@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 12/3 วันที่ 24 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 12/3 วันที่ 24 ม.ค. 56

สองพ่อลูกหันมาทางรวีพรรณ พวกนักข่าวหันมามองตามพอ เห็นรวีพรรณรีบถ่ายรูป ศรีพิไลจับมือรวี
“ตามน้ามานี่จ๊ะ”
ศรีพิไลพารวีพรรณมาที่โต๊ะตรงหน้านักข่าว ภาสันต์ตบบ่าภูวดลทำตัวเป็นพ่อที่แสนดีพร้อมทั้งยิ้มให้กำลังใจ ภูวดลยิ้ม พยักหน้ารับและเดินไปหารวีพรรณ พร้อมทั้งเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง
“เชิญนั่งครับ”
รวีพรรณพูดเสียงเบา
“คิดจะทำอะไร”

ภูวดลไม่ตอบ แต่จับไหล่รวีพรรณแล้วกดให้นั่งลง รวีพรรณจำต้องนั่งลงอย่างเสียไม่ได้
ภูวดลนั่งลงตาม ภาสันต์ ศรีพิไลเดินออกไปนั่งรวมกับรมณีกับณรงค์ที่นั่งด้านหน้า



“นี่มันอะไรกันคะ” รมณีถาม
“อีกไม่นานก็รู้ครับ” ภาสันต์บอก
รมณี ณรงค์มองหน้ากันด้วยความแปลกใจ
“ก่อนอื่น...ผมต้องขอบคุณพี่ๆนักข่าวทุกคนมากที่ให้เกียรติมางานแถลงข่าวของผมกับคุณรวีในวันนี้” รวีพรรณชะงัก
“พี่ๆทุกคนคงจะได้เห็นข่าวระหว่างผมกับคุณสุอาภา และคุณรวีกับคุณพิทยา”

รวีพรรณชะงัก รู้ทันทีว่าภูวดลคิดจะทำอะไร
“ภาพที่ทุกคนเห็น ข่าวที่ทุกคนอ่าน มันไม่ใช่ความจริง แต่ผมจะไม่ขออธิบายอะไรมากเพราะมันจะเสียหายกับฝ่ายหญิง เอาเป็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิด ผมกับคุณสุอาภาเป็นอดีตไปแล้ว ผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุด และเป็นคนเดียวที่ผมจะแต่งงานด้วย ก็คือ...”
ภูวดลหันมาทางรวีพรรณพร้อมทั้งจับมือขึ้นมา
“คุณรวี”
ภาสันต์ กับศรีพิไลสีหน้าพอใจ รมณีกับณรงค์ยิ้ม
รวีพรรณนึกไม่ถึงว่าภูวดลจะใช้แผนนี้ เธอถึงกับตั้งรับไม่ทัน นักข่าวรัวชัตเตอร์ไม่ยั้ง
“ที่ผ่านมา...ผมอาจจะเคยเจ้าชู้ทำตัวไม่ดี แต่หลังจากที่ผมได้เจอคุณ มันทำให้ผมอยากหยุดทุกอย่าง” ทุกคนพากันปลื้ม มีรวีคนเดียวที่รู้ว่าภูวดลตอแหล
“...ถ้าผมเคยทำให้คุณเสียใจ ผมขอโทษ แต่ผมสัญญา หลังจากวันนี้ ผมจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ ผมจะเป็นผู้นำครอบครัวที่ดี เป็นสามีที่ดี และเป็นพ่อที่ดีของลูกเรา ขอให้ทุกคนเป็นพยานด้วยนะครับ”
นักข่าวพากันเออออ...รวีพรรณได้แต่นิ่งงัน แล้วภูวดลก็เอาแหวนที่ศรีพิไลเคยให้รวีพรรณออกมาแล้วจับมือรวีพรรณสวมแหวนให้ที่นิ้วนางข้างซ้าย
ศรีพิไลปรบมือคนแรก
“เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก”
ภาสันต์ รมณี ณรงค์ และนักข่าวปรบมือตาม ภูวดลกระชับมือรวีพรรณแน่น เธอพยายามจะดึงมือออก แต่ภูวดลบีบแน่นจนเธอเจ็บ ภูวดลแสร้งยิ้มจริงใจให้เธอ

ในเวลาต่อมา ภูวดล รวีพรรณ รมณี ศรีพิไล ณรงค์ ภาสันต์กำลังส่งนักข่าวอยู่ด้วยกัน
“ถึงวันแต่งงานของลูกชายผมกับหนูรวีเมื่อไหร่ อย่าลืมมากันนะครับ”
นักข่าวพยักหน้ารับแล้วก็ทยอยกันเดินออกไปจนหมด รวีพรรณสุดจะปั้นหน้ายิ้มได้อีกต่อไป
“รวีขอไปห้องน้ำก่อนนะคะ”
“ผมไปด้วย”
รวีพรรณมองภูวดล ภูวดลผายมือให้รวีพรรณเดินพร้อมทั้งฉีกยิ้ม สองคนเดินออกไปด้วยกัน รมณี ศรีพิไล ณรงค์ ภาสันต์มีความสุขกันมาก

รวีพรรณจ้ำเดินออกมา ภูวดลตามมากระชากแขนรวีพรรณให้หลบเข้ามุมลับตาคน รวีพรรณตกใจ ภูวดลเอามือยันกำแพงข้างตัวรวีพรรณเอาไว้
“คุณมันเลว เลวที่สุด”
ภูวดลแสยะยิ้มชั่วบอก
“ใช่...ผมเลว แต่ผมก็เลวให้เห็นๆ ไม่เหมือนคุณ เจ้าเล่ห์ร้ายกาจ เสแสร้งได้อย่างไม่น่าอาย”
รวีพรรณจ้องภูวดลสายตากร้าว แค่นยิ้ม พูดอะไรไม่ออก
“คิดเหรอว่าแผนตื้นๆ จะทำให้คุณได้กลับไปหาไอ้พิทยามันไม่สำเร็จหรอก จำไว้ว่าคนอย่างคุณเหมาะสมกับคนอย่างผมที่สุดแล้ว”
ภูวดลยิ้มอย่างสะใจแล้วก็เดินออกไป ทิ้งให้รวีพรรณยืนแค้นอยู่คนเดียว

ภายในสวนบ้านสุอาภา เวลาเย็น
สุอาภา วรรณวดี และณีกำลังช่วยกันปิ้งบาร์บีคิว มีนพยืนอยู่ใกล้ๆ ไม่นานพิทยากับบวรก็เดินออกมาพร้อมถาดวางถ้วยน้ำจิ้ม
“น้ำจิ้มเลิศรสมาแล้วคร๊าบ” บวรว่า
บวรกับพิทยาเอาถาดวางบนโต๊ะ
“ฝีมือพี่ใหญ่เหรอคะ” วรรณวดีถาม
“พี่ซะอย่าง ทำน้ำจิ้มแค่เนี๊ยะ ทำไม่เป็นหรอก... ฝีมือพิทโน่น”
ทุกคนหัวเราะ แล้วนพก็นึกอะไรขึ้นมาได้
“เออนี่..เรื่องงานแฟชั่นวันก่อน...”
พิทยา สุอาภา บวร วรรณวดีตกใจที่นพพูดเรื่องนี้ขึ้นมา บวรรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ป้าณีครับ..บาร์บีคิวได้ยังครับ ผมหิวแล้ว
“ยังไม่สุกเลยค่ะ”
“ทำไมมันสุกช้าแบบนี้ล่ะคะป้า” วรรณวดีบอก
“นั่นสิ ผมทำเองดีกว่า”
วรรณวดีกับบวรเดินไปที่เตาปิ้งบาร์บีคิว นพมองลูกสองคนอย่างงๆ แล้วก็หันมาทางสุอาภากับพิทยา
“แต...เรื่องงานแฟชั่นชาริตี ฟอร์ ไชล์ด”
“เออ แตไปช่วยพี่ใหญ่กับพี่ต่ายก่อนนะคะ”
สุอาภารีบเดินไปหาบวรกับต่าย นพเลยมองหน้าพิทยาแทน พิทยารีบขอตัว
“ผมว่าน้ำจิ้มมันยังขาดเปรี้ยวไปอีกนิด ผมเอาเข้าไปเติมมะนาวหน่อยดีกว่า”
นพสุดทน
“เป็นอะไรกันไปหมดห๊ะ!”
ทุกคนเงียบ
“นั่นสิคะ คุณหนูทั้งสามมาแย่งหน้าที่ป้าไปหมดเลย”
“มันไม่ใช่เรื่องนั้นณี”
ณีร้อง ”อ้าว” นพพูดต่อ
“ทำไมพอป๋าจะพูดเรื่องงานแฟชั่น ถึงต้องรีบเปลี่ยนเรื่อง ป๋าจะบอกว่าคนจัดงานเค้าโทรมาขอบใจที่พิทช่วยทำให้งานวันนั้นผ่านไปอย่างราบรื่น โดยการยอมเดินแบบคู่กับหนูรวี”
ทุกคนโล่งอก
“นึกว่าป๋าจะพูดเรื่องข่าวยัยแตกับนายภูวดลเหรอไง”
ทุกคนมองหน้านพด้วยความอึ้ง
“ต่าย...แกบอกป๋าเหรอ” บวรถาม
“ต่ายเปล่านะ พิทกับแตล่ะ” วรรณวดีว่า
“ผมกับคุณแตไม่ได้บอกคุณอาเลยนะครับ”
“ไม่ต้องโบ๊ยกันไปโบ๊ยกันมา ป๋าไม่ได้อยู่ในถ้ำนะจะได้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย”
“แต่ณีไม่รู้เรื่องนะคะ ข่าวอะไรเหรอคะ”
ทุกคนหันมองป้าณีแบบผิดจังหวะมาก ป้าณีได้แต่ยิ้มแหย

“ที่พวกเราไม่บอกป๋า เพราะพวกเราไม่อยากให้ป๋าไม่สบายใจ” สุอาภาว่า
“ป๋ารู้ว่ามันไม่ใช่ความจริง แต่มันก็ดีเหมือนกันที่มีข่าวแบบนี้ออกมา เพราะมันทำให้ป๋ารู้ว่าแตกับพิทมีความไว้ใจกันมากแค่ไหน”
สุอาภากับพิทยาหันมามองหน้ากัน
“ป๋าดีใจที่เห็นเราสองคนเข้าใจ อยู่กันด้วยเหตุผล ไม่ได้ใช้อารมณ์อย่างเมื่อก่อน”
สุอาภากับพิทยายิ้ม แล้วบวรก็ได้กลิ่นไหม้พอหันไปที่เตาควันก็ลอยคลุ้งไปหมด
“เฮ้ย! ไหม้หมดแล้ว โธ่!”
บวรกับณีรีบเข้ามาช่วยกัน นพ วรรณวดี สุอาภา พิทยาหัวเราะ บรรยากาศดีดีเกิดขึ้น ทั้งสนุกสนานและอบอุ่น ทุกคนนั่งทานบาร์บีคิวกัน มีณีคอยบริการอยู่ใกล้ๆ บวรลอบสังเกตเห็นพิทยาดูแลเอาใจใส่สุอาภาแล้วก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ

บวรเดินมาหาพิทยาที่กำลังมาเอาบาร์บีคิวเพิ่ม
“แกกับไอ้แตดูรักกันดีนะ”
พิทยาชะงัก หน้าเจื่อน
“เออ..ผมกับคุณแต”
“ฉันขอบใจแกมากพิทที่ดูแลน้องสาวชั้นอย่างดี เห็นไอ้แตมันแฮปปี้กับชีวิตคู่อย่างนี้ ชั้น
ก็แฮปปี้ด้วยจริงๆ”
พิทยาหัวใจพองโตเผลอยิ้มน้อยๆออกมา
“เหรอครับ”
“เอ๊า!! อยู่ด้วยกันไม่เคยถามกันรึไงว่าแฮปปี้หรือไม่ปี้”
พิทยานิ่งไป..ไม่เคยถามความรู้สึกกันจริงๆ บวรเขี่ยต่อ
“เฮ้ย... นี่มันยุคไหนแล้ววะ คิดอะไร รู้สึกอะไรก็ต้องพูด อยากรู้อะไรก็ต้องถาม ถามจริงเหอะไม่เคยอยากรู้ความรู้สึกกันเลยรึไงห้ะ”
พิทยานิ่งคิดตามที่บวรพูด
“แกเองก็เหมือนกันนะพิท ตอนนี้แกยังมีเวลา มีโอกาสที่จะได้บอกทำไมไม่ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ ก่อนที่แกจะมานั่งเสียใจที่ไม่ได้บอกความรู้สึกของตัวเองออกไป”

ภายในห้องรับแขก บ้านรวีพรรณ เวลากลางคืน รมณี ณรงค์ รวีพรรณเดินกลับเข้ามาด้วยกันสีหน้าแช่มชื่นมีความสุขมาก ผิดกับรวีพรรณที่หน้าตาแย่สุดๆ
รมณีหันมาทางรวีพรรณ
“ลูกเห็นแล้วนะว่าพ่อดลเค้าจริงใจกับลูกมากแค่ไหน ถึงกับขอโทษลูกออกสื่อ ผู้ชายดีดีแบบนี้หายาก”
“นั่นสิ ผมตื่นเต้นจริงๆนะคุณ ที่อีกไม่นานก็จะถึงวันแต่งงานของลูกเราแล้ว” ณรงค์ว่า
รมณีนึกขึ้นได้
“จริงด้วย ฉันยังไม่ได้ตัดชุดเลย ไหนจะมีชุดงานเช้างานเย็นอีก จะเตรียมทันมั้ยเนี่ย” รมณีพูดอย่างลนลาน
ณรงค์ขำๆ
“ใจเย็นคุณ ยังไงก็ทันอยู่แล้ว”
รมณีหันไปมองรวีพรรณด้วยสีหน้าปลาบปลื้ม
“ก็มันตื่นเต้นนี่คะ ลูกสาวคนเดียวจะแต่งงาน”
รวีพรรณรู้สึกย่ำแย่มากอยู่แล้วก็ยิ่งทรุดลงไปอีก มือค่อยๆกำแน่นอย่างคนที่เก็บกดมานาน
รวีพรรณพูดด้วยน้ำเสียงปกติค่อนไปทางเบา
“รวีไม่อยากแต่งงาน”
รมณีกับณรงค์ชะงัก ไม่ค่อยแน่ใจกับสิ่งที่ได้ยิน
“ลูกพูดว่าอะไรนะ” ณรงค์ถาม
รวีพรรณสายตากร้าวจ้องหน้าพ่อกับแม่พูดเน้นและย้ำทุกคำ
“รวี-ไม่-อยาก-แต่ง-งาน!! แค่ต้องอยู่ใกล้นายภูวดล รวีก็แทบจะหายใจหายคอไม่ออกอยู่แล้ว ถ้ารวีต้องอยู่ร่วมบ้านเดียวกับเค้าไปตลอดชีวิต รวีขอตายดีกว่า”
รมณีกับณรงค์ถึงกับตกใจ อึ้งมาก
“ยัยรวี!! พูดอะไรออกมารู้ตัวรึเปล่า”
“รวีไม่ได้รักผู้ชายคนนั้น ไม่เคยรักแล้วก็ไม่คิดจะรักด้วย!”
รมณีโมโห
“พูดแบบนี้แสดงว่ายังไม่ลืมไอ้พิทยามันใช่มั้ย”
รวีพรรณหนักแน่น
“ใช่ค่ะ...คนเดียวที่รวีรักคือพิท ต่อให้รวีต้องไปเป็นเมียน้อยพิท รวีก็ยอม”
รมณีเลือดขึ้นหน้า
“ใฝ่ต่ำ!”
รมณีตบหน้ารวีพรรณอย่างแรงเพี๊ยะ!! รวีพรรณตกใจ ณรงค์อึ้ง รีบจับแขนรมณีให้ใจเย็น
“ใจเย็นก่อนคุณ”
รวีพรรณหันมามองหน้ารมณีน้ำตารื้นด้วยความเสียใจ รมณีเองก็อึ้งไปเหมือนกัน
“ตบรวีให้ตายไปเลย ตบสิคะแม่ ตบรวีอีกสิ ตบสิ”
จับมือรมณีขึ้นมาให้ตบหน้าตัวเอง
รมณีกับณรงค์ตกใจกับท่าทางของรวีพรรณที่ร้องไห้น้ำตาพร่างพรู
“หยุดนะรวี! เลิกบ้าได้แล้ว! ยอมรับความจริงซักทีว่าเราต้องแต่งงานกับพ่อดล ยังไงเราก็ไม่มีวันหนีความจริงข้อนี้พ้น ทำใจ แล้วก็อยู่กับมันให้ได้”
รวีพรรณทั้งเสียใจและโกรธหันหลังวิ่งออกไป
“รวีจะไปไหน” ณรงค์ถาม
รมณียังโมโหเลยพูดอะไรไม่ออก

พิทยาในชุดนอนนั่งอยู่ที่โซฟา มีหมอนกับผ้าห่มที่เตรียมไว้สำหรับนอน พิทยากำลังดูภาพถ่ายจากมือถือที่ถ่ายในงานปาร์ตี้บาร์บีคิว พิทยามองรูปสุอาภาแล้วก็ยิ้ม ระหว่างนั้นสุอาภาในชุดนอนเดินลงมา เห็นพิทยามองมือถือแล้วยิ้มก็แปลกใจ
“ทำไร”
พิทยาสะดุ้งรีบปิดภาพนั้นแล้วหันไป
“เช็กข้อความน่ะครับ คุณแตลงมาทำอะไร”
สุอาภาส่ายหน้า
“ฉันมาเอาครีมทาหน้า”
สุอาภาเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบครีมแล้วเดินมาทางที่พิทยานั่ง
“เป็นผู้หญิงนี่ยุ่งยากนะครับ พอจะนอนยังต้องทาครีมอีก”
“สมัยนี้ไม่ใช่แค่ผู้หญิงนะที่ต้องทาครีม ผู้ชายก็ต้องทาด้วยเหมือนกัน”
พิทยานิ่วหน้า สุอาภาสังเกตเห็นผิวหน้าพิทยา
“โดยเฉพาะนาย...ผิวหน้านายเริ่มแห้งแล้วนะเนี่ย อุ๊ย..ไม่ใช่แค่แห้งอย่างเดียว แต่เริ่มมีริ้วรอยแล้วอีกต่างหาก”
พิทยานิ่วหน้า
“ไม่จริง”
“จริงสิ ครีมตัวเนี๊ยะช่วยฟื้นฟูสภาพผิว”
สุอาภาหยิบครีบบำรุงผิวขึ้นมาแล้วเปิดกระปุกแล้วป้ายครีมแต้มใส่หน้า พิทยาทำท่าจะขยับหนี
“อยู่เฉยๆสิพิท...นายต้องทานะ
สุอาภาทาครีมให้พิทยาอย่างเบามือ
“มันเหนอะหนะ”
“พอครีมซึมลงไปใต้ผิวหนัง ฉันรับรองเลยว่านายจะรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที”
สุอาภาเพลินกับการทาครีมให้พิทยา ค่อยๆใช้มือวนครีมไปทั่วใบหน้าของพิทยาด้วยความนุ่มนวล พิทยามองสุอาภาที่อยู่ใกล้ก็รู้สึกดีสุดๆ คำพูดของบวรก็ดังขึ้น
“คิดอะไร รู้สึกอะไรก็ต้องพูด อยากรู้อะไรก็ต้องถาม ถามจริงเหอะไม่เคยอยากรู้ ความรู้สึกกันเลยหรือไงห๊ะ”
พิทยามองสุอาภาอย่างลังเล
“คุณแตครับ...”
“ฮึ...” สุอาภาไม่ได้สนใจเพราะเอาแต่ทาครีม
“คือ...ผม...”
“มีอะไรก็พูดมาสิ อ้ำๆอึ้งๆอยู่นั่นแหละ”
“เออ...คุณแตอิ่มเหรอยังครับ”
พิทยาไม่กล้าพูด สุอาภางง หยุดทาครีมทันที
“ไม่อิ่มก็บ้าแล้ว ทานเข้าไปตั้งเยอะ อย่าบอกนะว่านายยังไม่อิ่ม”
“อ่า...ใช่ครับใช่.... อยู่ดีดีก็รู้สึกหิวขึ้นมา”

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 12/3 วันที่ 24 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3 (ต่อจากเหนือเมฆ)
ที่มา manager