@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ดุจตะวันดั่งภูผา ตอนที่ 13-14 วันที่ 2 ม.ค. 56

อ่านละคร ดุจตะวันดั่งภูผา ตอนที่ 13

“คุณพัดเป็นยังไงบ้างครับ” ไทมองพัดด้วยสายตาห่วงใย

“ไม่น่าจะเดินได้ไปตลอดชีวิต” บุ๊นตอบคำถามแทนลูก

พัดไม่อยากให้พ่อพูดแบบนี้ พยายามปราม ไทตกใจรู้สึกผิดที่ทำอะไรวู่วาม บุ๊นเดินนำไทออกมาให้ห่างลูกสาว เพราะไม่ต้องการให้ได้ยินเรื่องที่ตนกับไทจะคุยกัน

“คนเรามันมีกรรมไม่เหมือนกัน นายกลับไปเถอะ... ถือเสียว่าเราเลิกแล้วต่อกัน”

“ใครที่มำร้ายพ่อผม” ไทอยากรู้ความจริงจากปากบุ๊นโดยตรง

“ถึงตอนนี้นายยังไม่รู้อีกหรือ...ใช่...ตอนแรกฉันก็ละโมบอยากได้ที่ดินผืนนั้น แต่พอพ่อของนายมาบอกฉันว่าขอถอนตัวและให้เหตุผลที่ฉันต้องคิดทบทวน...เฮ้อ... ฉันไม่น่าหลงผิดที่คิดไปทำลายแผ่นดินที่สร้างฉันขึ้นมาเลย ฉันบอกเรื่องนี้กับมังกร แต่เขาไม่ยอมและฉันก็ไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าทำ...ฉันจึงต้องเก็บโฉนดเอาไว้ และคิดจะเอาคืนแผ่นดิน” บุ๊นสีหน้ามุ่งมั่น ยิ่งได้รู้ความจริงไทยิ่งรู้สึกผิดต่อเขาและครอบครัว



“ผมขอโทษ”

“ช่างเถอะ เรื่องมันกำลังจะจบแล้ว พรุ่งนี้ก็จะได้รู้กันว่าพยัคฆ์กับมังกร ใครจะอยู่ใครจะไป”

ไทนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกว่ามังกรจับตัวคนของตนไป บุ๊นไม่สนใจ นั่นมันเรื่องของไทไม่เกี่ยวอะไรกับเขา แต่ถ้าอยากจะให้ช่วย ลูกสาวของเขาต้องการคนดูแลตลอดชีวิต ชายหนุ่มเข้าใจความหมาย

“ถ้าจะทำให้ปลายฟ้าปลอดภัย...ผมจะเป็นคนคนนั้น”

“ขอบใจ...ฉันจะช่วยนาย” บุ๊นยิ้มพอใจ

ooooooo

ภายในห้องเก็บของบ้านมังกร ปลายฟ้าถูกมัดมือไพล่หลังติดอยู่กับเก้าอี้ โดยไม่รู้ว่าตัวเองถูกจับมาทำไม โอตี่เดินเข้ามาพร้อมกับมังกร สั่งให้สมุนที่นั่งเฝ้าแก้มัดเธอออก หญิงสาวอ้อนวอนขอร้องให้โอตี่ปล่อยตนไป

“ได้...แต่แฟนของเธอต้องเอาของมาแลกก่อน”

“นายจับฉันมาเรียกค่าไถ่หรือ...ปล่อยฉันไปเถอะ หัวหน้าไม่มีเงินมากมายหรอก”

โอตี่ยังไม่ทันจะพูดอะไรอีก มีเสียงมือถือของมังกรดังขึ้นเสียก่อน มังกรยิ้มสะใจเมื่อเห็นเบอร์บุ๊นโชว์อยู่หน้าจอ ปล่อยให้เสียงสายเรียกเข้าดังต่ออีกครู่หนึ่งถึงยอมรับสาย

“ในที่สุดพี่ใหญ่ก็ยอมลดตัวโทร.มา”

“ฉันต้องการเด็กผู้หญิงคนนั้นคืน” บุ๊นเสียงกร้าว

“ได้...แหมแต่อยากรู้จังว่าเด็กคนนี้มันสำคัญพอๆ

กับที่ดินหรือเปล่า”

“แน่นอน...ถ้าอยากได้พรุ่งนี้เจอกัน” บุ๊นนัดเวลาและสถานที่เสร็จก็วางสาย มังกรกระหยิ่มใจไม่นึกมาก่อนว่าจะง่ายดายขนาดนี้...

คํ่าวันเดียวกัน ไทกลับถึงที่พัก หยิบปืนไรเฟิลติดกล้องสำหรับซุ่มยิงขึ้นมาทำความสะอาดและดูความเรียบร้อย เตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ เช่นเดียวกับบุ๊นซึ่งเตรียมเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์และโฉนดที่ดินไว้พร้อม ผู้รับโอนก็คือ นายมังกร แซ่ลี้ นั่นเอง...

ด้านอาฮวดเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้เช่นกัน เอานํ้าชารดหน้าป้ายวิญญาณบรรพบุรุษเหมือนเป็นการบอกลาครั้งสุดท้าย บนแท่นบูชาถัดไปมีรูปเรียวตั้งอยู่ เขาหยิบปืนคู่กายสองกระบอกขึ้นมาตรวจดูความเรียบร้อย พรุ่งนี้จะเป็นวันชำระแค้นให้เรียวไปในตัว

ooooooo

ใกล้ถึงเวลานัด มังกรระดมกำลังคนเตรียมพร้อมรับมือบุ๊นกับพวกด้วยท่าทีมั่นใจในชนะของตัวเอง โอตี่สั่งให้สมุนนำตัวปลายฟ้ามาขึ้นรถ โดยมีอาเพียวคอยประกบ ไม่นานนัก ขบวนรถของมังกรมาถึงลานกว้างสำหรับเก็บตู้คอนเทนเนอร์ใกล้ท่าเรือขนถ่ายสินค้า อึดใจเดียว ขบวนรถของบุ๊นก็แล่นเข้ามาจอดประจันหน้ากัน

ทั้งสองฝ่ายเดินเรียงหน้ากระดานมาหยุดตรงที่ว่างกลางลาน ไพร่พลของแต่ละฝ่ายมีไม่ตํ่ากว่า 20 คน มังกร ยิ้มอย่างซึ่งถือไพ่เหนือกว่าเปิดเสื้อให้บุ๊นดูว่าไม่ได้พกอาวุธ

“ฉันก็ไม่มี...กับคนอย่างแกฉันไม่ต้องใช้อาวุธหรอก” บุ๊นเข่นเขี้ยว มังกรถึงกับหน้าชาที่ถูกหยามซึ่งหน้า โอตี่ทนไม่ไหวแดกดันบุ๊นคืนบ้าง

“อ๋อ...อย่างนี้นี่เอง ลูกชายเลยต้องมาเดี้ยง...ลูกสาวก็กลายเป็นง่อย”

“สำหรับแก...โอตี่ ไปอดนมมาก่อนแล้วค่อยมาคุยกับฉัน” บุ๊นปรายตามองโอตี่อย่างเหยียดๆ เขากำหมัดแน่นด้วยความแค้น กวาดตามองสมุนของบุ๊นจนทั่วไม่พบไท แกล้งถามประชด

“คนเก่งของลุง ลาออกไปแล้วหรือ”

“ยังหรอก...จนกว่าเขาจะฆ่าแก” บุ๊นจ้องโอตี่อย่างเอาเรื่อง...

คนที่โอตี่ถามถึง ซุ่มอยู่บนตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งเป็นจุดที่มองเห็นครอบคลุมทั่วบริเวณ เล็งปืนไรเฟิลติดกล้อง ส่องทางไกลมายังโอตี่ มังกรและอาเพียว ระหว่างนั้นอาฮวดสังเกตเห็นอาเพียวคอยสอดส่ายสายตามองขึ้นไปบนตู้คอนเทนเนอร์อยู่บ่อยครั้ง มั่นใจว่าฝ่ายตรงข้ามคงจะมีมือปืนซุ่มยิงเหมือนกัน จึงกระซิบใส่วิทยุสื่อสารขนาดเล็กที่ซ่อนไว้เตือนไท

“นายมีเพื่อนแล้ว”

ไทมองสำรวจไปรอบๆพบมือปืนซุ่มยิงซ่อนตัวอยู่ วิทยุแจ้งกลับไปหาอาฮวด “มาสี่คน...ดีจะได้ไม่เหงา...ล่อให้มันเอาปลายฟ้าออกมาลุง” ไทพูดจบเปลี่ยนเป้าหมายมาเล็งพวกมือปืนซุ่มยิงแทน

ooooooo

ขณะที่ไทเตรียมพร้อมอยู่บนตู้คอนเทนเนอร์ ที่กลางลานกว้าง บุ๊นกับมังกรกำลังเจรจาต่อรองกัน โดยจะเอาโฉนดกับเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ปากช่องแลกกับตัวปลายฟ้า บุ๊นโยนซองใส่เอกสารทั้งหมดให้

“เอานังนั่นออกมา” มังกรสั่งการ สมุนรีบพาตัวปลายฟ้าออกมาจากรถแต่ไม่ส่งตัวคืนให้ บุ๊นไม่ค่อยพอใจนัก สั่งเสียงเข้มให้ส่งตัวเธอคืนมา โอตี่ขวางไว้

“คงไม่ง่ายมั้งลุงบุ๊น มันมีของบางอย่างที่พีทต้องเอามาคืนผม นั่นหมายถึงว่าผมต้องได้ของชิ้นนั้นก่อนแล้วนังคุณผู้หญิงคนนี้ก็จะปลอดภัย”

“ของอะไร...ฉันไม่รู้เรื่อง”

“ไอรู้มาว่า พีทเก็บของสิ่งนี้ไว้ที่คนที่มันไว้ใจมากที่สุด” โอตี่ว่าแล้วปรายตามองอาฮวดซึ่งซ่อนจี้กับสร้อยที่ใส่เมมโมรี่การ์ดที่พีททำก๊อบปี้ไว้อีกชุดหนึ่ง เป็นคลิปตอนที่โอตี่ขนยาเสพติด ไทที่มองผ่านกล้องติดปืนไรเฟิลรีบเตือนอาฮวดผ่านทางวิทยุสื่อสารขนาดจิ๋วว่าอย่าให้ของสิ่งนั้นกับโอตี่เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นทุกคนจะถูกฆ่า

“ไท...นายจะเอายังไง”

ไทกวาดตาไปเห็นมือปืนซุ่มยิงกำลังเล็งปืนใส่บุ๊น บอกอาฮวดให้คุ้มกันท่านประธาน แล้วรอสัญญาณจากตน มังกรเห็นฝ่ายบุ๊นเงียบไป

“ว่าไงพี่ใหญ่...เอาของให้โอตี่ไปเถอะ จะได้กลับบ้านใครบ้านมัน”

“แล้วถ้าฉันไม่ให้ล่ะ” บุ๊นสีหน้าจริงจัง โอตี่ยักไหล่ไม่ยี่หระ

“งั้นมันคงต้องเป็นความลับตลอดไป” พูดจบโอตี่ส่งสัญญาณ มือปืนที่ซุ่มอยู่ใกล้ที่สุดเตรียมเหนี่ยวไกจะยิงบุ๊น แต่ถูกไทยิงเสียก่อน เมื่อมือปืนคนแรกพลาดคนที่เหลือรับช่วงต่อ แต่ช้าเกินไป ไทเก็บพวกนั้นทีละคนๆอย่างแม่นยำ มือปืนคนสุดท้ายร่วงลงมาที่พื้น

ทำให้โอตี่รู้ว่าทางบุ๊นก็ส่งมือปืนมาคอยซุ่มยิงเช่นกัน

สั่งการทันที

“มันอยู่ข้างบน...ยิง”

สมุนของมังกรส่วนหนึ่งระดมยิงไปยังจุดที่ไทอยู่ แต่ไร้ประโยชน์เพราะอยู่สูงเกินไป พวกที่เหลือตรงเข้าตะลุมบอนกับสมุนของบุ๊น ไทเล็งปืนจะเก็บมังกร อาเพียวรู้ทันดึงปลายฟ้ามาบังเอาไว้ ทำให้เขาไม่กล้ายิง

“ไปกันได้แล้ว” โอตี่ว่าแล้ววิ่งนำมังกร อาเพียวกับปลายฟ้าลัดเลาะไปตามตู้คอนเทนเนอร์ที่วางเรียงรายอยู่ อาฮวดสั่งให้สมุนคุ้มกันบุ๊นไว้ แล้วรีบวิ่งตามโอตี่กับพวก ไททิ้งปืนไรเฟิลแล้วรีบตามไปเช่นกัน

โอตี่เห็นว่าหนีกันไปเป็นกลุ่มแบบนี้จะเป็นเป้าใหญ่ให้โดนเล่นงาน จึงสั่งให้อาเพียวพามังกรหนีไป อีกทางหนึ่ง ส่วนเขาจะเอาตัวปลายฟ้าไปเอง

ooooooo

อาเพียวพามังกรหนีมาทางท่าเรือ เจออาฮวดดักรออยู่ เขาชักปืนจะยิง แต่อาฮวดไวกว่าสะบัดมีดสั้นพุ่งปักมืออย่างแม่นยำปืนหล่นตกพื้น เขาดึงมีดออกแล้วเอาผ้าเช็ดหน้ามาพันห้ามเลือดไว้ อาฮวดย่างสามขุมเข้าหา ขณะที่อาเพียวตั้งท่ารอรับ ก่อนจะร้องบอกเจ้านาย

“ท่าน...หนีไปก่อน”

มังกรกอดซองใส่เอกสารไว้แน่น แล้ววิ่งหนีไปปล่อยให้สมุนคู่ใจเผชิญหน้ากับอาฮวดตามลำพัง ทั้งคู่จ้องหน้าหยั่งเชิงกันครู่เดียว ก็ตรงเข้าต่อสู้กันด้วยเชิงมวย...

ขณะที่อาเพียวกับอาฮวดตรงเข้าห้ำหั่นกันราวกับเป็นศัตรูกันมาแต่ชาติปางก่อน โอตี่ลากตัวปลายฟ้าถูลู่ ถูกังมาที่รถซึ่งจอดหลบไว้ มีเสียงไทดังขึ้นทางด้านหลัง

“ลืมอะไรหรือเปล่า”

โอตี่กับปลายฟ้าหันมองตามเสียงเห็นไทยืนควงกุญแจรถอยู่ ปลายฟ้าดีใจจะวิ่งไปหา โอตี่ดึงมีดที่ซ่อนไว้ในหัวไม้เท้าออกมาจ่อคอเธอไว้ ขู่ไทให้ส่งกุญแจรถมา

“แกนั่นแหละ เดินมาเอาเอง”

“งั้นแกเตรียมพานังนี่ไปทำศัลยกรรมได้เลย” โอตี่ทำท่าจะกดปลายมีดที่แก้มขาวของปลายฟ้าซึ่งร้องลั่นด้วยความหวาดกลัว ไทจนแต้ม ยอมคืนกุญแจให้ แต่แกล้งโยนพลาด จังหวะที่โอตี่จะก้มเก็บ ปลายฟ้าสบช่องสะบัดตัวหลุด แล้ววิ่งหนีไปหาไทที่กอดเธอไว้แน่นด้วยความรักและเป็นห่วง โอตี่ได้กุญแจรถแล้วแต่กลับไม่หนี ตบมือให้ทั้งคู่ด้วยท่าทางยียวนกวนประสาท

“แหม...ซึ้งจริงๆ พระเอกช่วยนางเอกจากผู้ร้าย... แฮปปี้เอ็นดิ้ง...แต่พอดีนี่มันเรื่องจริงโว้ย” พูดจบโอตี่ควงมีดสั้นเข้าหาไทซึ่งผลักปลายฟ้าออกห่างแล้วปัดป้องการโจมตีของเขา

“หนีไปก่อน” ไทตะโกนลั่น

“ไม่...ฉันจะอยู่ช่วยหัวหน้า”

ไทล็อกมือโอตี่ไว้ได้ แล้วร้องบอกปลายฟ้า “ได้... งั้นมาต่อยกับมัน”

หญิงสาวถึงกับหน้าเสีย รู้ว่าถูกประชดประชัน เตือนให้ไทระวังตัวแล้ววิ่งปรู๊ดออกไปทันที ไทกับโอตี่ผลัดกันรุกผลัดกันรับ ไม่มีใครยอมใคร

ooooooo

อ่านละคร ดุจตะวันดั่งภูผา ตอนที่ 14

ระหว่างที่ไทกับโอตี่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด อาเพียว กับอาฮวดไม่แพ้คู่ของไทเช่นกัน อาฮวดใช้ความหนุ่มแน่นกว่าทำให้ได้เปรียบเรื่องพละกำลัง สุดท้ายผู้สูงวัยกว่าอย่างอาเพียวก็ไปไม่รอด พ่ายแพ้ให้อาฮวดและถูกสังหารในที่สุด...

ทางด้านไทยังคงต่อสู้กับโอตี่อย่างเอาเป็นเอาตาย จังหวะหนึ่งเขาเสียท่า ถูกโอตี่รุกไล่ด้วยมีดสั้นจนต้องถอยร่น พอตั้งหลักได้ไทโต้กลับ เล่นงานโอตี่อยู่หมัดและฆ่าเขาตายคามือ...

อีกมุมหนึ่งใกล้ท่าเรือ มังกรวิ่งหนีเข้าไปในโกดังเก็บสินค้าต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงบุ๊นตะโกนไล่หลังให้หยุดคุยกันก่อน เขาหันมองพร้อมกับชักปืนขึ้นมาเตรียม พร้อม พอเห็นบุ๊นตามมาเพียงลำพังก็เบาใจ

“คงไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วมั้งพี่ใหญ่”

“นี่แกกล้ายิงฉันหรือ”

“คนรอบข้างพี่ใหญ่ ฉันก็ยิงทิ้งมาหมดแล้ว ทำไมฉันจะไม่กล้ายิง” มังกรพูดจบ เล็งปืนใส่บุ๊น

“พอเถอะมังกร อย่าก่อกรรมต่อไปเลย”

“กลัวตายขึ้นมาล่ะสิ...นี่หรือบุ๊น พยัคฆ์ผู้ทระนง วันนี้ต้องมาตายน้ำตื้นๆ ป่านนี้อาซ้อคงกำลังรอพบพี่ใหญ่อยู่แล้ว” มังกรหัวเราะสะใจ บุ๊นแววตากร้าวขึ้นมาทันที

“แกเป็นคนวางระเบิดรถฉัน?”

“ใช่...เสียดายที่อาซ้อต้องมารับเคราะห์แทน...มา... ฉันจะสงเคราะห์ให้ผัวเมียจะได้อยู่ด้วยกันเสียที”

“เอาเลย...ฉันไม่มีอะไรจะต้องห่วงอีกแล้ว” บุ๊นท้าทายอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนที่มังกรจะทันเหนี่ยวไกปืน ปลายฟ้าย่องมาทางด้านหลัง ใช้ท่อนไม้ตีเข้าท้ายทอยสลบเหมือด...

ในเวลาต่อมา กำลังตำรวจหลายสิบนายพร้อมด้วยรถพยาบาลมาถึงที่เกิดเหตุ คู่หูของฉัตรสั่งการให้ตำรวจกระจายกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ สมุนของทั้งสองฝ่ายที่ได้รับบาดเจ็บ ถูกหามขึ้นรถพยาบาลที่จอดรออยู่ คู่หูเห็นไทเดินเข้ามาหา ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง

“ยังเป็นพระเอกอยู่” ไทยิ้มกวน

“นั่นสินะ ถ้าฉันมาเร็ว นายจะเป็นพระเอกได้ยังไง” คู่หูหัวเราะชอบใจ จังหวะนั้น ปลายฟ้าประคองบุ๊นมาจากอีกด้านหนึ่ง เห็นไทปลอดภัย ดีใจวิ่งเข้าไปกอด เขาเผลอตัวกอดเธอตอบ บุ๊นมองทั้งคู่สีหน้าเป็นกังวล

“นึกว่าจะไม่ได้เจอกันซะแล้วสิหัวหน้า”

“แช่งฉันหรือยายบ๊อง” ไทหยอกล้อปลายฟ้าทำให้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้น

คู่หูคุมตัวมังกรออกมาจากโกดังเก็บสินค้าเข้ามาหาบุ๊นพร้อมกับยื่นซองใส่เอกสารคืนให้ แล้วพามังกรไปที่รถตำรวจ เป็นจังหวะเดียวกับเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลเข็นศพโอตี่ผ่านมา มังกรใจหายวูบ สะบัดตัวแล้ววิ่งเข้าไปหาร่างไร้วิญญาณของลูกชาย ร้องไห้โฮอย่างไม่อายใคร

“โอตี่...ลูกพ่อ”

ooooooo

หลายวันผ่านไป...

ที่บ้านของบุ๊น ขณะพัดกำลังนอนพักฟื้นอยู่

ในห้อง บุ๊นเข้ามาเยี่ยมเยียน ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง หมอเจ้าของไข้บอกอาการให้รู้แล้วใช่ไหม พัดพยักหน้ารับคำ มองที่ขาของตัวเองสีหน้าเศร้า

“ดูสิว่าใครมาเยี่ยม” บุ๊นหลบไปยืนข้างๆ เผย

ให้เห็นไทยืนถือช่อดอกไม้อยู่ ท่านประธานรู้งานรีบชิ่งออกมา ปล่อยทั้งคู่ให้อยู่กันตามลำพัง ไทยื่นช่อดอกไม้ให้พัดที่เอื้อมมือมากุมมือเขาไว้ด้วยความดีใจ

“ฉันคิดว่าคุณจะไม่มาหาฉันอีกแล้ว”

“ใช่...ผมจะไม่มาหาคุณอีกแล้ว...แต่ผมจะอยู่ดูแลคุณตลอดไป”

“นายจะไม่ทิ้งฉันไปจริงๆนะ” พัดโผกอดไท น้ำตาคลอเบ้าด้วยความปีติ เขากอดเธอตอบ แต่ในใจกลับคิดถึงปลายฟ้าทุกลมหายใจเข้าออก...

หลังจากพูดคุยกับพัดได้สักพัก ไทก็ขอตัวกลับ ระหว่างเดินมาตามทางจะไปที่รถ ไทกวาดตามองไปรอบๆ พื้นที่อันกว้างใหญ่ของบ้านบุ๊น ราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน

“ในที่สุดการเดินทางของผมก็มาถึงปลายทาง อะไรทำให้ผมแน่ใจน่ะหรือ เพราะผมมองไม่เห็นว่าผมจะจากที่นี่ไปได้ยังไง...คนดีๆที่แสนบริสุทธิ์คนหนึ่งต้องมารับกรรมที่ผมก่อเอาไว้ เหตุผลแค่นี้ก็เกินพอ

อยู่แล้ว แม้ว่าในใจผมจะโหยหาใครบางคน แต่ก็คงต้องปล่อยให้สายลมพัดผ่านไป” ไทพึมพำอยู่ในใจ สีหน้าหม่นหมอง

ooooooo

ในที่สุดก็ถึงวันสอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ ไทมารอปลายฟ้าอยู่หน้าคณะตั้งแต่เช้า

สักพัก เธอเดินแบกเชลโล่เข้ามาหาสีหน้าสดชื่น

“ไง...มารอนางเอกหรือ”

“เปล่า...มารอเธอ วันนี้สอบใช่ไหม...ไปออสเตรียให้ได้นะ”

“แน่นอน...แล้วหัวหน้าล่ะ จะไปที่ไหนต่อ” ปลายฟ้ายังคงยิ้มแย้มร่าเริงเหมือนทุกครั้ง ไทหันกลับไปมองตรงที่พัดนั่งรถเข็นรออยู่ ปลายฟ้ามองตามสายตาเขาแล้วถึงกับใจหาย น้ำตาคลอเบ้า เข้าใจดีว่าเขาคงเลือกพัดไทยิ้มให้หญิงที่เขารักหมดหัวใจเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะต้องจากกันโดยไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า

“ขอให้เธอโชคดีนะ...ลาก่อน” ไทตัดใจหันหลัง

จากไป ปลายฟ้ามองตาม ก่อนจะตะโกนไล่หลัง

“หัวหน้า...โชคดีนะ...”

ชายหนุ่มหันมองสบตาปลายฟ้านิ่งงันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้น ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายไปตามทางของตัว...

เมื่อถึงคิวปลายฟ้าถูกเรียกเข้าห้องสอบ อาจารย์แหม่มอดแปลกใจไม่ได้ ทำไมคราวนี้เธอเลือกเพลงเศร้ามาสอบ ปลายฟ้าอ้างว่าอยากลองเปลี่ยนแนวดูบ้าง

“อืม...ก็ดี...ดูหน้าตาเธอตอนนี้ก็ไม่ต่างจากเพลงเท่าไหร่หรอก...พร้อมแล้วบอกนะ”

หญิงสาวรับคำ แล้วนั่งสมาธิ พยายามทำใจให้สงบ แต่พอนึกถึงภาพไทเดินจากไปพร้อมกับพัด น้ำตาเจ้ากรรมมาจากไหนไม่รู้มาเอ่อขึ้นมา เธอต้องกะพริบตาถี่เพื่อไล่ให้มันไหลกลับ...

ทางด้านไทเงียบขรึมมาตลอดทางขับรถพาพัด

กลับบ้าน เธอสังเกตเห็น อดทักไม่ได้ว่าเป็นอะไรไป เขาส่ายหน้า โกหกว่าไม่ได้เป็นอะไร พัดรู้ดีว่าเขาคิดถึงปลายฟ้า

“หวังว่าปลายฟ้าคงสอบผ่านนะ”

“ครับ” ไทยิ้มออกเมื่อได้ยินชื่อหญิงที่เขารัก...

ที่ห้องสอบชิงทุน ปลายฟ้าสีเชลโล่อย่างตั้งใจ เสียงเพลงบรรเลงออกมาจากส่วนลึกของหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความเศร้า เสียใจที่ต้องสูญเสียคนรัก ทั้งเจ้าหน้าที่ ทั้งนักศึกษาที่รอสอบต่อจากปลายฟ้า รวมทั้งอาจารย์แหม่มต่างทึ่งในความไพเราะกินใจของเสียงเพลง เมื่อปลายฟ้าบรรเลงจบ เรียกเสียงตบมือจากทุกคนลั่นห้อง อาจารย์แหม่มพยักหน้าให้เธออย่างพึงพอใจ

ooooooo

อ่านละคร ดุจตะวันดั่งภูผา ตอนที่ 13-14 วันที่ 2 ม.ค. 56

ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา บทประพันธ์ / บทโทรทัศน์ : ภูมิแผ่นดิน
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา กำกับการแสดง : เฉิด ภักดีวิจิตร
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา แนวละคร : แอ็คชั่น โรแมนติก ดราม่า
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา ดำเนินงานสร้าง : อาหลอง จูเนียร์
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา ดูแลงานสร้าง : บุญจิรา ตรีติยะ
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ