@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 5/4 วันที่ 11 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 5/4 วันที่ 11 ม.ค. 56

“ทำไมล่ะคะ แตคบกับลูกชายคุณพ่อ แตก็ต้องเรียกคุณพ่อว่าพ่อสิคะ ว่าแต่คุณพ่อนัดแตออกมาพบกะทันหันเนี่ย มีอะไรเหรอคะ”
สุอาภามองภาสันต์ด้วยสีหน้าไม่กลัวเกรงใดใด
“ไปบอกพ่อของเธอว่าอย่ามาใช้วิธีนี้เพื่อแก้แค้นฉัน คิดใช้ลูกสาวตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้ลูกชายฉันติดกับ ฝันไปเถอะว่าจะทำสำเร็จ”
สุอาภานิ่วหน้า งง ไม่เข้าใจ
“คุณพ่อพูดอะไร แตไม่เข้าใจ”

“ก็ไปถามพ่อเธอดูเอาเองสิ ว่ามันกับฉันเคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อน แล้วต่อไปนี้อย่าให้ฉันเห็นเธอมาเกาะแกะลูกชายฉันอีก!”
ภาสันต์พูดจบก็จ้ำเดินออกไป สุอาภาไม่เข้าใจ แต่กลับคิดถึงคำพูดของนพขึ้นมา
“ป๋ากับเค้าเคยมีเรื่องอะไรกันมาด้วยใช่มั้ยคะ”
“ทุกอย่างเป็นอดีตไปแล้ว อย่าไปพูดถึงมันดีกว่า”
สุอาภาเริ่มรู้สึกเอะใจบางอย่างหยิบมือถือขึ้นมากดส่งข้อความออกไป
“ฉันอยากเจอคุณตอนนี้”



ภายในฟิตเนส ภูวดลอยู่กับสุอาภาเล่าอดีตบางอย่างของภาสันต์กับนพ
“พ่อคุณกับพ่อผมเคยรักผู้หญิงคนเดียวกัน ผู้หญิงคนนั้นตั้งท้องแล้วก็มาบอกว่าพ่อผมเป็นพ่อของเด็กในท้อง ทั้งๆที่ไม่ใช่ พอพ่อของคุณรู้เรื่องนี้เข้าก็โกรธพ่อผมมาก จนถึงขั้นเลิกคบกัน เค้าก็เลยเกลียดกันนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา”
สุอาภาอึ้งไปกับสิ่งที่ได้ยิน เธอนึกถึงรูปถ่ายนพกับพิม แต่คิดได้ไม่นานก็ต้องหลุดจากภวังค์เมื่อภูวดลจับไหล่สุอาภาทั้งสองข้างให้หันมา
“ผมว่าคุณไม่ต้องไปสนใจสิ่งที่พ่อผมพูดหรอก มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ปล่อยให้เค้าเคลียร์กันเอง แล้วอีกอย่างคนอย่างผม ถ้าอยากได้อะไรก็ต้องได้”
สุอาภาฝืนยิ้ม
“คืนนี้คุณไปปาร์ตี้วันเกิดเพื่อนผมกับผมนะ แล้วหลังจากนั้นเราค่อยไปสนุกด้วยกันต่อสองต่อสอง”
ภูวดลยื่นหน้ามาหอมแก้มสุอาภา เธอจำต้องยิ้ม เขาเดินออกไป สุอาภารีบเอาผ้าขนหนูที่คล้องงคอมาเช็ดหน้า มองตามภูวดลด้วยความขยะแขยงแต่ต้องกล้ำกลืนฝืนทน

ภายในห้องน้ำฟิตเนส สุอาภากำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับพราวพิไล
“แกคิดว่าคุณภาสันต์ พ่อของคุณภูวดลเป็นพ่อคุณพิทยา”
สุอาภาพยักหน้า
“ถ้าเป็นอย่างที่แกคิดจริง นั่นก็แสดงว่าคุณพิทไม่ใช่เด็กกำพร้า และที่สำคัญมีพ่อเป็นถึงระดับมหาเศรษฐี”
“และคนติดแต่เปลือกอย่างยัยคุณนายรมณี ถ้าได้รู้เรื่องนี้ ก็จะยอมรับพิทเป็นลูกเขยได้เอง เพราะไม่ว่าจะเป็นพิทหรือนายภูวดล ต่างก็เป็นลูกของคุณภาสันต์ด้วยกันทั้งคู่ ฉันจะทำให้คุณภาสันต์ยอมรับพิทเป็นลูกให้ได้!”
พราวพิไลมีสีหน้าลำบากใจ
“แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น แกเตรียมคำแก้ตัวสำหรับเรื่องนี้ก่อนเถอะ”
สุอาภาแปลกใจ

ในเวลากลางคืน ที่บ้านสุอาภา นพถอนหายใจหันไปทางพิทยา บวร วรรณวดี
“จนป่านนี้ยัยแตยังไม่กลับมาอีก”
“นั่นสิครับป๋า โทรไปก็ไม่รับสาย” บวรบอก
พิทยาเป็นห่วงสุอาภามากๆ แล้วก็หันไปทางวรรณวดี
“คุณต่ายลองเข้าเฟซบุคคุณแตดูมั้ยครับ เผื่อจะรู้ว่าคุณแตไปไหน”
ทุกคนมองพิทยาและเห็นด้วย

ภายในร้านอาหาร เวลากลางคืน ภูวดลกับเพื่อนชนแก้วกัน ก่อนจะร้องเฮดังลั่น สุอาภาดูไม่มีความสุข เพื่อนภูวดลหันไปทางเธอ
“คุณแตดื่มซักแก้วนะครับ”
“ฉันไม่ดื่ม”
“ปาร์ตี้เกิร์ลอย่างคุณแตเนี่ยนะครับจะไม่ดื่ม”
สุอาภาเสียงเครียด
“ฉันไม่ดื่มจริงๆค่ะ”
เพื่อนไม่กล้าตอแยต่อ ภูวดลมองสุอาภาแปลกใจว่าเป็นอะไร ดูไม่สนุกด้วย พิทยาเดินเข้ามาในร้านอาหาร มองไปรอบๆ แล้วก็เห็นสุอาภากับภูวดลนั่งด้วยกัน พิทยาเดินเข้าไปหาทันที
“คุณแต”
สุอาภา ภูวดลและเพื่อนภูวดลหันไปเห็นพิทยาก็ผงะ
“ผมมารับคุณกลับบ้าน”
“ฉันไม่ได้บอกให้มารับ”
“แต่คุณต้องกลับบ้านได้แล้ว”
พิทยาจะเข้ามา ภูวดลเข้ามาขวางทางไม่พอใจ
“คุณแตมากับฉัน ฉันไปส่งคุณแตที่บ้านเอง”
พิทยาไม่สนใจภูวดลเข้ามาฉุดแขนสุอาภาให้ลุกขึ้น สุอาภาตกใจ ภูวดลหัวเสีย จับไหล่พิทยา พิทยาปัดแขนภูวดลออกไปอย่างแรง
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ!” พิทยาบอก
“แล้วเกี่ยวกับแกตรงไหน คุณแตไม่ใช่แฟนแก หรือว่ากะจะเก็บเธอไว้ทั้งสองคน”
พิทยาจ้องหน้าภูวดลด้วยความอดกลั้น ไม่อยากมีปัญหา หันไปทางสุอาภา
“กลับบ้าน!”
สุอาภาพยายามดึงแขนออก
“ฉันไม่กลับไปกับนาย ปล่อย!”
พิทยาไม่ปล่อยลากสุอาภาออกไป คนมองกันทั้งร้าน ภูวดลโมโหรู้สึกเหมือนถูกหยามน้ำหน้า รีบตามพิทยากับสุอาภาออกไป ภูวดลกระชากไหล่พิทยาหันมาแล้วต่อยเปรี้ยง!!! ภูวดลจะเข้ามาซ้ำ แต่เธอรีบห้าม พร้อมตะคอกใส่หน้าเสียงดัง
“อย่า!”
ภูวดลชะงักเห็นแววตาความห่วงใยที่สุอาภามีให้พิทยาก็รู้สึกแปลกใจ เธอรีบเข้ามาดูพิทยาที่มุมปากแตกเลือดซึม
“เป็นไงบ้าง”
“จะกลับกับผมได้เหรอยัง”

สุอาภามองพิทยาแล้วนิ่งไป ภูวดลมองสุอาภาด้วยความสงสัย
คืนนั้น สุอาภานั่งนิ่งอยู่ภายในรถที่พิทยากำลังขับแล่นมาตามทาง ด้านนอกขณะนี้เสียงฟ้าร้องครืนๆ พิทยาหันไปมองเธอ ด้วยสีหน้าลังเลแล้วก็ตัดสินใจ

“ผมรู้เรื่องทุกอย่างจากคุณพราวแล้ว ผมอยากรู้จากปากคุณ ว่ามันเป็นความจริงรึเปล่า”
สุอาภาชะงักไปนิดนึงแต่ทำเป็นไม่เข้าใจ
“เรื่องอะไร”
“คุณรู้อยู่แก่ใจยังต้องให้ผมพูดอีกทำไม”
“เพราะฉันไม่รู้ ฉันถึงถาม”
พิทยาเอารถจอดเข้าข้างทาง ฝนเริ่มตกลงมา พิทยาหันมา
“คุณทำตัวเองให้เป็นข่าวกับนายภูวดลเพื่อช่วยผมกับรวี”
สุอาภาสีหน้านิ่งมาก
“ฉันเนี่ยนะจะทำเพื่อนาย ทั้งๆที่นายเพิ่งด่าฉันไปอย่างเจ็บแสบ หลงตัวเองไปหน่อยแล้วมั้ง”
สุอาภารีบหลบตาไปทางอื่น
พิทยามองอย่างรู้ทัน
“คุณโกหกผมไม่สำเร็จหรอกคุณแต”
สุอาภากลืนน้ำลายพยายามซ่อนพิรุธ
“ผมรู้จักคุณดี เวลาที่คุณโกหกคุณจะหลบตา กำมือ”
สุอาภาอึ้ง ตกใจรีบคลายมือออก
“แล้วก็แกล้งทำเป็นโวยวาย อารมณ์เสีย”
สุอาภาหันขวับไปทางพิทยา แล้วแกล้งทำหงุดหงิด
“นายผิดแล้วนายพิทยา อย่ามาทำเป็นว่ารู้จักฉัน! ไม่รู้ฉันขึ้นรถมากับนายได้ยังไง ฉันไปดีกว่า”
สุอาภารีบลงจากรถเพราะกลัวพิทยาจับความรู้สึกได้ พิทยารีบตามลงไปทันที

ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง สุอาภาเร่งฝีเท้าเดินฝ่าสายฝน โดยมีพิทยาตามมาติดๆ
“คุณแต..กลับไปขึ้นรถ!”
เธอไม่สนใจ รีบเดินต่อไป เขาเข้ามาคว้าแขน สุอาภาหันไป
“เดินตากฝนแบบนี้ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”
“ฉันจะไม่สบายหรือเป็นอะไร มันก็เรื่องของฉัน ฉันจะกลับบ้านเอง ปล่อย!”
พิทยาไม่ตอบ ลากสุอาภากลับมาที่รถ สุอาภายื้อตัวเองเอาไว้
“ฉันบอกให้ปล่อย!”
พิทยาไม่ปล่อย สุอาภาก้มลงกัดแขนพิทยา พิทยาตกใจร้องลั่น
“โอ๊ย!”
พิทยาปล่อยมือจากแขนสุอาภา สุอาภารีบวิ่งออกไป พิทยาร้อนใจรีบขึ้นรถแล้วขับตามสุอาภาไปทันที พิทยาเปิดกระจกขับรถขนาบข้างสุอาภา
“ขึ้นรถเดี๋ยวนี้!”
“พูดจาไม่รู้เรื่องเหรอ บอกว่าไม่ขึ้น!”
สุอาภารีบจ้ำเดินต่อไป แต่เพราะเดินเร็วส้นเลยหัก เธอเกือบล้ม ดีที่ทรงตัวได้ทัน เธอตัดสินใจถอดรองเท้า พิทยาเป็นห่วงมากยิ่งขึ้น พอจะขับตามไป ก็มีรถออกมาจากซอยมาขวางหน้าเอาไว้
พิทยาเบรกเอี๊ยดด้วยความหัวเสีย แล้วก็ไม่เห็นสุอาภาแล้ว
สุอาภาเดินมาตามทาง เริ่มเจ็บเท้าและเริ่มหนาว ฝนยังตกไม่หยุด เธอมองหารถแท็กซี่
“ไม่มีแท็กซี่ผ่านมาซักคัน “
สุอาภาเห็นแท็กซี่กำลังแล่นมาทางฝั่งตรงข้าม ด้วยความรีบจะข้ามถนนเลยไม่ได้มอง ทำให้ไม่เห็นรถที่แล่นมาเสียงบีบแตรดังลั่น สุอาภาหันขวับไปมองด้วยความตกใจ ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก นึกว่าโดนชนแน่
แต่ทันใดนั้นพิทยาเข้ามาคว้าตัวสุอาภาหลบรถคันนั้นได้ทัน เขากอดเธอแน่น เธอนิ่งงันไปที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา แล้วพิทยาก็ดึงสุอาภาออกมามอง พร้อมกับลูบหน้าลูบผมเธอด้วยความเป็นห่วงสุดๆ
“ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”
สุอาภาพยักหน้าแต่พอขยับตัว กลับเจ็บเท้า
“โอ๊ย!”
พิทยาก้มมองที่เท้าของสุอาภา
“ต้องโดนอะไรตำแน่ๆ”
“เดินไหวรึเปล่า”
สุอาภาพยักหน้า พิทยาประคองสุอาภาเดิน แต่สุอาภากลับไม่ไหว
“ขึ้นหลังผม”
สุอาภาหันไปมอง พิทยาเดินมาตรงหน้า
“ขึ้นมาสิ”
สุอาภาขึ้นหลังพิทยา เขาแบกเธอเดินไปท่ามกลางฝนที่ตกลงมาโปรยปราย เธอลอบมองเขาอย่างรู้สึกดี

ภายในห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเวลากลางคืน สุอาภานั่งอยู่บนเตียงอย่างหมดสภาพมีผ้าขนหนูคลุมตัวอยู่ ที่เท้ามีผ้าพันแผล พิทยาที่ยืนข้างๆก็มีผ้าขนหนูคลุมตัวเช่นกัน
“รอซักครู่นะคะ ดิฉันจะไปเตรียมวัคซีนป้องกันบาดทะยัก”
สุอาภาตกใจถาม
“ต้องฉีดยาด้วยเหรอ”
“ค่ะ...”
พยาบาลรีบเดินออกไป สุอาภาหน้าซีดเป็นไก่ต้ม พิทยาหันไปมองอย่างรู้ทัน
“โตจนป่านนี้ยังกลัวเข็มอยู่อีก”
สุอาภาพูดไม่ออก ตัวสั่นด้วยความกลัว พิทยาเอื้อมมือมาจับมือสุอาภาเอาไว้
“ไม่ต้องกลัวจับมือผมไว้”
สุอาภาพยักหน้า ไม่นานพยาบาลเดินเข้ามาพร้อมเข็ม สุอาภาเห็นแล้วจะเป็นลม พยาบาลถลกแขนเสื้อ เอาแอลกอฮอล์ทาเตรียมฉีดยา เธอสีหน้าหน้าแย่มาก พิทยากระชับมือที่เย็นเจี๊ยบของเธอไว้ สุอาภาเงยหน้ามองเขาเหมือนเด็กน้อยน่าสงสาร พยาบาลเอาเข็มฉีดยาขึ้นมา สุอาภาเบือนหน้าหนี
พิทยาจับหัวเธอมาซบกับหน้าอกตัวเองคอยปลอบประโลม เธอบีบมือเขาแน่นด้วยความกลัวจับใจ

พิทยาขับรถมาจอดหน้าบ้านแล้วหันไปหยิบยาที่วางด้านหลังให้สุอาภา

“ทานยาให้ตรงเวลาด้วยนะ”
สุอาภาพยักหน้า พิทยาเหมือนมีอะไรจะพูดแต่ไม่พูด
“ฉันไปล่ะ”
สุอาภากำลังจะออกไป แต่พิทยาจับแขนเอาไว้
“เลิกยุ่งกับนายภูวดลซะ คุณไม่มีทางตามเค้าทัน”
สุอาภาไม่พูดอะไรลงจากรถ ค่อยๆกะเผลกเข้าไปในบ้าน พิทยาถอนหายใจด้วยความกังวลใจ

ภูวดลที่กำลังอาบน้ำยืนคิดเรื่องสุอาภากับพิทยา ภาพย้อนกลับไป... ภูวดลกระชากไหล่พิทยาหันมาแล้วต่อยเปรี้ยง! ภูวดลจะเข้ามาซ้ำ สุอาภารีบห้าม พร้อมตะคอกใส่หน้าเสียงดัง
“อย่านะ!”
ภูวดลชะงักเห็นแววตาความห่วงใยที่สุอาภามีให้พิทยาก็รู้สึกแปลกใจ
ภูวดลปิดน้ำยกมือลูบหน้าด้วยความสงสัยสุดๆ

เช้าวันต่อมา สุอาภาแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยกำลังจะเดินกะเผลกออกไป แต่นพเปิดประตูเข้ามา
“ป๋า...”
“เท้าเจ็บขนาดนี้ ยังจะออกไปไหนอีก”
“แตมีธุระนิดหน่อยค่ะ”
“เดี๋ยวนี้มีความลับกับป๋าแล้วเหรอ”
สุอาภาเข้ามากอดอ้อนบอก
“แตไม่ได้มีความลับกับป๋านะคะ เรื่องบางเรื่องถ้าแตจัดการเองได้ แตก็ไม่อยากให้มันรกสมองป๋า ป๋ามีเรื่องเครียดเยอะแล้ว”
สุอาภาผละออกมามองหน้า นพลูบหัวสุอาภาด้วยความรักและเป็นห่วง
“ลูกสาวป๋าโตเป็นผู้ใหญ่แล้วเหรอเนี่ย ถ้าเป็นผู้ใหญ่แล้ว แตก็ควรจะรู้ว่าอะไรที่ควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำ และที่สำคัญอย่าทำให้ป๋าต้องเป็นห่วง”
“เจ้าค่ะคุณป๋า”
สุอาภากอดนพอีกครั้ง จากหน้ายิ้มก็เปลี่ยนเป็นความกังวล นพเองก็เช่นกัน

มุมหนึ่งในบ้าน บวร วรรณวดี ณี ยืนตรงหน้านพ
“ไอ้แตมันไม่ยอมรับอะไรเลยเหรอป๋า”
นพพยักหน้าพลางถอนหายใจ
“ปากแข็งจริงๆเด็กคนนี้ ขนาดพิทถามก็ยังไม่ยอมพูดอะไรออกมา เราจะทำยังไงกันดีคะ ต่ายเป็นห่วงน้อง”
นพสีหน้ากังวลใจสุดๆ

ยามเช้าที่บ้านสวนจันทร์จำนง สุอาภายืนไหว้ จันทร์จำนงรับไหว้มองสุอาภาแปลกใจ
“คุณนายพอมีเวลาคุยกับฉันซักครู่มั้ยคะ”
จันทร์จำนงมองสุอาภาสงสัย

ที่มุมหนึ่ง จันทร์จำนงนั่งลงตรงข้ามกับสุอาภา
“มีอะไรก็พูดมาเลย”
“คุณนายรู้จักผู้หญิงที่ชื่อพิมมั้ยคะ”
จันทร์จำนงชะงัก แต่ยังไม่แน่ใจว่าคนเดียวกับที่รู้จักรึเปล่า
“พิมไหน”
“พิม นามสกุล พิพัฒนะค่ะ”
จันทร์จำนงรู้ทันทีว่าเป็นพิมเดียวกัน
“คุณถามทำไม”
“ผู้หญิงที่ชื่อพิม เป็นแม่ของพิท และฉันคิดว่าพ่อของพิทก็คือคุณภาสันต์ค่ะ”

จันทร์จำนงตะลึงงัน สุอาภามองจันทร์จำนงอย่างมีลุ้น
จันทร์จำนงยังอึ้งกับสิ่งที่สุอาภาบอก เสียงสุอาภาตอกย้ำเข้ามาอีก
“ผู้หญิงที่ชื่อพิม เป็นแม่ของพิท และฉันคิดว่าพ่อของพิทก็คือคุณภาสันต์ค่ะ”
จันทร์จำนงเซจะเป็นลม ป้านวลเห็นก็รีบเข้ามาประคอง
“คุณนายคะ”
ป้านวลค่อยๆพยุงจันทร์จำนงให้นั่งลง
“เดี๋ยวฉันไปเอายาหอมมาให้นะคะคุณนาย”
จันทร์จำนงหันไปทางนวลยิ้มอย่างตื้นตันจนน้ำตาคลอ
ไม่ต้อง... นวล ฉันเจอหลานคนโตของฉันแล้ว”
ป้านวลมองจันทร์จำนงด้วยแววตาสงสัย พลางนึกย้อนกลับไป

ในอดีต ที่บ้านภาสันต์ เวลากลางวัน ศรีพิไลเห็นหน้าภาสันต์ที่บวมช้ำก็ตกใจมาก
“ตายแล้ว! หน้าแหกขนาดนี้จะหายทันวันแต่งงานของเรารึเปล่า”
“สรุปว่าห่วงผม หรือว่าห่วงจะไม่ทันวันงานแต่งงานกันแน่”
จันทร์จำนงยืนอยู่ด้วย
“ทำไมถึงต้องทำร้ายกันขนาดนี้”
ภาสันต์อึกอักบอก
“เข้าใจผิดกันนิดหน่อยครับแม่”
“เข้าใจผิดนิดหน่อยอะไรกัน บอกแม่มาว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
ภาสันต์เหลือบมองศรีพิไล...ไม่กล้าพูด
จันทร์จำนงหันไปทางศรีพิไล
“แม่ศรีพิไล...เรารู้ใช่มั๊ย”
ศรีพิไลกลืนน้ำลายเอื๊อก จันทร์จำนงพูดต่อ
“ถ้าไม่บอก แม่จะไปถามนพเอง”
ศรีพิไลโพล่งออกไป
“คุณนพเค้าหาว่าสันต์ทำผู้หญิงท้องค่ะคุณแม่”
จันทร์จำนงอึ้งหันขวับไปทางภาสันต์
“แล้วเราทำจริงรึเปล่า”
ภาสันต์พูดไปก็ดูล่อกแล่กไป
“โธ่..แม่ครับ ผมกำลังจะแต่งงาน แล้วผมจะไปทำอะไรแบบนั้นได้ยังไง ไอ้นพมันแค้นที่ผู้หญิงไม่เลือกมัน ก็เลยมาพาลเอากับผม ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่คนดีมั่วผู้ชาย มีผัวมาแล้วไม่รู้กี่คน เผลอๆคงเป็นเมียไอ้นพมันด้วยซ้ำ มันถึงโกรธผมมากขนาดนี้”
“คุณสันต์พูดจริงนะคะคุณแม่ ศรีเคยเห็นผู้หญิงคนนั้นครั้งสองครั้ง ดูจากลักษณะแล้วคงอยากจับคุณสันต์นั่นแหละค่ะ”
จันทร์จำนงหันไปมองภาสันต์อีกครั้ง ภาสันต์หลบตาดูมีพิรุธมากๆ ทำให้จันทร์จำนงไม่เชื่อในสิ่งที่ภาสันต์พูด

หลายเดือนต่อมา ที่โรงพยาบาล พิมนอนอุ้มลูกอยู่บนเตียงสีหน้าเต็มไปด้วยความสุข จันทร์จำนงที่ยืนอยู่ตรงประตู...พอเห็นพิมก็ชะงักไปนิดนึง เพราะพิมดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อยมาก พิมหันมาเห็นจันทร์จำนงก็แปลกใจ
“คุณพิมใช่มั้ย”
พิมนิ่วหน้าแล้วถาม
“ค่ะ คุณ...”
“ฉันคือแม่ของภาสันต์ ขอฉันเข้าไปได้มั้ย”
พิมอึ้งมาก
“เชิญค่ะ”
จันทร์จำนงเดินเข้ามา
“ฉันตามหาคุณอยู่นานโข กว่าจะรู้ว่าคุณอยู่ที่นี่”
“คุณมีธุระอะไรกับฉันค่ะ”
จันทร์จำนงยังไม่ทันพูดอะไร พอเห็นหน้าเด็กก็ทำเอานิ่งไปด้วยความตะลึง จนพิมแปลกใจ
“เหมือนมาก หน้าเค้าเหมือนภาสันต์ตอนเด็กๆมาก”

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 5/4 วันที่ 11 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3 (ต่อจากเหนือเมฆ)
ที่มา manager