@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 12 วันที่ 13 ม.ค. 56

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 12 วันที่ 13 ม.ค. 56

“ผมเคยถามแล้วใช่ไหมว่าฟ้ามีปัญหาอะไรทำไมต้องมาอยู่ แล้วทำไมไม่บอก ฟ้าเห็นแก่ตัวมาก” เมฆว่า
ยุทธการจับแขนเมฆไว้แล้วพยักหน้าให้เป็นทำนองว่าขอจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
“ผมสารวัตรยุทธการนะครับ”
อิงฟ้าอึ้ง “สารวัตร!”
“คุณฟ้าพอจะรู้ใช่ไหมว่าใครเป็นคนจับตัวหมอกไป” ยุทธการถาม
อิงฟ้าพยักหน้ารับ “ค่ะ”
“ถ้างั้นพวกเราขอคุยกับคุณอิงฟ้าหน่อยนะครับ”

อิงฟ้าผายมือให้ทุกคนเดินเข้าบ้าน แต่พอจะปิดประตูจ่าสมก็เดินเข้ามา อิงฟ้าเห็นหน้าจ่าสมก็มองจ้องอย่างตกตะลึง
“ไม่ต้องห่วง พ่อจะไม่บอกใคร ตอนนี้ขอแค่ได้หลานคืนก็พอ” จ่าสมพูด



อิงฟ้าร้องไห้เสียใจ ในขณะที่เมฆ ยุทธการ นิค และเอวานั่งอยู่ที่โซฟา แต่จ่าสมยืนห่างออกมา
“เขาชื่อเฮลมุท ที่เขาบอกฉันก็คือเขาเป็นนักธุรกิจเยอรมัน เขาดูชอบฉันมากฉันจึงคิดจะไปสร้างชีวิตใหม่กับเขา แต่พอไปอยู่ด้วยกันสักพักฉันก็รู้ว่าเฮลมุทไม่ได้มีธุรกิจอะไรเลย นอกจากคบค้ากับพวกมาเฟียที่นั่นแล้วก็มีเงิน ยิ่งหลังๆตำรวจเยอรมันก็เริ่มสะกดรอยตามฉันจนฉันทนไม่ไหวจึงอยากขอเลิก เฮลมุทโกรธมากฉันจึงต้องหนีกลับมาที่นี่ แต่ไม่คิดว่าเขาจะตามมา”
พอฟังเรื่องจากอิงฟ้าแล้วทุกคนก็สงสัยมาก
“แค่ตามเมียเนี่ยนะ ถึงกับต้องตามจับเด็กไปด้วย” นิคสงสัย
“นั่นสิ ซันเลยซวยไปด้วยเลย” เอวาบอก
พูดจบเอวาก็หันไปมองหน้าอิงฟ้าอย่างไม่ค่อยพอใจ
“มันไม่ใช่แค่เรื่องสามีภรรยาหรอกนิค เอวา” ยุทธการพูดขึ้น
ทุกคนมองไปที่ยุทธการ
“คุณอิงฟ้าครับ คุณทราบไหมครับว่าเปเปอร์คืออะไร”
“กระดาษเหรอคะ”
“นั่นแหล่ะครับ มันคืออะไร เพราะตอนที่เราบุกจับพวกมันที่เมืองไทย เราเจอเมล์ของพวกมันให้ตามหาตัวคุณเพื่อเอาเปเปอร์”
อิงฟ้าพยายามนึก “ฉันไม่รู้จริงค่ะ”
“ฟ้า ผมขอร้องล่ะ ถ้ารู้อะไรก็รีบบอกตำรวจไปเถอะ เพราะตอนนี้ชีวิตของหมอกกับซันกำลังอยู่ในอันตรายนะ” เมฆไม่พอใจ
“ฟ้าไม่รู้จริงๆนะเมฆ ถ้าฟ้ารู้ฟ้าก็บอกไปแล้วสิ”
เมฆกับฟ้าอารมณ์เสียใส่กัน
“แล้วตอนคุณหนีมา คุณได้หยิบอะไรของพวกมันติดมาบ้างหรือเปล่าครับ” ยุทธการถาม
“ฉันก็แค่เอาเงินสดกับเสื้อผ้าติดตัวมาแค่นี้จริงๆค่ะ ถ้าคุณไม่เชื่อก็ขึ้นไปค้นได้เลย เชื่อฉันเถอะ ถึงฉันจะเลวยังไงฉันก็ไม่เคยคิดจะร่วมค้ายาเสพติดแน่นอน”
ทุกคนคิดหนัก
“ถ้างั้นเราจะเอายังไงดีครับสารวัตร” เมฆถาม
ทุกคนนิ่งเงียบ อิงฟ้าจึงพูดขึ้นมา
“ในเมื่อพวกมันต้องการตัวฉัน ฉันก็จะไป”
ทุกคนมองอิงฟ้าอย่างตกตะลึง โดยเฉพาะจ่าสม
“แต่ผมเกรงว่ามันจะไม่ปลอดภัยนะ” ยุทธการบอก
“ใช่ครับ เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดีกว่า” จ่าสมค้าน
“เราไม่มีทางเลือกหรอกค่ะ เชื่อฉันเถอะ อย่างน้อย ฉันก็อยากทำเพื่อลูกสักครั้ง”
“คุณแน่ใจนะครับ” ยุทธการถาม
อิงฟ้าพยักหน้ารับอย่างมั่นใจ จ่าสมยืนมองอิงฟ้าแล้วก็ยิ้มปลื้มจนน้ำตาคลอ

จ่าสมขับรถ โดยมียุทธการกับอิงฟ้านั่งอยู่ในรถ จ่าสมมองอิงฟ้าผ่านกระจกมองหลัง แต่อิงฟ้าหลบหน้าแล้วร้องไห้ จ่าสมต้องเบือนหน้าหนีด้วยความสงสาร

เมฆพาอิงฟ้าเข้ามาในตึกร้าง เฮลมุทเดินออกมาพร้อมกับลูกน้องอีก 2 คน
“ในที่สุดเธอก็กลับมาหาฉันจนได้นะอิงฟ้า” เฮลมุทว่า
“ไม่ต้องพูดมาก เอาลูกฉันคืนมา” อิงฟ้าบอก
อิงฟ้าจะเดินเข้าไปหา แต่เมฆจับแขนเธอไว้พยายามให้เธอใจเย็นลง
“สองคนนั้นอยู่ไหน ?” เมฆถาม
“ใช่ ฉันมาที่นี่แล้วไง ต้องการตัวฉันไม่ใช่เหรอ ปล่อยลูกฉันเถอะ” อิงฟ้าบอก
“นอกจากตัวเธอแล้ว อิงฟ้า สิ่งที่ฉันต้องการจากเธออีกอย่าง คือ จี้” เฮลมุทมองไปที่คออิงฟ้าแต่ไม่เห็นจี้ “จี้ไปไหน ปกติเธอใส่ติดตัวตลอดนิ”
“นี่จับลูกฉันมาเพราะต้องการจี้ที่คุณให้ฉันคืนเนี่ยนะ”
เฮลมุทเข้าไปจับหน้าอิงฟ้า “จำไว้ อะไรที่มันเป็นของฉัน มันต้องเป็นของฉัน !!”
ลูกน้องของเฮลมุทเอาปืนเล็งมาที่เมฆกับอิงฟ้า ทั้งสองตกใจ เครื่องดักฟังติดอยู่ที่หูของคนทั้งสอง

ยุทธการกำลังนั่งฟังเรื่องที่เมฆคุยกับเฮลมุทผ่านเครื่องดักฟังอยู่ที่หน้าตึกร้าง
“ไอ้เฮลมุทมันพูดถึง “จี้” ที่ให้คุณอิงฟ้าไว้ แสดงว่าหลักฐานอาจจะอยู่ในจี้นั้นก็ได้”
“แล้วถ้าไอ้เฮลมุทมันไม่ได้จี้ไป ทุกคนข้างในก็แย่น่ะสิครับ” จ่าสมเป็นห่วง
“ผมว่า ไอ้เฮลมุทยังไม่กล้าทำอะไรแน่ ถ้ามันยังไม่ได้จี้ไป จ่าจี๊ดเราส่งคนไปหาจี้ที่บ้านคุณเมฆด้วย จ่าสมคุณอ้อมไปขึ้นอีกด้านนะ แล้วรออยู่รอบนอกก่อน อย่าเพิ่งเข้าไป เดี๋ยวพวกมันจะรู้ตัว”
“หวังว่าคุณเมฆจะสามารถต่อรองกับมันตามแผนที่คุยกันไว้นะ”
“ยังไงเราก็ต้องเห็นตัวประกันก่อน ถึงจะบุกเข้าไปได้”
ยุทธการกับจ่าสมแยกกันไปคนละทาง

เฮลมุทกับลูกน้องเดินเข้าไปใกล้เมฆกับอิงฟ้า
“จี้ อยู่ไหน !!!”
“จี้ อยู่ที่ฉัน” เมฆบอก
เฮลมุทได้ยินจึงหันมาหาเมฆ
“แกจะมาไม้ไหน” เฮลมุทถาม
“ฉันไม่ได้โกหก อิงฟ้าให้จี้กับหมอกไว้ ฉันเก็บไว้เอง”
“งั้นไปเอาจี้มาให้ฉัน”
“ไม่ ฉันขอเห็นลูกกับคนของฉันก่อน”
เฮลมุทยิ้มแล้วสั่งลูกน้องอีกสองคน
“เอามันสองคนออกมา”
ลูกน้องอีกสองคนพาตัวตะวันฉายและหมอกออกมา
“แม่ !!! พ่อ !!!”
อิงฟ้ากับเมฆเห็นทั้งสองก็ดีใจ
เมฆแอบกระซิบใส่เครื่องดักฟัง “เจอตัวหมอกกับซันแล้ว มันมีลูกน้องทั้งหมด 6 คน”
ยุทธการสั่งผ่านว.ทันที
“พบตัวประกันแล้ว คนร้ายมี 7 คน คาดว่าอาวุธครบมือ ทุกคนกระชับพื้นที่ได้ ระวังตัวประกันด้วย”

เฮลมุทที่อยู่ในโกดังออกคำสั่ง
“ไปเอาของมาให้ฉันได้แล้ว”
“เอางี้นะ ฉันจะไปกับลูกน้องแก ไปเอาจี้มาให้แก แต่แกปล่อยทุกคนไปก่อนซิ จับฉันไว้คนเดียวก็พอ แกจะจับคนอื่นไปทำไมให้เยอะแยะละ”
“แล้วฉันจะไว้ใจแกได้ยังไง ฉันจับเด็กไว้เป็นตัวประกันดีกว่า” เฮลมุทบอก
เฮลมุทไปดึงหมอกมา ตะวันฉายรีบขวางไว้
“ไม่ได้นะ จับตัวฉันไว้ก็ได้ ปล่อยเด็กไปเถอะ” ตะวันฉายขอ
อิงฟ้าจะวิ่งเข้าไปหาหมอกแต่ก็โดนลูกน้องจับไว้
“แกอย่าทำอะไรลูกฉันเลยนะ”
เมฆจะเข้าไปช่วยหมอก เฮลมุทถีบเมฆจนกระเด็น ลูกน้องเฮลมุทยกปืนขึ้นขู่ ตะวันฉายเห็นก็เป็นห่วงเมฆ
“คุณเมฆ”
“แหม รักกันจังเลยนะ รำคาญจริงๆ ไปแกไปเอาจี้มาได้ละ ฉันจับทุกคนไว้เป็นตัวประกันหมดแหละ ถ้าภายใน 1 ชั่วโมงแกยังไม่กลับมา ฉันจะยิงทิ้งทีละคน” เฮลมุทว่า
เมฆมองด้วยความเจ็บใจ เขาแอบเห็นพวกตำรวจเข้ามาบริเวณใกล้ๆ จึงคิดแผนใหม่
“ฉันขี้เกียจไปละ ฉันบอกเลยก็แล้วกันว่าจี้อยู่ไหน แกก็ให้ลูกน้องแกไปเอามาดีไหม มานี่ฉันบอกแกให้”
เมฆเข้าไปใกล้ๆ เฮลมุท “จี้อยู่ในตู้เซฟ...บุกเลยครับสารวัตร”
เมฆอาศัยจังหวะที่เฮลมุทเผลอต่อยไปที่ท้องของเฮลมุทจนเขาล้มลง ในระหว่างนั้น ตำรวจก็โผล่มาพอดี
“หยุดนะ นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ” ยุทธการตะโกนลั่น
พวกเฮลมุทตกใจพยายามวิ่งหนีและหาที่กำบัง ลูกน้องเปิดฉากยิงต่อสู้กับตำรวจ ตำรวจก็หลบเข้าที่กำบัง
อิงฟ้า ตะวันฉาย หมอก วิ่งหนีไปด้วยกัน เฮลมุทเห็นจึงสั่งให้ลูกน้องรีบตามไป ส่วนตัวเองหลบไปอีกด้าน เมฆเห็นพวกตะวันฉายวิ่งไปก็พยายามจะหาทางตามไป แต่ก็ยังฝ่าห่ากระสุนไปไม่ได้
จ่าสมแอบตามพวกตะวันฉายไป ส่วนที่เหลือก็ยิงต่อสู้กัน

ตะวันฉายกับอิงฟ้าพาหมอกหนีมาหลบอยู่ที่หนึ่ง
“เราหลบอยู่ที่นี่ก่อนดีไหมคับ เดี๋ยวตำรวจคงเคลียร์สถานการณ์ได้” ตะวันฉายบอก
“นายพาหมอกหนีออกไปเถอะ ฉันกลัวพวกมันจะตามมาเจอ ไอ้เฮลมุทมันคงไม่ปล่อยฉันแน่”
“ไม่ครับ ถ้าจะหนีเราจะหนีด้วยกัน” ตะวันฉายพูดกับหมอก “อดทนอีกหน่อยนะคับคุณหมอก”
ตะวันฉายกับอิงฟ้าพาหมอกออกมาจากที่ซ่อนแล้วเจอลูกน้องเฮลมุทอยู่ไกลๆ ลูกน้องเห็นก็ยิงปืนใส่ ตะวันฉายเห็นลูกน้องยิงปืนมาจึงรีบผลักทุกคนหลบทำให้กระสุนโดนที่แขนของเธอ
“คุณอิงฟ้า รีบพาหมอกหนีไปเถอะครับ เร็ว!!!” ตะวันฉายบอก
อิงฟ้าเป็นห่วงตะวันฉายแต่ก็เป็นห่วงหมอกมากกว่าเลยตัดสินใจอุ้มหมอกหนีไป
“ขอบใจมากนะซัน”
ลูกน้องคนหนึ่งเข้ามาจับตัวตะวันฉายไป ส่วนลูกน้องอีกคนวิ่งตามอิงฟ้ากับหมอกไป

ลูกน้องเฮลมุทตามอิงฟ้ากับหมอกมาจนทัน เขาคว้าตัวอิงฟ้าไว้ อิงฟ้าพยายามต่อสู้ จ่าสมเข้ามาช่วยอิงฟ้าโดยการเอาไม้ฟาดไปที่ลูกน้องเฮลมุทจนล้มลง
“พ่อ !!!” อิงฟ้าดีใจ
จ่าสมเข้าไปดูอิงฟ้า “ไม่เป็นไรใช่ไหมลูก ?”
“คะพ่อ”
“หมอกเป็นไงบ้าง เจ็บตรงไหนป่าว”
“ไม่ครับ” หมอกตอบ
“แล้วซันละ เมื่อกี๊เห็นหนีมาด้วยกัน” จ่าสมถาม
“ซันโดนยิงคะ ตอนนี้น่าจะถูกพวกลูกน้องจับไปแล้ว พ่อช่วยซันด้วยนะคะ”
“ได้ แต่ตอนนี้พ่อพาเราออกไปจากตรงนี้ก่อน มันไม่ปลอดภัย” จ่าสมหยิบว.ขึ้นมาพูด “ช่วยอิงฟ้ากับหมอกได้แล้ว แต่ซันโดนจับตัวไป และได้รับบาดเจ็บ”
ทันใดนั้นลูกน้องเฮลมุทก็ลุกขึ้นแล้วเอาปืนจ่อมาที่จ่าสม อิงฟ้าเห็นก็ร้องลั่น
“พ่อ ระวัง!!”
เสียงปืนดังขึ้น ทุกคนตกใจหันไปดูจึงเห็นว่ายุทธการยิงลูกน้องเฮลมุทตาย จ่าสมมองยุทธการอย่างขอบคุณ
“สารวัตรรีบไปช่วยคุณซันเถอะครับ ทางนี้ผมจัดการเอง”
ยุทธการรีบเดินออกไป

ลูกน้องเฮลมุทอีกคนพาตะวันฉายกลับมาหาเฮลมุท
“แล้วอิงฟ้าละ” เฮลมุทถาม
“หนีไปกับเด็กครับ จับได้คนเดียวครับนาย”
เฮลมุทโมโห เมฆย่องเข้ามาพร้อมกับคิดหาทางช่วยตะวันฉาย
“พวกแกมันไม่ได้เรื่อง” เฮลมุทว่า
เมฆเห็นท่อนไม้จึงหยิบและโยนไปด้านหนึ่งทำให้เกิดเสียงดัง เฮลมุทหันไปดู เมฆเอาทรายที่กำไว้ปาใส่หน้าลูกน้องแล้ววิ่งเข้าไปต่อยเฮลมุท ก่อนจะรีบวิ่งไปหาตะวันฉาย เฮลมุทวิ่งเข้าไปกระชากเมฆออกมา ทั้งสองต่อยกัน ลูกน้องเข้ามาช่วยจับเมฆ ทำให้เมฆจะโดนรุม
ตะวันฉายร้องลั่น “คุณเมฆ”
ยุทธการวิ่งเข้ามากระโดดถีบใส่เฮลมุท ทำให้เมฆดิ้นหลุดออกมา ลูกน้องชักปืนจะยิงยุทธการ ยุทธการหลบแล้วยิงสวนจนลูกน้องล้มลง
“พี่ยุทธ ระวัง” ตะวันฉายร้องเตือน
เฮลมุทเล็งปืนมาที่ตะวันฉาย เมฆเห็นเลยกระโดดเอาตัวบัง ทำให้เมฆโดนยิงเข้าที่ท้อง ยุทธการหันมายิงมือเฮลมุทจนปืนกระเด็นไปแล้วก็รีบเข้ามาล็อคตัวเฮลมุทก่อนจะดันให้นอนราบลงกับพื้น พร้อมกับเอามือไขว้หลังแล้วเอาเข่ายันไว้ ตะวันฉายตกใจรีบเข้าไปดูอาการเมฆ
“คุณเมฆ คุณเมฆ!!!”
ตำรวจกลุ่มใหญ่บุกเข้ามาช่วยยุทธการจับเฮลมุท เมฆยังนอนอยู่ในอ้อมแขนของตะวันฉาย ยุทธการรีบเข้าไปดูอาการของเมฆ

เมฆนอนบนเตียงพยาบาลกำลังถูกพาขึ้นรถพยาบาล โดยที่ตะวันฉายก็ขึ้นไปด้วย เฮลมุทกับลูกน้องถูกใส่กุญแจมือพาขึ้นรถตำรวจออกไป ยุทธการหันไปมองรถตำรวจที่เพิ่งแล่นไป

ยุทธการเดินมาหาจ่าสมกับอิงฟ้าที่กอดหมอกอยู่ ยุทธการไปดึงหมอกออกมา
“หมอกครับ เราไปดูคุณพ่อกันเถอะนะครับ” ยุทธการบอก
“แม่ล่ะครับ” หมอกถาม
“เดี๋ยวให้คุณแม่จัดการธุระแล้วตามเราไปนะครับ”
“แม่รีบตามไปนะครับ”
อิงฟ้าน้ำตาไหล “ครับหมอก”
ยุทธการยิ้มให้อิงฟ้าแล้วพาหมอกเดินไปขึ้นรถก่อนจะขับออกไป จ่าสมมองหน้าอิงฟ้าแล้วน้ำตาก็ไหล
“ฟ้า”
“พ่อคะ ฟ้ากลัว”
“ถ้าฟ้าพูดความจริง ฟ้าจะไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัวลูก”
“ค่ะพ่อ”
จ่าสมเอากุญแจมือใส่ข้อมืออิงฟ้า ทั้งสองร้องไห้แล้วพากันขึ้นรถตำรวจไป

นิคกับเอวานั่งรออย่างกระวนกระวายอยู่ในโรงเรียนดนตรี แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“คะพี่ยุทธ... อะไรนะคะ...คะ ได้คะ”
เอวาวางสาย นิครีบถามอย่างเป็นห่วง
“เป็นยังไงบ้างเอวา”
“เออ เราต้องรีบไปโรงพยาบาล” เอวาบอก

รถพยาบาลแล่นเข้ามาจอดหน้าโรงพยาบาล รถตำรวจที่ยุทธการ นิค เอวา และหมอกนั่งมาด้วยมาจอดต่อท้าย บุรุษพยาบาลรีบมาเปิดประตูท้ายรถแล้วช่วยกันเข็นเตียงของเมฆที่นอนสลบและมีเครื่องช่วยหายใจออกมา ตะวันฉายที่บาดเจ็บที่แขนรีบวิ่งตามลงมาจากรถด้วย โดยที่ตะวันฉายจับมือของเมฆไว้ตลอดทั้งๆที่แขนตัวเองก็เจ็บ
“คุณเมฆอย่าเป็นอะไรนะ คุณต้องเข้มแข็งไว้นะ”
ทุกคนรีบเข็นเตียงของเมฆเข้าห้องฉุกเฉินโดยมีตะวันฉายวิ่งจับมือเมฆไว้ตลอด ยุทธการ นิคอุ้มหมอก และเอวาวิ่งตาม รถเข็นของเมฆถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉินตะวันฉายเดินเข้าไปด้วย พยาบาลมากันคนอื่นเอาไว้
“ขอเฉพาะผู้ได้รับบาดเจ็บนะคะ” พยาบาลบอก
ยุทธการ นิค เอวา และหมอกมองเข้าไปในห้องด้วยความเป็นห่วงเมฆ

เมฆถูกเข็นเข้าไปที่เตียงแล้วพยาบาลก็รูดม่านปิด หมอเดินเข้าไปด้วย ตะวันฉายจะตามเข้าไปแต่พยาบาลดึงไว้
“ของคุณเชิญทำแผลทางนี้ค่ะ” พยาบาลบอก
“เดี๋ยวได้ไหมคะ ฉันเป็นห่วงเขา” ตะวันฉายต่อรอง
“คุณเข้าไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ รักษาตัวเองก่อนดีกว่าค่ะ”
ตะวันฉายจำใจต้องเดินไปอีกมุม หมอกับพยาบาลอีกชุดเข้ามาทำแผลให้ตะวันฉาย หมอถามอะไรตะวันฉายก็ไม่ตอบเพราะยังเป็นห่วงเมฆที่อยู่หลังม่าน
“เดี๋ยวจะเจ็บแผลนะครับ ถ้าไม่ไหวก็บอกหมอนะครับ” หมอบอก
ตะวันฉายไม่ได้ยินที่หมอพูด “พี่ธีร์คะ ช่วยคุณเมฆด้วยนะคะ”
หมองงแต่ก็ทำแผลต่อ ตะวันฉายไม่รู้สึกเจ็บเพราะตายังมองแต่ห้องที่เมฆถูกรักษาอยู่

ยุทธการ หมอก นิค และเอวาเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้อง
“พ่อกับพี่ซันจะหายใช่ไหมครับ” หมอกถาม
เอวาน้ำตาซึม “ใช่ครับ หมอเค้ากำลังรักษาอยู่นะ”
สักพักพยาบาลก็เปิดประตูให้ตะวันฉายเดินออกมา ยุทธการ นิค เอวา และหมอกรีบเข้าไปหา
“ซัน เป็นยังไงบ้าง” ยุทธการถาม
“ซันไม่เป็นไรแล้วค่ะ” ตะวันฉายบอก
“แล้วพี่เมฆล่ะ” นิคถาม
“หมอกำลังผ่าตัดช่วยคุณเมฆอยู่”
“อาการพี่เมฆล่ะ เขาบอกหรือเปล่าหนักเบาแค่ไหน” นิคถามต่อ
ตะวันฉายได้แต่ส่ายหน้า ทุกคนมีสีหน้าวิตกกังวล หมอกเดินมากอดตะวันฉายแล้วร้องไห้
“พี่ซัน หมอกอยากเจอพ่อครับ”
ตะวันฉายทรุดตัวลงนั่งกอดหมอก
“เดี๋ยวคุณพ่อจะต้องหายออกมาเจอกับคุณหมอกนะครับ” ตะวันฉายบอก

หมอผ่าตัดให้เมฆอยู่ กราฟของเครื่องวัดชีพจรของเมฆลงต่ำมาก
“คนไข้เลือดออกมาก ห้ามเลือดให้ได้ก่อน” หมอสั่ง
“คนไข้อุณหภูมิต่ำลงค่ะ” พยาบาลบอก
“เอาเลือดมาเพิ่มอีกถุง”
หมอและพยาบาลวุ่นวายในการช่วยชีวิตเมฆ
เมฆที่มีท่อช่วยหายใจสอดอยู่ที่ปากบังคงนอนหลับสนิท

เวลาผ่านไป ตะวันฉาย ยุทธการ นิค เอวา และหมอกนั่งรออยู่หน้าห้อง เวลาผ่านไปอีกทุกคนเริ่มสลับที่นั่งกัน หมอกนั่งหลับบนตักของตะวันฉาย นิค เอวา และยุทธการเริ่มเหนื่อย ตะวันฉายเองก็ง่วงจึงเผลอหลับ ทันใดนั้นก็มีแสงขาววาบพาตะวันฉายหลุดเข้าสู่สวนแห่งหนึ่ง
ในความฝันของตะวันฉาย ธีรภพในชุดสีขาวเดินมาหาตะวันฉายที่อยู่ในชุดขาวเหมือนกัน
“พี่ธีร์”
“ขอบคุณซันมากนะที่ช่วยหมอกไว้”
“ไม่เป็นไรค่ะ แต่ว่า...เอ่อ...คุณเมฆน่ะสิ ตอนนี้กำลัง”
เสียงเมฆดังขึ้น “กำลังอะไร”
ตะวันฉายหันไปด้วยความตกใจ “คุณเมฆ คุณมาได้ไง”
“ฉันก็มาหาพี่ชายฉันนะสิ” เมฆบอก
“ไม่นะ ไม่ได้ คุณจะไปหาพี่ธีร์ไม่ได้”
เมฆกับธีรภพหัวเราะขำตะวันฉาย
“นี่...เธอจะบ้าเหรอ พี่น้องกันก็ต้องไปด้วยกันสิ ใช่ไหมครับพี่ธีร์”
“ใช่ ได้เวลาแล้ว ไปกันเถอะ” ธีรภพพูดกับตะวันฉาย “ซัน พี่ฝากหมอกด้วยนะ”
เมฆกับธีรภพเดินจากตะวันฉายไป
ตะวันฉายโวยวาย “ไม่...คุณเมฆ อย่าไป ฉันขอร้องล่ะ คุณเมฆ”

หมอกำลังผ่าตัดด้วยความเครียด หมอพูดกับเมฆที่หลับอยู่ว่า “เข้มแข็งไว้นะ”
ตะวันฉายที่หลับอยู่สะดุ้งตื่น
“ไม่นะ”
ยุทธการ นิค และเอวาสะดุ้งแล้วรีบวิ่งไปหา
“ซัน มีอะไร ฝันร้ายเหรอ” ยุทธการถาม
ตะวันฉายพยักหน้ารับ “พี่ยุทธ นิค เอวา ฉันกลัวอ่ะ ฉันฝันว่าพี่ธีร์มารับคุณเมฆไป”
“พี่ว่าซันคงเครียดเกินไปน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
ตะวันฉายยังใจไม่ดี หมอเดินออกมา ทุกคนรีบลุกขึ้นมาเพื่อรอฟัง
“พี่เมฆเป็นไงบ้างคะ” เอวาถาม
“คนไข้ปลอดภัยแล้วนะครับ” หมอบอก
ทุกคนดีใจ
นิคพูดกับตะวันฉาย “ฝันร้ายกลายเป็นดีแล้วนะแก”

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 12 วันที่ 13 ม.ค. 56

ตะวันฉายในม่านเมฆ บทประพันธ์โดย ภาวิน
ตะวันฉายในม่านเมฆ บทโทรทัศน์โดย
กฤษณ์ มงคลเกษม,พิมพ์พชา รุ่งประพันธ์,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ตะวันฉายในม่านเมฆ กำกับการแสดงโดย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
ตะวันฉายในม่านเมฆ ดำเนินการผลิต ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิ์เวช
ตะวันฉายในม่านเมฆ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่มา manager