@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 2 วันที่ 1 ก.พ. 56

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 2 วันที่ 1 ก.พ. 56

“ท่านพระยาฯ ไปดีแล้ว โยมอย่าได้ทุกข์โศกไปเลย”
“คุณพี่ทำแต่ความดีทำไมหมดบุญเร็วอย่างนี้ล่ะเจ้าคะ”
“เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดาโลกนะโยม ท่าน พระยาฯทำความดีท่านก็ต้องได้ไปอยู่ในที่ดีดี โยมไม่ต้องเป็นห่วงเป็น กังวลกับคนตาย คนเป็นต่างหากที่น่าห่วงยิ่งกว่า”
“หมายความอย่างไรเจ้าคะ”

“คำสัญญาที่ให้ไว้ หากผิดเพี้ยนไปด้วยความชั่ว เห็นทีชีวิตคงถึงฆาต!”
คุณหญิงมณีตกใจที่หลวงตามั่นพูดเหมือนอยู่ในเหตุการณ์



“เถรมั่นรู้เรื่องสัญญา?!”
หลวงตามั่นไม่ตอบคำถามได้แต่พูดต่อ
“มีทางเดียวที่จะทำให้โยมพิทักษ์รักษาคำมั่นและใช้ชีวิตในทางบุญ”
“ทางใดหรือเจ้าคะ”
าคุณหญิงมณีรอฟังคำตอบ

เรือนคุณหญิงมณี เสียงขุนพิทักษ์ไมตรีดังลอดออกมา บ่าวไพร่ที่กำลังเตรียมงานสวดศพตกใจ
“บวช!”
“ใช่ ลูกต้องบวชให้คุณพ่อ”
ขุนพิทักษ์ พยายามหาทางออก เพราะตนไม่อยากบวช
“จะบวชได้ยังไงครับ งานราชการยังมีต้องสะสาง ไหนจะงานส่วนของคุณพ่อที่ลูกต้องดูแล”
“อย่าอ้างข้อราชการ ปกติแม่ไม่เคยเห็นลูกดูดำดูดี”
ขุนพิทักษ์ หงุดหงิด
“นี่คุณแม่กลับจากวัดมา ก็จะให้ลูกบวช คงจะเป็นความคิดของหลวงพ่อ พระไม่อยู่ส่วนพระ”
คุณหญิงมณีตกใจ
“พ่อพิทักษ์ พูดจาปรามาสท่านเถรมั่นแบบนั้น มันบาปนะลูก”
“ลูกไม่สน ลูกมีเรื่องต้องทำมากกว่าการไปบวช”
“แม้แต่แม่ขอร้องหรือลูก”
ขุนพิทักษ์ สะอึกไป เพราะน้ำเสียงคุณหญิงมณีเต็มไปด้วยความขมขื่น
“อย่าเซ้าซี้ลูกให้เหนื่อยเลยขอรับ ถึงยังไงลูกก็ไม่บวช!”
ขุนพิทักษ์ไมตรีเดินออกจากห้องไปด้วยความหงุดหงิด ชนบ่าวจนข้าวของกระจาย

คุณหญิงมองตามลูกชาย น้ำตาแห่งความหมดหวังไหลรินออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่
บริเวณริมท่าน้ำ ตอนกลางวัน หัวเรือพายมาเทียบท่า

“นังชุ่มเอ็งต้องเชื่อฟังแม่แจ่ม อย่าดื้อ อย่าขี้เกียจเชียวนะ แม่แจ่มข้าฝากลูกด้วยนะ” นางเย็นว่า
“เออ ไม่ต้องห่วง! ทาสเหมือนกัน มันก็ต้องช่วยกันสิวะ”
ชุ่มร้องไห้ถาม
“แม่ เราอยู่ที่นี่ด้วยกันไม่ได้เหรอจ๊ะ”
“ไม่ได้หรอกชุ่ม แค่นี้คุณหญิงท่านก็เมตตาเรามากแล้ว”
แจ่มตัดบท
“สม เดี๋ยวเอ็งเอาเรือไปส่งพ่อกับแม่ที่ท่าน้ำท้ายวัด”
สมรับคำ ชุ่มสะอื้น
“พ่อจ๋า แม่จ๋า”
“เอ็งอยู่นี่แหละนังชุ่ม” แจ่มว่า
นางเย็น น้ำตารื้น
“รับใช้คุณหญิงท่าน อย่าขี้เกียจ รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีนะนังชุ่ม”
แจ่มกับบ่าวจับตัวชุ่มไว้เพราะชุ่มไม่ยอมปล่อยนางเย็น มือที่จับมือแม่แน่นค่อยๆถูกดึงออกไปจนหลุดออกจากกัน ชุ่มได้แต่มองพ่อ กับแม่ที่กำลังนั่งเรือจากไป
“ไปกันได้แล้ว ยังมีงานต้องทำกันอีกมาก”
แจ่มกับบ่าวเดินกลับไป แต่ชุ่มยังนั่งมองเรืออยู่ที่ท่าน้ำ
แจ่มตะโกนเรียก
“นังชุ่ม!”
ชุ่มค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินตามแจ่มไป

ภายในเรือนเวลาเช้า พระยาเทวราชตกใจเมื่อทราบข่าวจากขุนไวพิชิตพล
“ไม่น่าไปเร็วถึงเพียงนี้เลยท่านพระยาฯ”
“นั่นน่ะสิครับ สิ้นท่านพระยาฯ งานราชการที่คั่งค้างคงจะหาคนทำแทนได้ยาก”
รำพึงที่นั่งอยู่ด้วยได้ยินดังนั้นก็รู้สึกไม่ถูกหู
“คุณพี่พิทักษ์ก็สืบทอดงานต่อได้มิใช่เหรอคะ”
“แต่การงานนั้นต้องใช้ความสามารถ” พระยาเทวราชบอก
“เขาว่ากันว่าลูกไม้มักจะหล่นไม่ไกลต้น คุณพี่พิทักษ์ที่มีสายเลือดท่านพระยา ความสามารถนั้นคงถ่ายทอดถึงกัน ไม่ต้องดิ้นรนผลักตัวเองขึ้นที่สูงเหมือนบางคน”
ขุนไว มองรำพึงรู้สึกเหมือนโดนเหยียดว่าคนละระดับชั้นกับขุนพิทักษ์ รำพึงยิ้มซื่อใส่ ขุนไว อึ้ง ๆ เหมือนตนร้อนตัวไปเองในชีวิตที่เกิดต้อยต่ำ
พระยาเทวราชรู้ว่าขุนไวมีปม ก็แก้ให้
“แต่คนไหนดำรงตนอยู่ในความดี มุ่งมั่นสนองพระมหากรุณาธิคุณ พ่อก็ชื่นชมคนนั้นเหมือนกัน”
รำพึงเบื่อเต็มทีแทรกขึ้นมาตามที่ใจปรารถนา
“คุณพ่อคะ ลูกอยากจะขออนุญาตคุณพ่อไปช่วยงานศพท่านพระยา ที่เรือนคุณหญิงนะเจ้าคะ”
“ลูกล่วงหน้าไปก่อน เสร็จราชการแล้วพ่อจะตามไป”
“ถ้าอย่างนั้นกระผมขอเป็นธุระพาคุณรำพึงไปช่วยงานเองครับ”
ขุนไวพิชิตพลขันอาสา รำพึงที่สีหน้าเบื่อหน่าย
“ท่านขุนฯมาสนใจธุระของดิฉัน งานราชการไม่เสียรึคะ”
จวงหัวเราะคิกคักที่รำพึงตอกหน้าขุนไว กลับไป ขุนไวไม่รู้จะทำหน้าอย่างไร
“การดูแลท่านพระยาฯและคุณรำพึงก็ถือเป็นงานที่กระผมต้องปฏิบัติน่ะครับ”
“แต่ลูกมีจวงไปด้วยแล้วค่ะคุณพ่อ”
“ไปกันลำพังผู้หญิงไม่ดีหรอก ให้ท่านขุนไวไปดูแลจะดีกว่า”
รำพึงเหนื่อยหน่าย ขุนไว ยิ้มอย่างมีความหวัง

ในเวลากลางวัน รำพึงลงนั่งบนเตียงในห้องนอนอย่างขัดใจ
“คุณพ่อนะคุณพ่อยังจะให้ข้าใกล้ชิดกับขุนไวนั่นอีก”
“ท่านพระยาฯคงไม่อยากให้คุณรำพึงลำบากน่ะเจ้าค่ะ ก็เลยอยากให้มีคนดูแล แต่จะว่าไป...ท่านขุนไวก็ดูเป็นคนดีนะเจ้าคะ” จวงว่า
“แต่ข้าไม่อยากได้คนนี้!”
“แล้วอยากได้คนไหนหรือเจ้าคะ เอ..หรือจะเป็นท่านขุนเพลงยาวคนนั้น แต่ตอนนี้ท่าทางจะเศร้าจนไม่มีกะจิตกะใจจะแต่งเพลงยาวมาให้คุณรำพึงของบ่าวซะแล้ว”
รำพึงพูดเรียบๆ
“สงสัยเอ็งจะห่างหวายมานาน”
“โธ่ คุณรำพึงของจวง อย่าเพิ่งหงุดหงิดสิเจ้าคะ คุณรำพึงไม่อยากรู้ หรือเจ้าคะว่าป่านนี้ท่านขุนพิทักษ์จะเป็นเช่นไร จวงว่า ท่านขุนฯคงอยากได้กำลังใจจากคุณรำพึงใจจะขาด”
“แล้วขุนไวนั่นล่ะ”
“จวงจัดการเองเจ้าค่ะ”

รำพึงแววตาเจิดจ้ามีความหวัง จวงยิ้มรู้ใจเจ้านาย
ฝ่ายขุนพิทักษ์ไมตรีดื่มเหล้าอยู่ที่โรงเหล้าด้วยความหงุดหงิด มีสาวๆคอยรินเหล้าให้แต่ไม่ทันใจ ขุนพิทักษ์ก็ผลักแล้วรินเอง จู่ๆก็ขว้างจอกทิ้งแล้วยกทั้งไหขึ้นดื่ม

แจ่มเดินนำขบวนบ่าวถือถาดดอกไม้ขึ้นเรือนใหญ่โดยมีชุ่มตามมาด้วย แต่ชุ่มเก้ๆกังๆ จนสะดุดถาดดอกไม้คว่ำ
“เอ้า!นังชุ่ม ซุ่มซ่ามจริงเอ็ง ข้าวของพังหมด” แจ่มว่า
บ่าวคนนหึ่งบอก
“ก็ป้าแจ่มยังไม่สอนงานมันเลย ป้าจะไปว่ามันได้ยังไง”
“ข้าจะเอาเวลาตอนไหนล่ะ มันมาถึง ก็มีงานศพเลย นังนี่มันตัวซวยรึเปล่าวะ”
แจ่มมองหน้าชุ่มที่หลบหน้างุดๆ
“ป้าพูดแบบนี้เดี๋ยวมันก็ร้องไห้หนีตามพ่อกับแม่มันไปหรอก”
แจ่มมองหน้าชุ่มที่เกรอะกรังแล้วบอก
“เออ เออ เอ็งยังไม่ต้องขึ้นเรือนใหญ่แล้ว เก็บกวาดตรงนี้ให้ดี”
“จ้ะ ป้า”
ขบวนของป้าแจ่มเดินไปทางเรือนใหญ่ ชุ่มก้มลงเก็บถาดดอกไม้ ชุ่มมองตามขบวนไปแล้วถอนใจ นี่หรือชะตาชีวิตของเธอ

งานศพพระยาสุรเดชไมตรีบนเรือนคุณหญิงมณี เวลากลางวัน ผู้คนต่างจัดเตรียมข้าวของ อาหาร ดอกไม้ สำหรับพิธีสวดศพ
รำพึงขึ้นเรือนมากับขุนไวพิชิตพล จวงที่ถืออับของหวานมาช่วยงาน คุณหญิงมณีออกมาต้อนรับ
“ท่านพระยาฯให้กระผมเป็นตัวแทนนำคุณรำพึงมาช่วยตระเตรียมงานก่อนพิธีสวดศพ ส่วนท่านพระยาฯเสร็จกิจแล้วจะตามมา” ขุนไวว่า
รำพึงแอบค้อนขุนไว ที่พูดจาแสดงท่าทีเป็นเจ้าของรำพึง
“ถ้าคุณหญิงมีอะไรที่รำพึงกับคุณพ่อพอจะช่วยได้ คุณหญิงอย่าได้เกรงใจเลยนะคะ”
“ขอบใจมากจ้ะแม่รำพึง”
รำพึงมองหาขุนพิทักษ์ไมตรี แต่ไม่เจอ จวงมองสังเกตเจ้านาย

รำพึง จวง ขุนไว เดินลงจากเรือนมายังบริเวณใต้ถุนเรือน
“บ่าวไพร่เต็มเรือนอย่างนี้ กระผมว่าเรากลับก่อนดีกว่า แล้วค่อยมาฟังสวดอีกทีตอนหัวค่ำ” ขุนไว ออกความเห็น
“ถ้าท่านขุนฯอยากกลับก็กลับไปก่อนเถอะค่ะ รำพึงจะอยู่ช่วยคุณหญิงจัดดอกไม้”
“กระผมคงกลับไม่ได้ ท่านพระยาฯมอบหมายให้กระผมคอยดูแลคุณรำพึง”
รำพึงมองหน้าจวง แล้ววาดเสียงเข้ม
“นังจวง!”
จวงหน้าเสียรีบคิดหาทาง จังหวะนั้นเองมีบ่าวเดินถือโตกข้าวมา จวงเห็นทีจึงทำเป็นว่ามีแมลงเข้าไปในผ้าแถบจนเต้นพล่านชนโตกข้าวจนราดตัวขุนไวเต็มๆ
“จวง!”คุณไวฯร้องขึ้น
“อุ้ย...ขออภัยเจ้าค่ะท่านขุน จวงไม่ได้ตั้งใจ แมลงมันเข้าไปในผ้าเจ้าค่ะ”
จวงส่งซิกกับรำพึงว่า
“ดิฉันว่า ท่านขุนน่าจะกลับไปเปลี่ยนผ้าเสียก่อนนะคะ ไม่เช่นนั้น กลิ่นคงจะคลุ้งไปทั่ว”
“แต่ว่า...”
“คุณรำพึงคงอับอายถ้ามีผู้ดูแลสกปรกอย่างนี้นะเจ้าคะ”
ขุนไวมองหน้าจวงอย่างไม่พอใจ พลางกัดฟันพูด
“ถ้าเช่นนั้น กระผมจะรีบกลับมารับคุณรำพึง”
ขุนไวฮึดฮัดเดินจากไป จวงหัวเราะคิกคัก
“เป็นไงเจ้าคะ ฝีมือจวง”
รำพึงยิ้มสวย
“แต่ตั้งแต่มานี้ยังไม่เห็นท่านขุนเพลงยาวของบ่าวเลย ไม่รู้ไปแอบโศกเศร้าอยู่หนใด”
รำพึงชะเง้อมองหาแต่ไม่เห็นแม้แต่เงา

บริเวณเรือนทาส ชุ่มเดินเข้ามาในเรือนนอน และได้ยินเสียงกุกกักกุกกักที่มุมหนึ่ง ชุ่มค่อยๆย่องเข้าไปดู ขุนพิทักษ์โผล่เซถลามาชนกับชุ่ม จนทำให้ขุนพิทักษ์ และชุ่มต่างล้มทับกันไปกับพื้น
ชุ่มลืมตาขึ้นมา ภาพตรงหน้าคือท่านขุนฯที่ตนฝันถึงมาตลอด
“ท่าน...”
ขุนพิทักษ์ มองหน้าชุ่มได้แวบเดียว ก่อนจะคอตกหลับคาอกชุ่มไปด้วยฤทธิ์เหล้า ชุ่มเขินอายหน้าแดง พยายามจะผลักขุนพิทักษ์ออก
“ท่านคะ...ท่าน”
มุมหนึ่ง บ่าวมาเห็นเหตุการณ์ก็ตาโตรีบวิ่งแจ้นไปเรือนใหญ่

ใบหน้าชุ่มแนบชิดกับใบหน้าขุนพิทักษ์ไมตรี!!
รำพึงกำลังช่วยคุณหญิงมณีจัดดอกไม้อยู่บนเรือน แต่สายตาสอดส่องมองหาขุนพิทักษ์ตลอดเวลา สักพักบ่าววิ่งเข้ามารายงาน

“คุณหญิงเจ้าขา แย่แล้วเจ้าค่ะ ท่านขุนนอนกกนังชุ่มอยู่ที่เรือนทาสเจ้าค่ะ “ รำพึงตกใจตาวาว
“นังชุ่มรึ !” คุณหญิงมณีถามย้ำ
คุณหญิงมณีมองหน้าแจ่มอย่างไม่อยากจะเชื่อ ทั้งหมดรีบวิ่งออกไป

คุณหญิงมณีตามด้วยขบวนเดินเข้ามาที่เรือนนอนทาส ภาพที่เห็น ขุนพิทักษ์นอนทับชุ่มอยู่ คุณหญิงมณีตบอกร้อง
“ตายแล้ว! พ่อพิทักษ์”
“อกนังจวงจะแตก กลางวันแสกๆเลยเจ้าค่ะคุณรำพึง”
รำพึงกำหมัดแน่นด้วยความหึงหวง
บ่าวทุกคนซุบซิบนินทากันใหญ่ คุณหญิงมณีสั่งให้บ่าวผู้ชายพยุงขุนพิทักษ์ขึ้นมา ชุ่มตกใจที่คนมากันมากมาย
“พ่อพิทักษ์ ทำไมมานอนในสภาพนี้”
“เอ็งทำอะไรหะนังชุ่ม ทำไมเอ็งกับท่านขุนฯ” แจ่มถาม
“เปล่านะป้าแจ่ม คือข้ากับท่าน”
จังหวะนั้นขุนพิทักษ์ก็เพ้อออกมา
“สวย...เจ้าสวยจริงๆ”
รำพึงได้ยินก็มองหน้าชุ่มด้วยความโกรธ กำมือแน่น แต่พยายามระงับอารมณ์
“เอ็งทำแบบนี้ได้ยังไง มาไม่ทันไรทำเรื่องงามหน้าซะแล้วนังชุ่ม”
แจ่มบอกพลางตีชุ่ม ชุ่มถดหนี
“ฉันเปล่านะป้า...ฉันไม่ได้ทำอะไร”
“พอก่อนนังแจ่ม รอให้พ่อพิทักษ์สร่างเมาแล้วค่อยถามเอาความกัน”
รำพึงตวัดสายตามองคุณหญิงที่ยังไม่เอาความชุ่ม รำพึงพูดนิ่ม ๆ สวย ๆ
“คุณพี่คงทำไปเพราะครองสติไม่อยู่น่ะค่ะ รำพึงว่าพาคุณพี่ขึ้นเรือนเถอะนะคะ”
“เอ้า...รีบพาลูกข้าขึ้นไปบนเรือนสิ”
บ่าวพากันเข้ามาช่วยประคองขุนพิทักษ์ลุกขึ้นเดินตามคุณหญิงมณีที่เดินนำออกไปก่อน
จังหวะนั้นรำพึงถอยหลังเหมือนเปิดทางให้พวกบ่าวพาขุนพิทักษ์ออกไป แต่รำพึงก้าวถอยหลังมาเหยียบมือของชุ่มที่วางอยู่
“โอ๊ย!” ชุมมองรำพึง
รำพึงหันมองยิ้มเย็นเหมือนไม่รับรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น แล้วกดเท้าลงน้ำหนักอย่างตั้งใจ สีหน้ารำพึงยังยิ้มดูใจดีมาก
“คุณพี่คงไม่ได้ทำให้เอ็งคิดใฝ่สูงเกินตัวใช่ไหม”
รำพึงใช้เท้าขยี้มือชุ่มอีก

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 2 วันที่ 1 ก.พ. 56

ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3 (ต่อจาก ตะวันฉาย ในม่ายเมฆ)
ที่มา manager