@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 13/2 วันที่ 15 ม.ค. 56

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 13/2 วันที่ 15 ม.ค. 56

“เข้าใจแล้วล่ะ ตกลงว่าคุณไม่ให้ฝากนาฬิกานี่มาให้ผม” เมฆถามอีกครั้ง ตะวันฉายพยักหน้ารับ “ผมก็ไม่ได้ส่งดอกไม้ให้คุณเหมือนกัน สรุปว่าเราโดนหลอกทั้งคู่”
ตะวันฉายได้ยินก็โกรธมาก
“หมายความว่าถ้าคุณไม่โดนหลอกมา คุณก็ไม่คิดจะเจอฉันอีกแล้วสิ”
เมฆมองตะวันฉายอย่างอาลัยแต่ก็พยายามปากแข็ง
“ใช่”
ตะวันฉายสะเทือนใจกับคำๆนี้จนน้ำตาคลอขึ้นมาทันที

“งั้นก็ดี ถือว่านี่เป็นการพบกันเพื่อลา ต่อไปนี้ขอให้เราเป็นแค่คนที่ไม่เคยรู้จักกัน ฉันจะถือว่าเราไม่เคยเจอกัน ไม่เคยใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่เคยรักกัน”



ตะวันฉายพูดทั้งน้ำตาก่อนจะหันหลังเดินจากเมฆไป เมฆมองตามหลังจะวันฉายแล้วทำท่าจะเดินตามไปเรียกไว้ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ทำและได้แต่มองตามตะวันฉายไปด้วยความเสียใจ
ยุทธการ เอวา และนิคที่แอบอยู่ถึงกับสลดไป

เอวา นิค และยุทธการนั่งเครียดอยู่ที่ห้องรับแขกในบ้านสวน
“อยู่ในห้องไม่ยอมออกมาอย่างนี้เอวาใจคอไม่ดีเลยค่ะพี่ยุทธ” เอวาว่า
ยุทธการมีสีหน้าเป็นกังวลไม่แพ้กัน
“เอวาลองเข้าไปดูหน่อยดีมั้ย” ยุทธการบอก
“เพิ่งก่อเรื่องอย่างนี้ จะมีหน้าเข้าไปหาไอ้ซันอีกเหรอครับ ได้โดนมันเตะส่งออกมาพอดี” นิคบอก
“แต่ปล่อยไว้แบบนี้ก็แย่ไม่แพ้กันนะนิค ที่เราทำไปทั้งหมดก็เพราะหวังดีกับซัน พี่มั่นใจว่าซันต้องเข้าใจ แต่ที่พี่กังวลก็คือ ซันจะทำใจได้รึเปล่า”
เอวาลุกพรวดขึ้นทันที
“งั้นเอวาจะไปดูซันเองค่ะ”
ทันใดนั้นเสียงตะวันฉายก็ดังขึ้น
“ฉันไม่เป็นไรแล้วล่ะ”
ยุทธการ นิค และเอวาหันมาเห็นตะวันฉายยืนอยู่ตรงหน้า
“ซัน”
ตะวันฉายเดินเข้ามาจับมือเอวา ก่อนจะหันไปยิ้มให้ยุทธการและนิค
“ขอบคุณทุกคนที่พยายามช่วยซัน ตอนนี้ซันคิดได้แล้วค่ะว่า ทุกอย่างมันคงจบแล้วจริงๆ ไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องมานั่งเศร้าโศกเสียใจ อกหักได้ ก็หายได้ ยังไงชีวิตคนเราก็ต้องดำเนินต่อไปค่ะ”
ยุทธการ เอวา และนิคมีสีหน้าแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยินมากๆ
“พี่ดีใจนะที่ซันเข้มแข็งแบบนี้” ยุทธการบอก
“เพราะซันมีพี่ยุทธ เอวา แล้วก็นิคไงคะ แค่ผู้ชายงี่เง่าคนเดียว ซันไม่สนใจแล้วค่ะ แต่ต่อไปนี้ขอร้องว่าอย่าพยายามทำให้ซันกับเค้าคืนดีกันอีกนะคะ ซันไม่อยากรู้สึกอย่างวันนี้อีกแล้ว”
ยุทธการ เอวา และนิคสะอึกแล้วก็หน้าเจื่อนกันไปหมด

หลายวันต่อมา เมฆกำลังเล่นดนตรีอย่างบ้าคลั่งอยู่ในห้องทำงาน อิงฟ้าและหมอกยืนมองเมฆพร้อมกับถอนหายใจเอือมๆ
“แม่ครับ ทำไมเดี๋ยวนี้พ่อไม่เล่นกับหมอกเลย” หมอกถาม
“พ่อเค้าเหนื่อยน่ะลูก”
“เมื่อก่อนพ่อก็เหนื่อย แต่ไม่เห็นพ่อจะเป็นแบบนี้ หมอกอยากได้พ่อแบบเดิม หมอกคิดถึงพี่ซัน ทำไมพี่ซันต้องไปด้วยครับแม่”
อิงฟ้าก้มลงกอดหมอกด้วยความสงสาร
หลายวันต่อมา อิงฟ้าคุยกับยุทธการ นิค และเอวาด้วยสีหน้าเป็นกังวลมาก
“ฉันมั่นใจค่ะว่าเมฆยังรักคุณซันอยู่ แต่ไม่รู้ทำไมเค้าถึงไม่ยอมปริปากพูดซักทีว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดจากอะไร”
“ถ้าเค้าอยากบอกเค้าคงบอกนานแล้วมั้งคะ แต่มันคงเป็นเรื่องที่เค้าไม่อยากพูดจริงๆ” เอวาบอก
“ทุกวันนี้เมฆอยู่อย่างซังกะตาย ถ้าขืนปล่อยไว้ ต้องเป็นโรคซึมเศร้าแน่ๆ สงสารตาหมอก ถามทุกวันว่าพ่อเป็นอะไร แล้วพี่ซันไปไหน ฉันก็ไม่รู้จะบอกลูกยังไงดี” อิงฟ้าเล่า
“อย่าว่าแต่คุณเมฆเลยครับ ซันเองก็เหมือนกัน ถึงจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ผมดูออกว่าซันเองก็ยังรักคุณเมฆมากเหมือนกัน” ยุทธการพูด
“งั้นเราต้องทำให้เค้ารู้ว่าต่างคนต่างยังรักกันอยู่” นิคเสนอ
ยุทธการมีสีหน้าเครียดเพราะอ่อนใจ
“แต่ซันห้ามไม่ให้พวกเรายุ่งกับเรื่องนี้แล้วนี่”
“แล้วพี่ยุทธจะยอมให้ซันตรอมใจตายเหรอคะ” เอวาย้อนถาม
ยุทธการหน้าเสียเพราะกังวลเหมือนกัน
“ฟ้าว่า ที่เอวาพูดก็ถูกนะคะ ถึงจะโกรธก็คงต้องยอมแล้วล่ะค่ะ เพื่อความสุขของเค้าสองคน อยู่ที่ว่าเราจะทำยังไงต่างหาก”
เอวาครุ่นคิดก่อนจะนึกขึ้นได้
“เอวานึกออกแล้วค่ะ”

หลังจากคุยกับจอมสยามและอิงฟ้าที่ผับ เมฆก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ
“อะไรนะครับพี่จอมจะให้ผมมีแฟนใหม่”
“ใช่สิ ก็นายไม่ชอบซันอยู่แล้วนี่ ก็มีแฟนไปเลยสิ” จอมสยามบอก
“ดีเหมือนกันนะเมฆ ฟ้าเห็นเมฆไม่มีความสุข ฟ้าก็ไม่สบายใจ อีกอย่าง ถ้าเมฆมีใครซักคน หมอกจะได้มีเพื่อนเล่นแทนที่คุณซันไง” อิงฟ้าสนับสนุน
“แต่ผมยังไม่ได้คิดเรื่องนั้น แล้วผมก็ยังไม่พร้อมจะเริ่มต้นใหม่กับใครด้วย”
“ไม่คิด งั้นก็คิดเลยสิ” จอมสยามตัดบท “เอางี้เดี๋ยวพี่จะจัดการเรื่องนี้เองนะ พี่มีสาวแจ่มๆจะแนะนำให้แก ไม่ชอบไม่เป็นไร ลองไปเจอก่อน อย่างน้อยแกจะได้เปิดหูเปิดตาซะบ้าง”
พูดจบจอมสยามก็ลุกขึ้นเดินหนีออกไปทันทีโดยไม่ฟังเสียงทัดทานของเมฆ
“พี่จอม เดี๋ยว พี่จอมฟังผมก่อน” เมฆพูดกับอิงฟ้า “ฟ้า”
อิงฟ้ายักไหล่ทำไม่รู้ไม่ชี้ “ฟ้าขอตัวก่อนนะคะ”
อิงฟ้าเดินออกไปเลย เมฆถอนหายใจด้วยความลำบากใจมากๆ
อิงฟ้าและจอมสยามที่เดินออกมาด้านนอกหันมายิ้มให้กัน

ตะวันฉายนั่งคุยกับเอวาแล้วก็ปฏิเสธเสียงแข็ง
“จะบ้ารึเปล่าอยู่ๆจะให้ฉันมีแฟนเนี่ยนะ”
“ก็ฉันกลัวแกเฉาตายนี่หว่า ฉันว่าแกควรจะออกไปเจอโลกภายนอกได้แล้วนะ แกฝันอยากจะเป็นนักเขียนไม่ใช่เหรอ คนเป็นนักเขียนต้องมีประสบการณ์ชีวิตเยอะๆ”
“ถูก จะได้ใช้เป็นวัตถุดิบในการเขียนหนังสือไงวะ” นิคเสริม
“ไปเถอะน่าซัน ไม่ได้แฟน อย่างน้อยแกก็ได้รู้ว่า เค้านัดบอดกันยังไง ดีกว่าอยู่เฝ้าบ้านสวนเป็นผีบ้านผีเรือนแบบนี้น่ะเว้ย” เอวาคะยั้นคะยอ
ตะวันฉายสีหน้าเครียดแล้วก็ครุ่นคิด
“ไม่ต้องคิดมากหรอก ถือว่าทำเพื่อพวกฉัน เพื่อนจะได้สบายใจ ทำให้ฉันเห็นหน่อยว่า แกเข้มแข็งจริง และพร้อมจะเปิดใจกับใครได้แล้ว ไม่งั้นฉันจะถือว่าแกยังรักพี่เมฆอยู่” เอวาบอก
ตะวันฉายชะงักไปทันที
“ก็ได้ งั้นฉันจะไป ที่ไหน เมื่อไหร่ แกนัดมาเลย”
เอวาและนิคแอบยิ้มให้กัน

ที่หน้าห้องจัดนัดบอด เมฆเดินมาที่โต๊ะลงทะเบียนอย่างงงๆ แล้วถามพนักงาน
“สวัสดีครับ คือคุณจอมสยามบอกให้ผมมาติดต่อคุณ...”
พนักงานพูดสวนทันที “อ๋อ...คุณนภทีป์ที่จะมานัดบอดใช่ไหมคะ”
เมฆตกใจ “ห๊า นัดบอดเหรอครับ”
“ค่ะ”
ตะวันฉายเดินมาพอเห็นเมฆเธอก็ตกใจ
“เอ๊ะ นี่คุณ”
“คุณตะวันฉายใช่ไหมคะ งั้นเชิญคุณสองคนตามดิฉันมาเลยค่ะ” พนักงานบอก
พนักงานจูงมือทั้งสองเดินเข้าห้องจัดเลี้ยงไปทันที ตะวันฉายและเมฆเหวอๆ เพราะตั้งตัวไม่ทัน

ยุทธการ นิค และเอวาที่แอบดูอยู่ยิ้มขำสะใจ
“โห...พี่ยุทธแผนสุดยอดอ่ะ” นิคชม
“เดี๋ยวสองคนนั่นก็ต้องกินข้าวกัน บรรยากาศดีๆโรแมนติค คราวนี้คงรักกันแน่” เอวาบอก
“เราไปแอบดูกันเถอะ”
“พี่ว่าอย่าเลย เกิดเห็นพวกเราเขาจะเขิน ไปหากาแฟดื่มฆ่าเวลาดีกว่า” ยุทธการชวน
ยุทธการมองไปทีห้องจัดงานอย่างมีความหวัง แล้วเขาก็เดินนำนิคกับเอวาไป

พนักงานพาเมฆกับตะวันฉายเดินเข้ามาในห้องจัดงาน
เมฆกระซิบ “คุณมาทำอะไรที่นี่ห๊ะ”
ตะวันฉายโกรธ “ไม่ได้มาหาคุณละกัน”
เมฆสะอึกแล้วก็หน้าเจื่อนลง
“ผมลืมไปว่าคุณมองผมเป็นคนอื่นไปแล้ว”
ตะวันฉายชะงักหน้าเสียนิดๆ แต่พยายามทำปากแข็ง
“รู้ตัวก็ดี”
พนักงานพาทั้งสองมาที่โต๊ะ
“นี่เป็นโต๊ะของพวกคุณค่ะ”
เมฆกับตะวันฉายอึ้ง
“เอ่อ...คุณคะ ฉันขอเปลี่ยนคู่ได้มั้ยคะ” ตะวันฉายบอก
“ผมก็เหมือนกัน ผมคิดว่าผมคงไปกับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้แน่ๆ” เมฆรีบพูด
ตะวันฉายสะอึก
“ใช่ค่ะ เพราะฉันก็ไม่มีวันจะคบผู้ชายคนนี้แน่นอน”
เมฆสะอึกเพราะรู้สึกเจ็บปวดไปด้วยอีกคน
ตะวันฉายกับเมฆพูดพร้อมกัน “ช่วยเปลี่ยนให้เราด้วยครับ/ ค่ะ”
พูดจบทั้งสองคนก็หันหน้าหนีกัน

พนักงานพาตะวันฉายเดินมาที่โต๊ะตัวหนึ่งที่มีผู้ชายกำลังนั่งก้มหน้าอยู่ ตะวันฉายเริ่มกลัวๆ
“เขาตายหรือเปล่าค่ะ” ตะวันฉายถาม
ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นทำให้เห็นว่าเป็นเสี่ยหนุ่มที่ส่งยิ้มแป้นให้ตะวันฉาย ตะวันฉายยิ้มรับ เสี่ยผายมือให้นั่ง ตะวันฉายนั่งแล้วทั้งคู่ก็ยิ้มให้กัน

พนักงานพาเมฆมานั่งที่โต๊ะ ผู้หญิงฝั่งตรงข้ามกำลังเปิดกระเป๋าเครื่องสำอางใบโตแต่งหน้าทำให้เมฆมองไม่เห็นหน้า
“รอแป๊บนะคะ” สาวคนนั้นพูด
“ตามสบายครับ”
“อุ๊ย เสียงหล่อจัง”
กระเป๋าเครื่องสำอางถูกปิดทำให้เมฆเห็นหน้าสาวหน้าหมวยเต็มๆจนเขาแทบกระโดดหลบ
“เสียงเพราะแล้วหน้ายังหล่ออินเทรนด์เกาหลีอีก” สาวหมวยชม
สาวหมวยเดินมานั่งตักเมฆทันที
“ยินดีที่เราจะได้ใช้ชีวิตคู่กันค่ะ”
“เอ่อ...ผมว่าเบื้องต้นเอาแค่รู้จักกันก่อนดีไหมครับ” เมฆบอก
เมฆพูดเสร็จก็พยายามผลักสาวหมวยออก แล้วตัวเองก็แอบมองหาตะวันฉาย

ที่โต๊ะตะวันฉาย เสี่ยหนุ่มยังยิ้มแป้นให้จนตะวันฉายอึดอัด
เสี่ยหนุ่มถามเสียงห้วนๆ “ชื่ออะไรอ่ะเรา”
ตะวันฉายรู้สึกสะดุดหู “ซันค่ะ”
“มีผัวมายัง”
“นี่...ถามดีๆหน่อยสิ” ตะวันฉายว่า
ที่โต๊ะเมฆ สาวหมวยทำเสียงชื่นชม
“ชื่อเมฆเหรอคะ กรี๊ดดดด รูปหล่อ เสียงเพราะ ชื่อเท่ อ๊ายยยย อยากเป็นหงอคงจะได้ขี่เมฆ”
เมฆได้แต่ยิ้มรับแล้วมองไปเห็นตะวันฉายกับเสี่ยหนุ่มก็หมั่นไส้
“ฮึ...ระริกระรี้เลยนะ”
“ใครคะ ฉันเหรอ” สาวหมวยถาม
“เอ่อ....เปล่าครับ”
“ว้า...ไม่ใช่เหรอ แต่ฉันระริกระรี้นะคะ อยากได้มาก คุณเมฆอ่ะ อยากได้จริงๆนะ”
สาวหมวยกัดฟันทำท่าเซ็กซี่ เมฆเห็นแล้วแทบอยากเป็นลม
ที่โต๊ะตะวันฉาย
“แล้วนี่มาหาผัวนี่จะจับคนรวยใช่ป่ะ” เสี่ยหนุ่มถาม
“นี่คุณ ถ้าพูดไม่ดีอีกคำเดียวฉันไม่ไว้หน้านะ”
เสี่ยหนุ่มลุกเดินมาหาตะวันฉายแล้วจับหน้าตะวันฉาย
“อย่าเล่นตัวเลย ผู้หญิงคนไหนไม่ชอบเงิน ฉันมีเงินนะ แต่งงานกันเลยไหม อยากได้เท่าไหร่บอกมา”
ตะวันฉายลุกขึ้นทันที “นี่ ไอ้อ้วนฟังนะ หน้าแบนๆหุ่นเตี้ยๆอย่างนี้ ฉันไม่แต่งด้วยหรอก จะเอาไปเฝ้าบ้านยังคิดแล้วคิดอีกเลย กลัวเห่าไม่ดัง”
“เฮ้ย...มาด่ากันได้ไง ปากเสียนี่”
ตะวันฉายยิ้ม “ก็ใครเสียก่อนฉันก็เสียกลับแหล่ะ”
ตะวันฉายจะเดินไปแต่เสี่ยหนุ่มรีบจับมือไว้
“ไปไหนล่ะ ฉันยังอยากคุยต่อ สวยๆดุๆแบบนี้ชอบ อยากได้”
“ปล่อยมือฉัน”
“ไม่ปล่อย มือนุ่มดี...ชอบ”
ตะวันฉายโมโหจึงเอาส้นสูงตอกเท้าเสี่ยจนร้องจ๊าก แล้วตะวันฉายก็ตอกอีกข้างจนครบสองเท้า เสี่ยงอตัวลงไปจับเท้าตัวเอง
“เธอรู้ไหมฉันลูกใคร” เสี่ยหนุ่มถามทันที
“ลูกใครฉันไม่รู้ แต่ประโยคแบบนี้พวกมีพ่อเลวๆจะพูดกัน”
ตะวันฉายจะเดินไปแต่เสี่ยหนุ่มคว้าตัวมากอดทันที
เมฆเห็นเหตุการณ์ก็รีบลุกไปทันที สาวหมวยรีบเดินตามไป เมฆพุ่งมาที่โต๊ะเสี่ยหนุ่มแล้วแกะมือเสี่ยออกจากตัวตะวันฉายก่อนจะชกทันที
“มึงเป็นใครวะ ถอยไป อย่ายุ่ง” เสี่ยหนุ่มว่า
“แกนั่นแหล่ะ ห้ามยุ่งกับผู้หญิงคนนี้” เมฆเสียงแข็ง
“ใหญ่มาจากไหนวะถึงกล้ามาสั่ง”
เสี่ยหนุ่มจะเข้าไปแต่เมฆขวางไว้แล้วชกอีก
“ตำรวจ ใครเรียกตำรวจที” เสี่ยหนุ่มตะโกนลั่น
“ดี...เรียกมาเลย ฉันจะฟ้องว่าคุณทำอะไรฉันบ้าง กล้องวงจรปิดก็มี” ตะวันฉายบอก

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 13/2 วันที่ 15 ม.ค. 56

ตะวันฉายในม่านเมฆ บทประพันธ์โดย ภาวิน
ตะวันฉายในม่านเมฆ บทโทรทัศน์โดย
กฤษณ์ มงคลเกษม,พิมพ์พชา รุ่งประพันธ์,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ตะวันฉายในม่านเมฆ กำกับการแสดงโดย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
ตะวันฉายในม่านเมฆ ดำเนินการผลิต ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิ์เวช
ตะวันฉายในม่านเมฆ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่มา manager