@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 12/2 วันที่ 13 ม.ค. 56

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 12/2 วันที่ 13 ม.ค. 56

นิคพูดกับตะวันฉาย “ฝันร้ายกลายเป็นดีแล้วนะแก”
ตะวันฉายจับมือหมออย่างดีใจ “ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ” ตะวันฉายพูดกับหมอก “คุณหมอก คุณพ่อปลอดภัยแล้วครับ ดีใจไหม”
หมอกพยักหน้ายิ้มกว้างแล้วนึกได้ “เมื่อกี้พี่ซันพูดนะคะคุณหมอ”
ตะวันฉายอึ้งเพราะไปต่อไม่ถูก ยุทธการ นิค และเอวาแอบขำ

เกริกไกรยืนต่อโทรศัพท์อยู่ในห้อง โดยมีสายรุ้งยืนลุ้นอยู่ข้างๆ เกริกไกรได้ยินเป็นเสียงเทปให้ฝากข้อความ
“ฝากข้อความอีกแล้ว”
“อะไรกันเนี่ย ทำไมเวลาอยู่กรุงเทพฯชอบปิดเครื่องจริงนะลูกคนนี้ โทรไปคอนโดก็ไม่รับ พ่อ...แม่ชักสงสัยแล้วว่ามีลับลมคมในอะไร” สายรุ้งว่า
“ไม่เป็นไร ไว้โทรเย็นๆก็ได้”
“ไม่เอาพ่อ โทรตอนนี้แหละ บอกตรงๆวันนี้แม่หวิวๆคิดถึงลูกยังไงก็ไม่รู้ ถ้าไม่ได้ยินเสียงแม่ทำงานไม่ได้แน่”
“ได้จ้า....พ่อจัดให้”



ยุทธการเดินมาที่รถที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถในโรงพยาบาลแล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ยุทธการหยิบมาดูแล้วถอดใจเครียดก่อนกดรับสาย
“สวัสดีครับอาเกริก”
“ยุทธ อารุ้งเขาอยากรู้ว่าลูกสาวคนสวยแสนซนของอาเป็นไงบ้าง เพราะเราติดต่อซันไม่ได้เลย”
“เอ่อ....ซันเขาก็ดีครับ แต่ช่วงนี้เขายุ่งๆน่ะครับ”
เกริกไกรพูดกับสายรุ้ง “ยุทธเขาบอกว่าซันมันยุ่งๆน่ะ”
สายรุ้งหงุดหงิดเลยดึงโทรศัพท์มาคุยเอง
“ยุทธ อารุ้งนะลูก ซันเขายุ่งอะไรอีกแล้วถึงกับต้องปิดมือถือ คอนโดก็ไม่กลับ ตกลงเขากำลังทำอะไรกันแน่”
“เอ่อ...ผม”
“ยุทธ ถ้าช่วยน้องปิดบังอา อาจะไปกรุงเทพฯตอนนี้เลย” สายรุ้งขู่
“เอ่อ...อารุ้งครับ อย่าเพิ่งมาดีกว่า”
“ยุทธการ บอกอามาเดี๋ยวนี้”
“อารุ้งทำใจดีๆนะคับ”
สายรุ้งร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ
“อะไรนะ ซันถูกยิง”
สายรุ้งเป็นลมร่วงลงไปแต่เกริกไกรคว้าไว้ได้ทัน
“แม่...แม่” เกริกไกรตะโกน “ใครอยู่ข้างนอกตามหมอที”

ยุทธการเดินมาที่ตู้กดกาแฟ ตะวันฉายที่กำลังกดกาแฟอยู่หันมาพร้อมกับกาแฟสองแก้ว เธอยื่นให้ยุทธการหนึ่งแก้ว
“ดูซันสบายใจขึ้นมากนะที่คุณเมฆปลอดภัย” ยุทธการบอก
“เอ่อ....ก็....”
“พี่ก็ดีใจนะที่คุณเมฆปลอดภัย นิค เอวาก็ดีใจเหมือนกัน”
“ใช่ๆๆๆ ซันก็รู้สึกเหมือนทุกคนนี่แหล่ะ”
“จริงเหรอ....พี่ว่าซันรู้สึกดีใจมากกว่าพวกเรานะ เหมือนคุณเมฆเป็นคนพิเศษของซันน่ะ”
ตะวันฉายนิ่งอึ้งเพราะพูดไม่ออก
“ไม่ตอบ แสดงว่าใช่”
ตะวันฉายตกใจ “เอ่อ...เปล่านะพี่ยุทธ คือซันกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย”
ยุทธการ ยิ้ม “งั้นพี่ไม่กวนแล้ว”
ยุทธการจะเดินไป แต่ตะวันฉายลุกขึ้น
“พี่ยุทธ” ตะวันฉายเรียก
“เวลาจะดูพี่ว่ามีความสุขซันรู้ไหมว่าต้องดูจากอะไร”
ตะวันฉายยังไม่เข้าใจที่ยุทธการพูด
“ก็ดูจากรอยยิ้มของซันไง ถ้าซันมีความสุขพี่ก็จะสุขไปด้วย เหมือนอย่างตอนนี้ไง พี่ดีใจนะที่เห็นซันมีความสุข พี่ไปละนะ”
พูดจบยุทธการก็เดินจากไป ตะวันฉายมองตามยิ้มๆ

เมฆนอนหลับอยู่บนเตียงผู้ป่วย ตะวันฉายเดินเข้ามามองเมฆที่นอนหลับด้วยสีหน้ายิ้ม
“ขอบคุณนะคะคุณเมฆที่ช่วยฉัน”
ตะวันฉายตัดสินใจค่อยๆเอามือลูบมือเมฆเบาๆอย่างทะนุถนอม แล้วก็ค่อยๆจับมือให้แน่นขึ้น
“ฉันจะดูแลคุณเอง”
ตะวันฉายนั่งลงข้างๆ ก่อนจะมองหน้าเมฆขณะที่ยังจับมือเมฆ ยุทธการยืนแอบมองแล้วก็ยิ้มๆแล้วตัดสินใจเดินจากไป
เมฆค่อยๆลืมตาขึ้นมาเห็นตะวันฉายฟุบอยู่ข้างเตียง พอรู้สึกตัวเห็นมือตะวันฉายจับมือตัวเองอยู่ก็อมยิ้ม เขาแอบบีบมือตะวันฉาย
“ซัน...ซัน”
ตะวันฉายงัวเงียตื่นขึ้นมาพอเห็นเมฆฟื้นก็ดีใจ
“คุณเมฆฟื้นแล้วเหรอครับ”
ตะวันฉายกำมือที่จับมือเมฆแล้วก็เผลอยกขึ้น พอรู้สึกตัวเธอก็รีบปล่อย เมฆยิ้ม
ตะวันฉายรีบถามเปลี่ยนเรื่องเพื่อแก้เขิน “คุณเมฆเป็นไงบ้างครับ เจ็บไหม”
“เจ็บเหรอ” เมฆนึกได้ “โอ๊ยย...เจ็บ...เจ็บมากเลย”
ตะวันฉายตกใจ “จริงเหรอครับเจ็บตรงไหน”
ตะวันฉายรีบก้มดูแผลที่ท้องของเมฆ แล้วทั้งสองก็หน้าใกล้กัน ทั้งสองมองตากันแล้วก็ผงะ
“แต่พอมีนายมาอยู่ใกล้ๆ ความเจ็บก็หายไปหมด”
ตะวันฉายเขินจึงนั่งลง
“คุณหลอกผม”
“ถ้าหลอกแล้วรู้สึกดีๆต่อกัน ฉันก็ว่าหลอกกันต่อไปจะดีไหม”
ตะวันฉายก้มหน้าหลบตา
ตะวันฉายถอนใจ “คุณว่าการหลอกกันมันจะเป็นความสุขที่แท้จริงเหรอครับ”
เมฆยิ้ม “ซัน ถ้านายไม่มีความสุขกับการหลอก ก็มาอยู่กับความจริงสิ”
ตะวันฉายเงยหน้ามองเมฆเพราะยังตามเมฆไม่ทันว่าเขาพูดถึงอะไร
“ผมไม่เข้าใจครับ”
“แต่ฉันเข้าใจคุณนะ คุณตะวันฉาย”
ตะวันฉายตกใจแล้วรีบกลบเกลื่อน “เอ่อ...เอ่อ...คุณ...คุณเมฆพูดอะไรครับ”
“คุณบอกเองว่าไม่อยากจะหลอกกันอีกแล้วไม่ใช่เหรอ”
“นี่คุณรู้ว่าฉันคือ..”
เมฆตอบทันที “ผู้หญิง”
ตะวันฉายหน้าเจื่อน “คุณรู้เหรอ รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่.....คะ!”
เมฆยิ้มให้ตะวันฉาย

เมฆเล่าย้อนไปถึงเหตุการณ์ในอดีต...
หมอกกระโดดบนเตียง
“เฮ้...ดีใจจะได้กลับบ้านแล้ว”
“หมอกไม่เอาลูก เดี๋ยวตกนะ” เมฆเตือน
“ก็หมอกดีใจนี่ เฮ้ๆๆๆ”
หมอกกระโดดอีกครั้งแล้วก็ลื่น เมฆกับตะวันฉายรีบเข้ามารับ ทำให้เมฆกับตะวันฉายตัวชนกัน หมอกกอดคอเมฆกับตะวันฉายเอาไว้ ตะวันฉายตาโตตกใจที่หน้าอกของเธอไปโดนอกของเมฆ เมฆมองหน้าตะวันฉายด้วยสีหน้านิ่ง ตะวันฉายเหลือบตามองลงล่างแล้วค่อยๆถอยออกมา เมฆกับตะวันฉายค่อยๆประคองให้หมอกนั่งบนเตียง

เมฆเล่าต่อ แต่ตะวันฉายปิดตาด้วยความอาย
“อ๊ายยยยย....พอแล้ว ไม่ต้องเล่าแล้ว” ตะวันฉายค้อนใส่เมฆ “นี่แสดงว่าตลอดเวลาคุณก็หลอกฉัน”
“อ้าว...ก็คุณหลอกผมก่อนนี่”
ตะวันฉายจ๋อย “ก็จริงนะ ฉันเป็นฝ่ายเริ่มก่อน....แล้วคุณไม่โกรธฉันเหรอ”
“ตอนที่ไม่รู้ว่าคุณเข้าบ้านผมมาทำไมก็โกรธนะ แต่พอรู้แล้วก็ไม่โกรธ”
ตะวันฉายตกใจ “เรื่องนี้คุณก็รู้เหรอคะ”
เมฆพยักหน้าแล้วยิ้ม “แต่ผมก็ไม่เข้าใจนะ ว่าการปลอมตัวมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กมันจะได้ข้อมูลอะไรนักหนากับนิยายที่คุณเขียน ไม่เห็นว่าในเรื่องจะมีเด็กสักคน”
ตะวันฉายอึกอักเพราะพูดไม่ออก
“หรือคุณเข้ามาด้วยจุดประสงค์อื่น” เมฆถาม
“เอ่อ....ไม่ใช่ค่ะ ฉันก็เข้ามาหาข้อมูลจริงๆ”
“นั่นไงผมถึงไม่โกรธคุณ เพราะคิดว่าคุณคงติงต๊องแยกไม่ออกระหว่างชีวิตจริงกับนิยาย”
ตะวันฉายฉุนจึงตรงเข้ามาหยิกแขนเมฆจนร้องจ๊าก แต่ตะวันฉายก็ไม่ปล่อย
“มาว่าฉันติงต๊องเหรอ ที่เกาะบ้านฉันน่ะ ฉันน่ะสวย แสนซน ปนน่ารัก เรื่องอะไรมาว่าฉันติงต๊อง”
“โอ๊ยยยย..ผมยังพูดไม่จบ ถึงคุณจะติงต๊องแต่ผมก็ชอบคุณนะ”
ตะวันฉายอึ้งและหยุดหยิกทันที เมฆจับมือตะวันฉายมาหอม
“คุณชอบไหมครับ”

ตะวันฉายอึ้งและกลอกตาไปมาเพราะไม่กล้าสบตาเมฆ เมฆเลยหอมมือตะวันฉายอีก ตะวันฉายยิ่งอายจนหน้าแดง
“ว่าไงล่ะ ผมรอฟังความจริงจากคุณอยู่”
ตะวันฉายจะอ้าปากพูดแต่เสียงเคาะประตูดังขึ้น นิค เอวา และหมอกเปิดประตูเข้ามา เมฆกับตะวันฉายรีบปล่อยมือออกจากกันทันที หมอกดีใจรีบวิ่งไปหาเมฆ
“พ่อครับ พ่อตื่นแล้ว”
สองพ่อลูกกอดกันหอมกัน ทุกคนมองอย่างมีความสุข

เกริกไกรและสายรุ้งเดินเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยความร้อนใจ ยุทธการลังเลเพราะไม่อยากเดินตามไป
“เอ้า...เร็วสิยุทธ อาเป็นห่วงซันนะ”
“เอ่อ...แต่ผมบอกแล้วไงครับว่าซันไม่เป็นอะไรแล้ว” ยุทธการย้ำ
“ไม่เป็นไร แต่บอกถูกยิง” เกริกไกรพูด
“คือมันแค่ถากนิดเดียวครับ”
“ถ้านิดเดียวทำไมไม่กลับคอนโด ทำไมอยู่โรงพยาบาล” เกริกไกรถามทันที
“เอ่อ...คือ....”
“ตกลงมันมีอะไรหรือเปล่า ทำไมดูเราไม่อยากให้เจอยัยซัน”
“ไม่มีครับ ไม่มีอะไรครับ”
“งั้นก็รีบพาไปสิ”
เกริกไกรกับสายรุ้งรีบเดินไป ยุทธการถอนใจด้วยความเครียด
“โอ๊ย...จะบอกซันไงดีวะเนี่ย”

ยุทธการพาเกริกไกรกับสายรุ้งมาถึงหน้าห้องแล้วจะเคาะประตู แต่สายรุ้งดึงมือยุทธการไว้
“เดี๋ยวนะยุทธ ทำไมชื่อหน้าห้องเป็นชื่อคุณนภทีป์ล่ะ” สายรุ้งถาม
เกริกไกรเพ่งมองป้ายชื่อ
“คือคนโดยยิงหนักน่ะคุณเมฆครับ ของซันแค่โดนถากๆ” ยุทธการอธิบาย
เกริกไกรงง “แล้วซันกับคุณนภทีป์ไปเกี่ยวข้องกันยังไง?”
ยุทธการอึดอัดไม่อยากตอบ แต่ก็เคาะประตูเข้าไปทันที

เมฆ ตะวันฉาย หมอก นิค และเอวานั่งคุยกันอยู่ในห้อง แล้วทั้งหมดก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ทุกคนหันไปมอง ยุทธการเดินนำเกริกไกรกับสายรุ้งเข้ามา ต่างฝ่ายต่างตกใจ
“พ่อ...แม่” ตะวันฉายตกใจ
นิคพูดกับเอวา “ชิบ...หายละไอ้ซัน”
เกริกไกรกับสายรุ้งเห็นตะวันฉายในชุดผู้ชายก็อึ้งและงงมาก
“ซัน”
“นี่มันอะไรกัน”
“แล้วทำไมแต่งตัวแบบนี้” สายรุ้งถาม
“คุณเมฆทำไมมาโดนยิงกับเรา” เกริกไกรถามต่อ
“แล้วเราไปอยู่กับคุณเมฆได้ไง”
ยุทธการรีบออกตัว “ซัน พี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่ขอโทษ”
“พ่อ แม่ ฟังซันก่อน” ตะวันฉายบอก
ทั้งสองตั้งหน้าตั้งตารอฟังความจริง ตะวันฉายกับเมฆมองหน้ากัน

ตะวันฉายเล่าเรื่องทั้งหมดจนจบ
“งั้นที่บอกแม่ว่าหาข้อมูลอะไรนั่นก็เรื่องโกหกสินะ” สายรุ้งถาม
“ซันขอโทษพ่อแม่ อาเกี๊ยง อารีด้วยนะคะ ตอนนั้นซันไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เข้าใจวิธีการหาข้อมูลของซัน”
“ปลอมตัวเป็นผู้ชาย มาเป็นคนใช้ในบ้านคนอื่นเพื่อเขียนนิยาย ชีวิตลูกนี่มันนิยายชัดๆเลย ไปจำมาจากนิยายเล่มไหนมาน่ะ” เกริกไกรว่า
ตะวันฉายหลบตาแล้วพึมพำ “จริงๆมันก็หลายๆเล่มรวมกัน”
เกริกไกรพูดเสียงเข้ม “ซัน พ่อกับแม่ไม่ตลกด้วยนะ”
ตะวันฉายจ๋อย
“ตายุทธ เราก็เหมือนกัน น่าจะปรามน้องบ้าง แต่นี่ไปสนับสนุนซะงั้น” สายรุ้งว่า
ยุทธการบอก “ผมขอโทษครับคุณอา”
“พี่ยุทธไม่ผิดหรอกค่ะ เขาก็เพิ่งรู้เรื่อง”
สายรุ้งมองตะวันฉายหงุดหงิด
“เอาล่ะๆ ไหนๆเรื่องร้ายๆก็ผ่านไปแล้ว พ่อว่าซันก็คงได้ข้อมูลเยอะ กลับไปเขียนงานที่บ้านเราแล้วกันนะ”
ตะวันฉายอึ้ง “เอ่อ...แต่ว่าคุณเมฆยังป่วยอยู่นะคะ”
สายรุ้งสงสัย “นี่ซันไม่อยากกลับบ้านเหรอ”
ตะวันฉายไม่รู้จะตอบยังไง เกริกไกรกับสายรุ้งมองหน้ากันแล้วมองตะวันฉายเหมือนจะจับความรู้สึกของลูกสาวได้

เมฆรู้สึกกระวนกระวาย นิคกับเอวากำลังอธิบายให้หมอกเข้าใจ
“งั้นที่พี่ซันต้องปลอมเป็นผู้ชายก็เพราะกลัวพ่อของหมอกจะรู้ว่าเป็นคนที่เคยทะเลาะด้วย” หมอกถามกลับ
“ถูกต้องค่ะ น้องหมอกที่ฉลาดจัง” เอวาชม
“แล้วน้องหมอกโกรธพี่ซันไหมครับที่ไม่ได้บอกความจริง” นิคถาม
หมอกส่ายหน้า “พ่อบอกว่าคนเราเขาจะเป็นอะไรก็ช่างแต่ต้องเป็นคนดี พี่ซันเป็นคนดียังไงหมอกก็รัก” หมอกหันไปพูดกับเมฆ “ใช่ไหมครับพ่อ”
นิค เอวา และหมอกหันไปก็เห็นเมฆยังมองไปที่ประตูเพราะลุ้นเรื่องตะวันฉาย
“ทำไมเขาไปคุยกันนานจัง นิค ไปช่วยดูหน่อยได้ไหม” เมฆพูดขึ้น
ทันใดนั้นยุทธการก็เดินเข้ามากับตะวันฉาย
“ซัน พ่อกับแม่คุณล่ะ” เมฆถาม
“กลับไปแล้วค่ะ”
“ท่านว่ายังไง”
“ท่านก็อนุญาตให้ซันดูแลคุณต่อน่ะสิครับ”
เมฆกับตะวันฉายยิ้มให้กันอย่างดีใจ

ยุทธการ นิค เอวา และหมอกเดินออกจากโรงพยาบาลมาด้วยกัน
“แปลกแฮะ ทำไมพ่อกับแม่ไอ้ซันถึงยอมให้ซันอยู่ต่อ” นิคงง
“แปลกเหรอ แต่พี่ว่าถ้าไม่ให้อยู่สิถึงจะเรียกว่าแปลก” ยุทธการพูด
“พี่ยุทธหมายความว่ายังไงคะ” เอวาถาม
“พี่รู้จักครอบครัวนี้ดีมาก คุณพ่อคุณแม่ซันน่ะยังไงก็เคารพการตัดสินใจของซัน ดีไม่ดีพี่ว่าท่านดูออกนะว่าสองคนนั่นรู้สึกยังไงต่อกัน แล้วคุณเมฆแกก็คงเป็นที่ประทับใจของอาเกริกกับอารุ้งอยู่บ้างแหล่ะ”
“ก็จริงนะ ถ้าใครที่รู้เรื่องของพี่เมฆแล้วไม่รักก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว”
“แบบนี้ อีกไม่นานเตรียมรอข่าวดีได้เลย” นิคว่า
“พี่ซันกับพ่อจะแต่งงานกันเหรอครับ” หมอกถามขึ้น
“เฮ้ย...หยุดฉลาดบ้างก็ได้นะน้องหมอก อีกหน่อยพวกพี่ไม่กล้านินทาใครแล้ว” นิคบอก
ทุกคนหัวเราะกันสนุกสนานระหว่างเดินออกไปจากโรงพยาบาล

ตะวันฉายยังคงดูแลเมฆที่อยู่ในโรงพยาบาล ทั้งป้อนข้าว เช็ดตัว เข็นรถพาเมฆไปที่ต่างๆ ในโรงพยาบาล พัฒนาการของเมฆดีขึ้น ตะวันฉายยิ้มพอใจ
เวลาผ่านไป ตะวันฉายพยุงเมฆเข้าบ้าน หมอกวิ่งมารับด้วยความดีใจ
เมฆ ตะวันฉายในชุดผู้หญิงปกติ และยุทธการนั่งคุยกันอยู่ในห้องรับแขกที่บ้านเมฆ เมฆส่งกล่องเล็กๆกล่องหนึ่งให้ยุทธการ ยุทธการรับมาเปิดดูแล้วเห็นว่าเป็นจี้เพชรของอิงฟ้า
“น่าจะเป็นจี้อันนี้นะครับที่พวกมันต้องการ อิงฟ้าเขาให้หมอกแต่ผมเห็นว่ามันเป็นจี้สำหรับผู้หญิงก็เลยเอามาเก็บไว้ครับ”
“มันจะเอาจี้นี่ไปทำไม” ตะวันฉายนึกได้ “หรือว่าบรรจุยาเสพติดเอาไว้”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน คงต้องส่งให้เขาพิสูจน์อีกที” ยุทธการบอก
“แล้วคุณฟ้าจะ....เอ่อ....จะเป็นไงบ้างอ่ะพี่ยุทธ”
“ตอนนี้พี่ก็ยังตอบอะไรไม่ได้จริงๆ” ยุทธการมองจี้เพชร “ขึ้นอยู่กับเจ้านี่แล้ว”
ทุกคนมองหน้ากันด้วยความเครียด

ตะวันฉายทำแผลให้เมฆเสร็จพอดี
เมฆพยักหน้ารับ “ผมอยากรู้ผลเร็วๆว่าไอ้จี้นั่นมันคืออะไร”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ พี่ยุทธบอกแล้วว่าถ้าได้เรื่องยังไงจะรีบบอกเรา” ตะวันฉายบอก
ตะวันฉายเก็บอุปกรณ์ทำแผล
“เดี๋ยวนายหมอกกลับมาแล้วเราออกไปหาอะไรอร่อยๆทานกันนะ”
“ฉันขับรถให้นะคะ”
“ไม่ต้องหรอก ผมแข็งแรงแล้ว”
ตะวันฉายแกล้งจับบริเวณแผลผ่าตัด เมฆร้องโอดโอย
“เนี่ยนะแข็งแรง”
“เล่นแกล้งกันนี่ ต้องแก้แค้น”
เมฆหอมแก้มตะวันฉายทันที
ตะวันฉายเงื้อมือจะตี “เดี๋ยวเถอะ ฉันจะตีให้แผลอักเสบเลย”
เมฆรีบปิดแผล “อย่านะ เดี๋ยวผมตายคุณจะเสียคนรักดีๆไปหนึ่งคน”
ตะวันฉายขำแล้วก็นึกได้
“เอ๊ะ...นี่น้องหมอกทำไมยังไม่กลับอีก จะสี่โมงครึ่งแล้วนะคะ”
เมฆหันไปมองนาฬิกาแล้วมองหน้าตะวันฉายอย่างเห็นด้วย

เมฆกับตะวันฉายยืนคอยหมอกหน้าบ้านด้วยความเป็นห่วง สักพักเก่งกับหมอกก็เดินเข้ามา หมอกที่อยู่ในชุดนักเรียนมีสีหน้าเฉยๆนิ่งๆ
เมฆดุ “ไอ้เก่ง พาหมอกไปไหนมา ทำไมกลับช้า”
“คุณหมอกน่ะสิครับ ไม่ยอมกลับบ้าน แกอยากจะให้ผมพาไปเอ่อ....” เก่งอึกอัก
“ไปไหน”
“หมอกอยากไปหาแม่” หมอกพูดออกมา
เมฆกับตะวันฉายมองหน้ากันอย่างอึ้งๆ หมอกเดินมาจับแขนเมฆกับตะวันฉาย
“พ่อครับ พี่ซัน พาหมอกไปหาแม่หน่อยสิ หมอกอยากเจอแม่”

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 12/2 วันที่ 13 ม.ค. 56

ตะวันฉายในม่านเมฆ บทประพันธ์โดย ภาวิน
ตะวันฉายในม่านเมฆ บทโทรทัศน์โดย
กฤษณ์ มงคลเกษม,พิมพ์พชา รุ่งประพันธ์,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ตะวันฉายในม่านเมฆ กำกับการแสดงโดย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
ตะวันฉายในม่านเมฆ ดำเนินการผลิต ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิ์เวช
ตะวันฉายในม่านเมฆ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่มา manager