@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 8 วันที่ 5 ม.ค. 56

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 8 วันที่ 5 ม.ค. 56

อิงฟ้าเคือง “เอ...พรุ่งนี้แม่จะทำอะไรให้หมอกทานดีนะ ทำให้อร่อยกว่าพี่ซันเลยดีไหม”

หมอกร้องเย้ ตะวันฉายสบตาเมฆเชิงถามว่าแล้วตนจะทำอะไรดี เมฆให้เป็นผู้ช่วยอิงฟ้า แต่อิงฟ้ากลับบอกว่าตนทำคนเดียวได้ แม้แต่การชงกาแฟเธอก็แย่งไปทำและไล่ให้เธอไปทำอย่างอื่น...ตะวันฉายหลบมานั่งหงุดหงิด เก่งตามมาปลอบใจว่าเขาแม่ลูกกันก็คงต้องอยากดูแลกัน ถ้ากลัวไม่มีงานทำตนยินดีมอบหน้าที่ให้ เริ่มด้วยการไปเปิดประตูบ้านให้เมฆไปส่งหมอกก่อนเลย เธออิดออดแต่พอมาเห็นอิงฟ้าไปกับเมฆ ก็ออกอาการดีใจ

เมฆเห็นฉุกคิด “คิดจะทำอะไรตอนฉันไม่อยู่ใช่ไหม ถึงได้เช็กว่าฉันกับอิงฟ้าไม่อยู่บ้าน”

“โธ่...คุณเมฆ หน้าตาอย่างผมนี่น่ะเหรอครับจะทำอะไรไม่ดี”

“ใครจะไปรู้ นายอาจจะบ้าบิ่นทำอะไรที่คนอื่นคาดไม่ถึงก็ได้ เช่นปลอมตัวเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงเพื่อขโมยของอะไรแบบนี้”



“โห...คุณเมฆนี่เมื่อก่อนทำโรงน้ำแข็งหรือเปล่าครับ ปั้นน้ำเป็นภูเขาน้ำแข็งเลย”

เมฆเข่นเขี้ยวที่โดนด่า อิงฟ้าเตือนลูกจะไปโรงเรียนสาย เขาเปลี่ยนใจให้ตะวันฉายไปส่งหมอกกับอิงฟ้า ทั้ง สองตกใจแต่ไม่กล้าขัด จำใจออกไปด้วยกัน...ไม่ทันถึงไหน อิงฟ้าก็เปลี่ยนใจให้ตะวันฉายพาหมอกนั่งแท็กซี่ไปเพราะหวังจะอยู่กับเมฆตามลำพัง แต่กลับมาบอกเมฆว่า ดูเหมือนตะวันฉายไม่อยากไปกับตนจึงขอไปส่งเอง เขาขมวดคิ้วไม่อยากเชื่อ
เมฆกำลังรื้อเอกสารในห้องทำงานออกมากองเต็ม พื้น อิงฟ้าจะช่วยแต่เขาห้ามไว้ พลันเธอเห็นซองน้ำตาลที่เก็บใบมรณะบัตรของธีรภพก็หน้าเสีย ไม่อยากให้เมฆเห็นเกรงจะรื้อฟื้นความหลังที่ตนเป็นต้นเหตุ จึงรีบเก็บไปสอดรวมกับตั้งเอกสารอื่น เผอิญรูปถ่ายใบหนึ่งร่วงลงมา เป็นรูปเธอกับเมฆสมัยเรียน จึงถือโอกาสเอามาแซว

“เมฆยังเก็บรูปพวกนี้ไว้อีกเหรอ น่ารักจัง”

เมฆชำเลืองมองแล้วตอบเรียบๆว่าไม่รู้จะทิ้งไหน อิงฟ้าล้ออยากเก็บไว้ก็บอกมาตรงๆ

เมฆกล้ำกลืนความเจ็บปวด “...มันยากนะที่จะลืมใครสักคนได้ง่ายๆ”

อิงฟ้าโผเข้ากอดจูบแก้มเมฆ ตนก็เหมือนกันและตนสัญญาจะไม่ทิ้งเขาไปอีก เมฆเคลิ้มไปชั่วครู่ เสียงเก่งทำกล่องหล่นทำให้เขาสะดุ้ง เก่งทำหน้าเก้อๆบอกว่าตนหากล่องมาเพิ่มแล้ว

ooooooo

ทางด้านซันไรส์รีสอร์ท เกริกไกรกับสายรุ้งยืนรอ รับแขก วิวัฒน์เข้ามาทักทายที่ทั้งสองมาต้อนรับด้วยตัวเอง

“ก็อ้อบอกว่าจะมีลูกค้าวีไอพีของคุณเช็กอินวันนี้ ผมกับคุณรุ้งก็น่าจะได้อยู่ต้อนรับด้วย”

อ้อเสนอหน้าเข้ามาเอาความดีความชอบว่าตนได้อัพเกรดห้องพักเป็นห้องสวีทให้แล้ว สายรุ้งถามวิวัฒน์ว่าแขกสำคัญคนนี้พูดภาษาอะไร อ้อตอบแทนเป็นคนอเมริกัน เกริกไกรแขวะ

“รู้สึกรู้ดี ผลงานดีอย่างนี้ต้องปรับตำแหน่งขึ้นดีมั้ยนะ แต่ไม่รู้จะให้ไปอยู่ตำแหน่งไหน”

“คุณเกริกก็ปลดคุณซันสิคะ อ้อจะได้ขึ้นเป็นผู้จัดการแทน”

เกริกไกรกับสายรุ้งถลึงตาใส่ทำนองเกินไปแล้ว อ้อยิ้มแหะๆถอยออก วิวัฒน์เห็นลูกค้าตนเดินมารีบชี้บอกนั่นไงมาแล้ว คุณฌอน แอนเดอร์สัน ทุกคนมองไปโดยไม่มีใครรู้ว่าชายที่อยู่ในชุดสบายๆหนวดเคราเฟิ้มสวมแว่นดำท่าทางน่าเกรงขามคนนั้นคือ...เฮลมุท

เมื่อเฮลมุทกับลูกน้องอีกสามคนเข้าที่พักเรียบร้อย เขาก็สั่งลูกน้องตามหาผู้หญิงในรูปทันที ลูกน้องแปลกใจไม่ใช่ผู้หญิงคนเดิมหรือ เฮลมุทตอบว่าคนเดิม แต่ปัจจุบันเธอเปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้ และคาดว่าเธอจะอยู่บ้านที่เคยเป็นเรือนหอตอนแต่งงานกับคนไทย

ooooooo

ระหว่างที่รถแท็กซี่ที่ตะวันฉายนั่งพาหมอกออกมายังไม่ทันพ้นซอย รถยุทธการเข้ามาเทียบข้างกวักมือให้ เธอลง แล้วอาสาไปส่งแทน ตะวันฉายต้องหาข้อแก้ตัวกับหมอก ว่ายุทธการเป็นพี่ชาย เป็นคนดี หมอกจึงยอมไปด้วย

พอส่งหมอกเรียบร้อย ตะวันฉายกับยุทธการมาคุยกันที่สวนสาธารณะ ยุทธการบอกเธอว่าเขาไม่เห็นด้วยที่เธอหาข้อมูลเขียนนิยายด้วยวิธีเข้าไปอยู่ในบ้านคนอื่น ตะวันฉายอึกอักไม่รู้จะอธิบายอย่างไร จู่ๆเขาก็คาดคั้นให้บอกมาว่า เข้าไปอยู่บ้านเมฆเพื่ออะไรกันแน่ เธอใช้วิธีเดินหนี เขารั้งเธอไว้ถามซํ้าอีกครั้ง

“พี่ยุทธก็...ซันไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นบ้านนายปากเป็ดนั่นซะหน่อย ก็แค่เขารู้จักกับนิคกะเอวา ซันก็เลยเลือกที่นั่น”

“แค่นั้นเหรอ...”

“พี่ยุทธไม่เชื่อก็ตามใจ” ตะวันฉายเริ่มไม่พอใจ

ยุทธการเห็นอย่างนั้นรีบบอกว่าตนเชื่อก็ได้ แล้วชวนเธอกลับ...แต่แล้ว เขาก็พาเธอมาที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

“อะไรเนี่ยพี่ยุทธ พาซันมาที่นี่ทำไม”

ยุทธการไม่ตอบอะไร เขาแนะนำกับเจ้าหน้าที่ว่า ตะวันฉายจะมาเป็นอาสาสมัครดูแลเด็กๆที่นี่ เธอตกใจรีบถามเขาหมายความว่าอย่างไร เขาตอบว่าก็เธออยากได้ข้อมูลการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ที่นี่มีเด็กให้เป็นร้อย ตะวันฉายโกรธเหมือนโดนมัดมือชก อดทนฟังเจ้าหน้าที่อธิบายสักพักจนทนไม่ไหว ดึงยุทธการออกไปคุยลำพังว่าตนต้องการกลับบ้านเมฆ เขาไม่พอใจ

“ซันจะอยู่ที่นั่นอีกนานแค่ไหน หรือความจริงซัน อยากอยู่กับนายเมฆตลอดไป”

“พี่ยุทธ...นี่มันเกินไปแล้วนะ”

“แล้วที่ซันทำอยู่นี่ไม่เกินไปเหรอ ถ้าพ่อแม่ซันรู้

ก็คงห่วงเหมือนที่พี่ห่วง...ยังไงซันก็เป็นผู้หญิงนะ ซัน พี่ขอร้องนะ ออกมาจากบ้านนั้นเถอะ ที่ซันต้องอยู่ใกล้หมอนั่น พี่ไม่ไว้ใจเลย”

“ซันรู้ว่าพี่ยุทธเป็นห่วงซัน แต่ซันกำลังจะได้ข้อมูลที่ต้องการแล้ว อีกไม่กี่วันหรอก แล้วซันจะออกมาจากบ้านหลังนั้นแน่นอน”

“ซันรู้ไหม ตำรวจอย่างพี่ ถ้าไม่เชื่อแล้วเราต้องทำยังไง...สืบไงซัน พี่จะตามไปเฝ้าหน้าบ้านหมอนั่นทุกวันจนกว่าจะวางใจ”

ตะวันฉายเริ่มโกรธ “พี่ยุทธ...ถ้าพี่ห่วงว่าซันจะไปชอบ นายเมฆล่ะก็ เลิกคิดไปได้เลย เพราะหัวใจซันไม่ได้มีไว้ให้เขา...แต่ซันก็ไม่ได้มีหัวใจให้ใครทั้งนั้น ยกเว้น...พี่ธี”

ยุทธการผงะ รีบถามว่าใครคือธี...ตะวันฉายตอบว่าตนกำลังตามหาหัวใจตัวเอง คนที่เอามันไปคือธีรภพ พี่ชายของเมฆ ยุทธการเหมือนโดนสายฟ้าฟาด นิ่งอึ้งไป

“พี่ยุทธอย่ารอซันอีกเลยนะ เพราะอีกไม่นานซันก็จะได้เจอกับพี่ธีแล้ว ซันไม่อยากให้พี่ยุทธเสียใจไปมากกว่านี้ ซันขอโทษที่โกหกพี่ยุทธมาตลอด ซัน...” ตะวันฉายร้องไห้สงสารเขา

ยุทธการรีบถามว่าคนคนนั้นอยู่ที่ไหน แล้วแน่ใจหรือว่าเขารักเธอ ตะวันฉายทั้งอึดอัดใจทั้งสงสารเขา ตัดบทไม่อยากคุยเรื่องนี้ ขอตัวกลับและไม่ต้องไปส่ง ยุทธการยืนเสียใจอยู่ตรงนั้น

ooooooo

ตะวันฉายกลับมาด้วยสีหน้าเศร้าซึม เห็นรถเมฆไม่อยู่ก็รู้สึกดีขึ้น ได้โอกาสไปค้นห้องทำงานต่อให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่พอเปิดประตูเข้ามาต้องแปลกใจ ที่ลิ้นชักทุกใบเปิดทิ้งไว้ ไม่มีของอะไรอยู่ในนั้นเลย ถึงกับอารมณ์เสียปากุญแจที่แอบปั๊มมาทิ้ง

เมฆหอบเอกสารต่างๆใส่กล่องเอามาเก็บไว้ที่บ้านธีรภพ อิงฟ้าเดินตามเข้ามา เธอเปรยๆว่าไม่อยากกลับมาที่นี่อีกเลย เขาจึงเหน็บว่า อะไรก็ตามที่เป็นของพี่ชาย ตนอยากเอาไว้ที่นี่ให้หมด อิงฟ้ารู้ตัวรีบขอโทษเพราะบ้านนี้ก็เป็นบ้านเมฆเช่นกัน เขาแย้งว่าไม่ใช่ เป็นเรือนหอเธอ

“เมฆ...เมฆลืมเรื่องเก่าๆ แล้วเรามาเริ่มต้นกันใหม่ไม่ได้เหรอ”

“ได้...เราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”

อิงฟ้าที่กำลังจะยิ้มดีใจ ต้องชะงักกับคำพูดของเขา เมฆเดินไปไม่สนใจเธออีกเลย...

ตะวันฉายมาปลุกเก่งซึ่งนั่งหลับเพื่อถามว่าของในห้องทำงานหายไปไหนหมด พอดีรถเมฆแล่นกลับมา เก่งจึงบอกให้ไปถามเจ้านายเอาเอง...อิงฟ้าพยายาม

เอาใจเมฆ เห็นว่ายกของหนักจะนวดให้ แต่เขาปฏิเสธ

ไม่ชอบนวด เธอเสนอจะอาบน้ำให้ เขาบอกปัด เธอเริ่มกรุ่น

“นี่เมฆจะเกลียดฟ้าไปจนตายเลยใช่ไหม”

ตะวันฉายถืออุปกรณ์ทำความสะอาดลงมาจากชั้นบน เมฆยิ้มมีเลศนัย หันมาขอให้อิงฟ้าหาน้ำเย็นให้แก้วหนึ่ง เธอดีใจรีบเดินเข้าครัว เมฆแกล้งถาม

ตะวันฉายว่ามีอะไรหรือเปล่า

“ไม่มีนี่ครับ ผมก็แค่ขึ้นไปทำความสะอาด อ้อ คุณเมฆครับ คือผมเห็นของในห้องทำงานหายไปหมดเลย คุณเมฆจัดห้องทำงานใหม่เหรอครับ”

“ไม่ได้จัดใหม่ แต่ย้ายไปไว้ที่อื่นต่างหาก”

“ทำไมต้องย้ายล่ะครับ”

“กลัวพวกสอดรู้สอดเห็นน่ะสิ ท่าทางอยากรู้นะเนี่ยว่าย้ายไปไหน”

“ผมจะอยากรู้ไปทำไม ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมสักหน่อย ก็เห็นว่าของหายไป ผมก็ต้องช่วยเป็นหูเป็นตาให้ก็เท่านั้น”

เมฆขอบใจด้วยน้ำเสียงเยาะๆ อิงฟ้าถือแก้วน้ำปั่นออกมาให้ เมฆขอบคุณแล้วบอกว่าตนไม่ดื่มแล้ว อยากทำอย่างอื่นมากกว่า ว่าแล้วก็ดึงตะวันฉายเข้าห้องทำงานล็อกประตู ตะวันฉายตกใจทำไมต้องล็อก เขาลอยหน้ากวนๆ บอกเธอว่าต้องการความสงบ อิงฟ้าเคาะประตูโครมๆ

“เมฆ จะทำอะไรน่ะ ออกมาคุยกับฟ้าก่อน”

เมฆพยักพเยิดกับตะวันฉายทำนองเข้าใจหรือยัง เธอย้อนถามให้ตนเข้ามาทำไม เมฆตอบว่าช่วยงาน...เมฆไม่สนใจเสียงเคาะประตูของอิงฟ้า เขานั่งลงเล่นเปียโนแล้วบอกให้ตะวันฉายร้องเพลง เธอตอบเสียงขุ่นไม่มีอารมณ์

“ต้องมีอารมณ์ก่อนใช่ไหม” เมฆหยุดเล่นแกล้งจ้องหน้าอก ตะวันฉายตกใจรีบปิด เขาแกล้งถามทำอะไร ให้หันหลัง

“คุณจะบ้าเหรอ เดี๋ยวผมฟ้องข้อหานายจ้างทำอนาจารหรอก” ตะวันฉายปิดบั้นท้าย

“ฉันให้หันหลังเดินไปหยิบกระดาษโน้ตกับดินสอให้หน่อย”

ตะวันฉายทำหน้าเก้อๆเดินไปหยิบมาให้ เห็นเนื้อเพลงของเขามีคำที่อ่านดูขัดหู จึงแก้ไขพร้อมอธิบายความหมายที่ทำให้ดูซาบซึ้งขึ้น เมฆมองเคืองๆอดประชดไม่ได้

“นี่มันเพลงของฉันนะ ถ้าฉันแต่งไม่ดี นายเอาไปแต่งเองเลยมั้ย”

“อ้าว งอนซะงั้น ไหนบอกให้ผมมาช่วยทำงานไงครับ พอช่วยแล้วก็มาโกรธ”

“ก็นายเล่นแก้ตลอดเลยนี่ อารมณ์กำลังไหลๆก็ต้องสะดุดทุกที” เมฆพาลเลิกทำต่อ

ตะวันฉายดักคอ เสียเซลฟ์หรือ เขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เธอกลั้นหัวเราะที่ดูเขาโกรธเป็นเด็กๆ

ooooooo

พอตั้งสติได้ ยุทธการมาซักไซ้ไล่เลียงจากเอวาและนิค ว่าธีรภพเป็นใครและรักใคร่ชอบพอกับตะวันฉายตั้งแต่เมื่อไหร่ สองคนยอมสารภาพ และบอกว่าพวกตนก็เพิ่งรู้ไม่นานนี้เอง

จากนั้น ยุทธการก็เอาชื่อนามสกุลธีรภพมาให้จ่าสมช่วยค้นประวัติ แล้วถามถึงคดีที่ให้ตามอยู่ จ่าสมอึกอักรับปากจะเร่งสืบ...จ่าสมหยิบรูปอิงฟ้าในลิ้นชักมาดูตัดสินใจจะต้องทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่อาจปกป้องลูกถ้าลูกทำผิดจริง...

เวลาผ่านไป อิงฟ้าเคาะประตูห้องทำงานอ้างปวดหัวมากขอให้เมฆช่วย เมฆเปิดประตูออกมา มีตะวันฉายยืนหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ด้วย ก็ไม่พอใจถามว่าทำอะไรกันตั้งนาน เมฆตอบยิ้มๆว่าทำงาน อิงฟ้าโวยตะวันฉายทำได้ตนก็ ทำได้ แล้วไล่เธอออกไป เมฆดึงแขนตะวันฉายไว้บอกว่ายังไม่ได้ให้ไป เธอกระอักกระอ่วนใจมองหน้าสองคนไปมา

“ฟ้าไม่ต้องช่วยหรอก ผมมีซันก็พอ แล้วเขาก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมทำงานได้ดีด้วย”

“เมฆ นี่เมฆพูดเหมือนเมฆ...ฟ้าไม่อยากพูดออกมาเลย”

“ผมกับซันชอบกัน” เมฆโพล่งออกไป

“ไม่จริง ฟ้าไม่เชื่อเมฆหรอก เมฆพูดแบบนี้เพราะโกรธฟ้า ฟ้ารู้”

“ผมพูดจริง ฟ้าก็ดูๆไปแล้วกัน” เมฆลากตะวันฉายเดินลิ่ว

ออกมาพ้นจากอิงฟ้า ตะวันฉายสะบัดมือออกขอตัวไปทำอาหารไว้ให้หมอก เมฆถามทำไมทำหน้าบูดๆ เธอบอกว่าไม่ชอบที่เขาพูดแบบนั้น เมฆแกล้งเย้า

“พูดว่าเราชอบกันน่ะเหรอ เอ...หรือว่าเรารักกันดีนะ” เห็นหน้าตะวันฉายเหวอ “ทำไมล่ะ เราเป็นแฟนกันไม่ได้เหรอ”

“ตกลงคุณเมฆ...เป็นเกย์เหรอครับ”

“ไม่รู้สิ อยู่ไปนานๆก็เกิดเห็นนายตี๋ๆขาวๆน่าเจี๊ยะซะงั้น ฉันก็เลยไม่ชอบผู้หญิงแล้ว”

ตะวันฉายตกใจ เมฆแกล้งยื่นหน้ามาจะจูบ เธอ ถอยกรูด ทันใดเสียงของหล่นโครม ทั้งสองหันมองเห็นเก่งยืนตะลึงตะกร้าผ้าหล่นจากมือปากคอสั่นถามว่าเขาเป็นชายรักชายหรือ เมฆตอบว่าใช่ ตะวันฉายตาเหลือกรีบวิ่งหนีไปด้วยความอับอาย เมฆสะใจที่ได้แกล้ง

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 8 วันที่ 5 ม.ค. 56

ตะวันฉายในม่านเมฆ บทประพันธ์โดย ภาวิน
ตะวันฉายในม่านเมฆ บทโทรทัศน์โดย
กฤษณ์ มงคลเกษม,พิมพ์พชา รุ่งประพันธ์,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ตะวันฉายในม่านเมฆ กำกับการแสดงโดย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
ตะวันฉายในม่านเมฆ ดำเนินการผลิต ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิ์เวช
ตะวันฉายในม่านเมฆ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่มา ไทยรัฐ