@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 14/2 วันที่ 17 ม.ค. 56

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 14/2 วันที่ 17 ม.ค. 56

รถของเมฆแล่นมาจอดที่ริมถนนหน้าคอนโดแห่งหนึ่ง สักพักประตูรถก็เปิดออก เมฆลงจากรถแล้วไปซุ่มมองที่หน้าคอนโด ยุทธการควงสองสาวเดินเข้าคอนโดไป เมฆหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดถ่ายรูป เมฆรู้สึกเป็นกังวลมาก
เมฆกำลังขับรถอยู่ ก่อนจะนึกขึ้นได้จึงรีบเลี้ยวรถไปจอดข้างทาง แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดไล่ชื่อจนไปถึงชื่อ ตะวันฉาย เมฆชั่งใจสักพักก่อนจะตัดสินใจกดโทรออก
ที่บ้านสวน ตะวันฉายกำลังสวดมนต์เตรียมจะเข้านอน เธอได้ยินเสียงโทรศัพท์จึงหยิบมาดู พอเห็นเป็นเบอร์เมฆเธอก็ชั่งใจก่อนจะยอมกดรับ
“มีอะไรเหรอ”

เมฆอึกอักขณะคุยโทรศัพท์ เขาพยายามรวบรวมความกล้าคุยกับตะวันฉาย
“ผมมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ ออกมาเจอกันหน่อยได้มั้ย”



ตะวันฉายตัดบทอย่างไม่สบอารมณ์
“มีอะไรก็พูดมาเลยดีกว่า ฉันไม่อยากออกไป”

เมฆหงุดหงิด แต่ก็พยายามทำใจเย็น
“ผมขอเจอคุณแค่ครั้งนี้ แล้วต่อไปคุณจะไม่เจอผมอีกเลยก็ได้ แต่ออกมาเจอกันได้มั้ย ผมอยากคุยกับคุณจริงๆ”

ตะวันฉายชักสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะตัดสินใจ

ยุทธการกำลังยืนคุยกับนิค เอวา
“เป็นไงบ้างพี่ยุทธ พี่เมฆเค้าตกหลุมพรางพี่มั้ยครับ” นิคถาม
“ของมันแน่อยู่แล้ว พี่ต้องลบคำสบประมาทพวกนายที่เกือบทำแผนแตกคราวก่อนให้ได้ ไม่งั้นเสียชื่อผู้กองยุทธการแย่”
“หวังว่าพี่เมฆจะปรับความเข้าใจกับซันได้นะคะ”
ยุทธการสูดลมหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
“เราช่วยคุณเมฆจนถึงที่สุดแล้วนะ ถ้าเค้ารักซันจริง เค้าต้องปกป้องคนที่เค้ารัก แต่ถ้าเค้ายังไม่ทำอะไรอีก พี่จะถือว่าผู้ชายคนนี้ไม่สมควรที่จะได้ดูแลซันเหมือนกัน”
นิคและเอวาพยักหน้าเห็นด้วย

ที่สะพานแห่งหนึ่ง ตะวันฉายเดินมากวาดสายตามองหาเมฆ สักพักเสียงเมฆก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
“ขอบคุณนะที่ยอมมา”
เมฆเดินเข้ามาหาตะวันฉาย ขณะที่ตะวันฉายพยายามเก็บอาการไม่ให้หวั่นไหวกับสายตาคู่นั้น
“มีอะไรก็พูดมาเร็วๆ ฉันง่วงแล้ว จะรีบกลับไปนอน”
“ยกเลิกงานแต่งงานเถอะ” เมฆพูด
ตะวันฉายชะงักทันทีเพราะแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
“ทำไมฉันต้องยกเลิกด้วย”
“คุณไม่รู้จักว่าที่เจ้าบ่าวของคุณดีพอ ความจริงแล้ว เค้าไม่ใช่คนดีเลย”
“อย่ามาว่าพี่ยุทธนะ เค้าเป็นคนดี ดีกว่าคุณร้อยเท่าพันเท่าด้วยซ้ำไป”
“นี่ไง ผมถึงบอกว่าคุณไม่ได้รู้จักเค้าดีพอ เมื่อกี้ผมเห็นเค้าอยู่กับผู้หญิง เค้าควงกันไปคอนโด เค้าไม่ได้ซื่อสัตย์กับคุณเลยนะซัน”
ตะวันฉายถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายแล้วทำท่าจะเดินออกไป
เมฆรีบคว้ามือตะวันฉายไว้
“ผมไม่ได้โกหกนะซัน นายยุทธการไม่คู่ควรกับคุณเลย คุณอย่าแต่งงานกับเค้าเลยนะ ไม่งั้นคุณจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต ถ้าคุณไม่เชื่อ ดูนี่ก็ได้”
เมฆทำท่าจะควักโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แต่ตะวันฉายตัดบททันที
“พอได้แล้วนายเมฆ แค่นายทำฉันเสียใจไม่พอรึไง นี่แม้แต่ฉันกำลังจะแต่งงานกับคนดีๆที่รักฉันจริง นายยังไม่อยากให้ฉันมีความสุขเลย นายอยากได้อะไรจากฉันกันแน่ ต้องให้ฉันเสียใจอีกแค่ไหนนายถึงจะพอใจ”
เมฆหน้าเสียแต่ก็พยายามจะอธิบาย
“แต่ผมไม่ได้โกหกนะ”

ตะวันฉายสวนขึ้น “ฟังนะ ต่อให้พี่ยุทธเป็นคนเลวแค่ไหน ฉันก็จะไม่ยกเลิกการแต่งงานเด็ดขาดเพราะฉันมีเหตุผลมากพอที่จะแต่งงานกับพี่ยุทธ”
“เหตุผลอะไรของคุณ”
“เพราะฉันรักเค้ายังไงล่ะ”
เมฆได้ยินก็สะอึกจนพูดไม่ออก เขารู้สึกเจ็บปวดกับคำนี้เหลือเกิน
“หมดธุระแล้วใช่มั้ย งั้นฉันกลับก่อนนะ”
พูดจบตะวันฉายก็เดินออกไปทันที เมฆนิ่งอึ้งด้วยความเสียใจ โดยไม่ทันได้เห็นว่าตะวันฉายเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน

หลายวันต่อมา เอวาและนิคที่อยู่ในชุดไทยนั่งรออยู่ในบ้านเมฆ สักพัก อิงฟ้าก็จูงหมอก ในชุดไทยเดินเข้ามา
“รอนานมั้ยคะ” อิงฟ้าถาม
“ไม่นานค่ะ” เอวามองหมอกด้วยความตื่นเต้น “โอ้โห วันนี้หมอกหล่อที่สุดเลยครับ”
“จริงครับ”
“แน๊!!!! ไม่คิดจะปฏิเสธเลยนะ”
เอวากวาดสายตามองหาเมฆ
“พี่เมฆล่ะคะคุณฟ้า”
“บอกว่าไม่สบาย เลยขอตัวค่ะ” อิงฟ้าบอก
เอวาและนิคถอนหายใจอย่างอ่อนใจ
“หวังว่าเวลาจะช่วยพี่เมฆได้นะครับ” นิคบอก
“ค่ะ งั้นเราไปกันเถอะค่ะ”
อิงฟ้าจูงหมอกเดินออกไปกับเอวาและนิค

เมฆนั่งอยู่ในห้องทำงานด้วยอาการกระสับกะส่ายเพราะร้อนใจมากๆ เขามองไปทางไหนก็เห็นแต่ภาพตะวันฉายอยู่ด้วยตลอด เมฆมีสีหน้าเศร้าพลันนึกถึงคำพูดของตะวันฉาย
“ฟังนะ ต่อให้พี่ยุทธเป็นคนเลวแค่ไหน ฉันก็จะไม่ยกเลิกการแต่งงานเด็ดขาดเพราะฉันมีเหตุผลมากพอที่จะแต่งงานกับพี่ยุทธ”
“เหตุผลอะไรของคุณ” เมฆถาม
“เพราะฉันรักเค้ายังไงล่ะ”
เมฆมีสีหน้าครุ่นก่อนจะคิดตัดสินใจได้
เมฆเปรย “คุณมีเหตุผลของคุณ ผมก็มีเหตุผลของผมเหมือนกัน”
เมฆลุกพรวดเดินออกไปทันที

เมฆเข้ามานั่งในรถ ก่อนจะปิดประตูเต็มแรงด้วยสีหน้ามุ่งมาด แล้วเขาก็รีบขับรถออกไปทันที
ตะวันฉายในชุดเจ้าสาวยืนอยู่หน้ากระจกในห้องแต่งตัว โดยมีช่างหน้าช่างผมช่วยกันดูแลจนเสร็จ
“โอ้โห...สวยมากเลยแก” เอวาชม
ทันใดนั้นก็มีเสียงกริ่งดังขึ้น ทุกคนสงสัยว่าใครมา เอวาเดินไปเปิดประตู
ประตูเปิดออก เมฆยืนอยู่ที่หลังประตู พอเห็นเมฆตะวันฉายก็อึ้ง
เอวาเองก็ตกใจ “พี่เมฆ”
เมฆเดินเข้ามาในห้อง
“พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับซันเขาน่ะ” เมฆบอก
“อุ๊ยได้ค่ะ งั้นเอวาไปรอที่อื่นนะคะ”
เอวาจะเดินไปแต่ตะวันฉายดึงแขนไว้
“เรายังมีอะไรต้องคุยกันอีก” ตะวันฉายถามเมฆ
เมฆพูดกับทุกคน “ผมขอเวลาสักครู่ได้ไหม”
“เอาน่า เดี๋ยวฉันไปข้างล่างกับพวกพี่ยุทธ” เอวาบอก
เอวารีบเดินไปทันทีโดยที่ตะวันฉายคว้าตัวไว้ไม่ทัน
ตะวันฉายมองหน้าเมฆด้วยสายตาเขม่น “เอวา..รอด้วย”
ตะวันฉายเดินไปแต่เมฆเดินเข้ามาจับแขนไว้
“ผมขอร้อง” เมฆพูด
ตะวันฉายกับเมฆมองตากัน

ยุทธการกับนิคยืนลุ้นอยู่ในห้องจัดเลี้ยงด้านล่าง เอวารีบวิ่งลงมาหา
“เป็นไงพี่เมฆขึ้นไปแล้วใช่ไหม” นิคถาม
“โอ๊ย...หน้าตึงไปเลย ตอนนี้คงเคลียร์กันอยู่” เอวาบอก
ยุทธการมีสีหน้านิ่งคิดแล้วก็แอบอมยิ้ม

ตะวันฉายมีสีหน้าตกใจ
“อะไรนะ ยกเลิกการแต่งงาน คุณจะบ้าเหรอ” ตะวันฉายว่า
“ผมน่ะไม่บ้า แต่ถ้าคุณแต่งต่อไปคุณบ้าแน่” เมฆบอก
“คุณพูดอะไรของคุณ”
“ฟังนะซัน คุณแต่งงานกับเขาไม่ได้”
“ก็แล้วทำไมฉันถึงจะแต่งไม่ได้ล่ะ นี่มันชีวิตฉันนะ คุณมาเกี่ยวอะไรด้วย ขอโทษนะคะ.....ฉันเสียเวลากับคุณมามากแล้วคุณนภทีป์”
ตะวันฉายตัดสินใจจะเดินออกไปแต่เมฆขวางประตูไว้ ตะวันฉายผลักเมฆออกเมฆดึงตะวันฉายเข้ามากอด
“คุณเมฆ นี่จะทำอะไรอ่ะ ปล่อยนะ”
“คุณอยากลงไปมากใช่ไหม ได้....งั้นลงไปกับผม”
เมฆเปิดประตูแล้วลากตะวันฉายออกไปจากห้อง

ลิฟท์ลานจอดรถเปิดออก เมฆจูงตะวันฉายเดินออกมา ตะวันฉายมองรอบๆด้วยความงง
“นี่...งานแต่งงานฉันไม่ได้จัดที่ลานจอดรถนะ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”
เมฆไม่ตอบ เขาลากตะวันฉายมาจนถึงรถแล้วเปิดรถ
“อะไรกันคุณเมฆ”
“ขึ้นรถ” เมฆสั่ง
“แล้วฉันจะขึ้นไปทำไม ฉันจะแต่งงาน...แต่งงาน...แต่งงาน”
“ผมมีบางอย่างจะให้คุณดู ไม่นานหรอก ผมสัญญา”
ตะวันฉายมองหน้าเมฆ เมฆผายมือให้เธอขึ้นรถ ตะวันฉายขึ้นรถ เมฆปิดประตูด้านคนขับขึ้นไปนั่งแล้วสตาร์ทรถ
“สตาร์ทรถทำไม” ตะวันฉายถาม
เมฆไม่ตอบ เขาขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ตะวันฉายตกใจ
“คุณเมฆ!”

ยุทธการ นิค และเอวาเปิดประตูห้องแต่งตัวเข้ามาแล้วเห็นช่างหน้าช่างผมกำลังเก็บของอยู่
“เจ้าสาวล่ะครับ” ยุทธการถาม
“ลงไปแล้วนี่คะ เมื่อกี้คุณผู้ชายที่มาคุยด้วยพาลงไปแล้ว” ช่างแต่งหน้าตอบ
“เอ่อ...แต่ก็แปลกนะคะ เห็นลากกันลงลิฟท์ขนของค่ะ ไม่ยักกะใช้ลิฟท์แขก” ช่างทำผมบอก
ช่างแต่งหน้านึกได้ “ว๊ายยยย เดี๋ยวนะคะ นี่ยังลงไปไม่ถึงอีกเหรอคะ”
ยุทธการไม่ทันตอบเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ว่าไง.......ได้ ออกไปแล้วใช่ไหม....” ยุทธการคุยโทรศัพท์
“เป็นไงมั่งครับพี่ยุทธ” นิคถาม
“คุณเมฆพาซันออกจากโรงแรมไปแล้ว”
เอวาดีใจ “ว๊าวว....สุดยอด นึกว่าพี่เมฆจะไม่ทำอะไรซะแล้ว”
“คิดไม่ถึงเหมือนกันนะว่าพี่เมฆจะใช้วิธีนี้....อย่างเท่อ่ะ” นิคบอก
ยุทธการยิ้ม “หมดหน้าที่ของพี่แล้วสินะ”
ทุกคนเดินออกไปจากห้อง ช่างแต่งหน้าช่างทำผมมองหน้ากันด้วยความงง
“เจ๊...ตกลงว่าที่เจ้าสาวถูกลักพาตัวไปใช่ไหม” ช่างทำผมถาม
“เจ๊ว่าใช่นะ แต่เหมือนเขาดีใจกันเน๊อะ”
แล้วช่างแต่งหน้ากับช่างทำผมก็หัวเราะกันคิกคัก
“ดีเหมือนกัน เจ้าบ่าวหล่อตี๋เกาหลีมาเองขนาดนี้ แต่งไปก็น่าเสียดาย”
“อุ๊ย...งั้นหนูลงไปขอเบอร์ก่อนดีกว่า จะได้หาโอกาสปลอบใจ น่าจ๊งจ๊าน”
ช่างแต่งหน้าช่างทำผมแย่งกันวิ่งออกไปจากห้อง

เมฆขับรถไปด้วยสีหน้านิ่ง ตะวันฉายที่นั่งข้างๆ มองด้วยความไม่พอใจ
“นี่คุณเมฆ จอดรถเดี๋ยวนี้นะ ฉันจะลง”
“รัดเข็มขัด” เมฆสั่ง
“ไม่รัด ฉันจะลง จอดๆๆๆๆๆ”
“จะลงทั้งชุดนี้เหรอ คนได้มองทั้งถนน”
“ฉันไม่แคร์ สวยขนาดนี้ เขาต้องคิดว่ามาถ่ายแบบ”
“เหรอ...ไหนล่ะกองถ่าย ไหนล่ะช่างภาพ”
“เอาเหอะน่า ใครจะมองก็ช่าง แต่ฉันต้องกลับไป”
เมฆตวาด “ฉันไม่ให้ไป”
ตะวันฉายอึ้ง
“รัดเข็มขัดซะเดี๋ยวตำรวจจับ” เมฆว่า
ตะวันฉายมองไปที่ถนนก็เห็นตำรวจยืนก้มๆเงยๆที่ป้อมจราจรเลยรีบเปิดกระจกลง
ตะวันฉายตะโกน “คุณตำรวจ ฉันไม่ได้รัดเข็มขัดค่ะ คุณตำรวจ...เร็ว...ฉันทำผิด”
จังหวะนั้นตำรวจหันหลังไปทำอะไรสักอย่างพอดี เมฆที่อยู่ในรถตกใจจึงรีบดึงตะวันฉายให้นั่ง แล้วขับผ่านตำรวจไปอย่างรวดเร็ว ตะวันฉายดิ้นอยู่ในรถเพราะไม่พอใจ เมฆตัดสินใจจับมือตะวันฉายไว้แน่นตะวันฉายอึ้งแล้วก็หยุดดิ้น เธอมองมือเมฆที่จับมือของเธอ
“ไว้ผมจะให้ฟัง”
ตะวันฉายกับเมฆมองตากันแล้วตะวันฉายก็ค่อยๆดึงมือออกจากมือเมฆ แล้วเธอก็ดึงเข็มขัดมาคาด ส่วนเมฆขับรถต่อไป รถเมฆแล่นออกไปทางนอกเมือง

รถของเมฆจอดอยู่ด้านหน้าโรงแรมสวยแห่งหนึ่งย่านชานเมือง เมฆเปิดประตูพาตะวันฉายเข้ามาในห้องพัก
“นี่คุณเมฆ ไหนบอกจะคุย ทำไมต้องมาที่นี่...” ตะวันฉายนึกได้ “นี่คุณมาเปิดห้องไว้ ก่อน แสดงว่าคุณมีแผนจะลักพาตัวฉัน คุณจะข่มขืนฉันเหรอ ดูถูกกัน มากไปแล้วนะ”
ตะวันฉายตรงเข้าไปทั้งทุบทั้งข่วนทั้งตีเมฆ เมฆต้องปัดป้องและเดินหนีเป็นพัลวัน
“เฮ้ย...ฟังผมก่อนสิ”
“ฉันไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ฉันต้องปกป้องศักดิ์ศรีของฉัน”
ตะวันฉายคว้ากากาแฟได้ก็เตรียมจะขว้าง เมฆต้องตรงเข้าไปจับมือของเธอไว้
“นี่คุณตะวันเฉา ถ้าจะทำอะไรคุณน่ะผมพากลับบ้านไม่ดีกว่าเหรอ ไม่มาไกลขนาดนี้หรอก”
ตะวันฉายชะงักแล้วก็เริ่มได้สติ เธอค่อยๆถอยออกมา
“ถ้างั้นพาฉันมาทำไม”
“คุณอย่าเพิ่งโวยวาย ดูนี่ก่อนแล้วจะเข้าใจเอง”
เมฆถอนใจแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาก่อนจะเปิดคลิปที่ไปแอบถ่ายยุทธการที่ Lounge ให้ตะวันฉายดู ตะวันฉายจ้องมองคลิปอย่างไม่วางตาแล้วมองหน้าเมฆอย่างอึ้งๆ

“เป็นไง เชื่อหรือยัง”
ตะวันฉายส่ายหน้า “คุณไปหาคนหน้าเหมือนมาเหรอ”
เมฆกุมขมับ “จะบ้าเหรอ คิดได้ไง”
“ก็พี่ยุทธไม่เคยเที่ยว แล้วเขาก็ไม่ใช่คนเจ้าชู้ ฉันรู้จักเขามาตั้งแต่เกิด เขาไม่ใช่คนในคลิปแน่ๆ”
ตะวันฉายเปลี่ยนหน้าจอโทรศัพท์แล้วกดโทรออก เมฆจะเข้ามาแย่ง ตะวันฉายวิ่งหนีแต่ความที่ชุดแต่งงานฟูฟ่องเกะกะทำให้วิ่งลำบาก
“ฮัลโหล...พี่ยุทธ...”
เมฆตัดสินใจกระโดดกอดตะวันฉายจนล้มลงบนเตียงด้วยกันทั้งคู่ แล้วเมฆก็ดึงโทรศัพท์มาจนได้

ยุทธการถือโทรศัพท์คุย โดยที่นิคกับเอวาอยู่ด้วย
“ซัน...ฮัลโหล...ซัน...” ยุทธการบอกกับทุกคน “สายถูกตัดแล้ว”
“แผนนี้มันจะดีแน่เหรอคะ ไม่ใช่ว่ายิ่งแย่กว่าเดิมแล้ว” เอวากังวล
“โธ่ เอวา...เพิ่งจะมาห่วง” นิคว่า
“ก็ใครจะรู้ว่าเล่นแรงขนาดลักพาตัวกันเลยนี่” เอวาบอก
“พี่ว่าคุณเมฆเป็นสุภาพบุรุษพอที่สำคัญ คุณเมฆถึงขั้นลักพาตัวซันไป แสดงว่าเขาคงรักและหวงซันมาก”
“หวังว่าคราวนี้พี่เมฆกับซันจะได้เข้าใจกันซะทีนะคะ” เอวาเป็นห่วง

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 14/2 วันที่ 17 ม.ค. 56

ตะวันฉายในม่านเมฆ บทประพันธ์โดย ภาวิน
ตะวันฉายในม่านเมฆ บทโทรทัศน์โดย
กฤษณ์ มงคลเกษม,พิมพ์พชา รุ่งประพันธ์,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ตะวันฉายในม่านเมฆ กำกับการแสดงโดย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
ตะวันฉายในม่านเมฆ ดำเนินการผลิต ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิ์เวช
ตะวันฉายในม่านเมฆ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่มา manager