@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 5/3 วันที่ 11 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 5/3 วันที่ 11 ม.ค. 56

สุอาภาตกใจสุดๆ รวมถึงคนอื่นที่นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารด้วย
“ข่าวมั่วป่ะเนี่ย เมื่อวานพี่เพิ่งคุยกับพิท พิทยังบอกอยู่เลยว่าเค้ากับรวีเข้าใจกันแล้ว” บวรบอก
“แตว่าข่าวไม่ได้มั่วหรอกค่ะ แต่ไอ้ที่มั่วคือคนให้ข่าวต่างหาก และคนๆนั้นก็ไม่ใช่ใคร ต้องเป็นนายภูวดลแน่ๆ”
“เค้าเป็นโรคจิตรึเปล่า รู้ทั้งรู้ว่าพิทกับคุณรวีเป็นแฟนกันแต่ก็ยังทำแบบนี้” วรรณวดีบอก
“นั่นสิคะ ป้าคันปากยิกๆอยากจะด่าจริงจริ๊ง” ณีว่า

สุอาภาคิดอะไรออก...วางหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะ แล้วขยับตัวจะออกไป ทุกคนหันไปมองตาม นพถาม
“ลูกจะไปไหน”



สุอาภาหันมาทางนพ
“ไปทำให้เรื่องนี้มันจบค่ะ”
สุอาภาจ้ำเดินออกไป ทำเอาทุกคนงงและอึ้งไปตามๆกัน

ภายในบ้านรวีพรรณ ตอนเช้า เธอเอาหนังสือพิมพ์มาวางตรงหน้ารมณีกับณรงค์ด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างแรง
“ทำไมคุณแม่ถึงทำแบบนี้คะ”
“ในเมื่อลูกไม่เชื่อฟังแม่ แม่ก็ต้องใช้วิธีนี้” รมณีบอก
“รวีบอกได้เลยว่าไม่สำเร็จ ยังไงคนที่รวีจะแต่งงานด้วยก็คือพิท”
ณรงค์สุดทนลุกขึ้นยืนตะคอกเสียงดัง
“หยุดนะยัยรวี!”
รวีพรรณตกใจที่พ่อดุมาก
“เลิกเถียงแม่ซักที ตั้งแต่ลูกคบกับผู้ชายคนนั้น ลูกทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังมาตลอด ถ้าลูกยังเห็นพวกเราเป็นพ่อเป็นแม่ก็ทำตามที่แม่เค้าบอก”
รวีพรรณมองพ่อกับแม่ด้วยความโมโห
“ไม่ค่ะ ที่ผ่านมารวีเดินตามเส้นทางที่แม่เลือกให้ รวีไม่เคยขัดใจแม่ซักครั้ง แต่ครั้งนี้รวีขอเลือกทางเดินด้วยตัวเอง”
รมณีกับณรงค์อึ้ง รวีพรรณกำลังจะเดินออกไป รมณีเข้ามาจับแขนลูกสาวเอาไว้
“คิดจะไปหานายพิทยาใช่มั้ย แม่ไม่ให้ลูกไปหามัน... นังน้อย นังสม ออกมาเดี๋ยวนี้!”
น้อยกับสมคนใช้รีบวิ่งออกมา รวีพรรณแปลกใจว่าแม่จะทำอะไร
“พาคุณรวีขึ้นไปบนห้อง”
น้อยกับสมเข้ามาล็อกแขนรวีพรรณทั้งสองข้างจนเธอตกใจ
“นี่ไม่ใช่ยุคทาสนะคะ แม่ไม่มีสิทธิ์มาขังรวี!”
“แม่เป็นแม่ ทำไมแม่จะไม่มีสิทธิ์ ในเมื่อลูกเลือกที่จะอยู่กับมันก็อย่ามาโทษว่าแม่ใจร้ายก็แล้วกัน … พาขึ้นไป”
น้อยกับสมพยายามลากรวีพรรณให้เดินออกไป เธอขัดขืนอย่างเต็มที่
“ปล่อยฉันนะ...ปล่อย”
รวีพรรณสะบัดจนหลุดออกไปได้สำเร็จก็รีบออกไปจากบ้านทันที รมณีกับณรงค์ตกใจมาก
“ยัยรวี”
รมณีทั้งโมโห ทั้งเสียใจก็เลยเป็นลมหมดสติ ณรงค์ตกใจมากรีบประคองรับเอาไว้
“คุณรมณี”

รวีพรรณขับรถไป พลางต่อโทรศัพท์หาพิทยา รอสายไม่นาน พิทยาก็รับสาย
“พิทอยู่ที่ไหนคะ”

ภายในออฟฟิศของภูวดล รปภ.กำลังห้ามนักข่าวที่ออกันเต็มหน้าประตูทางเข้าออฟฟิศ
“เข้าไปไม่ได้นะครับ”
ไม่นานภูวดลก็เดินมา นักข่าวหันไปเห็น
“คุณภูวดล!”
นักข่าวรีบเข้ามาล้อมภูวดลเอาไว้ ต่างแย่งกันถามเรื่องข่าวที่เกิดขึ้น
“คุณภูวดลกับคุณรวีพรรณคบหากันมานานแล้วเหรอคะ / หมั้นสายฟ้าแลบแบบนี้ แล้วจะแต่งสายฟ้าแลบด้วยรึเปล่า”
“ใจเย็นก่อนนะครับ ทีล่ะคำถาม ผมตอบไม่ถูกแล้ว”
พลันเสียงสุอาภาดังขึ้น
“ฉันขอเป็นคนตอบคำถามนี้เองค่ะ”
ทุกคนหันไปตามที่มาของเสียง เห็นสุอาภาเดินแหวกกลุ่มนักข่าวเข้ามา ทำเอาภูวดลกับนักข่าวพากันชะงักด้วยความแปลกใจ สุอาภาเดินมาควงแขนภูวดลแนบแน่น ภูวดลเหวอ นักข่าวกดชัตเตอร์รัวไม่ยั้ง

“คุณภูวดลเค้าทำไปเพราะต้องการประชดฉันเท่านั้นเองค่ะ”
ภูวดลอึ้ง งง นักข่าวฮือฮา สุอาภาหันมายิ้มให้ภูวดลแล้วก็หันไปทางนักข่าว

“ฉันกับคุณภูวดลมีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย”
สุอาภาหันไปจับแก้มภูวดล
“เค้างอนก็เลยทำแบบนี้ … ฉันต่างหากตัวจริง คุณรวีพรรณน่ะแค่ตัวหลอก”
นักข่าวอึ้งปะติดปะต่อเรื่องได้ทันที สุอาภาควงแขนภูวดลแนบแน่นจนเขาระแวง
“แสดงว่าคุณสุอาภากับคุณภูวดลกำลังคบกันเหรอคะ”
สุอาภาเบียดตัวเข้ามาแนบชิดภูวดล
“แตเป็นผู้หญิง จะให้แตตอบ คงไม่เหมาะมั้งคะ... บอกเค้าไปสิคะคุณภูวดล”
นักข่าวลุ้นกับคำตอบ ภูวดลเหล่มองสุอาภาอย่างไม่ไว้ใจ
“ผมขอตัวซักครู่นะครับ”
ภูวดลจับแขนลากสุอาภาเดินออกไปจากตรงนั้น ยิ่งทำให้นักข่าวสงสัยและอยากรู้มากขึ้น นักข่าวคนหนึ่งมองตามภูวดลกับสุอาภาด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์

มุมหนึ่ง ภูวดลจับสุอาภาเหวี่ยงมาตรงหน้า พร้อมกับบีบแขนแน่น
“คุณคิดจะทำอะไรกันแน่!”
“เบามือกับฉันหน่อยสิ ฉันเจ็บนะ”
ภูวดลปล่อยมือ แต่ยังมองสุอาภาด้วยความระแวง
“ฉันพูดออกไปขนาดนั้นแล้ว ยังจะถามอีกเหรอ”
สุอาภาทำนิ่ง
“นึกว่าผมจะเชื่อที่คุณพูดเหรอไง ที่ผ่านมา คุณเกลียดผมจะตายไม่ใช่เหรอ แล้วอยู่ดีดีคุณก็มาบอกนักข่าวว่าคุณกับผมกำลังคบกัน ผมไม่ได้โง่ ผมรู้ว่าที่คุณทำแบบนี้เพื่อต้องการช่วยไอ้พิทยา เพราะถ้าข่าวนี้ออกไปเมื่อไหร่ คุณน้ารมณีจะได้เปลี่ยนใจไม่ให้คุณรวีหมั้นกับผมใช่มั้ย”
สุอาภานิ่งไปแล้วก็ทำเป็นหัวเราะออกมาอย่างมีจริต
“คุณนี่น่าจะไปเป็นคนเขียนบทละครนะ สร้างเรื่องได้เก่งจริง ที่ผ่านมาฉันแกล้งทำเป็นไม่ชอบคุณ เพราะรู้ว่าคุณเป็นเพลย์บอย มีผู้หญิงเข้าแถวให้คุณเลือกมากมาย ฉันไม่อยากเสียใจ แต่พอเห็นข่าวคุณจะหมั้น ฉันก็รู้ทันทีว่าฉันจะเสียคุณไปไม่ได้ และคนอย่างฉันก็เป็นประเภทที่ชอบความท้าทาย อยากเป็นที่หนึ่ง ถึงแม้จะเห็นว่ามีอันตรายรออยู่ก็ตาม”
ภูวดลยังมองสุอาภาอย่างไม่เชื่อ สุอาภาทำท่ายั่วนิดๆ ขยับมาใกล้เขาจนหน้าแทบจะชนกัน
“เราสองคนมีอะไรที่คล้ายกัน ถ้าคบกัน เราคงเป็นคู่ที่มีแต่คนอิจฉาและคงไปกันได้ดีมาก ฉันมีอะไรดีกว่ายัยรวีพรรณจอมจืดชืดนั่นตั้งเยอะ ไม่ต้องให้ฉันสาธยายคุณก็น่าจะรู้”
“คิดว่าคำพูดแค่นี้จะทำให้ผมเชื่อคุณ”
“แล้วต้องให้ฉันทำยังไง คุณถึงจะเชื่อ”
ภูวดลยิ้มที่มุมปาก มองสุอาภาด้วยสีหน้าร้าย สุอาภาใจเต้นลุ้นว่าภูวดลจะทำอะไร เขาดันเธอจนติดกำแพง...สุอาภาตกใจแต่พยายามคุมสติ แล้วเขาก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เธอรู้ทันทีว่า เขาจะทำอะไรเธอ
สุอาภาจำต้องอดกลั้น...กำมือแน่น ภูวดลจูบปาก เธอต้องยอมเพื่อให้ภูวดลเชื่อและไว้ใจเธอ
นักข่าวคนนั้นถ่ายรูปภูวดลกับสุอาภาเอาไว้ แล้วก็ยิ้มพอใจ ก่อนจะเดินออกไป
ภูวดลถอนริมฝีปากออกมา สุอาภาทำเป็นยิ้มทั้งๆที่ขยะแขยงสุดๆ
“ฉันยอมให้คุณขนาดนี้ หวังว่าคุณคงจะเชื่อฉันแล้วนะ”
ภูวดลมองสุอาภาแล้วก็ยิ้มไม่พูดอะไรออกมา

สุอาภากำลังขับรถ ภาพที่ภูวดลจูบปากผุดขึ้นมา ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห แต่เพราะทำอะไรไม่ได้ เธอเลยร้องไห้ออกมาพลางเอามือเช็ดปากตัวเองไม่หยุดด้วยความรังเกียจสุดๆ

มุมหนึ่งในสวน ของมูลนิธิจันทร์จำนง รวีพรรณสีหน้าร้อนรนอยู่กับพิทยา
“เราหนีไปด้วยนะพิท ไปอยู่ด้วยกันที่ต่างประเทศ รวีไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว”
“เราทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะรวี”
“ทำไม หรือว่าพิทไม่อยากแต่งงานกับรวีแล้ว”
“ไม่ใช่...ผมรักคุณ อยากอยู่กับคุณ แต่ถ้าผมพาคุณหนี พ่อแม่ของคุณจะเกลียดผมมากขึ้น เค้าจะต้องเหยียดหยามว่าเป็นเพราะกำพืดต่ำๆของผม ถึงทำให้ผมทำแบบนี้ลงไป”
รวีพรรณเงียบคิดตามแล้วก็เห็นด้วย
“ผมจะหาทางพิสูจน์ตัวเองทำให้พ่อกับแม่ของรวีให้โอกาสผมให้ได้ ผมจะทำให้ท่านเห็นว่าผมสามารถดูแลรวีได้เป็นอย่างดี อดทน รอผมหน่อยนะรวี ตอนนี้ผมกำลังเร่งสร้างฐานะเพื่อที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน”
รวีพรรณพยักหน้า พิทยาดึงรวีพรรณมากอดให้กำลังใจ
จันทร์จำนงมองรวีพรรณกับพิทยาด้วยความเห็นใจ พลันครุ่นคิดอะไรได้บางอย่าง

ภายในห้องทำงานของภูวดล เขานั่งจับปากตัวเองที่จูบสุอาภาพลางยิ้มมุมปากด้วยสีหน้าร้าย
“คิดว่าผมเชื่อจริงเหรอว่าคุณชอบผม รู้จักผมน้อยไปแล้วสุอาภา ในเมื่อคุณต้องการที่จะเล่นเกม ผมก็จะทำให้คุณรู้ว่า รสชาติแห่งความพ่ายแพ้ มันเป็นยังไง”
ภูวดลรู้สึกสนุกและท้าทายมาก พลันเสียงเคาะประตูดังขึ้น ภูวดลหันไป
“เชิญ...”
จันทร์จำนงเปิดประตูเข้ามา ภูวดลดีใจ รีบลุกเข้ามากอด
“คุณย่า ผมกำลังคิดถึงคุณย่าอยู่เลยครับ”
จันทร์จำนงดึงภูวดลออกมามองหน้าเครียด จนภูวดลรู้สึกแปลกใจ
“ที่ย่ามาหาเราเพราะข่าวการหมั้นของเรากับคุณรวีพรรณ”
ภูวดลหุบยิ้มด้วยความเซ็ง
“ย่าไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นถึงกับทำให้มีข่าวนี้ออกมา ทั้งๆที่คุณพิทยากับคุณรวีพรรณยังไม่ได้เลิกกัน”
“นี่คุณย่าห่วงมันเหรอ”
“พ่อดล!”
“ก็มันจริงนี่ครับ คุณย่าไม่รู้หรอกว่า ลับหลังคุณย่ามันจองหองมากขนาดไหน มันคงคิดว่าการที่มันมีแบ๊กอัพดีอย่างคุณนพ จะทำให้มันหยิ่งผยองได้ ทั้งๆที่มันก็แค่เด็กกำพร้าที่หาส่วนดีไม่เจอ”
“หยุดนะพ่อดล! ย่าไม่เคยสอนให้หลานดูถูกคนแบบนี้ ย่าอยู่กับเด็กกำพร้ามาตลอด คำว่าเด็กกำพร้าไม่ได้หมายความว่าเป็นเด็กไม่ดี และย่าก็มั่นใจในสายตาของย่าว่ามองคุณพิทยาไม่ผิด ถึงแม้เค้าจะมีปมด้อย แต่เค้าก็ไม่เคยทำตัวให้มีปัญหา ตรงกันข้ามเค้ากลับมีความตั้งใจมีความพยายามในการทำตัวให้มีคุณค่าด้วยซ้ำ”
ภูวดลหัวเสียมาก
“ผมเป็นหลานแท้ๆของคุณย่านะครับ ไม่ใช่มัน! ทำไมคุณย่าถึงไม่เข้าข้างผม”
“ย่าไม่ได้เข้าข้างใคร ย่าพูดไปตามที่เห็น และย่าก็ไม่อยากเห็นเราทำผิด การแย่งผัวแย่งเมียคนอื่นมันบาปนะลูก”
ภูวดลหันไปฮึดฮัด กำมือแน่นด้วยความโกรธพิทยา จันทร์จำนงมองภูวดลด้วยสีหน้ากังวลใจ

ภายในห้องรับแขก บ้านพราวพิไล เธอนั่งลงข้างสุอาภาด้วยสีหน้าตกใจ
“มันไม่เสี่ยงไปเหรอไอ้แต! ใช้ตัวเองเข้าแลกขนาดนี้ แกก็รู้ว่าคุณภูวดลเป็นเสือผู้หญิงขนาดไหน”
สุอาภาเครียด
“ถึงเสี่ยงยังไง ฉันก็ต้องทำเพราะนี่เป็นทางเดียวที่จะดึงนายภูวดลให้ออกห่างจากคุณรวีพรรณ”
“แต่ฉันเป็นห่วงแก”
“แกก็รู้ว่าฉันเก่ง ฉันเอาตัวรอดได้ ไม่ต้องห่วง”
สุอาภาทำเป็นมั่นใจ แต่แววตามีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด

รวีพรรณเข้ามาในห้องของพ่อกับแม่ ณรงค์กำลังดูแลรมณีที่นอนอ่อนเพลียอยู่บนเตียง ทั้งคู่มองลูกสาวสายตาตำหนิ รวีพรรณเดินเข้ามาคุกเข่าข้างเตียงแล้วก้มลงกราบรมณีกับณรงค์
“รวีขอโทษค่ะ”
รมณีเงียบ เมินหน้าไปทางอื่น
“คิดได้ก็ดีแล้วลูก” ณรงค์ว่า
“ค่ะ รวีคิดได้ว่ารวีไม่สมควรพูดหรือทำแบบนั้นกับคุณพ่อคุณแม่ แต่ถ้าเป็นเรื่องพิท..รวียังยืนยันคำเดิม คุณแม่กับคุณพ่อยังไม่เคยให้โอกาสพิทอย่างจริงจัง แล้วก็มาตัดสินพิทจากสิ่งที่ได้ยินมาจากคนอื่น รวีอยากขอโอกาสให้พิทอีกซักครั้งได้มั้ยคะ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น”
รมณีหันขวับ ณรงค์ตกใจ ทั้งคู่เหล่มองหน้ากันแล้วรมณีก็หันมาทางรวีพรรณ
“ได้ แม่จะให้โอกาสนายนั่น ก่อนจะถึงวันหมั้นของลูกกับพ่อดลในเดือนหน้า ถ้านายพิทยาพิสูจน์ตัวเองให้พ่อกับแม่เห็นภายในหนึ่งเดือนไม่ได้ ลูกจะต้องแต่งงานกับพ่อดล”

รวีพรรณเงียบ นิ่ง อึ้ง พูดไม่ออก
ตอนเช้าวัดถัดมา พิทยามาหยิบหนังสือพิมพ์ที่เสียบอยู่ที่ประตูรั้วหน้าบ้าน เอามาเปิดอ่านพลางเดินเข้าไปในบ้าน แต่แล้วก็ผงะกับภาพแอบถ่ายภูวดลจูบสุอาภา พิทยาเป็นห่วงสุอาภาขึ้นมาทันที

ณีกำลังดูภาพภูวดลจูบสุอาภาและอ่านเนื้อข่าวด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงพรึงเพริด
“เรื่องกลับตาลปัตร เมื่อสาวตัวจริงโผล่...หลังจากนายภูวดล เตชิตประกาศหมั้น ไม่ใช่ใครที่ไหน...คุณหนูสุอาภาจอมไวไฟนั่นเอง งานนี้คงสปาร์คกันจนฉุดไม่อยู่”
ณีช็อกมาก ขณะนั้นสุอาภา นพ บวร วรรณวดีเดินเข้ามาด้วยกันที่โต๊ะอาหารเช้า
“อะไรกันณี สายป่านนี้ยังไม่ยกอาหารออกมาอีก ผมหิวไส้จะขาดแล้วนะ” บวรว่า
ณีตกใจมากรีบเก็บหนังสือพิมพ์ซ่อนด้านหลังแทบไม่ทัน พลางพูดตะกุกตะกัก
“เออ...ป้า...ป้าจะเข้าไปเอาอาหารออกมาให้เดี๋ยวนี้ค่ะ”
ณีจะถือหนังสือพิมพ์เข้าไปด้วย
“แล้วเอาหนังสือพิมพ์ไปด้วยทำไม ฉันจะอ่าน” นพบอก
“อย่าอ่านเลยค่ะ วันนี้ไม่มีข่าวอะไรเลย”
“ถึงไม่มีข่าวอะไร ฉันก็จะอ่าน เอามานี่”
“ไม่ให้ค่ะ นียังอ่านละครไม่จบ”
คำพูดของณี เล่นเอาทุกคนเหวอไป บวรเข้าไปแย่งหนังสือพิมพ์มาจากมือณีได้อย่างง่ายดายจนณีตกใจ
“คุณใหญ่!”
“ผมว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆครับป๋า เพราะป้านีแกมีพิรุธสุดๆ”
บวรส่งหนังสือพิมพ์ให้นพ นพรับมาเปิด ณีเสียววูบ แล้วนพก็เห็น สุอาภาเห็นแล้วก็ตกใจยิ่งกว่า ไม่นึกว่า นักข่าวจะถ่ายภาพนี้เอาไว้ได้ นพหันขวับมามอง
“นี่มันอะไรกันยัยแต”
ณีรีบชิ่งออกไปทันที
“ป้าขอตัวไปยกอาหารก่อนนะคะ”
ณีรีบออกไป บวรกับวรรณวดีแปลกใจ แล้ววรรณวดีก็เอาหนังสือพิมพ์มาดูกับบวร สองคนอึ้ง เงยหน้ามองสุอาภา
“แกเสียสติไปแล้วเหรอไอ้แต ถึงทำแบบนี้” บวรว่า
สุอาภาทำเป็นไม่แคร์
“แตไม่ได้เสียสติ แตรู้ตัวว่าทำอะไรอยู่”
“ลูกก็เห็นว่าไอ้ครอบครัวนี้มันเลวทั้งตระกูล แล้วทำไม...”
สุอาภาสวนขึ้นมาทันที
“ขำๆน่าป๋า จะซีเรียสทำไม”
“แต..ป๋าไม่เคยห้าม เวลาลูกจะคบกับใครเพราะป๋าเชื่อมั่นว่าลูกของป๋า รู้จักเลือกแต่กับผู้ชายคนนี้ ป๋าขอสั่งห้าม!”
“ป๋าห้ามแตไม่ได้หรอกค่ะ แตตัดสินใจแล้วแตจะคบกับคุณภูวดล”
นพผงะเมื่อได้ยิน
“แต...ทำไมพูดกับป๋าแบบนี้!” วรรณวดีถาม
สุอาภาทำเป็นไม่สนใจแล้วก็เดินออกไป นพอึ้งมาก บวรหัวเสีย มีวรรณวดีเพียงคนเดียวที่สงสัย

สุอาภาเดินออกมาด้วยสีหน้ารู้สึกผิด พิทยาเดินสวนเข้ามาพอดี ก็ชะงักกึก หยุดเดิน พิทยาเดินมาตรงหน้าสุอาภา
“ไปยุ่งกับไอ้ภูวดลทำไม”
“เกี่ยวอะไรกับนายด้วย”
สุอาภาจะเดินหนี แต่พิทยาจับแขนเธอไว้
“มันไม่เกี่ยวกับผม แต่มันเกี่ยวกับคุณอา เมื่อไหร่คุณจะเลิกทำให้คุณอาเสื่อมเสียซักที”
สุอาภาเสียใจที่พิทยาว่า แต่ทำเป็นไม่แยแสแล้วพูดประชด
“ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันเป็นนางมาร นายก็พูดเอง เพราะฉะนั้นถ้าฉันจะชั่วจะเลวมันก็ไม่แปลก นี่เป็นชีวิตของฉัน ฉันจะทำยังไงกับมันก็ได้”
พิทยาเงียบ สุอาภาเดินกระแทกไหล่พิทยาออกไป พิทยาได้แต่ถอนหายใจ

ภายในห้องรับแขก พิทยา นพ บวร วรรณวดีอยู่ด้วยกัน
“ต่ายว่าน้องต้องมีแผนอะไรแน่ๆค่ะ”
พิทยา บวร นพ หันไปมองช
“แผนอะไรถึงต้องเอาตัวเข้าแลกขนาดนั้น” บวรว่า
“ทุกคนลองคิดให้ดีนะคะ เมื่อวานมีข่าวคุณภูวดลกับคุณรวีพรรณ ยัยแตก็รีบร้อนออกไป ต่ายคิดว่าแตต้องไปหาคุณภูวดล และที่แตทำแบบนี้ก็เพื่อต้องการทำให้การหมั้นระหว่างคุณภูวดลกับคุณรวีถูกยกเลิก”
“หมายความว่าแตพยายามจะช่วยพิท” บวรว่า
ทุกคนอึ้งไปตามๆกัน โดยเฉพาะพิทยา
“ถ้าแตคิดแบบที่ต่ายพูดจริงๆ ป๋าก็เชื่อ เพราะแตรู้สึกผิดกับเรื่องนี้มาตลอด”
นพหันไปมองพิทยาที่เป็นห่วงสุอาภาขึ้นมาทันที
“ถ้าจะให้ชัวร์ว่าต่ายคิดถูกรึเปล่า เราต้องไปคุยกับคนๆหนึ่งค่ะ”

ทุกคนมองต่ายสงสัย
ที่บ้านพราวพิไลเช้านั้น เธอถูกพิทยา นพ บวร และวรรณวดีรุมล้อมจนตัวลีบ หน้าซีด เหงื่อแตก พูดจาอึกอัก

“ที่พี่ต่ายพูดมา พราว...เออ...พราวไม่รู้เรื่องจริงๆ นะคะ”
วรรณวดีนั่งลงข้างพราวพิไล
“แน่ใจนะพราว ว่าไม่รู้เรื่องจริงๆ”
พราวพิไลเสียงแผ่วเบา
“ค่ะ”
บวรนั่งลงอีกข้างของพราวพิไลบอก
“พี่มีน้องสาวคนเดียว ถ้ายัยแตเป็นอะไรขึ้นมา พี่จะไม่ให้อภัยคนที่มันสมรู้ร่วมคิดกับแตเลย”
บวรจับขา พราวพิไลสะดุ้งโหยง เงยหน้ามองนพกับพิทยา
“นายภูวดลคนนี้ไม่ธรรมดา คุณแตกำลังตกอยู่ในอันตรายนะครับคุณพราว” พิทยาบอก
พราวพิไลเครียดมากแล้วก็ตัดสินใจ.....

รมณีกำลังดูภาพข่าวภูวดลที่จูบปากสุอาภาจากหนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกัน...ด้วยความช็อกมาก ภายในห้องรับแขกมีณรงค์ กับรวีพรรณนั่งอยู่ด้วย
“รวีว่าคุณพ่อคุณแม่น่าจะต้องมองคุณภูวดลใหม่นะคะ”
รวีพรรณกับณรงค์พูดไม่ออก รู้สึกเสียหน้าอย่างแรง

มุมหนึ่งในบ้าน เวลากลางวัน ภูวดลกำลังแก้ตัวกับศรีพิไล ภาสันต์ รมณีและณรงค์
“ผู้หญิงคนนี้พยายามตื้อผมไม่เลิก ผมปฏิเสธไปก็หลายครั้งแล้วนะครับ แต่อยู่ดีดี เค้าก็มาหาผม แล้วก็จู่โจมโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว เพราะมุมกล้อง มันก็เลยทำให้ดูเหมือนผมจูบเค้า”
“น้าคิดไว้อยู่แล้วเชียวว่าต้องเป็นฝีมือแม่นี่ นังสุอาภามันเป็นผู้หญิงโรคจิต ไม่รู้มันจะจองล้างของผลาญลูกสาวน้าไปถึงไหน” รมณีบอก
“มันคงอิจฉาที่หนูรวีมีทุกอย่างเหนือกว่ามันน่ะสิ” ศรีพิไลบอก
รมณีกับณรงค์เห็นด้วย
ภูวดลทำเป็นสำนึกผิด
“คุณรวีคงจะโกรธผมมากใช่มั้ยครับ เฮ้อ..ผมไม่น่าปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย ผมจะไปอธิบายให้คุณรวีฟัง”
“อย่าเพิ่งเลยดีกว่าพ่อดลรออีกซักสองสามวัน...ให้ข่าวนี้มันเงียบไปก่อน แล้วค่อยหาทางไปอธิบายให้รวีเข้าใจ ยิ่งไปพูดตอนนี้รวีที่กำลังโกรธจะไม่ฟัง”
“ได้ครับ”
“ลูกต้องรับปากแม่นะว่าต่อไปนี้ห้ามเข้าใกล้นังคนนี้อีก...เข้าใจมั้ยลูก”
“ครับคุณแม่”
ภูวดลทำเป็นยิ้มออดอ้อน แต่ลอบทำหน้าร้ายกาจ ภาสันต์ครุ่นคิดบางอย่าง

ภายในร้านแห่งหนึ่ง สุอาภาเดินเข้ามาเห็นภาสันต์นั่งรอก็เดินมาหา
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ”
“ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพ่อ” ภาสันต์เสียงแข็งมาก
สุอาภานั่งลงแล้วยิ้มกวน
“ทำไมล่ะคะ แตคบกับลูกชายคุณพ่อ แตก็ต้องเรียกคุณพ่อว่าพ่อสิคะ ว่าแต่คุณพ่อนัดแตออกมาพบกะทันหันเนี่ย มีอะไรเหรอคะ”

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 5/3 วันที่ 11 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3 (ต่อจากเหนือเมฆ)
ที่มา manager