@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 1/2 วันที่ 5 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 1/2 วันที่ 5 ม.ค. 56

ดีไซน์เนอร์พุ่งเข้าไปหาสุอาภา พร้อมแนบแก้มซ้ายขวาทักทายประสาเซเลบ
“เบบี๋... ลูกสาวของพี่ มามะมาถ่ายรูปกันหน่อยมา”
ดีไซน์เนอร์ลากสุอาภาเข้ามาที่หน้าเซ็ต ดีไซน์เนอร์ประคองเธอไปเบียดไฮโซที่ยืนข้างๆกระเด็นไป
“โอ๊ะ....Sorry” สุอาภาบอกแล้วเมิน ไปโพสท่าต่ออย่างไม่สนใจ
นักข่าวเสียงโหวกเหวกบอก
“ขอกล้องนี้ด้วยครับ...ทางนี้หน่อยครับ”
ไฮโซสาวชักสีหน้า แต่พอจะเดินออกจากฉากไปก็ไปไม่ได้เพราะส้นสูงของสุอาภาเหยียบชายกระโปรงเธออยู่ ไฮโซสาวพยายามกระชากชายกระโปรงที่สุอาภาเหยียบอยู่อย่างไม่พอใจ

“มามะ มาถ่ายพร้อมกันดีกว่ามา”
ดีไซน์เนอร์เข้าไปอยู่กลาง โอบสองสาวไว้คนละข้าง ต่างฝ่ายต่างฉีกยิ้มสู้แฟลช แอ๊บกอดกันกลมราวกับรักใคร่ เสียงนักข่าวตะโกนมา
“คุณแตครับ ทางนี้หน่อยครับ”


บริเวณมุมหนึ่งหน้างาน พิทยาเดินผ่านมา เขามองดูสุอาภาโดดเด่นเป็นดาวอยู่ในงานอย่างปลงๆ
อีกมุมหนึ่ง รวีพรรณกับสินีนาฏยังยืนมองดูสุอาภาอยู่ โดยไม่ทันรู้ว่าพิทยามาที่นี่ด้วย
“เขาสวยดีนะ” รวีพรรณบอก
“เซเลบชนกันตายแบบนี้ มีหวังฟร้อนท์โรว์คงจะร้อนเป็นไฟ”

นักข่าวยังคงรุมถ่ายต่อไปไม่หยุด เสียงตะโกนโหวกเหวกเรียกแต่สุอาภา
“คุณแต...กล้องนี้ด้วยครับ”
ไฮโซเริ่มเหล่มองสุอาภาอย่างหมั่นไส้ ไฮโซสาวอาศัยช่วงเวลาที่สุอาภาเผลอกระชากแขนเสื้อหนึ่งข้างของสุอาภาจากทางด้านหลังจนชุดที่เปลือยไหล่หลุดขาดออก พราวพิไลเห็นแล้วอย่างร้องตกใจ
“ยายแต!”
“โอ้...มาย ก็อด”

ดีไซเนอร์ร้องออกมาด้วยสีหน้าตกอกตกใจ
ชุดท่อนบนของสุอาภากำลังจะหลุดออกแล้ว และจนเกือบจะโชว์ทรวงอก เธอถึงกับหน้าเสียรีบเอามือตะครุบชุดไว้

“ตายจริง Sorry ด้วยนะจ๊ะพี่ไม่ได้ตั้งใจ”
สุอาภาหันขวับไปมองไฮโซคนนั้นอย่างเอาตาย
เสียงชัตเตอร์ยิ่งรัวหนักเมื่อเห็นชุดของสุอาภากำลังหลุดลุ่ยออก สุอาภาหน้าเสีย พยายามดึงชุดไว้
และแล้วเสื้อสูทตัวใหญ่ของใครคนหนึ่งเข้ามาสวมทับปกปิดร่างกายให้ เธอหันไปเห็นว่าพิทยาก็ดีใจ
“พิท !”
รวีพรรณกับสินีนาฎเห็นพิทยาก็ตกใจ
“คุณพิท ไหนเค้าบอกเธอว่าติดงานไง” สินีนาฎพูดขึ้น
รวีพรรณพูดไม่ออกหน้าชาไปทั้งแทบ
พิทยาใช้เสื้อนอกสวมให้เธอแล้วโอบตัวเธอเข้าหาเพื่อใช้ตัวเค้าเป็นเกราะกำบังจากเหยี่ยวข่าวที่กำลังรุมทึ้งอย่างหิวกระหาย พิทยาตะโกนห้ามเสียงเข้ม
“พอได้แล้ว ผมบอกให้หยุดไง”
พราวพิไลเอาตัวขวางกล้องไว้แล้วบอก
“พาแตไปก่อนไป๊”
“มากับผม”
พิทยากอดปกป้องพาสุอาภาออกไป นักข่าวจะตาม พราวพิไลเข้ามากางแขนห้าม
“หยุด”
แต่ห้ามไม่อยู่ นักข่าวเบี่ยงตัวหลบชนพราวพิไลซ้ายขวาจนพราวพิไลมึนเซ นักข่าวรีบตามพิทยากับสุอาภาออกไป
รวีพรรณได้แต่ยืนอึ้ง พูดอะไรไม่ออก บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง สินีนาฎเหล่มองเพื่อนด้วยแววตาสมน้ำหน้า

นักข่าวยังคงตามมาอย่างไม่ลดละ พิทยาพาสุอาภาหลบนักข่าวไปได้อย่างหวุดหวิด ที่รถเขารีบเปิดประตูทางฝั่งคนขับ แล้วกดหัวดันเธอให้เข้าไปทางที่นั่งด้านข้าง
“โอ๊ย! ว๊าย!”
เขาเห็นนักข่าวตามเข้ามาใกล้ก็เลยรีบขึ้นรถ กดล็อคประตู ขับรถออก ส่วนเธอเห็นนักข่าวตามไม่ทัน ก็สะใจ ! กดปุ่มเปิดกระจกฝั่งตัวเอง แล้วยื่นหน้าออกนอกหน้าต่าง ตะโกนยิ้มเยาะท้าทายนักข่าว
“แน่จริงก็ตามมาเล๊ย”
พิทยาดึงสุอาภากลับเข้ามาในรถ รีบปิดกระจกขึ้น ก่อนบึ่งขับรถฝ่านักข่าวออกไปทันที
“ท้าเหรอ รีบตามไปเร็ว”
พวกนักข่าวพากันขึ้นรถแล้วขับตามพิทยากับสุอาภาไปติดๆ

ภายในรถ
“เป็นไงอยากเด่นนักคงได้ขายหน้าเป็นทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์สมใจคุณแล้วไง”
สุอาภาเสียหน้า แต่ก็อยากเอาชนะจึงได้เชิดหน้าประชด
“ก็ดี ลงหน้าหนึ่งได้ยิ่งดี แม่ไฮโซปลายแถวนั่นจะได้ลงแดงตาย”
“เป็นผู้หญิงประสาอะไร คำว่าอายน่ะสะกดเป็นบ้างมั้ย”
“ตัวมันก็ตัวของชั้น ชั้นอยากจะเอ็กซ์จะอวดตรงไหน นายจะมาหวงทำไม”
ด้านนอก..รถสุอาภากับรถนักข่าวไล่กันไปบนถนน พิทยาเห็นรถนักข่าวตามมาก็หัวเสีย
“บ้าเอ๊ย! ยังจะตามมาอีก”
สุอาภามองเห็นรถนักข่าวตามมาก็นึกสนุก... เธอเปิดกระจกกว้างสุด พิทยาตกใจถาม
“คุณจะทำอะไร”
สุอาภาไม่ตอบ แต่โผล่ออกไปทางหน้าต่างครึ่งตัว พิทยาตกใจมาก เธอโบกมือให้นักข่าว
“แน่จริงก็ตามมาสิ มาเลย มาเล๊ย แบร่แบร่ ฮ่าๆๆ”
นักข่าวเปิดกระจกรีบถ่ายรูปสุอาภา
เธอกำลังจะหล่นออกไปนอกรถ เขารีบใช้มือข้างซ้ายคว้าตัวเธอแล้วดึงเข้ามาจนชิดตัว
“อยากตายเหรอไง”
สุอาภาหัวเราะชอบใจบอก
“ฮ่าๆๆ หนุกดีออก”
พิทยาส่ายหัวด้วยความเอือม ก่อนรีบขับรถหนีนักข่าว เขาเห็นสี่แยก ไฟเขียวกำลังเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เขาเหยียบคันเร่งขับออกไป ไฟแดงพอดี รถนักข่าวจำต้องเบรกเอี๊ยด ตามไม่ทัน

เวลาต่อมา นักข่าวออกันเต็มหน้าบ้านของสุอาภา รถคันหนึ่งแล่นมาบีบแตรไล่นักข่าว นักข่าวหันไปเห็นรถก็รีบกรูกันเข้ามาล้อมรถเอาไว้ ไม่นาน บวร พี่ชายของสุอาภาเปิดประตูรถลงมาด้วยสีหน้าเอาเรื่อง
“มายืนเกะกะอะไรหน้าบ้าน!”
ไม่มีใครสนใจบวร ทุกคนเดินชนซ้ายทีขวาทีเข้าไปชะโงกหน้าดูในรถ บวรหัวเสีย
“เฮ้ย เฮ้ย”
“ไม่มีคุณสุอาภา” นักข่าว บอก
“ยัยแต” บวรถึงกับผงะ และเริ่มเอะใจ

บวรหน้าตาตื่นรีบจ้ำเดินเข้ามาในบ้าน เห็นวรรณวดี น้องสาวคนรองกำลังคุยโทรศัพท์
ส่วนณี สาวใช้อาวุโสเห็นบวรก็รีบเดินหน้าตาตื่นมาหา
“คุณใหญ่เกิดเรื่องแล้วค่ะ”
“ฉันรู้แล้ว”
“อ้าว”
บวรรีบเดินมาหาวรรณวดี ณีตามมาติดๆ
วรรณวดีคุยโทรศัพท์บอก
“มีนักข่าวมารอที่หน้าบ้านอย่างที่พิทบอก ถ้าไงคืนนี้ให้ยัยแตอยู่กับพิทไปก่อน ขอบใจมากที่ช่วยดูน้อง”
วรรณวดีวางสาย หันไปทางบวร ผู้เป็นพี่ชายด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม
“พรุ่งนี้ข่าวใหญ่แน่ เชื่อพี่มั๊ย ต่าย”
วรรณวดีถอนหายใจออกมาแทนคำตอบ ณียกมือไหว้
“คุณพระคุณเจ้าช่วยคุ้มครองคุณแตของณีด้วยนะคะ”

ภายในรถ พิทยาสีหน้าเครียด วางสายมือถือ สุอาภารีบชะโงกหน้ามาข้างๆถาม
“พี่ต่ายว่ายังไง”
“พี่ต่ายไม่ให้คุณกลับบ้าน”
สุอาภาตกใจ

“ห๋า! ไม่ให้ฉันกลับบ้าน แล้วจะให้ฉันไปไหน”
รถพิทยาแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน เขาเปิดประตูข้างหลัง จับแขนสุอาภาดึงออกมาจากรถ ซึ่งเธอรีบถอยห่างทันที

“ฉันไม่มีทางนอนบ้านนายเด็ดขาด ฉันจะไปนอนโรงแรม”
“ไม่ได้ คุณต่ายสั่งให้คุณอยู่บ้านผม”
“ฉันไม่อยู่”
สุอาภาเชิดหน้าอย่างท้าทาย หันหลังจะเดินออกไป พิทยาถอนหายใจด้วยความเหนื่อยมากแล้วก็ตรงเข้าไปอุ้มสุอาภาเข้าไปในบ้าน เธอดิ้นร้องโวยวาย
“ปล่อย”
เขาโยนเธอลงบนโซฟาอย่างแรง เธอไม่พอใจ
“นายพิทบลู!”
สุอาภาทำท่าจะอาละวาด แต่เจอพิทยาชี้หน้า
“ถ้าด่าผมอีกคำเดียว อย่าหาว่าผมใจร้าย”
สุอาภาลุกขึ้นยื่นหน้าท้าทาย
“นายจะทำอะไรฉันได้ หะ!”
เขาไม่ตอบ แต่เข้ามาตีก้นเธอดังเพียะ! สุอาภาสะดุ้ง
“ตีก้นฉันทำไม?! ฉันไม่ใช่เด็ก”
“ตัวไม่เด็กแต่สมองน่ะเด็ก ถึงชอบทำอะไรไม่รู้จักคิด ดีแต่สร้างแต่ความเดือดร้อนให้คนอื่น แล้วก็ไม่มีใครกล้าลงโทษคุณ เพราะฉะนั้นผมนี่แหละจะทำโทษคุณเอง”
พิทยาตีก้นสุอาภาอีกหลายเพี๊ยะ! เธอร้องลั่น
“โอ๊ย ไอ้บ้า!”
“ยิ่งด่า ผมยิ่งชอบ มันกระตุ้นอารมณ์ผมดี”
พิทยาตีไม่หยุด เธอวิ่งหนี
“ไอ้ซาดิสต์”
“ด่าอีกเหรอ”
พิทยาวิ่งไล่ตีอีก
“นายมันเป็นไอ้หมาบ้า! ไอ้หมาพิทบลู”
พิทยาไม่หยุด สุอาภาวิ่งหนีแล้วก็สะดุดจะล้ม เธอตกใจ
“ว๊าย!”
พิทยารีบยื่นมือไปคว้าตัวเธอเอาไว้ได้ทัน ทั้งคู่มองหน้ากันเพราะใกล้มาก แล้วเธอก็เอาหัวโขกกับจมูกจนเขาร้องลั่นรีบปล่อยมือ เขาอยู่ในอาการมึน
“โอ๊ย!”
สุอาภาก็มึนไปเหมือนกัน แต่รีบรวบรวมสติ...วิ่งขึ้นไปบนบันไดบ้านแล้วหันมาชี้หน้าพิทยาที่กำลังจะตาม
“หยุด! ป๋ายังไม่เคยตีฉันมาก่อน แล้วนายเป็นใคร ก็แค่เด็กที่ป๋าเอามาเลี้ยง เพราะฉะนั้นอย่ามาสั่งสอนฉัน”
พิทยายิ่งโมโหพุ่งเข้ามาจะตี สุอาภาตกใจมากรีบวิ่งขึ้นบันไดร้องโวยวาย
“อ๊าย! อ๊าย!”
พิทยาจะตามไป แต่เสียงมือถือดังขึ้นพอดี พิทยาชะงักหอบเหนื่อย หยิบมือถือออกมาเห็นชื่อ “รวี” ก็ผงะ..รีบเดินไปรับสายตรงมุมหนึ่งทันที
“ครับรวี ... ผมยังทำงานไม่เสร็จ”

รวีพรรณวางสายหน้าเครียดหันมาทางสินีนาฎที่โมโหราวกับพิทยาเป็นแฟนตัวเอง
“เค้าไม่พูดความจริง ฉันไม่นึกเลยว่าพิทจะเป็นเหมือนผู้ชายคนอื่นที่พอเห็นยัยนั่นแล้วต้องพุ่งเข้าชน วิ่งเข้าใส่”
“ฉันว่าที่พิทโกหก คงไม่อยากให้ฉันไม่สบายใจมากกว่า ฉันมั่นใจว่าพิทไม่มีทางคิดอะไรกับสุอาภา ฉันเชื่อใจเค้า” รวีพรรณบอก
รวีพรรณพูดจบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแล้วก็เดินออกไป สินีนาฎเบ้หน้าหมั่นไส้
“ฉันจะคอยดูว่าเธอจะเป็นแม่พระไปได้นานแค่ไหน ชิ”
สินีนาฎตามรวีพรรณเข้าไปในผับ

สุอาภาเข้ามาในห้องนอน พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วก็จับก้นตัวเองด้วยความเจ็บ
“จะระบมมั๊ยเนี่ย ฝากไว้ก่อนเถอะ”
“จะฝากไว้นานมั๊ย”
เธอตกใจหันขวับไปเห็นพิทยายืนอยู่ตรงประตู จึงรีบคว้าหมอนบนเตียงมาปิดก้น
พิทยาเดินเข้ามา สุอาภาถอยไปจนหลังชนตู้เสื้อผ้า เขาเดินมาใกล้ยื่นมือออกมาจนเธอคิดว่า “โดนแน่” แต่เขากลับเปิดบานประตูตู้เสื้อผ้าที่อยู่ข้างๆตัวเธอ แล้วหยิบชุดนอนกับผ้าขนหนูมาโยนให้ สุอาภาต้องปล่อยหมอน แล้วรับชุดนอนกับผ้าขนหนูแทน
“อาบน้ำซะ!”
พิทยาพูดจบก็เดินออกไปแล้วปิดประตูปัง! สุอาภาเบ้หน้า

พิทยากำลังปรุงบะหมี่สำเร็จรูป หันมาเห็นสุอาภาที่สวมชุดนอนของเขา ทั้งตัวใหญ่และยาวลงมาครึ่งต้นขา แต่สุอาภาไม่ใส่กางเกง! พิทยาชะงัก รีบหลบสายตาจากเรียวขาคู่นั้น
“ทำไมไม่ใส่กางเกง”
“ยาว รุ่มร่าม ... เดี๋ยวก็สะดุดคอหักตายกันพอดี”
พูดจบเดินมาแย่งชามบะหมี่ในมือพิทยาไปกิน
“เฮ้ย! นี่...อยากกินก็ทำเองดิ”
“คนอย่างฉันทำอะไรเป็นที่ไหนนายนั่นแหละไปทำมาใหม่”
สุอาภานั่งกินบะหมี่หน้าตาเฉยด้วยความหิว ดูดเส้นเสียงดังจ๊วบ! พิทยามองด้วยความปลง เดินออกไป
“ขอน้ำด้วย”
พิทยาหันมามองสุอาภาได้แต่ถอนหายใจ

ภายในห้องครัว พิทยาล้างจานเสร็จ หันมาเช็ดมือแล้วก็เอะใจ หันไปมองในห้องรับแขก
“ทำไมเงียบไป หรือว่าจะออกไปแล้ว”
พิทยาตกใจมาก รีบเดินออกไป

พิทยาเดินออกมาที่ห้องรับแขก เห็นสุอาภาหลับคาโซฟาไปแล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะเดินมายืนข้างๆ มองด้วยสายตาที่อ่อนโยน

“เหมือนตอนเด็กๆ ไม่มีผิด กินอิ่มปุ๊บก็หลับปั๊บ”

เมื่อนึกถึงตอนเด็ก เขาก็เผลอยิ้มออกมาไม่ได้
พิทยาอุ้มสุอาภามานอนบนเตียง แล้วก็ยืนมองใบหน้าของเธอ...นึกย้อนกลับไป

ตอนนั้น สุอาภาอายุ 5 ขวบกำลังนอนบนเตียง พิทยาวัย 10 ขวบนั่งอยู่ข้างๆ
“นอนได้แล้วนะครับคนดี”
“แตยังไม่ง่วง”
“แล้วต้องให้พี่ทำยังไง น้องแตถึงจะยอมนอน”
สุอาภาจับแขนพิทยาทำหน้าอ้อน
“พิทเล่านิทานให้แตฟังนะ..นะนะนะ..นะคะ”
พิทยายิ้มรับอย่างอ่อนโยน
“ตกลง...เอาเรื่องอะไรดีน้า...เรื่องเจ้าชายกบดีมั๊ย”
สุอาภาพยักหน้า
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าชายองค์หนึ่งถูกสาปให้เป็นกบ...”
เสียงพิทยาค่อยๆเล่าจนเงียบเสียงลง พร้อมๆกับสุอาภาที่นอนหลับ

พิทยายังคงมองหน้าสุอาภาคิดถึงวันเวลาดีดีที่ผ่านมาด้วยความเสียดาย พิทยาปัดผมที่ปรกลงมาที่หน้า ก่อนจะห่มผ้าแล้วลุกเดินไปปิดไฟ

เช้าวันถัดมา ที่บ้านพิทยา สุอาภาแต่งตัวด้วยชุดเดิมเดินลงมา เธอไม่เห็นพิทยาก็แปลกใจ ก่อนจะเห็นฝาชีครอบอาหารวางอยู่บนโต๊ะ มีโน้ตแปะไว้บนฝาชี สุอาภาหยิบออกมาอ่าน
“อาหารเช้า”
สุอาภาเปิดฝาชีเห็นข้าวต้มหมูวางอยู่ เห็นโน้ตอีกแผ่นวางใต้ชามข้าวต้ม สุอาภาหยิบออกมาอ่าน
“ทานเสร็จ วางไว้ในอ่างล้างจาน ตอนออกไปอย่าลืมล็อกประตูบ้านด้วย”
สุอาภามองข้าวต้มหมู นั่งลงแล้วก็ตักกินด้วยสีหน้าอิ่มเอิบ
“รสชาติไม่เปลี่ยน”
สุอาภายิ้มแล้วก็กินข้าวต้มด้วยความตั้งใจ

ยามเช้าที่ออฟฟิศนพอาคิเทค ข่าวกรอบเช้ามีเรื่องราวของสุอาภากับพิทยา ปวีณากำลังดูภาพข่าวด้วยความหัวเสียกำหนังสือพิมพ์แน่น เธอหันไปเห็นพวกพนักงานกำลังสุมหัวเมาท์
“ทำอะไรไม่นึกถึงหน้าพ่อตัวเองเล้ย” พนักงานคนหนึ่งบอก
“คนรวยเค้าไม่แคร์สื่อหรอกย่ะ ลำพังคุณสุอาภาคนเดียวฉันไม่ตะลึง แต่ดูคุณพิทยาสิ ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นผู้ชายในคอลเลกชั่นของชีเหมือนกัน” พนักงานอีกคนว่า
ปวีณาได้ยินก็ทนไม่ได้ เดินผ่ากลางวงเข้าไป พวกพนักงานที่สุมหัวต่างตกใจ
“คุณพิทไม่ใช่คนแบบที่พวกเธอคิด เค้าไม่โง่ที่จะตกเป็นเหยื่อให้คุณสุอาภาปั่นหัวเล่นหรอก!”
พนักงานตกใจกับท่าทางเกรี้ยวกราดของปวีณา กรองทิพย์รีบเดินเข้ามา
“สุมหัวทำอะไรกัน! ที่แท้ก็เม้าท์มอยถ้าพวกเธอทำงานเก่งเหมือนเวลาเมาท์เจ้านาย บริษัทคงไปไกลมากกว่านี้ ไปทำงานได้แล้ว!” เหล่าพนักงานทุกคนหน้าถอดสี หลุบตาต่ำยกเว้นปวีณา
พนักงานหน้าเสียรีบกระจายตัวกันออกไป กรองทิพย์หยิบหนังสือพิมพ์บนโต๊ะขึ้นมาดูแล้วก็ถอนหายใจ
“คิดอยู่แล้วว่าต้องเกิดเรื่อง...เห็นจากท่าทางคุณสุอาภาเมื่อวาน”
“สงสารคุณพิทเธอนะคะพี่ทิพย์”
กรองทิพย์พยักหน้าเห็นด้วย

รวีพรรณ ณรงค์ รมณีนั่งอยู่ด้วยกันที่โต๊ะอาหารภายในบ้าน รมณีวางหนังสือพิมพ์ให้รวีพรรณดู เธอเห็นแล้วก็อึ้ง
“แม่เคยเตือนลูกแล้ว เห็นเหรอยังว่าผู้ชายคนนี้ไม่จริงใจ ที่เค้าคบกับลูกเพราะอยากเป็นหนูตกถังข้าวสาร แต่ถังเดียวคงไม่พอก็เลยตะเกียกตะกายไปหาถังใหม่อย่างยัยสุอาภา”
รวีพรรณรีบแก้ตัวให้พิทยา
“แม่คะ เมื่อคืนรวีก็อยู่ที่งานนั่น รวีเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง มันไม่ใช่อย่างที่นักข่าวเขียนเลยสักนิด” รมณีกับณรงค์ชะงัก รวีพรรณพูดต่อ

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 1/2 วันที่ 5 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3 (ต่อจากเหนือเมฆ)
ที่มา manager