@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 7 วันที่ 14 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 7 วันที่ 14 ม.ค. 56

“ตกลงคนในภาพคือคุณสุอาภาใช่มั๊ยคะ, ใครเป็นคนปล่อยภาพนี้ออกมาคะ, เพราะภาพข่าวนี้ใช่มั้ยครับถึงทำให้คุณนพต้องเข้าโรงพยาบาล”
สุอาภาสีหน้าแย่มาก พิทยาพยายามเอาตัวบังสุอาภาเอาไว้ เขาหันไปทางนักข่าว
“คุณสุอาภายังไม่พร้อมจะตอบคำถามใดใด กรุณาหยุดถามด้วยเถอะนะครับ”
พิทยาจับมือสุอาภาจะพาเดินออกไป แต่นักข่าวตีกรอบกันเข้ามาทำให้สองคนขยับไปไหนไม่ได้
“อย่าเพิ่งไปสิครับ พวกเราอยากรู้เรื่องที่เกิดขึ้นว่ามีคนจงใจแกล้งคุณ หรือว่าคุณเป็นคนปล่อยภาพนี้ออกมาเพื่อสร้างกระแสให้กับตัวเอง”

“เออจริงด้วย จริงด้วย”
พิทยาฉุน
“นี่คุณ! พูดจาให้มันดีหน่อยนะ”
สุอาภาเครียดมากถึงกับไม่กล้าสู้หน้าใคร พิทยาสุดทน
“ถ้างั้นก็ตอบคำถามมาสิครับ” นักข่าวคนที่หนึ่งบอก กลุ่มนักข่าวคนอื่นเออออ



“พวกเราอยากรู้ความจริง ผู้ชายในภาพเป็นใครครับคุณสุอาภา”
นักข่าวยังคงใส่ไม่ยั้ง
“นั่นสิคะ เป็นใครคะ เป็นใคร ผู้ชายเป็นใคร ตอบคำถามด้วยค่ะคุณสุอาภา”
สุอาภากำลังจะประสาทเสีย ในที่สุดพิทยาก็ทนไม่ไหว
พิทยาตะเบ็งเสียง
“อยากรู้กันนักใช่มั้ยว่าผู้ชายในภาพเป็นใคร”
ทุกคนเงียบ!! นักข่าวกับสุอาภาหันไปมองพิทยา สุอาภามองพิทยาอย่างไม่เข้าใจ บวรพารปภ.2-3 คนเข้ามา วรรณวดีหันไปทางบวร
“พี่ใหญ่”
นักข่าว สุอาภามองลุ้นพิทยา
“ผู้ชายคนนั้นก็คือ... ผมเอง”
นักข่าวฮือฮาตกใจ สุอาภาแทบช็อก บวรกับวรรณวดีอึ้ง นักข่าวรีบถ่ายรูปพิทยากับสุอาภา พิทยาโอบไหล่สุอาภาเข้ามาแนบชิด
“ผมกับคุณแต...เรารักกัน”
สุอาภาอึ้งอีกหน บวรกับวรรณวดีมองหน้ากัน
พิทยาหันไปมองสุอาภา
“และผมจะแสดงความรับผิดชอบทุกอย่าง ด้วยการแต่งงานกับคุณแต”
สุอาภาถึงกับเหวอไป พิทยาสีหน้าจริงจัง หันไปทางนักข่าว
บวรกับวรรรวดีนึกไม่ถึง นักข่าวยังคงถ่ายรูปไม่หยุด รปภ.รีบเข้ามาห้าม
“ขอความกรุณาทุกคนออกไปจากที่นี่ ที่นี่เป็นโรงพยาบาลต้องการความสงบและเป็นส่วนตัว เชิญครับเชิญ”
รปภ.ต้อนนักข่าวให้ออกไปด้วยความยากลำบาก สุอาภาหันไปมองพิทยาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ

พิทยานั่งนิ่ง สุอาภานั่งตรงข้าม บวรกับต่ายก็นั่งกันอยู่อีกมุมหนึ่ง สุอาภามองพิทยาตาไม่กระพริบ
“นายพูดแบบนั้นออกไปทำไม ทั้งๆที่นายไม่ได้รักฉัน! และนายก็ไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น”
พิทยาเงยหน้า
“ก่อนคุณอาจะเข้าห้องผ่าตัด ผมรับปากคุณอาเอาไว้ว่าผมจะดูแลคุณ”
สุอาภาอึ้ง...รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ได้รัก แต่ก็อดเจ็บไม่ได้ที่รู้ว่าเค้าทำแบบนี้เพราะพ่อของเธอ เธอลุกขึ้นยืนบอก
“นายไม่จำเป็นต้องดูแลฉัน ฉันโตแล้ว แล้วอีกอย่างฉันมันก็เป็นผู้หญิงที่เหลวแหลกในสายตาของทุกคน เพราะฉะนั้นนายไม่ต้องมาปกป้องฉัน”
“ผมไม่ได้ปกป้องคุณ แต่ผมทำเพื่อคุณอา คุณอาท่านบอบช้ำมากแล้วกับเรื่องที่เกิดขึ้น”
บวรกับวรรณวดีนิ่งฟัง
“ทางเดียวที่จะช่วยคุณอาได้ก็คือ....การที่ท่านได้เห็นว่าคุณปลอดภัย”
“นายก็เลยแก้ปัญหาด้วยการแต่งงานกับฉัน ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น นายปฏิเสธฉัน แสดงท่าทางรังเกียจฉัน คนอื่นเค้าอาจจะไม่รู้ในข้อนี้ แต่ฉันรู้ แล้วฉันก็ทนไม่ได้ที่จะต้องแต่งงานกับนายโดยที่เราไม่ได้รักกัน นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่า ฉันทำให้นายทุกข์มากกว่าสุข แล้วนายจะจมอยู่กับความทุกข์ไปตลอดชีวิตได้งั้นเหรอ นายอาจจะฝืนใจทำได้ แต่ฉันทำไม่ได้ เราจะไม่แต่งงานกัน ! นี่เป็นเรื่องของฉัน ฉันจะรับผิดชอบชีวิตของฉันเอง ฉันจะไม่ขอความช่วยเหลือจากนาย กลับไปได้แล้ว”
บวรกับวรรณวดีตกใจลุกขึ้นยืน
“แต!”
สุอาภามองพิทยาที่ยังนั่งอยู่ด้วยความรู้สึกสับสน พิทยาลุกขึ้นยืน
“กลับไปสิ”
“ผมไม่กลับ ผมจะอยู่รอจนกว่าคุณอาจะผ่าตัดเสร็จ”
พิทยาพูดจบก็เดินไปนั่งตรงมุมหนึ่งที่ไกลออกไป สุอาภาหันไปมองตามพิทยา กำมือแน่น แล้วก็นั่งลงหันไปทางอื่นสีหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจ
บวรกับวรรณวดีมองทั้งคู่แล้วก็หันมามองหน้ากันพลางถอนหายใจออกมา

นาฬิกาบอกเวลาสี่โมงเย็น ผ่านเวลา ไปเป็นหกโมงเย็น สามพี่น้องนั่งด้วยกันตรงมุมหนึ่ง พิทยานั่งอยู่ห่างออกไป
นาฬิกาบอกเวลาสองทุ่ม วรรรวดีกับสุอาภานอนเอาหัวซบไหล่บวรสองข้าง พิทยาลุกเดินมาตรงหน้าห้องผ่าตัด ไม่นานหมอเดโชก็เดินออกมา พิทยาดีใจมากหันไปทางคนอื่น
“คุณหมอออกมาแล้วครับ”
ทั้งสามคนรีบเดินมาหาหมอทันที
“การผ่าตัดสำเร็จนะครับ แต่กล้ามเนื้อหัวใจของคุณนพ ไม่มีเลือดไปเลี้ยงบางส่วน ซึ่งอาจจะทำให้ท่านฟื้นช้ากว่าคนอื่น”
“แล้วเมื่อไหร่ล่ะครับหมอ” บวรถาม
“หมอตอบไม่ได้ครับ มันขึ้นอยู่กับสุขภาพของคนไข้ ถ้ายังไงคืนนี้คนไข้ยังต้องอยู่ห้องไอซียูไปก่อน พรุ่งนี้ถึงจะเข้าห้องพักปกติได้”
ทุกคนพากันเครียด
“ขอบคุณนะคะ” วรรณวดีบอก
หมอเดโชเดินออกไป
“งั้นคืนนี้เราก็นอนกันที่นี่” บวรบอก
น้องสาว 2 คนพยักหน้าเห็นด้วย
“เฉพาะเราสามคนนะคะ คนอื่นไม่เกี่ยว”
พิทยารู้ว่าสุอาภาหมายถึงเขา
“ถ้าไงพี่วานพิทพาพี่กลับไปเก็บของที่บ้านหน่อยก็แล้วกัน แล้วให้พี่ใหญ่กับแตอยู่ที่นี่” วรรณวดีบอก
“ได้ครับ”
พิทยาหันไปมองสุอาภา เธอทำไม่มอง แล้วพิทยากับวรรณวดีก็เดินออกไป

เวลากลางคืน สุอาภายืนเหม่อตรงระเบียงห้อง บวรเดินมายืนข้างๆ
“ยืนตากลมเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”
“แตอึดอยู่แล้วค่ะ ไม่เป็นอะไรง่ายๆ”
บวรมองสุอาภาด้วยท่าทางลังเล แล้วก็ตัดสินใจ
“แต..พี่ไม่อยากให้แตไปว่าพิทเค้าแบบนั้น เค้าทำลงไปเพราะเค้าหวังดี”
สุอาภาหันมา
“แตรู้ว่าพิทหวังดี แต่แตไม่อยากให้เค้าทำดีกับแต”
บวรนิ่วหน้าถาม
“ทำไม”
สุอาภาเงียบ
“แต”
“การแอบรักมันเจ็บนะคะพี่ใหญ่ ยิ่งต้องไปรักคนที่เค้ารักคนอื่น มันยิ่งเจ็บ แล้วยิ่งเวลาเค้าทำดีกับเรา แทนที่เราจะมีความสุข แต่มันกลับเจ็บมากขึ้นเป็นร้อยเท่า แต่นั่นก็ไม่เท่ากับการที่เราเห็นคนที่เรารักต้องเป็นทุกข์เพราะเรา สิ่งนั้นมันทำให้เราเจ็บจนเจียนตาย แตแต่งงานกับพิทไม่ได้หรอกค่ะ”
สุอาภาจะร้องไห้ บวรสงสารน้องมาก
“พี่ไม่เคยรู้เลยว่าแตรู้สึกยังไงกับพิท แสดงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาที่แตพูดไม่ดีกับเค้า แกล้งเค้าสารพัด เป็นเพราะแตพยายามจะตัดใจจากเค้าใช่มั้ย”
สุอาภาไม่ตอบ แต่กลับร้องไห้ออกมา บวรกอดน้องสาวที่ร้องไห้ไม่หยุดเอาไว้

พิทยากำลังขับรถ ต่ายนั่งข้างๆ
“ขอบใจมากนะพิท”
“ขับรถแค่นี้เองครับ สบายมาก”
“ไม่ใช่เรื่องนี้ ขอบใจในความกล้าของเธอที่บอกนักข่าวไปแบบนั้น ขอบใจที่ช่วยยัยแต”
พิทยานิ่งไปซักพัก
“อย่าขอบคุณผมเลยครับพี่ต่าย นี่เป็นสิ่งที่ผมต้องทำไ
“พรุ่งนี้คงมีข่าวออกมาแน่ๆ พี่เป็นห่วงความสัมพันธ์ของเธอกับคุณรวีพรรณ”
“เรื่องนั้นพี่ต่ายไม่ต้องห่วง ผมจะจัดการเอง ส่วนเรื่องผมกับคุณแต ผมยังยืนยันคำเดิม นักข่าวจะได้เลิกตามตื้อและขุดคุ้ยเรื่องของคุณแตซักที”
พิทยาสีหน้ามุ่งมั่นมาก ต่ายหันไปมองพิทยาแล้วก็ถอนหายใจ

ภายในห้องพักวีไอพี สุอาภานอนที่เตียงเสริม วรรณวดีนอนเตียงเสริมข้างๆ บวรนอนบนโซฟา บวรกับวรณวดีหลับไปแล้ว แต่สุอาภายังนอนไม่หลับ คิดหนักเรื่องพิทยา พลางภาพย้อนกลับไป
“ผู้ชายคนนั้นก็คือ...ผมเอง”
นักข่าวฮือฮาตกใจ สุอาภาแทบช็อก บวรกับต่ายอึ้ง นักข่าวรีบถ่ายรูปพิทยากับสุอาภา เขาโอบไหล่สุอาภาเข้ามาแนบชิด
“ผมกับคุณแต...เรารักกัน”
สุอาภาอึ้งอีกหน บวรกับต่ายมองหน้ากัน
“และผมจะแสดงความรับผิดชอบทุกอย่าง ด้วยการแต่งงานกับคุณแต”

พิทยานอนก่ายหน้าผาก ลืมตาโพลงในความมืด คิดหนักเรื่องสุอาภา ภาพย้อนกลับไป
“นายก็เลยแก้ปัญหาด้วยการแต่งงานกับฉัน ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น นายปฏิเสธฉัน แสดงท่าทางรังเกียจฉัน คนอื่นเค้าอาจจะไม่รู้ในข้อนี้ แต่ฉันรู้ แล้วฉันก็ทนไม่ได้ที่จะต้องแต่งงานกับนายโดยที่เราไม่ได้รักกัน นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่า ฉันทำให้นายทุกข์มากกว่าสุข แล้วนายจะจมอยู่กับความทุกข์ไปตลอดชีวิตได้งั้นเหรอ นายอาจจะฝืนใจทำได้ แต่ฉันทำไม่ได้ เราจะไม่แต่งงานกัน! นี่เป็นเรื่องของฉัน ฉันจะรับผิดชอบชีวิตของฉันเอง ฉันจะไม่ขอความช่วยเหลือจากนาย”
ทั้งพิทยาและสุอาภา ต่างเครียดนอนไม่หลับด้วยกันทั้งคู่

เช้าวันถัดมา เสียงกดออดดังขึ้นถี่มากเหมือนคนกำลังโมโห พิทยาเดินออกมาด้วยสีหน้าแปลกใจ ทันทีที่เปิดประตูก็เจอรวีพรรณยืนอยู่ พิทยาชะงัก รวีพรรณไม่พูดอะไร โยนหนังสือพิมพ์ที่มีภาพข่าวพิทยากับสุอาภาใส่ตัวพิทยา พิทยารู้ทันทีว่ารวีพรรณมาหาเค้าทำไม
“พิททำแบบนี้กับรวีได้ยังไง ไหนบอกว่าไม่มีอะไรกับผู้หญิงคนนี้ แล้วทำไม”
“ฟังผมก่อนนะรวี”
“หลักฐานชัดเจนขนาดนั้น พิทยังจะหาคำมาแก้ตัวมาได้อีกเหรอ”
“ผู้ชายในภาพคือคุณภูวดล”
“เลิกโยนความผิดให้คุณภูวดลซักที!”
พิทยาอึ้งที่รวีพรรณเชื่อภูวดล
“นี่รวี...เชื่อผู้ชายคนนั้นมากกว่าผมเหรอ”
“ใช่! รวีก็ไม่นึกเหมือนกันว่ารวีจะเชื่อคนอื่นได้มากกว่า แต่เพราะสิ่งที่พิททำ มันทำให้รวีรู้ว่าหลายปีที่เราคบกัน รวีไม่ได้รู้จักพิทเลย รวีเหมือนคนโง่ที่ถูกพิทหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
พิทยาจับแขนสองข้างของรวี
“รวี...คุณต้องฟังผม ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่คนดี เค้าหลอกคุณแตไปเพื่อทำมิดีมิร้าย ผมไปช่วยคุณแตออกมา พี่ใหญ่ก็ไปด้วย ถ้าคุณไม่เชื่อ ไปถามพี่ใหญ่ดูก็ได้ ผมกับคุณแตไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ”
“ถ้าเกิดเป็นอย่างที่พิทเล่า แล้วทำไมพิทถึงพูดกับนักข่าวไปแบบนั้น”
“ที่ผมพูดเพราะว่าตอนนี้คุณอาไม่สบายมาก คุณอายังไม่ปลอดภัย รวีก็รู้ว่าคุณอามีบุญคุณกับผมมากแค่ไหน ท่านเหมือนชุบชีวิตใหม่ให้กับผม ถ้าอะไรที่ทำให้คุณอาได้ ผมก็พร้อมจะทำทุกอย่าง”
รวีพรรณอึ้ง
“อย่าบอกนะว่าพิทแต่งงานกับสุอาภาเพราะต้องการทดแทนบุญคุณ”
พิทยาพยักหน้ายอมรับ รวีแทบช็อก รวีพรรณพูดต่อ
“ถึงแม้ว่าสิ่งที่พิททำ จะทำให้รวีเป็นทุกข์งั้นเหรอ”
“ผมขอโทษ ขอโทษที่ผมทำตามคำพูดที่บอกกับรวีไม่ได้ แต่ผมอยากให้รวีรู้ว่า ถึงแม้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ผมก็ยังรักรวีเสมอ”
รวีพรรณทั้งโกรธทั้งเสียใจ
“ถึงจะรัก...แต่พิทก็เลือกบุญคุณมากกว่า”
พิทยาเงียบไปซักพักแล้วก็พยักหน้า รวีพรรณกำมือแน่น ตบหน้าพิทยาเพี๊ยะ!! พิทยานิ่งงันไป
รวีพรรณน้ำตาไหลแล้วก็หันหลังเดินออกไป ทิ้งให้พิทยายืนเคว้งคว้างอยู่คนเดียว

รวีพรรณจอดรถเข้าข้างทาง เพราะขับรถต่อไปอีกไม่ไหว... เธอร้องไห้ออกมาอย่างหนักมากด้วยความเสียใจ น้อยใจและเจ็บปวด

ภายในร้านอาหาร สินีนาฎกำลังหัวเสียใส่รวีพรรณ
“เธอเห็นแล้วใช่มั้ย นี่ไงล่ะสิ่งที่ฉันเตือนเธอมาตลอด สุดท้ายเธอก็โดนนังนั่นแย่งพิทไปจริงๆ”
รวีพรรณนิ่งเงียบ
“เลิกเป็นคนดีซักที เป็นคนดีแล้วต้องโดนรังแก เธอยังจะเป็นอยู่อีกเหรอ ป่านนี้นังสุอาภามันคงเที่ยวป่าวประกาศบอกใครต่อใครแล้วว่ามันชนะเธอ เธอจะเอาแต่เงียบแบบนี้ไม่ได้แล้วนะรวี”
รวีพรรณสุดทนลุกขึ้นยืน
“แล้วเธอจะให้ฉันทำยังไงล่ะสิ ! ให้ฉันไปแย่งพิทกลับคืนมางั้นเหรอ”
“ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะทำ ! ฉันจะแย่งพิทคืนมาจากนังนั่น ทำให้นังนั่นรู้ว่าพิทเป็นของฉันมาก่อน”
สินีนาฎพูดจบก็เดินออกไปด้วยความรำคาญ รวีพรรณทรุดตัวลงนั่งสีหน้าเจ็บปวด

ภายในห้องไอซียู นพยังนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง สุอาภาสีหน้าเศร้านั่งจับมือพ่ออยู่ข้างๆ วรรณวดีกับบวรยืนอยู่อีกข้างหนึ่งของเตียง
“ทำไมป่านนี้ป๋าถึงยังไม่ฟื้นขึ้นมาอีก”
“หมอบอกแล้วไงแตว่าป๋าจะฟื้นช้ากว่าคนอื่น แต่ยังไงป๋าก็ต้องฟื้นขึ้นมาแน่ๆ”
สุอาภาพยักหน้า ระหว่างนั้นเสียงมือถือบวรดังขึ้น
“ฮัลโหล...ฉันจะเข้าไปเดี๋ยวนี้”
บวรวางสายแล้วหันมา
“มีงานด่วนเข้ามา พี่ต้องเข้าออฟฟิศ”
“พี่ใหญ่ไปเถอะค่ะ แตดูแลป๋าเอง”
“พี่จะรีบกลับมานะ”
สุอาภาพยักหน้าแล้วก็รีบออกไป วรรณวดีกับสุอาภาจับมือให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

ภายในออฟฟิศ ปวีณามองภาพข่าวพิทยากับสุอาภาในหนังสือพิมพ์ด้วยความโมโหจนต้องฉีกหนังสือพิมพ์ทิ้ง กรองทิพย์เข้ามาเห็นก็ตกใจรีบเข้ามา
“แป๋ว! ฉีกหนังสือพิมพ์ทำไม นี่มันของบริษัทนะ”
ปวีณาไม่ตอบ กรองทิพย์เข้ามาเห็นภาพพิทยากับสุอาภาก็รีบอ่านเนื้อข่าว
กรองทิพย์ตกใจ
“แม่เจ้า!คุณพิทยากับคุณสุอาภาจะแต่งงานกัน”
“นังสุอาภาต้องบังคับคุณพิทแน่ๆ ไม่งั้นไม่มีทางที่คุณพิทจะแต่งงานกับมันเด็ดขาด”
กรองทิพย์ตกใจกับท่าทางของปวีณา
“ชู่ว์ แป๋ว..ทำไมเรียกคุณสุอาภาเค้าแบบนั้น”
“แป๋วจะเรียก พี่ทิพย์จะทำไม นังสุอาภา นังสุอาภา นังสุอาภา”
บวรเข้ามาได้ยินพอดี
“นี่!”
กรองทิพย์กับปวีณาหันไปเห็นบวรก็ตกใจ กรองทิพย์หน้าเสีย ปวีณาทำไม่สนใจจะเดินออกไป
“ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่มั้ยว่าอย่าให้ฉันได้ยินเธอพูดถึงน้องสาวฉันอีก พี่ทิพย์ครับ จัดการให้เค้าเซ็นต์ใบตักเตือนด้วย ถ้าครบสามครั้งเมื่อไหร่ โดนไล่ออก!”
ปวีณาตกใจ ถลึงตาใส่บวร จะเอาเรื่อง กรองทิพย์รีบจับแขนปวีณาเอาไว้ บวรมองอย่างไม่พอใจแล้วก็เดินออกไป
“เห็นมั้ย..เป็นเรื่องจนได้ สงบปากสงบคำไว้บ้างเถอะ”
ปวีณาหงุดหงิดหัวเสียไม่พอใจ

สุอาภากับวรรณวดียังคงเฝ้านพอย่างใกล้ชิด ไม่นานนพขยับตัว...สุอาภากับต่ายเห็นก็ดีใจมาก
“ป๋า!”
นพค่อยๆลืมตาขึ้นมาหันไปมองลูกสาวทั้ง 2 คนด้วยความรู้สึกมึนๆงงๆอยู่

หมอเดโชเดินออกมา หาสุอาภากับและต่าย
“เดี๋ยวผมจะให้พยาบาลทำเรื่องย้ายคุณนพไปอยู่ห้องปกตินะครับ แต่ยังไงช่วงนี้อย่าพยายามให้มีอะไรมากระทบกระเทือนจิตใจทำให้คุณนพเครียดอีกเป็นอันขาด เพราะอาการของคุณนพยังไม่น่าไว้ใจ ผมกลัวว่าถ้าคุณนพเป็นขึ้นมาอีก อาการจะแย่ลงมากกว่าเดิม”
สุอาภากับวรรณวดีหน้าเสียเป็นกังวลขึ้นมาทันที
นพนอนอยู่ในห้องยังมีสายออกซิเจนเสียบที่จมูก สุอาภากับต่ายยืนข้างเตียง นพยื่นมืออกมาหาสุอาภา
นพน้ำเสียงอ่อนแรงเรียก
“แต”
สุอาภาจับมือนพเอาไว้
“ค่ะป๋า”
“เรื่องนั้น...ข่าวเป็นยังไง”
สุอาภากับต่ายเหลือบมองหน้ากัน สุอาภาฝืนยิ้มบอก
“ไม่มีอะไรแล้วค่ะป๋า”
“อย่ามาโกหกป๋า”
สุอาภาหน้าเจื่อน นพหันไปทางวรรณวดี
“ต่าย...ป๋าอยากรู้ว่าข่าวนั่นมันไปถึงไหนแล้ว”
วรรณวดีอึกอัก..สุอาภาส่งสายตาไม่ให้พี่สาวพูด
“ป๋าถาม...ทำไมไม่ตอบ”
สุอาภารีบเปลี่ยนเรื่อง
“ป๋าคะ ป๋าเพิ่งฟื้น ป๋าอย่าเพิ่งคิดถึงเรื่องอื่นเลยนะคะ ป๋านอนพักก่อนเถอะ”
“นี่ไม่ใช่เรื่องอื่น นี่เป็นเรื่องของลูกป๋า จะให้ป๋าทำเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไง”
สุอาภากับต่ายพูดไม่ออก ระหว่างนั้นพิทยาเดินเข้ามาเห็นนพฟื้นแล้วก็ดีใจมาก
“คุณอาครับ”
พิทยารีบเดินมาที่ข้างเตียง สุอาภากับต่ายหันไปมอง
“พิท...ฉันอยากรู้เรื่องความคืบหน้าของข่าวยัยแต”
พิทยาชะงัก เหลือบมองสุอาภากับต่าย นพเริ่มสงสัย
“ทำไมถึงไม่มีใครยอมพูดอะไรเลย พิท เล่าให้ฉันฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น” นพเสียงเริ่มดัง
“ป๋าคะ..ป๋าอย่าเพิ่งโมโหสิคะ เดี๋ยวก็เป็นขึ้นมาอีกหรอก”
“ถ้างั้นก็บอกป๋ามาสิว่ามันมีอะไร มันแย่มากนักเหรอไงถึงบอกให้ป๋ารู้ไม่ได้”

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 7 วันที่ 14 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3 (ต่อจากเหนือเมฆ)
ที่มา manager