจะสั่งคนขับรถว่ายังไม่ต้องเข้าบริษัท เขาต้องแวะทำธุระที่ธนาคารก่อน คนขับรถรับคำเลี้ยวรถไปตามเส้นทางสู่ธนาคารโดยไม่มีใครในรถสังเกตเห็นมีรถ อีกคันหนึ่งกำลังสะกดรอยตาม...

ด้านไทหอบช่อดอกไม้และบรรดาของเยี่ยมวาง ไว้บนเก้าอี้หน้าห้องไอซียูเนื่องจากหมอกับพยาบาลกำลังตรวจอาการปลายฟ้าอยู่ จึงยังไม่ให้ใครเข้าเยี่ยมไทอยากจะเยี่ยมเธอเช่นกันแต่ทำไม่ได้ ห่างออกไปไม่มากนัก พีทยืนรออยู่อย่างใจจดจ่อ พอเห็นหมอออกมา ปรี่เข้าไปถามอาการของปลายฟ้า

“คนไข้อาการเป็นปกติดีทุกอย่างครับ เพียงแต่หลับอยู่เท่านั้น”

หมอ เห็นพีททำหน้าฉงน จึงอธิบายว่าเคสของปลายฟ้าก็เหมือนคนนอนสลบไป อีกไม่นานก็ฟื้น พีทยิ้มดีใจขยับจะเข้าไปเยี่ยม แต่ฉัตรกับคู่หูเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน ขอคุยเรื่องพนักงานที่ถูกฆ่าปิดปากแล้วพาตัวเขาออกไป ไทสบโอกาส รีบเข้าไปหาปลายฟ้า หยิบหูฟังที่พ่วงจากไอพอดใส่ให้แล้วกุมมือเธอไว้

“ฉันอยากได้ยินเธอเล่นเพลงนี้อีกนะ”

ราวกับ ปาฏิหาริย์ นิ้วของเธอเริ่มกระดิก เปลือกตาเผยอขึ้น เห็นไทเป็นแค่ภาพเบลอๆ เขาตะลึงอยู่อึดใจพอได้สติพรวดพราดออกจากห้องลืมไอพอดกับหูฟังสนิท ปลายฟ้าพึมพำเรียก “หัวหน้า” แล้วก็หลับต่อ

ooooooo

ที่อีกมุมหนึ่ง ของโรงพยาบาล ขณะพีทกำลังยืนคุยอยู่กับฉัตรและคู่หู พยาบาลเข้ามาแจ้งว่าปลายฟ้าฟื้นแล้ว เขาโดดกอดฉัตรด้วยความดีใจ แล้ววิ่งกลับไปยังห้องไอซียูเห็นพยาบาลกำลังปลดสายเครื่องช่วยหายใจออกจาก ตัวปลายฟ้า เพื่อเตรียมย้ายห้อง พีทเข้าไปเกาะเตียงถามด้วยความห่วงใยว่าเป็นอย่างไรบ้าง

“ก็เห็นแล้ว ไม่ใช่หรือว่ายังไม่ตาย” แม้สติจะยังไม่เต็มร้อย แต่ปากของปลายฟ้ายังจัดเหมือนเดิม จังหวะนั้น แป๊ดกับหนูเอมเพิ่งทราบข่าวดีแวะมาเยี่ยม หนูเอมโผกอดปลายฟ้าด้วยความดีใจ

“หนูเอมเป็นยังไงบ้าง พี่ขอโทษนะ”

“ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ หนูเอมห่วงพี่ปลายฟ้าจะตาย กลัวจะไม่ตื่น”

“ตื่นสิ...พี่จะต้องตื่นเพื่อรอเจอหัวหน้าไง เออนี่...

พี่ฝันถึงหัวหน้าด้วยนะ ฝันว่าหัวหน้าเอาเพลงมาให้ฟัง”

พีท เห็นปลายฟ้าสีหน้าสดชื่นเมื่อเอ่ยถึงคนที่ชื่อหัวหน้า ชักอยากจะรู้จักหน้าตาของเขา เลียบๆเคียงๆถามแป๊ดว่าหัวหน้าคือใคร ได้ความว่าเขาชื่อไทเป็นหัวหน้าเก่าของปลายฟ้า เคยทำงานด้วยกันที่สวนสัตว์

“ปลายฟ้าเคยทำงานที่สวนสัตว์ด้วยหรือ”

“เคย...แต่ตอนนี้ออกแล้ว...จะรู้ไปทำไมกันเนี่ย” แป๊ดตัดบท ไม่ยอมตอบคำถามอะไรอีก...

จาก นั้น พีทแยกตัวมาที่แผนกการเงินของโรงพยาบาลเพื่อชำระค่ารักษาพยาบาลของปลายฟ้า และแจ้งกับทางนั้นว่าต้องการได้ห้องที่ดีที่สุดให้คนไข้ เอาแบบวีไอพีเลยก็ได้ แต่ต้องผิดหวังห้องแบบนั้นเต็มหมด เหลือแค่ห้องธรรมดา พีทต่อรองจะขอกลับไปพักฟื้นที่บ้าน แต่จะจ้างพยาบาลที่นี่ไปดูได้ไหม

“ได้สิคะ...แต่คงต้องรอปรึกษากับคุณหมอก่อน”

พีท พยักหน้ารับรู้ ระหว่างรอจ่ายเงิน พยาบาลห้อง ไอซียูเอาไอพอดพร้อมสายหูฟังมาให้ แจ้งว่าเครื่องนี่ติดอยู่ที่หูคนไข้ตอนก่อนจะฟื้น พีทรับไว้งงๆ แล้วนึกถึงคำพูดของปลายฟ้าที่ว่า ฝันเห็นหัวหน้าเอาเพลงมาให้ฟัง เขาก้มมองไอพอดในมือ ฉุกคิดถึงไทขึ้นมาทันที...

ไม่นานนัก พีทตามหาไทจนเจอ ต้องการพิสูจน์ให้ได้ว่าเขาคือหัวหน้าคนนั้น ยื่นไอพอดกับหูฟังให้ โกหกว่าเขาลืมทิ้งไว้ ไทรับไว้ไม่ทันเอะใจอะไร ซ้ำยังขอบคุณเขาอีกต่างหาก

“นายไม่เห็นบอกฉันเลยว่าเคยทำงานที่ สวนสัตว์... หัวหน้า”

ไทหยุดกึก พอจะเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น แกล้งยิ้มยั่ว “ก็คุณไม่เคยถาม”

“นาย เป็นอะไรกับปลายฟ้า” พีทเริ่มเก็บอารมณ์หึงหวงไม่อยู่ แม้ไทจะบอกว่าไม่มีอะไรลึกซึ้งกับปลายฟ้าเกินกว่าเพื่อนร่วมงาน แต่เขาไม่เชื่อ เพราะเห็นได้จากแววตาวิบวับของเธอเวลาที่พูดถึงไท มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น บอดี้การ์ดหนุ่มตัดรำคาญ ขอตัวไปรอที่รถแล้วลุกออกไป พีทฉุนขาดกระชากไหล่เขามาต่อย แล้วตามเข้าไปซ้ำ ไทไม่โต้ตอบได้แต่ปัดป้อง ก่อนเหตุการณ์จะลุกลาม อาฮวดโผล่เข้ามาล็อกตัวนายน้อยไว้

“พอ...พอได้แล้ว นี่มันอะไรกัน”

พีท ไม่ตอบ ได้แต่จ้องหน้าศัตรูหัวใจอย่างเอาเรื่อง ไทมองสบตาอาฮวดแล้วผละจากไป มือขวาของบุ๊นถึงกับถอนใจ หนักใจ รู้ทันทีว่าสองคนนี้คงอยู่ด้วยกันไม่ได้อีกแล้ว...

ขณะที่ความสัมพันธ์ ระหว่างพีทกับไทถึงขั้นแตกหัก ลิลลี่ซึ่งนั่งทำงานอยู่ในห้องของเธอเองเจอตัวเลขงบดุลบริษัทเข้าไปถึงกับ กุมขมับ บ่นให้พัดฟังว่าทำไม่ไหวแล้ว

“ไม่เอาน่าลิลลี่ แค่นี้ก็จะยอมแพ้ซะแล้ว...ถ้าไม่หัดทำเมื่อไหร่จะเป็น”

ลิลลี่ ต่อรอง ขอไปกินข้าวก่อน นี่ใกล้เที่ยงแล้ว พัดเห็นดีด้วย เสนอให้เธอเป็นคนเลือกว่าจะไปกินที่ไหนดี เธอยิ้มเจ้าเล่ห์ อยากอยู่ใกล้ชิดกับเรียว จึงเสนอให้เขาเป็นคนพาไป

ooooooo
ในเวลาต่อมา พีทย้ายปลายฟ้ามาไว้ที่ห้องพักสุดหรูภายในโรงแรมห้าดาว โดยมีพยาบาลมาคอยดูแลใกล้ชิด เธอยังดูไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะเพิ่งฟื้น พยาบาลกำลังปรับน้ำเกลือให้ พลางบอกกับเธอว่า

“ยาอยู่ตรงนี้นะคะ ถ้าปวดศีรษะก็กินได้เลย ต้องการอะไรเพิ่มก็เรียกได้นะคะ ฉันพักอยู่ห้องข้างๆนี่เอง”

“ขอโทษนะคะ นี่โรงพยาบาลหรือโรงแรมคะเนี่ย ทำไมมันหรูหราอย่างนี้”

“นี่เป็นห้องเดอลุกซ์ของโรงแรมค่ะ ห้องวีไอพี ที่โรงพยาบาลของเราเต็มค่ะ”

ปลายฟ้าตกใจ ราคาแพงขนาดนี้จะไปหาเงินที่ไหนมาจ่าย จัดแจงจะถอดสายน้ำเกลือออก ขอกลับไปนอนพักที่บ้าน พยาบาลรีบห้ามไว้

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แฟนคุณเป็นคนจัดที่นี่ให้และค่าใช้จ่ายทั้งหมดแฟนคุณเป็นคนดูแลค่ะ สบายใจได้”

ปลายฟ้างง แฟนที่ไหน เกิดมายังไม่เคยมี พีทโพล่เข้ามาพร้อมดอกไม้ช่อโต รับหน้าชื่นว่าเป็นแฟนเธอ พยาบาลไม่อยากอยู่เป็น ก.ข.ค. ใคร ขอตัวออกไปรอด้านนอก พีทขยับจะเข้าไปหา ปลายฟ้ายกมือห้าม

“หยุดอยู่ตรงนั้นเลย ไม่ต้องเข้ามาใกล้ฉัน...พูดมาดีๆ ใครเป็นแฟนนาย”

“ก็คุณไง...ตอนนี้เขารู้กันทั่วทั้งโรงพยาบาลแล้วมั้งว่าคุณเป็นแฟนผม” พีทยิ้มยั่ว

หญิงสาวโมโห ด่าสาดเสียเทเสียไม่พอยังคว้าของใกล้มือขว้างใส่ มัวแต่ก้มหน้าก้มตาปาข้าวของ ไม่ทันเห็นแป้งเข้ามา กล่องทิชชูโดนหน้าเพื่อนรักเข้าเต็มๆ ถึงกับร้องโอ๊ยลั่น ปลายฟ้าตกใจขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ แล้วหันจ้องพีทอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ ชายหนุ่มรู้ตัวรีบหลบฉาก แป้งโผกอดเพื่อนรักด้วยความดีใจ กลัวแทบตายว่าเพื่อนจะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา เธอเพิ่งเห็นห้องพักชัดๆ ร้องเอะอะว่า ทำไมหรูหราอย่างนี้

“แกคิดว่าฉันอยากอยู่ห้องนี้หรือไง นายเทพบุตรของแกนั่นแหละเจ้ากี้เจ้าการ” ปลายฟ้าบ่นอุบ

แป้งยิ้มปลื้ม คุยโขมงว่าเป็นคนบอกพีทเองว่า ถ้าจะรักเธอก็ต้องรักเพื่อนของเธอด้วย แล้วบอกให้ปลายฟ้าเลิกบ่นได้แล้ว ค่าห้องก็ไม่ได้จ่ายเองสักหน่อย ปลายฟ้าขี้เกียจต่อความด้วย ขอให้เธอช่วยเก็บข้าวของจะได้กลับบ้านเรากัน แป้งเห็นเพื่อนรักจะลงจากเตียง รีบดึงมือไว้

“ยัง...ยังกลับไม่ได้ เมื่อครู่ก่อนเข้ามา ฉันคุยกับหมอเจ้าของไข้แก เขาบอกว่าแกต้องนอนที่นี่อีกวันสองวันเพื่อดูอาการ” แป้งทำเสียงเข้ม ปลายฟ้าเซ็งจัดคว้าหมอนมาปิดหูไม่อยากได้ยิน คิดอยู่ในใจถ้าขืนให้อยู่ต่อไม่แคล้วต้องเจอตาบ้าพีทนั่นทุกวันแน่ จึงชวนแป้งมานอนเป็นเพื่อน

“แกไม่บอกฉันก็จะขอแกนอนที่นี่อยู่แล้ว หรูซะขนาดนี้ ถือว่ามาพักร้อนก็แล้วกัน” แป้งยิ้มมีความสุข

ooooooo

เรียวพาลิลลี่กับพัดมากินมื้อกลางวันที่ร้านอาหารจีนแห่งหนึ่ง ภายนอกดูเป็นร้านธรรมดา แต่บรรยากาศภายในกลับดูดีมีรสนิยมเป็นที่ถูกใจของ สองสาว ระหว่างรอสั่งอาหาร ลิลลี่นึกขึ้นได้ หันไปถามพัดว่าติดต่อไทได้หรือยัง เธอส่ายหน้า เขาหายไปไม่ได้ข่าวอะไรเลย เรียวเชื่อว่าสักวันหนึ่งต้องได้เจอกัน

“ไม่ต้องมาปลอบใจฉันหรอกนายเรียว”

“ผมพูดจริงๆครับ แต่ถ้านายคนนั้นรู้ความจริงว่าคุณพัดเป็นใคร คุณพัดจะทำยังไง”

พัดถึงกับอึ้ง คิดไม่ออกเหมือนกันจะทำอย่างไร...

ขณะเดียวกัน ที่โรงแรมหรู ปลายฟ้าใช้พลังงานในการเม้าท์กับแป้งไปมาก ท้องเริ่มประท้วงส่งเสียงร้องจ๊อกๆ อ้อนเพื่อนอยากจะกินก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้น แป้งยังไม่ทันจะลุกจากเก้าอี้ พีทเปิดประตูเข้ามาเสียก่อน

“แหม...คุณพีทมาพอดีเลย ฝากอยู่เป็นเพื่อนยายฟ้าแป๊บหนึ่งนะคะ แป้งไปซื้อก๋วยเตี๋ยวให้เจ้าหญิงเขาก่อน เดี๋ยวมานะคะ” แป้งพูดพลางส่งยิ้มหวานให้เขา ปลายฟ้าไม่อยากอยู่ลำพังกับผู้ชายคนนี้ รีบบอกเธอว่าไม่ต้องไปแล้ว ตนจะสั่งอาหารของโรงแรมมากินแทน แป้งอยากจะเอาใจเพื่อนรัก กุลีกุจอออกไปทันที พีทยิ้มพอใจที่จะได้อยู่ตามลำพังกับปลายฟ้า...

ตั้งแต่แป้งออกจากห้อง ปลายฟ้าเอาแต่อ่านหนังสือเรียนภาษาจีนด้วยตัวเอง ไม่ยอมมองหน้าพีทแม้แต่น้อย เขาถามด้วยความน้อยใจว่า ตนน่าขยะแขยงนักหรือ เธอถึงได้ทำท่ารังเกียจขนาดนี้

“รู้ตัวก็ดีแล้วนี่ จะได้ไปให้ห่างจากชีวิตฉันสักที”

“ใช่สิ...ใครจะไปเหมือนหัวหน้าคุณล่ะ ละเมอเพ้อหาเขาทุกวัน”

ปลายฟ้าปรี๊ดแตก จะละเมอถึงใครมันก็เรื่องของเธอ เขาไม่รู้จักหัวหน้าของเธอก็ไม่จำเป็นต้องมาพูด พีทอยากรู้ความจริงว่าปลายฟ้ารู้สึกอย่างไรกับไท พยายามซักโน่นถามนี่ จึงได้รู้ว่าเธอเทิดทูนเขามาก เพราะเขาคอยดูแลปกป้องเธอเสมอ พีทเจ็บแปลบหัวใจที่ปลายฟ้าเห็นไทดีกว่า พยายามสร้างความร้าวฉานให้ทั้งคู่

“อ้าว...ดูแลปกป้อง แล้วเขาไปไหนล่ะ ไม่เห็นมาเยี่ยมมาดูแลคุณเลย” คำพูดแทงใจดำ ทำให้ปลายฟ้าถึงกับน้ำตาซึม ต้องเบือนหน้าหนี แก้ต่างให้ไทว่าอาจจะยังไม่รู้ก็ได้ว่าเธอประสบอุบัติเหตุ พีทยิ่งแค้นใจที่เธอเข้าข้างไท จะใส่ไฟเขาอีก แต่แป้งกลับมาเสียก่อน ถึงกับอารมณ์ค้าง ขอตัวกลับดื้อๆ แป้งมองตามงงๆ

ooooooo

เสร็จจากมื้อเที่ยงแสนอร่อย พัดสั่งให้เรียวพาไปยังสถานที่ก่อสร้างคอมเพล็กซ์แห่งใหม่เพื่อคุยเรื่องแบบเพิ่มเติมกับวิศวกร ระหว่างที่พัดเดินดูสถานที่ท่ามกลางแสงแดดร้อนระอุยามบ่าย ลิลลี่กลับก้มหน้าก้มตาสนใจไอแพดในมือโดยมีเรียวคอยกางร่มให้ สักพัก พัดก็ตามมาสมทบ

“ร้อนจังเลย เสร็จหรือยังเจ๊พัด” ลิลลี่บ่นอุบ

“เสร็จแล้ว ทำงานก็ต้องเหนื่อยอย่างนี้แหละ ไม่เหมือนเธอดูสิเล่นแต่เกม”

“เกมที่ไหน ลิลลี่กำลังสั่งให้โรงงานที่จีนผลิตของพวกกิ๊ฟช็อปที่ลิลลี่ออกแบบไว้ต่างหาก”

พัดชักจะสนใจ สอบถามว่าทำเอกสารกับทางจีนอย่างไรในเมื่อลิลลี่พูดภาษาจีนไม่ได้ เธอมีเพื่อนเป็นเจ้าของบริษัททัวร์ไปเมืองจีน จึงขอให้เขาช่วยเรื่องนี้ พัดเองกำลังอยากได้เลขาฯที่เข้าใจภาษาจีนสักคน เพื่อนของลิลลี่คงจะช่วยได้ใช่ไหม

“ได้อยู่แล้ว...ไปกันเถอะ ร้อนจะตายอยู่แล้ว” ลิลลี่พูดจบ จ้ำพรวดๆกลับไปที่รถ...

ที่ผับหรู ภายในสปอร์ตคลับของโอตี่ ขณะเบตตี้นั่งจิบเหล้าอย่างสบายอารมณ์ โอตี่เดินเข้ามาหาพร้อมกับโยนรูปถ่ายของเด็กหญิงคนหนึ่งในชุดนักเรียนลงบนโต๊ะ แล้วอธิบายว่า

“ลูกสาวนายมนัส โนนพิมาย อดีตนายกเทศมนตรีปากช่อง เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ป๊าของฉันสงสัยว่าเธออาจจะเก็บอะไรเอาไว้บางอย่างที่สามารถทำให้ป๊าสิ้นอิสรภาพไปตลอดชีวิตได้”

เบตตี้เห็นสภาพของรูปถ่ายแล้ว อายุของรูปน่าจะไม่ต่ำกว่า 10 ปี ถ้าเขาคิดจะให้ตามหาเด็กคนนี้ สู้ให้เธอไปลอบสังหารผู้นำประเทศยังง่ายกว่า นานขนาดนี้แล้ว หน้าตาของเด็กจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ไม่รู้

“สสารไม่มีวันสูญหาย ป๊าเก็บนายมนัสไปแล้ว แต่ลูกสาวยังอยู่” โอตี่พูดไปหัวเราะไปราวกับคนบ้า

“บ้าไปแล้ว...คุณนี่มันสติแตกจริงๆ มีข้อมูลแค่นี้เองหรือ”

ถึงจะมีเพียงแค่รูปถ่ายเก่าเก็บกว่าสิบปี แต่โอตี่ก็เชื่อมั่นว่ามือพระกาฬอย่างเบตตี้น่าจะแกะรอยได้...

ขณะที่โอตี่กับมังกรเร่งหาตัวลูกสาวของมนัสที่หายสาบสูญ อาฮวดพาไทมาพบบุ๊นที่บ้าน บุ๊นถือโอกาสนี้ขอบใจไทที่ช่วยชีวิตตนไว้คราวก่อน

“ไม่เป็นไรครับ แต่ท่านก็ตอบแทนผมอย่างเทียบเป็นราคาไม่ได้เหมือนกัน”

“ไม่หรอก...ไม่มีอะไรแพงกว่าชีวิตของฉันหรอกไท”

“ท่านมีอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ”

บุ๊นเห็นไทเป็นคนมีฝีมือ จึงอยากจะได้ตัวมาช่วยงาน แต่คงต้องถามความสมัครใจของเขาด้วย

“ท่านลืมไปแล้วหรือว่า ผมกำลังใช้หนี้ท่านอยู่” ไทตอบอย่างไว้เชิง บุ๊นหัวเราะพอใจ...

ครู่ต่อมา อาฮวดเดินมาส่งไทที่รถ บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องพีท ปล่อยให้เป็นหน้าที่เขาเอง จังหวะนั้นเรียวขับรถเข้ามาจอดให้พัดลงหน้าตึกใหญ่ซึ่งอยู่ไม่ห่างกันนัก ไทที่กำลังยืนหันหลังให้สัมผัสถึงพัดได้ หันขวับมามองเห็นเธอยืนจ้องมองมาทางตนเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างตะลึง อาฮวดรีบพาไทเข้ามาหา

“ไท...นี่คุณพัด ลูกสาวท่านประธาน พี่สาวคุณพีท”

ไทถึงกับอึ้งไปพักหนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้าเป็นปกติ “ยินดีครับ...ขอตัวก่อนนะครับ” แล้วเดินไปขึ้นรถขับออกไป พัดขยับจะเรียก เรียวชิงพูดขึ้นเสียก่อน

“คุณพัดครับ...เข้าบ้านเถอะครับ”

พัดชะงัก ก่อนจะเดินหน้าเศร้าเข้าบ้าน...

ทางด้านพีทพกความแค้นที่มีต่อไทมาระบายใส่กระสอบทรายในฟิตเนสของคอนโดฯที่พักของตน ทั้งเตะทั้งต่อยไม่ยั้งจนเริ่มเหนื่อย โจจะแวะมาคุยธุระด้วย เห็นท่าทางจริงจังของเพื่อนแล้วอดแซวไม่ได้ว่าจะขึ้นชกชิงแชมป์หรือ พีทไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ ถามว่ามีอะไรถึงได้ถ่อมาถึงนี่

“ตั้งแต่ท่าเรือแกมีเรื่องตำรวจมาป้วนเปี้ยนตลอดเวลา สงสัยคงต้องงดสั่งของสักพักล่ะมั้ง”

“ก็คงต้องเป็นแบบนั้น นิ่งๆสักพัก ฉันรำคาญไอ้ผู้กองฉัตรนั่นจะตายอยู่แล้ว...เออ...งั้นช่วงนี้แกว่าง ฉันอยากให้แกดูไอ้โอตี่มันหน่อย ฉันรู้สึกว่าสินค้าที่มันสั่งมา มันแปลกๆว่ะ”

โจไม่เห็นจะแปลกตรงไหน ก็แค่เครื่องในวัว แต่ก็รับปากจะดูให้

ooooooo

ปลายฟ้าได้รับข่าวดีแต่เช้า บริษัททัวร์ซึ่งเธอเขียนใบสมัครงานทิ้งไว้โทร.มาเรียกตัวไปทำงาน โดยไม่ล่วงรู้ว่าบริษัททัวร์แห่งนี้เป็นของเพื่อนลิลลี่ ปลายฟ้าหันไปปลุกแป้งทันที

“แป้งตื่นได้แล้ว...ได้เวลารับใช้ชาติแล้ว” ปลายฟ้าหัวเราะเริงร่า คว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ ขณะที่แป้งผงกหัวขึ้นมอง ก่อนจะหลับต่อ...

ที่บริษัทจ้าวหยาง หลังจากคุ้มกันบุ๊นเข้าห้องทำงานเรียบร้อย ไทเดินเตร่มาตามทางเดิน เจอพัดกับเรียวเลี้ยวมุมตึกมาพอดี เขาจำต้องทักทายเธอตามมารยาท แล้วจะเดินเลี่ยงไปทางอื่น เธอขวางไว้

“เอ่อ...ฉันขอคุยด้วยหน่อยสิ”

“เห็นจะไม่เหมาะสมครับ คุณพัด” ไทปฏิเสธอย่างนุ่มนวลและเจียมตัว แต่พอเห็นสายตาเป็นทำนองขอร้องของเรียว เขาจึงต้องยอมคุยกับเธอ “คุณพัดมีธุระอะไรหรือครับ”

“มันไม่เป็นทางการไปหน่อยหรือ” พัดตัดพ้อ

“มันควรจะเป็นแบบนี้ครับ เพราะคุณพัดเป็นลูกสาวท่านประธาน นายจ้างของผม”

พัดขอโทษที่ไม่ได้บอกความจริงกับไท และขอร้องให้เราสองคนกลับมาคบหากันเหมือนเดิม เขาปฏิเสธอย่างไม่เหลือเยื่อใยว่าคงกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว ตอนนี้สถานะของเธอเปลี่ยนไปแล้ว เธอเป็นเจ้านาย ส่วนเขาเป็นแค่ลูกจ้าง

“คุณนี่ใจแข็งจริงๆ”

“ผมจำเป็นครับ เพราะผมไม่อยากเสียใจไปมากกว่านี้ คุณก็ควรจะคิดแบบเดียวกันนะ...ผมขอตัวนะครับคุณพัด” ไทเดินจากไปอย่างปวดร้าว พัดเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน...

อ่านละคร ดุจตะวันดั่งภูผา ตอนที่ 9 วันที่ 19 ธ.ค. 55

ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา บทประพันธ์ / บทโทรทัศน์ : ภูมิแผ่นดิน
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา กำกับการแสดง : เฉิด ภักดีวิจิตร
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา แนวละคร : แอ็คชั่น โรแมนติก ดราม่า
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา ดำเนินงานสร้าง : อาหลอง จูเนียร์
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา ดูแลงานสร้าง : บุญจิรา ตรีติยะ
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ