@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 10/7 วันที่ 21 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 10/7 วันที่ 21 ม.ค. 56

ปวีณาเงียบไป
“คุณพิทไปกับคุณแตเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ สามีก็ต้องมาฮันนีมูนกับภรรยาสิ หรือจะให้มากับพนักงานในบริษัทล่ะ”
“แล้วคุณมาประชดฉันทำไมเนี่ย ตอบง่ายๆ สั้นๆ ก็ได้ ฉันเข้าใจ”
“อ้าว ก็เธอถาม ฉันก็ตอบตามจริง มันผิดตรงไหน ถ้าทนฟังไม่ได้ วันหลังก็ไม่ต้องโทรมา”
“เออ จะไม่โทรอีกเลย”
ปวีณาตัดสายไปด้วยความหงุดหงิด บวรนิ่งไปอย่างรู้สึกผิดที่กวนประสาทเธอ และเริ่มรู้ว่าปวีณามีใจให้กับพิทยา

ภายในครัว วรรณวดีล้างจาน สุอาภาช่วยเอาผ้าเช็ดจานให้แห้ง
“ตั้งแต่แต่งงานไปเนี่ย ดูเป็นแม่บ้านแม่เรือนขึ้นนะเรา”
“ได้ยังไงละคะ เดี๋ยวเค้าจะหาว่าป๋ากับพวกพี่ๆ สอนแตมาไม่ดี”
“พี่เห็นแตกับพิทดีกันแบบนี้ พี่ก็สบายใจ บอกตรงๆนะว่าตอนแรกที่เราแต่งงานกัน พี่กังวลใจมาก กลัวเราจะตีกันตาย”
สุอาภายิ้มๆ วรรณวดีจับแขนน้องสาว


“แตรู้มั๊ยว่าครั้งล่าสุดที่ป๋าไปตรวจสุขภาพ หมอบอกว่าหัวใจของป๋ากลับมาแข็งแรงเหมือนคนอายุ 40 นั่นเป็นเพราะแตกับพิทแท้ๆ ยิ่งถ้าแตมีหลานให้ป๋าอุ้มเมื่อไหร่ ป๋าคงอยู่กับเราไปอีกนาน”
นพเดินผ่านมาพอดี ได้ยินสองพี่น้องคุยกันจึงหยุดยืนฟังอยู่ห่างๆ ... สุอาภานิ่งไป หน้าสลดลง
“มันคงไม่มีวันนั้นหรอกพี่ต่าย เพราะคนที่พิทรักคือคุณรวี ไม่ใช่แต”
“แต่แตกับพิทแต่งงานกันแล้วนะ”
“มันไม่สำคัญหรอกพี่ต่าย แตมองออก สายตาที่เค้ามองกัน มันยังมีเยื่อใยอยู่ตลอดเวลา ถ้าคุณรวีไม่ต้องแต่งงานกับนายภูวดล บางทีเค้าสองคนอาจจะคืนดีกันก็ได้”
สุอาภาหน้าเศร้าลงไปอีก ... ต่ายชะงักอึ้งไปอย่างเป็นห่วงความรู้สึกของน้องสาว
“แต่ป๋าว่า เรื่องที่มันผ่านไปแล้ว อย่าเอามันมาเป็นทุกข์ที่คอยทำร้ายตัวเองเลยนะลูก”
สุอาภากับวรรรวดีหันไปมองนพที่เดินเข้ามา
“ป๋า!”
“ลูกของป๋าควรจะเข้มแข็ง แล้วเดินต่อไปข้างหน้าให้ได้...อีกอย่าง ลูกสาวป๋าไม่ดีตรงไหน ทำไมพิทจะรักไม่ได้”
“ยังไงพิทก็ไม่มีวันจะรักคนที่ทำร้ายเขาได้หรอกค่ะป๋า ที่พิททำอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะสัญญาที่พิทให้ไว้กับป๋า ป๋าเลี้ยงพิทมา ป๋าน่าจะรู้ว่าพิทเป็นคนรักษาสัญญาแค่ไหน”
“การใช้ชีวิตคู่น่ะ เราต้องไว้ใจและเชื่อใจคู่ชีวิตของเรา อย่าเอาแต่คิดเองเออเอง หรือยึดเอาแต่ความคิดของเราฝ่ายเดียว มีอะไรก็คุยกันตรงๆ สิลูก”
นพส่งสายตาให้กำลังใจลูกสาว วรรณวดีเข้ามากอดน้องสาวไว้เหมือนให้กำลังใจ
สุอาภาแววตาทั้งหวั่นไหวทั้งสับสน ... ทั้งพ่อกับพี่สาวมองสุอาภาอย่างเป็นห่วง

บริเวณระเบียงบ้าน พิทยาเก็บเตาปิ้งบาร์บีคิวเสร็จเรียบร้อยพอดี นพเดินเข้ามาหา
“ฉันขอคุยอะไรหน่อยได้มั้ย”
พิทยานิ่งไป พยักหน้าตอบรับ
“ครับ”
“ที่เธอยอมแต่งงานกับยัยแต ไม่ใช่แค่เพื่อแก้ปัญหาชั่วครั้งชั่วคราวหรอกใช่มั้ย”
“ผมไม่เคยคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่นๆ ผมจะไม่ทำให้คุณแตต้องเสียชื่อ หรือเสียใจเด็ดขาด คุณอาอย่าห่วงไปเลยครับ”
“ขอบใจ...แล้วเธอเคยถามตัวเองบ้างมั้ย ว่ารู้สึกยังไงกับยัยแต”
พิทยานิ่งไป
“คุณแตเธอเป็นทั้งเพื่อน แล้วก็น้องสาวคนเดียวที่ผมมี”
นพมองสบตาพิทยาก็รู้ว่าจริงๆ แล้วพิทยาก็รู้สึกดีๆ กับสุอาภาเหมือนกัน
“เธอคิดแค่นั้นจริงๆ เหรอพิท”
นพมองพิทยา พิทยาเงียบ
“เธอไม่ต้องตอบฉันก็ได้ แต่ตอบตัวเองให้ได้ก็พอ…ที่สำคัญอย่ามัวแต่เก็บงำความรู้สึกของตัวเอง จนสายเกินไป มันไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรที่เราจะยอมรับความรู้สึกของตัวเอง และแสดงความรู้สึกที่แท้จริงของเราให้คนคนนั้นได้รับรู้”
นพยิ้มเป็นกำลังใจให้พิทยา ... เขานิ่งฟังอย่างครุ่นคิด

พิทยานั่งอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านครุ่นคิดประมวลคำพูดของนพ และความรู้สึกที่มีต่อสุอาภา เช่นเดียวกับ
สุอาภาที่อยู่ในห้องนอน เธอนอนไม่หลับเพราะครุ่นคิดถึงคำพูดของและและประมวลความรู้สึกที่มีต่อพิทยาเช่นกัน
ทั้งคู่ คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา...
สุอาภาเกือบถูกภูวดลปล้ำ พิทยาตามมาช่วยด้วยความเป็นห่วงมาก
พิทยาโดนซ้อมป่วยอยู่โรงพยาบาลสุอาภาไปคอยเฝ้าดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำอย่างเป็นห่วง
สุอาภาติดฝนโดนต้นไม้ล้มทับหน้ารถ พิทยาก็รีบตามหาสุอาภาด้วยความร้อนใจ
สุอาภากับพิทยาเบียดกันแนบชิดในคอกม้า
พิทยาเอาผ้าห่มมาห่มรอบตัวให้สุอาภาแล้วกอดเอาไว้
พิทยากับสุอาภานอนกอดกันที่โซฟา
พิทยากับสุอาภาแย่งกันป้อนอาหาร แล้วจูบกันผ่านขนมปังอย่างไม่ได้ตั้งใจ
พิทยานิ่งคิดเหมือนเริ่มรู้หัวใจตัวเองว่ารักสุอาภา
สุอาภาเดินออกมาที่ระเบียงหน้าบ้านพอดี เธฮสบตากับเขา
“คุณแต”
“ฉันนอนไม่หลับน่ะ ก็เลยออกมาเดินเล่น...ป๋า พี่ใหญ่ พี่ต่ายล่ะ”
“เข้านอนกันไปหมดแล้ว”
พิทยากับสุอาภาจ้องหน้ากันนิ่งไปครู่หนึ่ง ในใจต่างลังเลกันมาก แล้วพูดขึ้นพร้อมกัน
“คือผม - คือฉัน”
“คุณแตพูดก่อนละกัน”
“ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็คงจะดี ฉันคงไม่ทำตัวงี่เง่าทำลายความรักของนายกับคุณรวีแบบนั้น”
“คุณรู้ตัวด้วยเหรอว่าทำตัวไม่ดี”
สุอาภาชะงักและอึ้งไป
“เมื่อก่อนฉันคงนิสัยเสีย งี่เง่า เอาแต่ใจมากสินะ”
“มาก”
สุอาภาเหวอไม่คิดว่า พิทยาจะตอบตรงขนาดนี้ เธอมองค้อนเขา
“ตอบตรงไปรึเปล่าเนี่ย”
“ถึงคุณจะงี่เง่าเอาแต่ใจไปบ้าง แต่บางทีคุณก็น่ารักเป็นเหมือนกัน”
พิทยายิ้มให้ สุอาภาเขินขึ้นมาทันทีแต่ก็พยายามกลบเกลื่อนความรู้สึก
“แล้วนายล่ะ เคยคิดอยากจะกลับไปแก้ไขอะไรบ้างมั้ย”
“เคย ถ้าผมย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะทำในสิ่งที่ผมไม่กล้าทำในตอนนั้น”
“อะไรเหรอ”
“ทำตามหัวใจตัวเอง”
เขาสบตาเธอแบบมีความหมายมาก เธอรอฟัง หัวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก
“แต่เราย้อนเวลากลับไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญสำหรับผมตอนนี้ก็คือปัจจุบัน และผมก็จะทำมันให้ดีที่สุด”
พิทยาเลื่อนมือมากุมมือสุอาภาเอาไว้และยิ้มให้อย่างอบอุ่น เธอยิ้มตอบเขา ในใจมีความสุขมาก ทั้งสองคนยืนดูดาวที่ระเบียงด้วยกันอย่างมีความสุข

เช้าวันถัดมา พิทยาและสุอาภายืนส่ง นพ บวร และวรรณวดีที่หน้าบ้านตากอากาศ ทั้งสามคนจะเดินทางกลับกรุงเทพก่อน เขากับเธอมองตากันไปมา ท่าทางดูสวีทหวานมากกว่าเดิม นพ บวร และวรรณวดีมองแล้วอมยิ้มอย่างมีความสุข
“ฉันฝากงานของคุณทาคาโน่ด้วยนะ”
“ครับ ตอนนี้ผมแก้ไขงานเกือบเสร็จแล้ว ทันตามที่คุณทาคาโน่กำหนดไว้แน่นอนครับ”
บวรยิ้มกรุ้มกริ่ม
“นี่ ไอ้น้องเขย ไหนๆ ได้มาฮันนีมูนกันทั้งที ใช้เวลาให้มันคุ้มค่าหน่อย อย่ามัวทำแต่งาน หาเวลาทำการบ้านบ้าง”
พิทยาหันไปมองหน้าสุอาภาอย่างเขินๆ
สุอาภาตีแขนเพี๊ยะ
“พี่ใหญ่อ่ะ ดีแต่แซวคนอื่น อย่าให้ถึงตาตัวเองบ้างละกัน”
วรรณวดีแกล้งแซวบ้าง
“พี่ว่าแตคงจะได้เวลาเอาคืนเร็วๆ นี้ละมั้ง เดี๋ยวนี้เห็นพี่ใหญ่ชอบแอบคุยโทรศัพท์แบบมีลับลมคมในบ่อยๆ”
ทุกคนหันมามองบวรอย่างแปลกใจกันเป็นตาเดียว บวรถึงกับเหวอ
“เฮ้ย ไม่มีอะไร แกอย่ามาเบี่ยงประเด็นเลยยัยต่าย ไปกันดีกว่า สายแล้วเนี่ย”
บวรกลบเกลื่อนทำเป็นเดินไปขึ้นรถ ... ทุกคนหัวเราะขำที่แกล้งเอาคืนบวรได้สำเร็จ
“ป๋าไปก่อนนะ”
นพกับวรรณวดีเดินไปขึ้นรถ บวรลดกระจกรถลง
“ขับรถดีดีนะคะ”
“จ้ะ”
ทุกคนโบกมือให้สุอาภา สุอาภาโบกมือตอบ บวรขับรถออกไป … พิทยากับสุอาภาหันมายิ้มให้กัน
เวลาเช้า รวีพรรณกดออดที่หน้าบ้านพิทยา ไม่มีคนมาเปิดประตู เธอแปลกใจ เดินไปตรงประตูทางโรงรถ ไม่มีรถจอดในบ้านซักคัน รวีพรรณครุ่นคิด ไม่พอใจมาก
“ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าไปที่ไหนกัน”

ภายในออฟฟิศ นพ อาร์คิเทค ที่หน้าของทำงานของพิทยา รวีพรรณยืนอยู่กับปวีณา เธอมองปวีณาด้วยสีหน้าคาดคั้นมาก
“ดิฉันไม่ทราบค่ะ ว่าคุณพิทไปไหน”
รวีพรรณเหวี่ยงใส่อย่างไม่สบอารมณ์ทันที
“เธอเป็นเลขาประสาอะไร เจ้านายไปไหนทำไมไม่รู้”
ปวีณาเริ่มโมโห
“คุณก็ไม่ใช่ภรรยาคุณพิทนี่คะ ทำไมจะต้องอยากรู้ไปซะทุกเรื่อง”
รวีพรรณอึ้งที่โดนปวีณาย้อน
บวรเดินเข้ามาพอดี ปวีณาโล่งใจที่เห็นบวรเดินเข้ามา แต่พอหันไปสบตาบวร ปวีณาก็หันไปทางอื่นแบบเชิดๆ บวรชะงักไปเล็กน้อย
“มีอะไรกันเหรอ”
ปวีณาเสียงห้วน
“คุณรวีมารอพบคุณพิท แต่ฉันบอกแล้วว่าไม่รู้ว่าคุณพิทไปไหน เธอก็ไม่เชื่อ”
รวีพรรณหันมามองคาดคั้นเอากับบวร
“พี่ไม่รู้ว่าแตกับพิทไปที่ไหน รวีมีอะไรรึเปล่า”
“รวีมีธุระสำคัญที่ต้องคุยกับพิทน่ะค่ะ แต่รวีติดต่อพิทไม่ได้เลย”
“เห็นพิทบอกว่าจะปิดมือถือ เพราะมันไม่อยากให้ใครรบกวน”
รวีพรรณชะงัก ปวีณาดูหน้าซึมไป บวรแอบสังเกตเห็น
“พี่ไปทำงานก่อนนะ” บวรยิ้มๆแล้วก็เดินออกไป
“ฉันก็ขอตัวเหมือนกัน”
ปวีณาเดินตามบวรออกไป รวีพรรณหัวเสียสุดๆ

ปวีณานั่งซึมอยู่ที่โต๊ะ บวรเดินผ่านมาพอดีเห็นอาการก็หยุดมอง
“เธอชอบพิทเหรอ”
ปวีณาหันขวับมามองบวรหน้าถอดสี
“คุณพูดอะไร”
“ไม่ต้องปฎิเสธหรอก ฉันเห็นสีหน้าเธอก็รู้แล้ว”
ปวีณาหันหน้าไปทางหน้าต่าง น้ำตาซึม บวรเหล่มองรู้ว่า ปวีณาร้องไห้
“ทำใจซะเถอะ ยังไงเธอกับพิทก็ไม่มีทางเป็นไปได้”
“ฉันรู้ นี่ฉันก็พยายามอยู่ แต่อกหักมันไม่ได้หายง่ายๆเหมือนคนเป็นไข้หวัดนะคะ”
บวรหันไปมองปวีณาด้วยความเห็นใจ

ภายในบ้านพักตากอากาศ พิทยานั่งทำงานต่ออย่างตั้งใจ ... สุอาภาเดินเอากาแฟมาวางให้ที่โต๊ะแล้วมองงานพิทยาอย่างสนใจ
“ขอบคุณครับ”
สุอาภาเดินไปนั่งเล่นที่โซฟาแอบมองอย่างเอาใจช่วยพิทยา แล้วก็เผลอหลับไป
พิทยาแก้แบบแปลนห้างสรรพสินค้าเสร็จเรียบร้อยแล้วก็นั่งมองอย่างภูมิใจ เธอตื่นขึ้นมาพอดี เห็นพิทยานั่งมองหน้าจออยู่ก็เดินเข้าไปหาอย่างดีใจ
“เสร็จแล้วเหรอ”
พิทยาพยักหน้าให้ยิ้มๆ
“เยส!”
สุอาภาเผลอเข้ามากอดพิทยา พิทยาชะงัก เธอนึกขึ้นได้รีบผละออกห่างทำกลบเกลื่อนไปกดเลื่อนดูงานของเขาในโน้ตบุ๊ก
“นายนี่ฝีมือสุดยอดจริงๆ รับรองว่าสองพ่อลูกนั่นพูดอะไรไม่ออกแน่ นี่ถ้านายถูกซื้อตัวไปอยู่บริษัทอื่น ป๋าฉันจะทำไงดีเนี่ย”
“วางใจเถอะคุณแต ผมจะไม่ไปไหนอีกแล้ว”
พิทยามองสุอาภาแววตาจริงจัง จนเธอเขิน
“งานเสร็จแล้ว กลับกันเลยมั้ย”
“ไหนๆ เราก็มาถึงนี่แล้ว เราไปเที่ยวกันต่อดีกว่า”
พิทยายิ้มให้ สุอาภาสีหน้าประหลาดใจ

พิทยาพาสุอาภาไปเที่ยวด้วยกัน เริ่มด้วยการช็อปปิ้ง ทั้งคู่ช่วยกันเลือกซื้อของอย่างสนุกสนาน เธอเลือกซื้อของฝากเยอะแยะมากมาย เขาคอยหยิบออก แต่สุดท้ายเธอก็ซื้อมาจนได้ เขาได้แต่ส่ายหัวยิ้มๆ
สุอาภาเดินช็อปปิ้งจนเริ่มเหนื่อยและร้อนเพราะแดดส่อง เธอหยุดเดินเอามือยกบังแดดอีกข้างก็ยกขึ้นมาพัด หันมองหาเขาแต่ไม่เห็นวี่แวว จู่ๆ เขาก็เอาหมวกมาสวมให้เธอ และเอาพัดยัดใส่มือให้อีกมือหนึ่ง เธออึ้งไปหันไปมองเขา เห็นเขาใส่หมวกและถือพัดเหมือนกัน ทั้งสองคนหัวเราะให้กันยิ้มๆ เดินไปพัดไปอย่างมีความสุข
พิทยากับสุอาภามากินสเต็กด้วยกัน น้ำเกรวี่เลอะมุมปากเขา เธอหัวเราะแล้วเอามือชี้ที่มุมปาก เขาเช็ดออกอย่างเขินๆ ต่างคนต่างหัวเราะกัน
พิทยากับสุอาภาเดินชมวิว ถ่ายรูปไปเรื่อย ผลัดกันถ่าย ทำท่าทางตลกๆ ไปนั่งกระเช้าลอยฟ้า ขับรถเอทีวี ขี่ม้า ขึ้นบอลลูนลอยฟ้าชมวิวด้วยกัน เขากับเธอถ่ายรูปด้วยกันตามที่ต่างๆ ท่าทางมีความสุขมาก

ภายในออฟฟิศภูวดล … ภาสันต์ กับภูวดลยืนอยู่กับทาคาโน่
“ผมจะตั้งใจทำงานเต็มที่ และจะพยายามเรียนรู้งานให้เร็วที่สุดครับ”
ทาคาโน่ยิ้ม
“ผมมั่นใจว่าคุณทำได้ ผมดีใจที่คุณให้โอกาสลูกชายของคุณมาช่วยงาน ผมเป็นคนรักครอบครัว การที่คนในครอบครัวช่วยเหลือกัน จะทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี”
ทาคาโน่หันไปตบบ่าภูวดลบอก “ยินดีต้อนรับ”
ภูวดลยิ้มรับ ภาสันต์แอบเซ็ง หลังทาคาโน่เดินออกไป ภาสันต์หันมาพูดกับภูวดล
“ทำให้ได้อย่างที่พูด แล้วก็อย่าทำให้ฉันขายหน้าเป็นอันขาด”
ภาสันต์พูดจบก็เดินออกไป ภูวดลหันไปมองตามพ่อด้วยแววตาแค้น

ภายในห้องรับแขกบ้านสุอาภา ถุงซึ่งใส่ของฝากวางเต็มโต๊ะ พิทยากับสุอาภายืนอยู่กับ นพ บวร วรรณวดี ป้าณี และแม่บ้าน สุอาภาหยิบถุงขึ้นมา2-3ถุงบอก
“นี่ของป้าณีกับทุกๆคนจ๊ะ”
ณีเข้ามารับถุงจากมือสุอาภา พวกแม่บ้านต่างยิ้มดีใจ
“ขอบคุณนะคะคุณหนู”
“ทำไมซื้อของมาเยอะแยะอย่างนี้ล่ะลูก” นพถาม
“ที่เห็นนี่ยังส่วนน้อยนะครับ ยังมีในรถอีกเพียบ ไม่รู้ว่าซื้อมาขายรึเปล่า” พิทยาบอก
สุอาภาหันขวับ

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 10/7 วันที่ 21 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3 (ต่อจากเหนือเมฆ)
ที่มา manager