@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 8/4 วันที่ 17 ม.ค. 56

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 8/4 วันที่ 17 ม.ค. 56

“งั้นก็ดีเลยค่ะ รวีอยากจะพูดเรื่องนี้อยู่พอดี รวีอยากขอเลื่อนงานหมั้นออกไปก่อน”
ทุกคนชะงัก ตกใจ และ แปลกใจ
“ทำไม”
“ช่วงนี้รวีต้องเร่งปิดงบกลางปี ทำให้ไม่มีเวลาว่าง ถ้าทุกคนไม่เชื่อ รวีจะขึ้นไปเอาตารางงานมาให้ดูก็ได้นะคะ”
“ไม่ต้องหรอกจ๊ะหนูรวี”
“รวีอยากทำอย่างใดอย่างหนึ่งให้ดีที่สุด ไม่อยากทำสองอย่างไปพร้อมกัน มันจะเสียด้วยกันทั้งคู่ เพราะสำหรับรวี งานหมั้นเป็นงานที่สำคัญที่สุดในชีวิต”
ทุกคนมองรวีพรรณอย่างเข้าใจ มีแต่ภูวดลที่มองรวีพรรณด้วยความสงสัย

ภูวดลเดินตามรวีพรรณออกมายังมุมหนึ่ง
“คุณคิดจะเลื่อนงานหมั้น เพื่อถ่วงเวลาไม่แต่งงานกับผมรึเปล่า”
“เปล่าเลยนะคะ ฉันต้องขอบคุณคุณด้วยซ้ำที่คุณทำให้ฉันคิดได้ หลังจากที่ฉันทบทวนเหตุการณ์ทุกอย่างเมื่อคืนนี้แล้ว ฉันคิดไม่ผิดที่เลือกคุณ แล้วอีกอย่างตอนนี้ ฉันก็เป็น...ภรรยาของคุณแล้ว คนเดียวที่ฉันจะแต่งงานด้วยก็คือคุณค่ะ”
รวีพรรณเข้ามากอดภูวดลเพื่อให้ภูวดลตายใจ เขาสีหน้าพอใจ กอดรวีพรรณพลางลูบหัวเหมือนรวีพรรณเป็นลูกแมวเชื่องๆ


ภายในห้องรับแขก รมณี ศรีพิไล ณรงค์ยังคงนั่งคุยกัน
“เลื่อนงานหมั้นออกไป งานแต่งก็ต้องเลื่อน ฉันว่าหมั้นเช้าแต่งเย็นไปเลยดีกว่า” รมณีว่า
“ก็ดีเหมือนกันนะคุณ” ณรงค์ว่า
“เธอว่าไงศรีพิไล” รมณีถาม
“ฉันเห็นด้วย”
ทั้งสามคนต่างยิ้มให้กัน

ภายในบ้านพิทยาตอนเช้า สุอาภาดึงกระดาษโน๊ตที่ติดหน้าตู้เย็นออกมาอ่าน
“ผมเตรียมอาหารเช้าไว้ให้คุณ วางอยู่บนโต๊ะ”
สุอาภาแปะกระดาษโน๊ตไว้ที่เดิม หันไปเปิดฝาชี เห็นหม้อข้าวต้มวางอยู่ พลันเสียงออดดังขึ้น สุอาภาหันไปมอง
สุอาภาเปิดประตูก็ตกใจมาก ที่เห็นรวีพรรณยืนอยู่
“คุณรวี..เออ..พิทออกไปทำงานแล้วค่ะ”
“ฉันไม่ได้มาหาพิท ฉันมาหาคุณ ขอฉันเข้าไปในบ้านได้มั๊ยคะ”

สุอาภาเดินนำรวีพรรณเข้ามา
“ที่ฉันมาหาคุณ เพราะอยากขอโทษที่ฉันทำตัวไม่ดีกับคุณเอาไว้”
“คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษฉัน ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษคุณ”
“เอาเป็นว่า ฉันไม่โกรธคุณ และคุณก็ไม่โกรธฉัน ถ้างั้นเราก็เข้าใจกันแล้ว”
สุอาภาสบายใจ
“ค่ะ”
“เมื่อคืนฉันกับพิทตกลงจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ฉันเองก็อยากเป็นเพื่อนกับคุณเหมือนกัน”
รวียื่นมือออกไป สุอาภานึกไม่ถึงว่าจะมีวันนี้ ก็เลยดีใจมาก ยื่นมือออกไปจับมือรวี สองคนยิ้มให้กัน แต่ยิ้มของรวีพรรณเป็นยิ้มที่เสเสร้ง ไม่นานทั้งคู่ก็ปล่อยมือออกจากกัน แล้วรวีพรรณก็เหลือบไปเห็นหม้อข้าวต้มวางอยู่บนโต๊ะ
“นั่นข้าวต้มฝีมือพิทรึเปล่าคะ”
“ใช่ค่ะ คุณรวีทานด้วยกันมั๊ยคะ”

บนโต๊ะอาหาร สุอาภากับรวีพรรณกำลังทานข้าวต้ม แต่สุอาภากำลังใส่แมคกี้ลงไป รวีพรรณเงยหน้ามอง
“คุณแตคงไม่ชอบทานรสหวาน”
“ใช่ค่ะ พิททำหวานไปหน่อยนึง”
“นี่เป็นรสชาติของฉันค่ะ พิทคงเคยชิน เพราะเค้าทำให้ฉันทานบ่อยๆ”
สุอาภาทำหน้าไม่ถูก ได้แต่ยิ้มเจื่อนออกมา
สุอาภานึกได้
“ลืมเอาน้ำให้คุณเลย”
“ไม่ต้องค่ะ ฉันจัดการเอง ฉันรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน”
สุอาภาจุกไปอีก รวีพรรณลุกเดินไปเปิดตู้ หยิบแก้วออกมา
“ดูสิคะ พิทยังเก็บแก้วที่ฉันใช้ประจำเอาไว้อยู่อีก”
รวีพรรณทำเป็นยิ้ม สุอาภาหน้าเจื่อนลงไปอีก รวีพรรณทำเป็นนึกได้
“ขอโทษนะคะที่ฉันพูดมากเกินไป พิทคงไม่ได้คิดอะไรกับฉันแล้วล่ะค่ะ เค้าคงยังไม่มีเวลาเก็บ”
“ฉันเข้าใจค่ะ”
สุอาภาก้มหน้ากินข้าว รวีพรรณมองสุอาภาด้วยแววตาสะใจ

สุอาภาออกมาส่งรวีพรรณ
“ฉันดีใจนะคะที่เราเป็นเพื่อนกันได้” รวีพรรณบอก
“ค่ะ”
“ฉันไปก่อนนะคะ”
สุอาภายิ้มแล้วก็ปิดประตู รวีพรรณสีหน้าเปลี่ยนเป็นเหี้ยมทันที
“ถึงเวลาที่ชีวิตของแกจะถูกทำลายบ้างแล้วสุอาภา”
รวีพรรณเอาแว่นดำจากกระเป๋าออกมาใส่แล้วยิ้มร้ายที่มุมปาก

ภายในออฟฟิศ นพ พิทยา บวรนั่งอยู่กับ ทาคาโน่
“คุณทาคาโน่เห็นผลงานของพิทที่ผ่านมาก็เลยสนใจอยากให้พิทร่วมงานด้วย” นพว่า
“ถ้าผมตกลงกับหุ้นส่วนเรียบร้อย ก็เริ่มงานได้ทันที คุณโอเครึเปล่า” ทาคาโน่บอก
“โอเคครับ ขอบคุณคุณทาคาโน่มากนะครับที่ไว้ใจในฝีมือผม” พิทยาว่า
ทาคาโน่พยักหน้า
“ผมเองก็ดีใจที่จะได้ร่วมงานกับคนเก่งอย่างคุณ ผมกลับก่อน”
ทุกคนลุกขึ้นยืน ทาคาโน่โค้ง ทุกคนโค้งตอบ แล้วทาคาโน่ก็เดินออกไป
บวรหันมาทางพิทยากับนพ
“ถ้าได้งานนี้จริงๆ รับรองจะเป็นงานชิ้นโบว์แดงอีกชิ้นของบริษัทเลยนะป๋า”
นพพยักหน้า พลันเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามา”
ปวีณาเปิดประตูเข้ามา บวรหันไปมองแบบไม่ชอบหน้า
“เข้ามาทำไม”
“ป๋าเรียกมาเองป๋าจะให้แป๋วช่วยแกกับพิททำโปรเจคนี้
บวรนิ่วหน้า เขากับแป๋วมองหน้ากันด้วยความอึ้ง

พิทยา บวร ปวีณาเดินออกมาด้วยกัน บริเวณหน้าห้องประชุม ปวีณาหันไปทางพิทยา
“แป๋วสัญญาว่า แป๋วจะทำให้ดีที่สุด จะไม่ทำให้คุณพิทผิดหวัง”
พิทยายิ้ม บวรเบ้หน้าอย่างหมั่นไส้
“อย่าเพิ่งสัญญาเลย เกิดทำไม่ได้ขึ้นมาจะหน้าแตก!”
พิทยาหันไปมองบวรแปลกใจ
“เดี๋ยวก็รู้ค่ะว่าใครกันแน่ที่ทำไม่ได้”
บวรไม่พอใจจ้องหน้าปวีณา
“แล้วฉันจะจับตาดูเธออย่างใกล้ชิด”
ปวีณาเชิดใส่บวรแล้วหันไปยิ้มหวานกับพิทยา
“แป๋วไปทำงานก่อนนะคะ อยู่แถวนี้นานๆแล้วอารมณ์ไม่ดี”
ปวีณาจ้ำเดินออกไป บวรไม่พอใจรู้ว่าโดนแขวะ บวรฮึดฮัด
“จะเดินหนีไปไหนห๊ะ แน่จริงก็พูดมาตรงๆดิ..นี่”
พิทยามองบวรอย่างแปลกใจ
“คุณใหญ่กับแป๋วไม่ถูกกันตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย”
“สงสัยจะตั้งแต่ชาติปางก่อน อารมณ์เสียแต่เช้าเพราะยัยนี่”
บวรเดินหัวเสียออกไป พิทยามองตามบวรอย่างงงๆ

เวลาเย็น ที่บ้านพิทยา สุอาภาหยิบน้ำออกมาจากตู้เย็น แล้วหันไปทางพิทยาที่ยืนอยู่ที่โต๊ะอาหาร
“นายจะกลับไปช่วยงานป๋า ฉันจะได้หายรู้สึกผิดไปอีกเรื่อง”
พิทยาพยักหน้า ยิ้ม สุอาภาเทน้ำใส่แก้วที่วางบนโต๊ะ
“วันนี้มีแต่เรื่องดีดีทั้งวัน เมื่อเช้าคุณรวีมาหาฉัน เราเคลียร์กันทุกเรื่อง และตกลงที่จะเป็นเพื่อนกัน”
“ดีแล้วครับ ผมดีใจจริงๆที่คุณกับรวีเข้าใจกันได้ รวีก็เป็นคนดีแบบนี้แหละครับ”
น้ำเสียงและแววตาพิทยาเต็มไปด้วยความชื่นชมจนสุอาภารู้สึกได้ แต่ยังไม่ทันพูดอะไรต่อ เสียงมือถือพิทยาดังขึ้น พิทยาหยิบมือถือขึ้นมาดู
“อายุยืนจริงๆ ...ครับรวี ว่างครับ”
สุอาภาทำเป็นเดินไปนั่งที่โซฟา แล้วก็ลอบมอง อยากรู้ว่าเค้าคุยอะไรกัน
“ได้สิ...พรุ่งนี้เจอกันครับ”
พิทยาวางสาย สุอาภารีบหันไปทางอื่น พิทยาเดินมาหาสุอาภา
“รวีชวนผมไปทำบุญวันพรุ่งนี้ คุณแตไปด้วยกันมั๊ย”
“ไม่ล่ะ ฉันไม่ค่อยถูกกับวัด เข้าทีไรร้อนทุกทีนายไปกับคุณรวีเถอะ”
พิทยาอมยิ้มและพูดถามอย่างเกรงใจ
“คุณแตโอเคที่ผมไปกับรวีใช่มั๊ย”
“ทำไมฉันจะไม่โอเค ก็อย่างที่ฉันเคยบอกว่าเราแต่งงานกันแต่ในนาม ฉันไม่มีสิทธิ์จะบอกให้นายไปไหน หรือไม่ไปไหน คราวหลัง..ไม่ต้องบอกฉันก็ได้”
“ไม่ได้ครับ ถึงแม้ความจริงมันเป็นอย่างที่คุณพูด แต่ผมต้องให้เกียรติคุณในฐานะภรรยา และผมก็ต้องทำหน้าที่สามีให้ดีที่สุด ขอบคุณนะครับคุณแต”
พิทยายิ้มแล้วหันหลังเดินออกไป สุอาภาหันไปมองตามพิทยาอย่างรู้สึกดี

ภายในบ้าน รวีพรรณหันไปมองตัวเองในกระจกด้วยสีหน้าพอใจ เธอยิ้มร้ายกาจ
“ยังไงฉันก็ต้องได้ของที่คู่ควรกับฉันกลับคืนมา”

เช้าวันถัดมา ภายในอุโบสถ พิทยากับรวีพรรณกำลังกราบไหว้พระประทาน สองคนหันมายิ้มให้กัน
พิทยากับรวีพรรณเดินมาตามทางด้วยกัน
“ได้มาทำบุญแล้วรู้สึกสบายใจจังเลยนะคะ”
“ครับ”
“พิทจำได้มั๊ย สมัยที่เราเรียนมหาลัย เราต้องมาใส่บาตรด้วยกันทุกวันพระ”
“จำได้”
“ชีวิตในช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่รวีมีความสุขมากที่สุด เพราะรวีได้อยู่กับพิทเกือบทุกวัน ถ้ารวีรู้ว่าเราต้องเลิกกัน ที่ผ่านมารวีจะไม่ทะเลาะกับพิท จะรักพิทให้มากๆ เพื่อที่จะมีความทรงจำดีดีเก็บไว้ให้คิดถึง”
พิทยามองรวีพรรณด้วยสีหน้าเห็นใจมาก
“พิทอย่าเก็บคำพูดของรวีมาใส่ใจเลยนะคะ รวีก็พูดเพ้อเจ้อไปเรื่อย”
รวีพรรณทำเป็นยิ้มเศร้าแล้วก็หันหลังเดินออกไป ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นร้ายกาจ พิทยามองตามรวีพรรณอย่างรู้สึกผิดและเดินตามเธอออกไป

ภายในฟิตเนส เวลาเช้า พราวพิไลกับสุอาภากำลังเดินเครื่องข้างๆกัน พราวพิไลหันมาทางสุอาภาด้วยสีหน้าตกตะลึง
“แกปล่อยให้คุณพิทไปกับคุณรวีสองต่อสองได้ยังไง”
“แล้วทำไมพิทถึงไปกับคุณรวีไม่ได้”
พราวพิไลปิดเครื่องแล้วหันมาคุยจริงจัง
“เพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนเก่า แกไม่กลัวถ่านไฟเก่ามันจะคุเหรอ”
“คุณรวีเค้าไม่ได้คิดอะไรกับพิทแล้ว เค้าเข้าใจทุกอย่าง เค้ายังมาขอเป็นเพื่อนฉันด้วย”
พราวพิไลอึ้ง
“มาขอเป็นเพื่อนแก ทั้งๆที่แกทำกับเค้าไว้สารพัดเนี่ยนะ สตอแล้ว”
สุอาภาหยุดเดินหันไปถามเพื่อน
“ด่าเค้าทำไม”
“ฉันไม่ได้ด่า ฉันพูดความจริง แกนี่มันอ่อนต่อโลกมากนะแต ไม่มีผู้หญิงคนไหนจะมาขอเป็นเพื่อนกับคนที่แย่งแฟนตัวเองไปหรอก แกห้ามไว้ใจผู้หญิงคนนี้เด็ดขาด”
“คิดมาก”
“คิดมากก็ยังดีกว่าคิดน้อยแบบแก แล้ววันนึงถูกแย่งสามีไปก็แล้วกัน”
สุอาภาผงะ พราวพิไลนึกอะไรออก
“โทรบอกคุณพิทว่าแกจะตามไป”
“ไม่”
สุอาภาหันมาเดินเครื่องต่อ
“ถ้าแกไม่โทร ฉันโทรเอง”
พราวพิไลหยิบมือถือมากดโทรออกเดินลงจากเครื่อง สุอาภาตกใจรีบตามพราวลงมาแต่ไม่ทัน พิทยารับสายแล้ว
“พราวนะคะคุณพิท แตเปลี่ยนใจอยากตามไปแจม ตอนนี้คุณพิทอยู่ไหนคะ”
สุอาภามองพราวพิไลอึ้งไม่นึกว่าพราวพิไลจะทำจริงๆ

ภายในวัด พิทยาวางสายหันมาทางรวีพรรณ
“เดี๋ยวคุณแตกับคุณพราวเพื่อนคุณแตจะตามมานะครับ”
รวีพรรณอึ้งมากแต่ต้องทำเป็นยิ้ม ก่อนจะทำเป็นไม่สบายใจ
“ดีเลยค่ะ แต่พิทคะ ไม่ใช่ว่าที่คุณแตตามมา เป็นเพราะไม่พอใจรวีที่ชวนพิทออกมาหรอกนะคะ”
“ไม่หรอกครับ คุณแตเธอเข้าใจทุกอย่าง ตอนนี้เธอเปลี่ยนไปมาก น่ารักขึ้นกว่าเดิมเยอะ”
พิทยาพูดถึงสุอาภาแล้วก็ยิ้มชื่นชมออกมา ทำให้รวีพรรณอึ้งแล้วก็คิดบางอย่าง
“เออพิทคะ รวีว่าให้คุณแตกับเพื่อนตามไปเจอเราที่ร้านอาหารเลยดีกว่า”
พิทยาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

ร้านอาหารริมแม่น้ำ พิทยานั่งข้างรวีพรรณ สุอาภากับพราวพิไลนั่งข้างกันฝั่งตรงข้าม พนักงานเอาเมนูให้ ทุกคนอ่านเมนู รวีพรรณสั่งกับพนักงาน
“ทอดมันปลากราย กุ้งทอดกระเทียม แกงส้มไข่ปลาริวกิว ...ตายจริง ขอโทษนะคะคุณแต ฉันถือวิสาสะสั่งของชอบของพิทหมดเลย”
พราวพิไลชะงักมองรวีพรรณอย่างรู้ทันความคิดแล้วก็แบะปากอย่างหมั่นไส้
“ไม่เป็นไรค่ะ แตไม่รู้หรอกว่าพิทชอบอะไร ไม่ชอบอะไร คุณรวีคงรู้ใจพิทมากกว่าแต”
พราวพิไลมองสุอาภาอย่างเซ็ง รวีพรรณยิ้ม พิทยาหันไปมองสุอาภาก็อดน้อยใจไม่ได้ที่สุอาภาพูดออกมาแบบนั้น
“คุณแตสั่งบ้างเถอะค่ะ รวีพอแล้ว เพราะปกติเวลาไปทานกับพิทก็จะสั่งแค่นี้”
พราวพิไลสุดทน ทำเป็นอ่านเมนูแล้วก็หันไปทางพนักงาน
“ฉันสั่งเอง...น้องค่ะ พี่ขอข้าวตังหน้าด้าน
พราวพิไลมองเหล่ รวีพรรณสะดุ้ง...
“เอ๊ย ข้าวตังหน้าตั้ง”
รวีพรรณมองพราวพิไลแปลกๆ สุอาภากับพิทยายังไม่รู้สึกอะไร

อ่านละคร แรงปรารถนา ตอนที่ 8/4 วันที่ 17 ม.ค. 56

ละครแรงปรารถนา บทประพันธ์โดย อาริตา
ละครแรงปรารถนา บทโทรทัศน์ : ปณธี
ละครแรงปรารถนา กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์
ละครแรงปรารถนา แนวละคร : โรแมนติก - ดราม่า
ละครแรงปรารถนาดำเนินงานสร้าง : บริษัทละครไท จำกัด โดย หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครแรงปรารถนา ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 3 (ต่อจากเหนือเมฆ)
ที่มา manager