@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร มณีสวาท ตอนที่ 1-2 วันที่ 24 ม.ค. 56

อ่านละคร มณีสวาท ตอนที่ 1

ถามด้วยความอยากรู้ นรินทร์เปรยเสียงอ่อน

“พ่อยังไม่รู้ แต่ที่พ่อเห็น มีเรื่องที่คุณชายบอกเกิดขึ้นจริงๆ แต่อาจไม่ใช่คน”

“ไม่ใช่คน...คุณอาพูดแปลก”

“โลกนี้มีอะไรแปลกประหลาดพิสดารเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆไม่ใช่หรือผู้กอง สิ่งที่คุณชายเห็นอาจเป็นความมหัศจรรย์บางอย่างที่คนอย่างเราสัมผัสไม่ได้ก็ได้”

แม้ไพศิษฐ์จะคุ้นเคยกับญาณพิเศษของนรินทร์แต่ไม่เชื่อนัก บอกให้สองพ่อลูกขึ้นรถเพราะตนต้องกลับไปเข้าเวร นรินทร์มองไปที่เกิดเหตุอีกครั้งแล้วพึมพำบทแผ่เมตตา นาถสุดาได้ยินก็ขมวดคิ้ว...สงสัยในนิมิตของพ่อเหลือเกิน



เวลาเดียวกันที่โรงพยาบาล...ภุชคินทร์สอบถามเจ้าหน้าที่เวรถึงเจ้าอุรคาแล้วถึงกับมึนตึ้บ พบว่าไม่มีรายชื่อเธอเข้าพักรักษา และไม่มีบันทึกว่ามีอุบัติเหตุรถชนเมื่อคืนอีกต่างหาก ชายหนุ่มออกจากโรงพยาบาลเซ็งๆ แปลกใจที่สุดว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นได้อย่างไร

ภุชคินทร์ไปทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลหลังจากนั้น เล่าเรื่องอุบัติเหตุทั้งหมดให้น้าชายฟัง ภิงคารรอจนให้ สัมภาษณ์สื่อมวลชนเสร็จจึงหารือกับหลานชายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ภุชคินทร์ถอนใจหนักๆ

“ผมก็งงเลยต้องหาโอกาสถามคุณน้า ผมอยากไปหาเจ้าอุรคา คุณน้าทราบไหมครับว่าเจ้าอุรคาพักอยู่ที่ไหน”

“น้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าอยู่ที่ไหน จำได้แค่ว่า เวลามาเมืองไทย เจ้าจะอยู่ที่เฮือนภูจำปา”

ภุชคินทร์ทวนชื่อสถานที่ด้วยสีหน้างุนงงเพราะไม่เคยได้ยิน แต่ความอยากรู้มีมากกว่าจึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปเจอเจ้าอุรคาอีกครั้ง ชายหนุ่มไปถึงเฮือนภูจำปากลางดึกคืนนั้น ตื่นตะลึงกับบรรยากาศร่มรื่นแต่ดูวังเวงของเฮือนหลังงามที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่จริงในกรุงเทพฯ

ฟากเจ้าอุรคาทราบว่าภุชคินทร์มาหาถึงเฮือนก็ดีใจมาก สั่งให้ชรายุนางกำนัลคนสนิทออกไปต้อนรับ ภุชคินทร์แปลกใจมากที่เจ้าอุรคารู้ว่าเขามาหา ชรายุยิ้มเย็นและไขข้อข้องใจของราชนิกุลหนุ่ม

“ใครที่เข้ามาในนี้เจ้ารู้หมดค่ะ เพราะที่นี่คือบ้านของเจ้าอุรคา ผู้สืบทอดตระกูล ณ ภูจำปาแต่เพียงผู้เดียว”

ชรายุเดินนำไปแล้ว ภุชคินทร์มองตามอย่างสงสัย...ท่าทางสาวใช้ของเจ้าอุรคาคนนี้จะไม่ธรรมดา

ooooooo

ภุชคินทร์ไปรอเจ้าอุรคาที่เรือนรับรองแขกทำจากไม้แกะสลักเป็นรูปพญานาค แลดูน่าเกรงขามมากกว่าสวยงาม ชายหนุ่มมองตามหลังชรายุที่มาส่งแล้วเดินจากไปด้วยมาดนิ่งๆอย่างสงสัย พึมพำแผ่วเบาถึงความแปลกประหลาดของคนที่นี่แล้วต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทักทายของเจ้าอุรคา

“เจ้าของบ้านก็แปลกด้วย เพราะถ้าเจ้าของบ้านไม่แปลก คุณชายภุชคินทร์คงไม่ตามมาหาถึงที่นี่”

ภุชคินทร์อึ้งไปอึดใจ นึกไม่ถึงว่าเจ้าหญิงจากต่างแดนจะอ่านความรู้สึกเขาได้ เจ้าอุรคาอธิบายยิ้มๆ

“ดิฉันไม่รู้หรอกค่ะ แค่พูดตามที่ทุกคนที่มาที่นี่เขารู้สึกกัน แต่ใช่ว่าใครๆจะมาที่นี่ได้นะคะ เพราะถ้าดิฉันไม่อนุญาต เขาก็ไม่มีสิทธิ์มา ดิฉันรู้ว่าท่านภิงคารเป็นรัฐมนตรีมือสะอาดเลยให้ที่อยู่ไป”

ภุชคินทร์ชักหงุดหงิดคำพูดเหมือนรู้ทันเขาอยู่ตลอดเวลาของหญิงสาว ถามตรงประเด็นถึงเรื่องที่ไม่พบชื่อเธอที่โรงพยาบาล เจ้าอุรคาแก้ตัวว่าเธอแค่หลับใน พอรู้สึกตัวจึงรีบกลับบ้าน

“แต่อย่างไรก็ขอบคุณมากที่ช่วย และยังเป็นกังวลถึงขนาดตามหาดิฉันถึงที่นี่”

“ผมไม่ได้กังวล...แค่สงสัย รถชนทั้งคันทำไมไม่มีร่องรอยอะไร แล้วจู่ๆเจ้าก็หายไปจากโรงพยาบาล”

“เรื่องนี้ต้องถามคุณเองค่ะ เพราะคุณเป็นคนพาดิฉันไปส่งโรงพยาบาล”

ภุชคินทร์ชักฉุนที่หญิงสาวตอบคำถามวกวน ขอตัวกลับอย่างหัวเสีย เจ้าอุรคาตะโกนไล่หลังเป็นนัยๆว่ายินดีที่ได้เจอเขาเสมอ ภุชคินทร์ไม่สนใจ ตรงไปที่รถและขับออกไปทันที

เจ้าอุรคากลับขึ้นเฮือน พูดกับยมนาที่มารออยู่ด้วยน้ำเสียงยินดีแต่นัยน์ตาเศร้าเหมือนคนหลอกตัวเอง

“เขาสนใจเรา ยมนา...ภุชเคนทร์ยังสนใจเรา เขายังรักเรา”

“ภุชเคนทร์สนใจปริศนาที่เจ้าทิ้งไว้ต่างหาก”

“ไม่จริง...ภุชเคนทร์ยังรักและห่วงใยเรา แต่ที่เขาเป็นเช่นนั้นเพราะ...มันผู้นั้นที่ทำให้ภุชเคนทร์เจ็บปวด ทำให้เรากับภุชเคนทร์ต้องพรากจากกัน เราจะแก้แค้นและตอบแทนพวกมันอย่างสาสม”

“แต่นั่นคือการสร้างเวรสร้างกรรมต่อกันไม่มีที่สิ้นสุด”

“แล้วที่เราต้องอยู่คนเดียว พลัดพรากจากภุชเคนทร์ มาหลายพันปีล่ะเป็นเพราะใคร...ไม่ใช่มันผู้นั้นหรอกเหรอ”

“แต่เจ้ากำลังสร้างกรรมเพิ่มและเจ้าอาจจะไม่ได้ครองคู่กับภุชเคนทร์จนชั่วกัลปาวสาน”

“มันจะสิ้นสุดแค่ภพนี้ เราขอแค่ให้ภุชเคนทร์จำสัญญาที่เคยให้ไว้และถอนคำสาป เพียงแค่นั้นจริงๆ ยมนา”

“หมายความว่าเจ้าจะเลิกจองเวรจองกรรมกับพญาครุฑ”

“ไม่...เพราะมันทำเราต้องพลัดพรากจากภุช– เคนทร์ กี่ภพกี่ชาติก็ไม่มีวันอภัย ความตายเท่านั้นคือสิ่งที่เราจะให้”

เจ้าอุรคาประกาศกร้าวด้วยความแค้น ยมนามองมาอย่างเหนื่อยใจ...แล้วเมื่อไหร่กรรมจะจบ!

ooooooo

ภาพของเจ้าอุรคาในงานเลี้ยงติดตาตรึงใจสุบรรณอย่างไม่อาจลบเลือน ชายหนุ่มคิดถึงเจ้าหญิงต่างแดนมากขึ้นทุกทีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน ทันใดนั้น...สุรินทร์มือปืนรับจ้างฝีมือฉกาจโผล่พรวดออกมาจากพุ่มไม้ ทำท่าจะทำร้ายชายหนุ่ม อำนาจตรงเข้ามาขวางเพื่ออารักขาสุบรรณทันที

สามหนุ่มปะทะฝีมือกันพอหอมปากหอมคอ อำนาจแนะนำสุรินทร์ให้สุบรรณรู้จักว่าเป็นนักฆ่าฝีมือดีที่ถูกส่งมาจากซุ้มมือปืนทางเหนือ สุบรรณพอใจกับฝีมือ สั่งการให้ไปจัดการเสี่ยปิงอดีตพันธมิตรที่แปรพักตร์มาเป็นศัตรู โดยไม่รู้เลยว่าที่มุมหนึ่งของสนาม มีงูขนาดย่อมขดตัวเป็นวงกลม ผงกหัวขึ้นเล็กน้อยมองทั้งสามคนอย่างสาสมใจ!

คืนเดียวกันที่หน้าคาเฟ่ชื่อดัง...เสี่ยปิงมาขึ้นรถพร้อมสาวๆที่เดินมาส่ง เปิดประตูขึ้นนั่งแล้วร้องลั่นเมื่อเห็นงูตัวเขื่องนอนขดบนเบาะคนขับและมองมาอย่างอาฆาต เสี่ยปิงกระโจนหนีไม่คิดชีวิต วิ่งตัดหน้ารถที่เพิ่งเลี้ยวเข้ามาอย่างกะทันหัน พะนอฤดีเบรกตัวโก่ง ลงรถมาอย่างหัวเสียแต่ต้องตกใจสุดขีดเมื่อได้ยินเสี่ยหนุ่มตัวปัญหาตะโกนไล่งูเสียงสั่น เด็กรับรถกรูมาส่องไฟดูจนทั่วแต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ เสี่ยปิงย่องกลับมาที่รถแล้วนิ่วหน้า ไม่คิดว่าตัวเองตาฝาด ถอนใจอย่างหงุดหงิดและขึ้นรถขับออกไป... โดยไม่รู้ว่ามีงูตัวเดิมขดตัวนอนบนเบาะหลังอย่างสงบ

พะนอฤดีมองตามรถเสี่ยอย่างเคืองๆ เปิดประตูขึ้นรถแล้วกรี๊ดสุดเสียงเมื่อเห็นงูนอนขดอยู่ที่เบาะข้างคนขับ หญิงสาวผงะถอยออกทันที เด็กรับรถกลุ่มเดิมวิ่งมาหน้าเมื่อย เปิดไฟฉายส่องดูแล้วหยิบผ้าพันคอสีดำส่งให้ พะนอฤดีมองผ้าพันคอในมืออย่างงงงัน ไม่เข้าใจว่ามาอยู่ในรถเธอได้ยังไง...

พะนอฤดีทนเก็บความข้องใจไม่ไหว นำไปเล่าให้นารีวรรณฟังที่วังนาเคนทร์เช้าถัดมา บอกว่าติดใจเรื่องผ้าพันคอสีเข้มเพราะไม่รู้ว่ามาอยู่บนรถเธอได้ยังไง นารี-วรรณไม่คิดมาก เย้าเพื่อนขำๆว่าเจองูบ่อยเหมือนจะเจอเนื้อคู่ พะนอฤดีไม่ขำด้วย โพล่งออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ฤดีรู้แต่ว่าไม่ได้ตาฝาด ฤดีสังหรณ์ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นและต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ”

นารีวรรณเห็นท่าทางจริงจังก็ชักเป็นห่วงเพื่อน รถคันหนึ่งแล่นเข้ามา...เฟื่องวลีลงจากรถมาทักนารีวรรณเสียงหวานแต่ส่งตาขวางให้พะนอฤดี สองสาวคู่ปรับเขม่นกันตามประสา ปะทะคารมกันพอเป็นพิธี แต่ก็ทำให้เฟื่องวลีจ้องคู่ปรับตาแทบถลนด้วยความแค้นใจ ค้อนใส่และเดินฉับๆเข้าวัง

หม่อมภาณีส่ายหน้าอย่างระอาเมื่อเฟื่องวลีฟ้องเรื่องพะนอฤดี ต่อว่าเล็กน้อยที่หญิงสาวชอบเหน็บคนอื่นจนเกิดเรื่อง เฟื่องวลียิ้มเจื่อนๆและเปลี่ยนเรื่องชวนหม่อมภาณีกับภุชคินทร์ไปงานเปิดร้านเพชรของเจ้าประกายคำ หม่อมภาณีไม่ชอบออกงานประเภทนี้จึงไม่รับปาก อ้างว่าอยากจัดสวนใหม่ เฟื่องวลีสนับสนุนเพราะฝังใจเรื่องเจองูเมื่อหลายวันก่อน อาสาหาคนงานมาช่วย...

จะได้จัดการงูในสวนวังนาเคนทร์ให้สิ้นซาก

ขณะเดียวกันที่เฮือนภูจำปา...เจ้าอุรคาได้ยินถ้อยคำอาฆาตของเฟื่องวลีด้วยญาณพิเศษก็โกรธจัด พึมพำเสียงเบาแต่ช้าชัดว่าจะกำราบหญิงสาวที่คิดร้ายต่อเธอกับบริวารงูน้อยใหญ่อย่างสาสม!

เฟื่องวลีใช้เรื่องกำจัดงูในสวนวังนาเคนทร์เป็นข้ออ้างนัดพบภุชคินทร์ที่ร้านอาหารหรูหลายวันถัดมา หญิงสาวพยายามส่งสายตาจีบราชนิกุลหนุ่ม แต่เขาไม่สนใจและย้ำว่าเห็นเธอเป็นแค่น้องสาว เจ้าอุรคาที่นั่งอยู่กับยมนาในร้านเดียวกันแต่คนละมุมยิ้มอย่างพอใจและหันไปสนใจเสี่ยปิงเป้าหมายคนสำคัญที่เพิ่งเดินเข้าร้าน ภุชคินทร์มองไปรอบๆ เห็นเจ้าอุรคาอยู่กับยมนาก็ชักสีหน้าอย่างหงุดหงิดเพราะคิดว่าหญิงสาวเปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้า เจ้าหญิงจากต่างแดนส่งยิ้มให้ เฟื่องวลีของขึ้น แขวะเจ้าอุรคาเพราะแรงหึงหวง ภุชคินทร์ทนนั่งต่อไม่ไหว ลุกพรวดออกไปรอที่รถ เจ้าอุรคาหน้าเสีย ยมนาพยายามเตือนสติ

“ผู้ชายคนนี้คือภุชคินทร์ ไม่ใช่ภุชเคนทร์ของเจ้าในอดีต”

“เรารู้ เราถึงไม่เคยโกรธเพราะเขาจำเราไม่ได้”

“ใช่ เขาจำไม่ได้ คนที่ไม่ยอมลืมเลยกลายเป็นคนที่ต้องเจ็บ และใครคนนั้นก็คือเจ้าไม่ใช่ภุชเคนทร์”

เจ้าอุรคาสะเทือนใจที่โดนพูดแทงใจดำ เสียใจแต่ยังไม่ยอมแพ้ ลุกตามภุชคินทร์ไปด้านนอก เย้ายิ้มๆที่บังเอิญเจอเขาอีกครั้ง ชายหนุ่มมองมาด้วยสายตาเย็นชาแล้วค่อนแคะเสียงเข้ม

“ขอบคุณ...แต่ผมไม่อยากเป็นอย่างท่านสุบรรณที่ดูเหมือนจะหลงเสน่ห์คุณตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ”

“แต่ดิฉันกลับอยากให้คนที่หลงเสน่ห์ดิฉันเป็นคุณชาย”

ภุชคินทร์ชักฉุนที่โดนจีบซึ่งหน้าแต่เจ้าอุรคากลับไม่สะทกสะท้าน ยิ้มน้อยๆและขอตัวเมื่อเห็นสุรินทร์นักฆ่าของสุบรรณมาถึง หญิงสาวหมุนตัวตามจังหวะเดียวกับที่ผ้าพันคอร่วงลงพื้น ภุชคินทร์ก้มลงเก็บและมองตามด้วยแววตาเย้ยหยันเพราะคิดว่าเธอแกล้งทิ้งเพื่อยั่วเขา ชายหนุ่มหันรีหันขวางอย่างงุ่นง่าน พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่สนใจหญิงสาว

ooooooo

อ่านละคร มณีสวาท ตอนที่ 2

เฟื่องวลีนั่งทานอาหารอย่างหงุดหงิด นึกเคืองภุชคินทร์ที่ปล่อยให้อยู่คนเดียว เหลือบเห็นเจ้าอุรคาเข้าร้านมาด้วยมาดนางพญา ทันใดนั้น...เสียงระเบิดดังขึ้น ควันสีขาวพวยพุ่งไปทั่วร้าน ผู้คนหนีกันอลหม่าน ภุชคินทร์วิ่งสวนไปด้านใน ได้ยินเสียงเฟื่องวลีกรี๊ดลั่น ราชนิกุลหนุ่มมองหาเจ้าอุรคาแต่ไม่พบ มีเพียงร่างแน่นิ่งจมกองเลือดของเสี่ยปิง!

ร้านอาหารหรูกลายเป็นสถานที่ห้ามเข้า ไพศิษฐ์พร้อมกองกำลังเสริมและกองทัพนักข่าวมาถึงไม่นานหลังจากนั้น เฟื่องวลีร้องไห้จนน่ารำคาญ เกาะแขนภุชคินทร์ไม่ยอมปล่อย สุบรรณมาถึงที่เกิดเหตุพร้อมอำนาจ อ้างว่านั่งรถผ่านจึงแวะดู นักข่าวรุมล้อมสัมภาษณ์นักการเมืองหนุ่มเกี่ยวกับเสี่ยปิง เพราะมีข้อมูลว่าเคยสนิทสนมกันมาก่อน

“ท่านสุบรรณพอจะทราบสาเหตุการตายไหมครับ เพราะก่อนตายมีคนได้ยินเสี่ยปิงพูดว่าสนิทกับท่านมาก”

“ผมเป็นคนของประชาชน เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีคนรู้จักผม แต่คงไม่ถึงขั้นสนิทอย่างผู้ตายบอก แต่ผมจะไม่ทิ้งคดีนี้แน่นอน จะกำชับเจ้าหน้าที่ให้ทำงานอย่างเต็มที่เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์”

สุบรรณตัดบทและเดินแหวกกลุ่มนักข่าวไปดูที่เกิดเหตุ ปรายตามองภุชคินทร์เล็กน้อยแต่ไม่สนใจจะทัก เฟื่องวลีโวยวายไม่หยุดจนราชนิกุลหนุ่มเหลืออด ไล่ให้กลับบ้าน ส่วนเขาจะอยู่ช่วยไพศิษฐ์สืบเรื่องคดี เฟื่องวลีฮึดฮัดออกไปแล้ว ไพศิษฐ์พาเพื่อนเดินวนรอบร้านอาหารและเล่าผลการตรวจสอบเบื้องต้น

“ฝีมือคนร้ายไม่ธรรมดา สามารถจัดการเหยื่อได้ภายในไม่กี่วินาที ไม่มีพลาด แล้วก็ไม่มีใครโดนลูกหลง”

“แสดงว่าคนร้ายถูกฝึกมาอย่างดีเพื่อให้มาฆ่าคน”

“ใช่...ระเบิดควันที่ใช้ก็น่าจะทำขึ้นเฉพาะกลุ่ม นายอยู่ที่เกิดเหตุ พอจะเห็นใครน่าสงสัยบ้างไหม”

“มีแต่ที่ฉันสงสัยเอง เจ้าอุรคากับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ที่นี่ตอนเกิดเหตุ แต่หลังเกิดเหตุ...สองคนนั้นก็หายไป”

สองหนุ่มเพื่อนซี้มองหน้ากันเครียดๆ...หรือว่าเจ้าหญิงต่างแดนกับคู่ควงจะเป็นฆาตกร...

ข้อสงสัยเกี่ยวกับเจ้าอุรคาถูกนำกลับมาหารือใหม่ในวันถัดมาที่วังนาเคนทร์ ภุชคินทร์หยิบผ้าพันคอของราชนิกุลสาวมาดูอย่างพินิจ คาใจกับท่าทีแปลกๆและการหายตัวไปอย่างลึกลับของเธอกับคู่ควง อดไม่ได้จะเชื่อมโยงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เธอหายไปจากโรงพยาบาลโดยไม่มีใครรู้เห็น ไพศิษฐ์พยักหน้าช้าๆอย่างเห็นด้วย

“ก็น่าคิดนะ...เพราะในที่เกิดเหตุนอกจากเสี่ยปิงที่ตาย ก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แถมเจ้าอุรคาก็หายไปอีก”

นารีวรรณเดินหน้าตื่นมาพร้อมกับพะนอฤดี บอกว่าเพื่อนเคยเห็นเสี่ยปิงที่คาเฟ่ก่อนถูกฆ่าตาย สองหนุ่มมองหน้ากันอย่างตื่นเต้น ซักไซ้เรื่องราวจากพะนอฤดีอย่างสนใจ

“ก่อนตายเสี่ยปิงเห็นงูด้วยค่ะ เหมือนที่ฤดีเคยเห็น แต่น่าแปลก...เพราะจู่ๆงูตัวนั้นก็กลายเป็นผ้าพันคอ”

พะนอฤดีมองผ้าพันคอในมือภุชคินทร์แล้วหน้าซีด จำได้แม่นว่าเป็นแบบเดียวกับที่อยู่บนรถเธอ ภุชคินทร์ปฏิเสธว่าไม่ใช่ของเขาแต่เป็นของเจ้าอุรคา ทุกคนที่เหลือหน้าเครียด ไพศิษฐ์พยายามปะติดปะต่อเรื่องราว


“นายคงไม่คิดใช่ไหมว่าเจ้าอุรคาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่คุณฤดีเจองู รวมทั้งเหตุการณ์ฆ่าเสี่ยปิงด้วย”

“คิด...แต่ยังไม่รู้ว่าเจ้าอุรคาเกี่ยวเพราะอะไร ท่าทีเจ้าแปลกๆ ทำอย่างกับมารอสังเกตการณ์”

ภุชคินทร์ตอบเสียงเรียบ ไพศิษฐ์ข้องใจหนักกว่าเดิม...ไม่เข้าใจว่าเจ้าหญิงสูงศักดิ์จะมีเรื่องกับเสี่ยปิงได้ยังไง

เวลาเดียวกันที่เฮือนภูจำปา...เจ้าอุรคาสั่งชรายุให้หยิบหีบสมบัติประจำตระกูลเพื่อเลือกเป็นของกำนัล

เจ้าประกายคำในวันเปิดร้านเพชร ราชนิกุลสาวหยิบขึ้นดูทีละชิ้น หยิบสร้อยพร้อมอัญมณีสีเขียวเข้มงดงามแปลกตามาทาบที่คอ พึมพำเบาๆ

“ถึงเวลาที่เราจะแสดงตัวให้ท่านรู้แล้ว...ภุชเคนทร์”

ooooooo

ขณะที่บนโลกมนุษย์วุ่นวายสืบหาต้นตอคดีฆาตกรรม...ดวงวิญญาณเสี่ยปิงเดินไปตามทางเล็กแคบ มืดมนและดูวังเวง อดีตเสี่ยใหญ่เหลือบมองชายหนุ่มชุดดำเบื้องหน้าอย่างหวาดๆ ถามเสียงสั่นว่าอยู่ที่ไหน ยมนาแสยะยิ้มให้และพูดช้าแต่ชัดว่าในนรก ดวงวิญญาณเสี่ยปิงตาเหลือก...เวลาชดใช้กรรมของเขามาถึงแล้ว!

เวลาเดียวกันบนโลกมนุษย์...นาถสุดาอ่านข่าวหนังสือพิมพ์เรื่องการตายของเสี่ยปิงแล้วสลด ปรารภกับพันเอกนรินทร์ผู้เป็นบิดาถึงจิตใจโหดเหี้ยมของผู้คน

ในปัจจุบัน อดีตนายทหารใหญ่วางมือจากแจกันดอกไม้ถวายพระ ปลอบประโลมลูกสาวด้วยคำสอนเตือนใจอย่างที่ชอบทำเสมอเมื่อมีโอกาส

“สมัยไหนก็น่ากลัวอย่างนี้แหละ ถ้าใจมนุษย์ขาดศีลธรรม”

“นาถโชคดีที่มีคุณพ่อสอนเรื่องบาปบุญคุณโทษตั้งแต่เด็ก ต่อให้นาถโกรธแค้นแค่ไหน นาถก็จะไม่มีวันทำร้ายใครอย่างนี้ อย่างดีนาถก็แค่อโหสิกรรมให้เขาเท่านั้นเอง”

“เพราะคนเราคิดได้ไม่เท่ากันไงลูก โลกถึงได้มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นทุกวัน”

นาถสุดานิ่งไปนิดเมื่อได้ยินคำว่าเรื่องแปลก อดย้อนคิดถึงเรื่องประหลาดเกี่ยวกับเจ้าอุรคาที่ภุชคินทร์เคยเล่าให้ฟังไม่ได้ พันเอกนรินทร์รู้ว่านิมิตที่ตนเห็นเกี่ยวกับอุบัติเหตุของเจ้าหญิงต่างแดนคงเป็นเรื่องเหลือเชื่อเกินกว่าที่ลูกสาวและคนอื่นจะรับไหว ยิ้มน้อยๆแล้วอธิบายเสียงอ่อน

“ในโลกนี้มีสิ่งที่คาดไม่ถึงเยอะแยะมากมาย เพราะนั่นคือกฎแห่งกรรมที่รอให้มนุษย์เผชิญ”

“คุณพ่อพูดเหมือนคุณชายต้องชดใช้กรรมอะไรสักอย่างอย่างนั้นแหละ”

“นาถก็รู้ไม่ใช่เหรอลูก ว่าคนเราเกิดมาเพื่อชดใช้กรรม แล้วทำไมคุณชายภุชคินทร์จะรอดจากกฎข้อนี้ล่ะ”

นาถสุดานิ่วหน้า เชื่อว่าพ่อต้องรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเจ้าอุรคาและภุชคินทร์แน่...แต่ว่ามันคืออะไร

คืนเดียวกันนั้น...ภุชคินทร์ครุ่นคิดเรื่องเจ้าอุรคาจนนอนไม่หลับ พยายามไล่เรียงเรื่องราวต่างๆตั้งแต่ตอนเกิดอุบัติเหตุจนถึงโศกนาฏกรรมที่ร้านอาหาร แต่ก็หาข้อสรุปไม่ได้ ทันใดนั้น...ตาสินคนสวนวิ่งหน้าตื่นมาตามให้ไปดูรอยเท้าประหลาดหน้ารั้ววัง ภุชคินทร์เห็นแล้วใจเต้นรัว จำได้แม่นว่าคล้ายกับรอยเท้าพญานาคที่เห็น ณ ริมโขงเมื่อหลายวันก่อน ชายหนุ่มเพ่งมอง

รอยเท้า...ปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อ

รอยเท้านั้นเลื้อยเป็นวงกลมพุ่งใส่ตา ภุชคินทร์ทรุดตัวลงในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่นและหมดสติลงในที่สุด ตาสินตกใจ ตะโกนเรียกคนมาช่วยนำเจ้านายหนุ่มกลับเข้าวัง

ภุชคินทร์รู้สึกตัวอีกครั้งที่ริมน้ำโขง บรรยากาศเลือนลางเหมือนอยู่ในความฝัน เขากวาดตามองรอบๆ จำได้ว่าเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าอุรคาปรากฏตัวเหนือลำน้ำในชุดงดงามแปลกตา บอกว่าบ้านของเธอกับเขาอยู่ที่นี่ ราชนิกุลหนุ่มส่ายหน้าน้อยๆ ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่เคยมี เจ้าอุรคาสะเทือนใจ สวนกลับน้ำเสียงเศร้า

“มีสิ...ท่านแค่ลืมไปเท่านั้นเอง แต่ไม่เป็นไร...เราจะทำให้ท่านจดจำทุกสิ่งได้เอง”

ภุชคินทร์มองเจ้าอุรคางงๆแต่ไม่ทันถามอะไร ลมฝนก็พัดกระหน่ำจนท้องน้ำสั่นสะท้าน พญานาคสองตัวพุ่งขึ้นกลางลำน้ำ หยอกล้อเล่นน้ำฝนกันชื่นฉ่ำใจ ภุชคินทร์มองภาพตรงหน้าอย่างพิศวง ต่างจากเจ้าอุรคาที่มองด้วยความเศร้าใจ ทันใดนั้น...ปรากฏร่างพญาครุฑบินโฉบมาจากท้องฟ้าทะมึน พุ่งไปจิกคอพญานาคตัวผู้ เลือดกระฉูดแดงฉานทั่วผืนน้ำ ภุชคินทร์รู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่างราวกับเป็นนาคตัวนั้น ในขณะที่พญาครุฑกลายเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ คว้าพญานาคตัวเมียด้วยมือเปล่าและเดินห่างออกไป ภุชคินทร์มองเหตุการณ์อย่างตื่นตะลึง ตั้งท่าจะถามเจ้าอุรคาแต่กลับต้องรู้สึกเย็นเยียบไปทั้งร่าง เมื่อเจ้าหญิงต่างแดนหายตัวไปแล้ว!

ภุชคินทร์ร้องเรียกเจ้าอุรคาตามทางเดินริมน้ำแต่ไม่มีเสียงตอบรับ ชายหนุ่มหายใจหอบ เหนื่อยจนต้องนั่งพัก รู้สึกเจ็บร้าวไปทั่วร่าง ก้มลงมองแล้วถึงกับหน้าซีด เห็นร่างตัวเองเต็มไปด้วยเลือดแดงฉาน ราชนิกุลหนุ่มตะโกนสุดเสียง ในใจประหวั่นพรั่นพรึงถึงเจ้าอุรคา ก่อนสติจะดับวูบอีกครั้งท่ามกลางลำน้ำที่เต็มไปด้วยเลือด

ooooooo

สุบรรณคิดถึงเจ้าอุรคาจนไม่เป็นอันทำอะไร อำนาจที่รับใช้อย่างใกล้ชิดตัดสินใจถามอย่างเกรงๆ

เพราะเป็นห่วง เข้าใจว่าเจ้านายหนุ่มเครียดเรื่องคดีเสี่ยปิง สุบรรณนิ่งไปอึดใจแล้วพูดแบบเพ้อๆว่าอยากพบเจ้าอุรคา ออกคำสั่งให้มือขวาคนสนิทตามหาบ้านของเธอภายในคืนนี้ อำนาจแบ่งรับแบ่งสู้เพราะตามสืบมานานแต่ไม่เคยรู้ว่าอยู่ที่ไหน

ขณะที่สุบรรณพร่ำเพ้อถึงเจ้าอุรคา...ชรายุนั่งเก็บดอกไม้ที่หน้าเฮือนภูจำปา นึกรู้ถึงความเสน่หาของสุบรรณที่มีต่อเจ้านายเธอด้วยญาณพิเศษ ดวงตานางกำนัลสาวแลดูเกรี้ยวกราด พึมพำเสียงแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความแค้น

“พวกเจ้าได้มาแน่!”

ชรายุแสยะยิ้ม กลับขึ้นเฮือนไปยกหูโทรศัพท์ทรงโบราณ แปลงเสียงเป็นเจ้าอุรคาโทร.หาสุบรรณเพื่อเชิญมาที่เฮือน นักการเมืองหนุ่มตอบรับอย่างยินดี สีหน้าร้อนรนเปลี่ยนเป็นปลื้มปีติเมื่อได้ยินคำเชื้อเชิญจาก

หญิงสาวที่เฝ้าคะนึงหามาตลอดหลายคืนผ่านมา เจ้าอุรคาปรากฏกายด้านหลังชรายุ ยิ้มพรายอย่างถูกใจที่มีเหยื่อมาให้ล้างแค้นถึงที่!

อำนาจขับรถเข้าสู่บริเวณเฮือนภูจำปาไม่นานหลังจากนั้น สุบรรณมองทิวทัศน์เงียบสงบแต่ดูวังเวงโดยรอบอย่างแปลกประหลาดใจ ชรายุออกมาต้อนรับ ตามมาด้วยเจ้าอุรคา สุบรรณเหมือนตกอยู่ในภวังค์ทันทีที่เห็นหน้าราชนิกุลสาว พูดเกี้ยวด้วยคำหวานอย่างแสนเสน่หา เจ้าอุรคาไม่มีท่าทางขวยเขินแม้แต่น้อย ยิ้มเย็นแล้วกล่าวต้อนรับ

“คุณสุบรรณมีวิธีพูดให้คนฟังรู้สึกดีเสมอ ขอต้อนรับค่ะ คนที่มาที่นี่ได้คือคนที่ดิฉันอนุญาตให้ได้เห็นเท่านั้น”

สุบรรณติดใจประโยคสุดท้าย เจ้าอุรคาหัวเราะเบาๆกลบเกลื่อนว่าเป็นเจ้าของบ้านย่อมต้องมีสิทธิ์อนุญาตให้ใครมาบ้านได้เป็นธรรมดา สุบรรณคลายความสงสัย ส่งสายตาหวานฉ่ำเผยความในใจ ชรายุมองมาด้วยความหมั่นไส้ ส่วนเจ้าอุรคาแสร้งสบตาอย่างเชิญชวน แต่ในใจนึกสมเพชนักการเมืองหนุ่ม

“คุณสุบรรณเป็นคนชัดเจน ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองเสมอ และก็ไม่เคยสนใจว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไง”

สุบรรณหน้าเสีย พยายามแก้ตัวแบบเจื่อนๆว่าไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวเช่นนั้น เจ้าอุรคากลัวเขาไหวตัวและเห็นว่าต่อปากต่อคำกันพอสมควรจึงเชื้อเชิญเขาขึ้นเฮือน อำนาจตั้งท่าจะตามแต่ชรายุขวางไว้ มือขวาคนสนิทไม่พอใจแต่ไม่กล้าหือกับสาวใช้นัยน์ตาดุ...ท่าทางคนบ้านนี้จะไม่ธรรมดา

ด้านสุบรรณ...เดินตามเจ้าอุรคาขึ้นเฮือนแล้วต้องแปลกใจ บรรยากาศในบ้านเงียบเหงาจนน่ากลัว ตัวบ้านประดับประดาด้วยเครื่องตกแต่งแบบโบราณ แลดูขลังจนไม่น่าเชื่อว่าเจ้าของบ้านเป็นผู้หญิง โดยเฉพาะรูปปั้นครุฑถูกพญานาคกัดคอและพญานาคที่ถูกครุฑฆ่าตาย ชายหนุ่มมองดวงตาครุฑและพญานาคแล้วขนลุก เพราะช่างดูน่าเกรงขามเหมือนมีชีวิตจริงๆ เจ้าอุรคาเห็นอาการพรั่นพรึงของชายหนุ่มแล้วยิ้มอย่างสะใจ พูดขึ้นราวกับอ่านใจเขาออก

“ไม่ตั้งใจสะสมหรอกค่ะ มันมีเองเพราะเป็นของจริง สิ่งมีชีวิตจริงๆที่เกิดบนโลกใบนี้...ครุฑถูกพญานาค

กัดตายและพญานาคที่ถูกครุฑฆ่าจนตาย”

“เจ้าพูดเรื่องความตายเสียจนผมนึกกลัว”

“ความจริงน่ากลัวกว่านี้ค่ะ ความตายพรากทุกอย่างจากคนที่ยังอยู่...โดยเฉพาะจิตวิญญาณ คุณสุบรรณอยากลองไหม...รสชาติของการอยู่แต่เหมือนตายทั้งเป็น”

อ่านละคร มณีสวาท ตอนที่ 1-2 วันที่ 24 ม.ค. 56

ละครเรื่อง มณีสวาท บทประพันธ์โดย : จินตวีร์ วิวัธน์
ละครเรื่อง มณีสวาท บทโทรทัศน์โดย : ณัฐวัฒน์
ละครเรื่อง มณีสวาท กำกับการแสดงโดย : วรวิทย์ ศรีสุภาพ
ละครเรื่อง มณีสวาท แนวละคร : ตื่นเต้น ลึกลับ
ละครเรื่อง มณีสวาท ผลิตโดย : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด โดย สมจริง ศรีสุภาพ
ติดตามชมละครเรื่อง มณีสวาท ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ