@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 2 วันที่ 12 ก.พ. 57

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 2 วันที่ 12 ก.พ. 57

หม่อมมลุลีตรงเข้าต่อว่าเนื้อแพรทำงามหน้าแย่งผัวชาวบ้าน กฤชจะแก้ตัวแทนแต่เนื้อแพรขัดไม่จำเป็น เราเป็นอะไรกันรู้อยู่แก่ใจเราสองคนก็พอ พวงหยกหน้าเชิดข่ม บอกกฤชควรจะไปต้อนรับหม่อมมลุลี เนื้อแพรพยักหน้าให้เขาไป พวงหยกสะบัดหน้าเดินตาม

เนื้อแพรจับตามองน้ำผึ้ง พอมีโอกาสก็เข้าไปคุยด้วย น้ำผึ้งไม่ไว้ใจเลี่ยงหนี ไม่ทันไรเนื้อแพรได้ยินเสียงน้ำผึ้งอาเจียนก็เข้ามาช่วย เผอิญกระเป๋าถือน้ำผึ้งหล่น เห็นภาพถ่ายของภูเบศร์น้ำผึ้งรีบเก็บ เนื้อแพรจึงมั่นใจถามตรงๆว่า เด็กในท้องเป็นลูกภูเบศร์ใช่ไหม น้ำผึ้งชะงัก

“มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ ถอยไป”

“รู้ทั้งรู้ว่าเขาเป็นสามีเพื่อน เธอยังปล่อยให้เกิดเรื่องผิดพลาดแบบนี้”


“ระหว่างเรามันไม่ใช่เรื่องผิดพลาด! ภูเขารักฉัน คนอื่นต่างหากที่ผิดพลาดอยากได้ภูจนตัวสั่น”

เนื้อแพรว่านั่นเป็นข้ออ้างของคนที่เป็นชู้ น้ำผึ้งตอกกลับเธอก็ไม่วิเศษจากไหน เนื้อแพรโต้ว่าต่าง...เพราะตนไม่เผลอไผลให้เลยเถิด น้ำผึ้งแว้ดว่าตนกับภูเบศร์ไม่ได้เผลอไผล เรารักกัน เนื้อแพรถามแทงใจว่าเขาเคยบอกรักเธอคนเดียวไหม น้ำผึ้งอึ้งแต่ยังเถียงว่าเขาก็ไม่เคยบอกกะรัต

เนื้อแพรปลง “เธอทนได้แม้ว่าเขาจะบอกรักผู้หญิงอีกเป็นร้อยเป็นพัน ใครก็ได้ขอแค่ไม่ใช่หนูกั้ง งั้นใช่ไหม” เห็นน้ำผึ้งนิ่ง เนื้อแพรถามถ้ากะรัตรู้ว่าเธอท้องกับสามีเธอจะทำอย่างไร

น้ำผึ้งยักไหล่ไม่แคร์ เนื้อแพรเปรยบทนางร้ายแบบนี้ตนเล่นจนได้รางวัลมาสองครั้งแล้ว และให้ข้อคิดว่า เธอจะเดินไปจากชีวิตกะรัตหรือจะจมอยู่ในโศกนาฏกรรมที่ไม่มีวันเป็นผู้ชนะ

รถเจ้าสัวบัญชามาจอดหน้าศาลา เจ้าสัวก้าวลงจากรถพร้อมกะรัต เธอเดินเชิดอย่างสง่างาม พอเห็นเนื้อแพรพยุงน้ำผึ้งก็เข้าไปดึงเพื่อนออกมา แล้วถามใครเชิญเธอมา กฤชเดินเข้ามาบอกว่าพ่อเชิญมาเอง พวงหยกหมั่นไส้อดแขวะไม่ได้

“เมื่อคืนหายหัวไปกินในที่ลับกันไม่พอ ยังต้องลากกันมากินในที่แจ้งประจานความเสื่อมศีลธรรมให้คนอื่นเห็นอีกเหรอ”

เจ้าสัวเอ็ดหยุดแล้วสั่งทุกคนเข้าศาลา เนื้อแพรยิ้มให้กฤชไม่ต้องห่วงตน...กะรัตเดินอย่างนางพญาเข้าไปยืนมองโลงศพภูเบศร์ สักพักก็ขอตัวไปนั่งนอกศาลา น้ำผึ้งยังคงนั่งมองโลงศพเศร้าๆ ไม่ทันไรมี

เสียงกะรัตเอะอะโวยวาย ทุกคนออกมาดู มีสาวชื่อ

ซอลลี่มาส่งบิลปึกใหญ่ให้อ้างตัวเป็นเมียภูเบศร์ ให้กะรัตเคลียร์หนี้ทั้งหมดแทน แถมเปิดคลิปบอกรักของภูเบศร์ยืนยัน น้ำผึ้งปรี๊ดแตกเข้าไปกระชากมือถือมาปาทิ้ง “ไม่จริง...ภูไม่มีวันรักเด็กใจแตกอย่างแก...”

ทุกคนตกตะลึง กะรัตเองก็มองเพื่อนงงๆ น้ำผึ้งรู้สึกตัวรีบกลบเกลื่อนว่าตนเป็นเพื่อนรักภรรยาภูเบศร์ แต่พอซอลลี่ย้ำว่าภูเบศร์บอกว่ารักตนคนเดียวและจะเลิกกับกะรัตโกยเงินมาอยู่กับตน น้ำผึ้งสติแตกชี้หน้าว่าตอแหล สองสาวพุ่งเข้าตบกันนัว กะรัตยืนอึ้งอย่างสงสัยกุนตีกับกันตาช่วยกันแยกสองสาวออกจากกัน ซอลลี่ยังแหกปากโวยวาย เจ้าสัวดึงกะรัตกลับบ้าน ญาติพี่น้องเดินตามไปขึ้นรถ นวลนึกได้ว่ายังไม่ได้คืนกระเป๋าให้น้ำผึ้ง กะรัตจึงคว้ามาเปิดดู

น้ำผึ้งกลับมาบ้านอย่างบอบช้ำไม่สนใจอาหารที่รสสุคนธ์ตระเตรียมไว้ให้ เธอเข้าห้องร้องไห้มองภาพถ่ายภูเบศร์ที่ถ่ายคู่กัน ทันใด กะรัตมาที่บ้านน้ำผึ้ง ตรงขึ้นห้องเปิดประตูเข้ามายื่นยาแก้แพ้ให้ “เธอท้องใช่ไหมผึ้ง!”

น้ำผึ้งทำไม่รู้เรื่อง แต่พอกะรัตย้ำอีกจึงยอมรับ กะรัตถามว่าท้องกับใคร เธอนิ่งเงียบแล้วบอกให้กะรัตกลับไป กะรัตโวยเสียงลั่น

“มาถึงขนาดนี้เธอจะให้ฉันกลับไปโดยไม่รู้ความจริงงั้นเหรอ บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ว่าพ่อของเด็กเป็นใคร”

กันตา กุนตีและนวลตามมานั่งรออยู่กับรสสุคนธ์ ตกใจเสียงกะรัต วิ่งกรูขึ้นไป น้ำผึ้งฟิวส์ขาดยอมรับว่าท้องกับภูเบศร์ “ได้ยินชัดรึยัง ผัวของเธอก็เป็นผัวของฉัน...”

กะรัตแค้นใจตบหน้าน้ำผึ้งหลายฉาดจนเลือดไหลมุมปาก ด่าว่าเพื่อนชั่ว น้ำผึ้งเหลืออดตอบโต้ว่าใครกันแน่ที่ชั่ว ตนเป็นเมียภูเบศร์ก่อน เธอเป็นแค่เมียน้อย กันตาถลาเข้ามาถามทำไมน้ำผึ้งไม่บอกกะรัตก่อนที่จะแต่งงาน น้ำผึ้งโต้อย่างเจ็บแสบ

“เธอคิดว่าคนอย่างพี่สาวเธอ เวลานอมันงอกขึ้นมาแล้ว มันจะหยุดขวิดผู้ชายได้” น้ำผึ้งย้ำว่าภูเบศร์รักตนมากกว่า ที่แต่งงานกับเธอเพราะจะเอาเงินมาสร้างบ้านสร้างครอบครัวกับตน

กะรัตกรี๊ดให้หยุด แต่น้ำผึ้งยังพรั่งพรูให้กะรัตปวดร้าวมากขึ้น จนกะรัตตวาด อย่าหวังว่าจะได้เงินจากตนเพราะภูเบศร์ยังเป็นผัวนอกกฎหมาย แม้แต่เศษเงินก็จะไม่ได้จากตน น้ำผึ้งตะลึง กะรัตหัวเราะเยาะ “โถๆๆ ลงทุนให้มันทับจนท้อง สุดท้ายก็ไม่ได้อะไร ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือผัว”

น้ำผึ้งรำพันไม่จริง เพราะภูเบศร์บอกกับตนไว้ กะรัตหยัน เขาคงพล่ามวาดวิมานว่ามีสิทธิ์อย่างโน้นอย่างนี้ เธอมันโง่...น้ำผึ้งปิดหูร้องไห้โฮ กะรัตดึงมือออกตอกย้ำให้ฟัง “ต่อจากนี้เธอก็จะเป็นแค่ผู้หญิงหน้าโง่ที่ถูกผู้ชายหลอกฟัน สุดท้ายต้องแบกไอ้ก้อนเลือดชั่วๆ ไว้ประจานความเลวของตัวเอง คลอดออกมา ลูกก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับการถูกตราหน้าว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ”

รสสุคนธ์สุดทน ขอร้องกะรัตให้พอ ขอโทษแทนหลานสาว กะรัตได้แต่บอกว่า ขอให้ต่างคนต่างอยู่ อย่ามายุ่งกับชีวิตตนอีก น้ำผึ้งร้องไห้ฟูมฟายแทบสติแตก พักใหญ่ก็แข็งกร้าวขึ้น...

ooooooo

พอพวงหยกรู้เรื่องก็ด่าว่าน้ำผึ้งยกใหญ่ กันตาเป็นห่วงจิตใจกะรัตที่เจอเรื่องเลวร้ายซับซ้อนขนาดนี้ พวงหยกว่าเดี๋ยวก็ทำใจได้เพราะเป็นครั้งที่สามแล้ว กุนตีเหน็บ แม่ไม่ได้เลี้ยงกะรัตมาเหมือนตน ไม่รู้หรอกว่ากะรัตดูแกร่งนอกแต่ข้างในอ่อนไหวมาก พวงหยกโวย

“ใช่ ซี้...แกไม่ได้มีผัวเจ้าชู้เหมือนฉันนี่ ลำพังคอยตามจับพ่อแกมาใส่กรง ฉันก็ไม่มีเวลาทำอย่างอื่นแล้ว... เชอะ...” สีหน้าพวงหยกสลดลง ใจจริงก็ห่วงจิตใจกะรัตไม่น้อย

กะรัตเอาอัลบั้มรูปสมัยเรียนมาดู คิดถึงอดีตที่เป็นเพื่อนรักสนุกสนานกับน้ำผึ้ง วันเกิดน้ำผึ้งตนก็ซื้อเค้กไปเซอร์ไพรส์ วันแต่งงานก็ดึงน้ำผึ้งเข้ามาถ่ายรูปด้วยเหมือนเป็นหนึ่งในครอบครัว...ความ ไว้ใจของกะรัตถูกเพื่อนรักทำลายจนหมดสิ้น เธอฉีกรูปเหล่านั้นทิ้ง

หน้า บ้าน พิศุทธิ์กลับมาเห็นรถหม่อมมลุลีจอดอยู่ก็ถอนใจ ต้องมีเรื่องหนักใจอีกแน่ พอเข้ามาในบ้าน หม่อมมลุลีก็ทัก “กลับมาแล้วเหรอพ่อตัวดี...”

พิศุทธิ์ยกมือไหว้นอบน้อมก่อนจะถามท่าน มีธุระอะไร หม่อมมลุลีจะให้เขาไปดูตัวสาว พิศุทธิ์ปฏิเสธกรายๆ ขอให้เรื่องคู่เป็นการเลือกของตนเอง

“แต่ย่าเจอแล้ว ชายจะต้องไปหาให้เสียเวลาทำไม”

“นั่นมันคนที่หม่อมย่าถูกใจ ไม่ใช่ผมนี่ครับ”

“เรื่อง อย่างนี้มันไม่ใช่แค่ความถูกใจอย่างเดียวนะชาย มันต้องมีความเหมาะสมด้วย หนูชวาลาเป็นถึงลูกสาวท่านรัฐมนตรีอิสระ แล้วท่านยายของหนูชวาลาก็เป็นหม่อมเหมือนย่า ถึงชายจะมีเลือดบริสุทธิ์จากย่าเพียงครึ่งเดียว ย่าก็อยากรักษาให้ถ่ายทอดถึงรุ่นหลาน รุ่นเหลนให้มากที่สุด ไม่ใช่ปะปนกับเลือดไก่กาจนไม่เหลือ คุณค่าของวงศ์ตระกูลสูงศักดิ์ เพราะฉะนั้นหนูชวาลา เหมาะสมกับชายที่สุดแล้ว ย่าไม่อยากให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอย เหมือนที่พ่อของชายไปคว้าแม่ดาราปลายแถวนั่น”

“แต่ที่ผมได้ดีมาถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะแม่อบรม เลี้ยงดูผมมาเหรอครับ”

“ชายถูกปิดหูปิดตา ไม่รู้หรอกว่าแม่ตัวเองเน่า แค่ไหน”

“ถึงแม่จะไม่ใช่ราชนิกุล แต่แม่ก็มีความดี มีเกียรติไม่น้อยกว่าใคร”

เนื้อ แพรกำลังจะออกไปงานศพ แอบฟังย่าหลานคุยกันอย่างสะเทือนใจ...พิศุทธิ์แก้ต่างให้แม่ทุกอย่างที่ หม่อมมลุลีปรักปรำ จนเธอโมโหที่เขาเถียงไม่ตกฟาก เขายืนยันว่าแม่ไม่ทำตัวเสียหาย และเมื่อตนมีนิสัยแย่ๆ ก็ไม่เหมาะสมกับคนที่ย่าหาให้...เนื้อแพรเห็นจะไปกันใหญ่ทำทีเดินออกมาบอก พิศุทธิ์พร้อมจะไปหรือยัง เขารับมุกควงแขนแม่ออกไป หม่อมมลุลีเต้นผาง

ขับรถออกมาจากบ้านได้ พิศุทธิ์บ่นเมื่อไหร่ย่าจะหยุดหาคู่ให้ตนเสียที เนื้อแพรตอบขำๆว่าเมื่อเขา

มีใครสักคน พิศุทธิ์อึ้งหัวใจดันเต้นรัวตวัดไปนึกถึงกะรัต จนต้องแปลกใจตัวเอง...

กัน ตากับกุนตีประคองกะรัตมาวัด ทั้งสองบ่นว่าจะมาทำไมเมาขนาดนี้ นวลจึงอาสาพากลับบ้าน นวลประคองกะรัตไม่ไหวจึงให้เธอนั่งรอ จะไปตามสมหวังเอารถมารับ พอดีพิศุทธิ์จอดรถส่งเนื้อแพรที่ลานจอดรถของวัด เธอแซวลูกชายที่เลือกมาส่งแม่แทนที่จะไปดูตัวสาวลูกเศรษฐีร้อยล้าน พิศุทธิ์อ้อนไม่เสียดายลูกคนนี้บ้างหรือ เนื้อแพรตบแก้มลูกเบาๆอย่างเอ็นดูแล้วหอมแก้มฟอด ชวนเข้าไปสวดศพด้วยกัน แต่เขาขอตัวแล้วจะกลับมารับ เนื้อแพรบอกว่ามีเพื่อนไปส่ง...ด้านนวล เอารถมาถึงหากะรัตไม่เจอก็ตกใจ บอกสมหวังลงมาตามหากันจ้าละหวั่น

พิศุทธิ์ ขับรถจะออกประตูวัด ต้องแปลกใจเมื่อเห็นกะรัตเดินใจลอยอยู่ข้างทางมืดค่ำ จึงขับรถตามเธออย่างห่วงๆ พลันมีมอเตอร์ไซค์ผ่านมาเฉี่ยวเธอล้มลง แถมด่าหาว่าเธอเดินเกะกะ พิศุทธิ์รีบจอดรถลงมาช่วยพยุง เธอมองหน้าเขาคิดๆว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เขาจึงเอานาฬิกาออกมาคืนให้ “ผมว่าจะฝากคนไปคืนคุณอยู่พอดี”

กะรัตเห็นนาฬิกาก็จำได้ แล้วตกใจ “นี่คุณไม่ได้เป็นใบ้เหรอ...คุณหลอกฉัน!”

“เฮ้ย! ผมไม่ได้หลอกอะไรคุณเลย คุณเห็นอะไรคุณก็คิดและเชื่อไปเอง โดยที่คุณไม่ถามผมสักคำ”

กะรัตยัดนาฬิกาคืนใส่มือเขา “ฉันบอกว่าให้เป็นค่าตอบแทนไง ฉันไม่เคยใช้ใครฟรีๆ”

“คุณไม่รู้จักคำว่าน้ำใจรึไง”

กะรัตเสียงเยาะ “คำนั้นมันไม่มีจริงหรอกคุณ” แล้วฟูมฟายขึ้นมา “ในโลกนี้มันไม่มีคำว่าน้ำใจ ไม่มีคำว่า ความรักแท้ ไม่มีคำว่าเพื่อน”

พิศุทธิ์ พยุงกะรัตลุกขึ้น เธอเซเพราะยังมึนเมา เขาจะพาเข้าไปส่งในวัดแต่เธอไม่ยอมไป เขาจึงพาเธอมานั่งในรถและจะไปส่งบ้านให้ กะรัตเห็นรอยลิปสติกที่แก้มเขาก็เข้าใจว่าเขาเป็นผู้ชายรักสนุก จึงย้อนถามว่าคนที่บ้านไม่รอแย่หรือ เขาตอบไม่เป็นไรแล้วขับรถออกมา

กะรัต มองไปข้างหน้าเห็นโรงแรมม่านรูด ก็คิดไปว่าเขาคงต้องการเหมือนผู้ชายทั่วไป จึงหยั่งเชิงถามว่าเขาทำดีกับผู้หญิงทุกคนที่ไม่รู้จักเหมือนทำกับตนหรือ เปล่า

“การที่คุณไม่รู้จักผม ไม่ได้แปลว่าผมไม่รู้จักคุณนะ”

กะรัต ยิ่งมั่นใจ เขารู้ว่าตนรวยจึงอยากรู้จัก ความเมาทำให้นึกประชดชีวิต เธอบอกให้เขาเลี้ยวรถเข้าม่านรูด พิศุทธิ์ตกใจถามให้เข้าไปทำไม

“แหม...ฉันรู้น่า คุณลงทุนวางแผนอยากรู้จักฉันขนาดนี้ ฉันก็เปิดโอกาสให้คุณไง”

“ผมว่าคุณเข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะ”

“เอาน่า...เราแวะทำความรู้จักกันอีกนิดเถอะ ฉันว่าฉันอยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้แล้วล่ะ”

พนักงาน ฉายไฟโบกให้เข้าจอด พิศุทธิ์พยายามอธิบายว่าตนไม่ได้หวังทำอะไรเธอ แต่เธอไม่เชื่อ โวยวายว่าตนเชื่อในสิ่งที่เห็น แล้วด่าว่าผู้ชายก็เลวเหมือนกันหมด ในหัวมีแต่เรื่องเซ็กซ์ กะรัตโน้มคอพิศุทธิ์ลงมา เขาเริ่มโมโหผลักดันเธอออก ขู่ถ้าไม่หยุดจะปล่อยลงตรงนี้ เธอกลับหาว่าเขากลัวการผูกมัด หาว่าเล่นตัว จะเรียกเงินเท่าไหร่ตนมีจ่าย ใครๆก็หวังเงินจากตนทั้งนั้น พิศุทธิ์เหลืออด เสียงเขียว...ทำไมถึงทำตัวแบบนี้

“ทำไมล่ะบอกฉันหน่อยว่าทำไม...ฉัน อยากมั่วดูบ้าง ในเมื่อเป็นผู้หญิงดีๆแล้วมันไม่ถึงใจ โดนผัวทุกคน นอกใจหมด ฉันก็อยากจะรู้ว่าถ้าฉันทำตัวสำส่อนแล้วจะมัดใจผู้ชายได้บ้างไหม”

พิศุทธิ์จับแขนกะรัตให้หยุด “ฟังนะ ผมไม่รู้ว่าคุณไปเจอคนประเภทไหนมา แต่ผมสาบานได้ว่า ผมไม่เคยคิดอะไรในทางเกินเลยกับคุณสักนิด”

“ไม่คิดแล้วสะกดรอยตามฉันทำไม ทำไมฉันถึงได้เจอคุณทุกที่ที่ฉันไป”

พิศุทธิ์ งงที่กะรัตหาว่าเขาตามจีบเพราะความรวยของเธอ จึงตอกกลับ “ขอโทษนะที่ผมต้องพูดตรงๆ แต่ผมไม่ได้พิศวาสอะไรคุณสักนิด แค่ในเสี้ยวความคิดก็ยังไม่มีเลย...ถ้าคุณอยากจะสนุกประชดชีวิต คงต้องไปหาคนที่เขาเต็มใจ ซึ่งนั่นไม่ใช่ผม”

กะรัตเหมือนถูกกระแทก บาดแผลที่เจ็บหนัก จ้องหน้าเขาน้ำตารื้น ก่อนจะลงรถปิดประตูปัง สบถจะไปไหนก็ไปเลยผู้ชายเฮงซวย...พิศุทธิ์ยังเป็นห่วงเธอที่อยู่หน้าโรงแรม ม่านรูด จึงบอกให้เธอกลับขึ้นรถ แต่ด้วยความเมาทำให้คิดสั้น กะรัตวิ่งออกไปกลางถนนให้รถชน เสียงรถบีบแตรลั่น พิศุทธิ์ตกใจสุดขีดวิ่งลงไปดู

ooooooo

ภายในวัด กฤช กุนตี กันตา นวลและเนื้อแพรช่วยกันตามหากะรัต นวลร้องไห้โทษตัวเองที่ปล่อยกะรัตตามลำพัง ไม่ทันไร มือถือกันตาดัง พอกดรับสายเธอตกใจมากเมื่อกะรัตโทร.มาบอกว่ารถชน ให้มารับที่โรงพยาบาล กันตาจึงให้กฤชอยู่รับหน้าแขก ตนจะไปรับกับกุนตี

พิศุทธิ์นั่งรออยู่ หน้าห้องฉุกเฉิน กันตาวิ่งมาถามพยาบาลถึงกะรัต พิศุทธิ์ได้ยินก็รีบเข้ามาถามว่าเธอเป็นญาติกะรัตใช่ไหม ตนเป็นคนพาเธอมาส่งโรงพยาบาล คุณหมอบอกว่าเธอปลอดภัยดี แต่อยากให้แอดมิตดูอาการสักคืน กันตารีบถามแล้วทำไมถึงเกิดอุบัติเหตุ พิศุทธิ์ถอนใจ

“คงเรียกว่าอุบัติเหตุไม่ได้หรอกครับ ต้องเรียกว่าเจตนาฆ่าตัวตาย ในเมื่อเจ้าตัวเป็นคนยืนให้รถพุ่งเข้าใส่”

กัน ตาตกใจไม่คิดว่าพี่สาวจะขาดสติขนาดนั้น พิศุทธิ์ฝากนาฬิกาคืนให้กะรัต กันตาแปลกใจเพราะนี่เป็นของรักที่ก๋งซื้อให้ พิศุทธิ์บอกว่าตนช่วยเพราะอยากช่วย ไม่ได้ต้องการสิ่งตอบแทน กันตาซาบซึ้งขอถามชื่อและเบอร์โทร. เขาบอกชื่อแต่ไม่ให้เบอร์โทร.เพราะกะรัตคงไม่ได้อยากเจอะเจอเขาอีก กันตามองตามหลังพิศุทธิ์อย่างปลื้มๆ

กุนตีมองสภาพกะรัตที่ยังเมาค้าง มีบาดแผลถลอกตามแขนขา อดเอ็ดไม่ได้ที่น้องอ่อนแอทำร้ายตัวเองแบบนี้ กะรัตโต้ว่าตนตั้งใจจะตามไปคิดบัญชีกับภูเบศร์ในนรก

“เฮ้อ..กั้งเอ๊ย หยุดคิดเรื่องที่มันเป็นอกุศลซะทีเถอะ จะคิดไปทำไมให้จิตใจเศร้าหมอง”

“แต่ ชีวิตกั้งมันไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว ถึงอยู่ต่อไป กั้งก็คงต้องเจอกับความสูญเสียซ้ำแล้วซ้ำอีก ใจกั้งมันรับไม่ไหวแล้วพี่กุ้ง...” กะรัตสะอื้นน้ำตาไหลพราก กุนตีกอดปลอบ

กัน ตาเข้ามายื่นนาฬิกาให้บอกว่าพิศุทธิ์ฝากคืน กะรัตงงว่าใคร “ก็พระเอกขี่ม้าขาวที่พาพี่กั้งมาส่งโรงพยาบาลไง ตกลงพี่กั้งรู้จักเขามาก่อนใช่ไหม นาฬิกาของพี่กั้งถึงไปอยู่กับเขาได้”

กะรัต นึกสักพักก็จำได้ กันตาบอกว่าผู้ชายอบอุ่นแบบนี้สเปกตนเลย กะรัตแย้งระวังจะเจอฝันร้าย...กะรัตล้มตัวลงนอนคิดถึงท่าทีและคำพูดของ พิศุทธิ์ที่แสดงออกต่อตน

ooooooo

รุ่งเช้า พิศุทธิ์เล่าให้เนื้อแพรฟังถึงเรื่องกะรัตแล้วบ่นว่าทำไมตอนแม่เจอเรื่อง ร้ายๆ ไม่เคยเห็นแม่ทำอะไรแย่ๆอย่างเธอ เนื้อแพรอธิบายว่ามันไม่เหมือนกัน หัวใจกะรัตไม่มีอะไรยึดเหนี่ยว แต่ตนมีลูกชาย ถ้าไม่มีลูก ตนก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่เหมือนกัน

“ความเจ็บปวดที่เกิดจากความรัก มันทำลายชีวิตคนให้พังพินาศได้จริงๆ” เห็นลูกชายเหม่อเนื้อแพรท้วง “ชาย...คิดอะไรอยู่เหรอลูก”

“ปะ...เปล่าครับ ผมแค่รู้สึกว่าเขาน่าสงสาร ผู้หญิงตัวเล็กๆแต่กลับต้องมาเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้ ก็น่าเห็นใจเขานะครับ”

“ถึงกะรัตจะน่าสงสารยังไง แต่เขาก็ยังเป็นผู้หญิงอันตรายในความคิดของแม่อยู่ดี”

พิศุทธิ์กระอักกระอ่วนเมื่อรู้ว่าเธอเข้ามาป้วนเปี้ยนในหัวใจตนเสียแล้ว...

เมื่อ ฮึดขึ้นมา น้ำผึ้งรู้ข่าวกะรัตป่วยอยู่โรงพยาบาล ก็ลุกขึ้นแต่งตัวโฉบเฉี่ยวจะไปเยี่ยม รสสุคนธ์ปรามรักษาน้ำใจกันไว้บ้าง ทำกับเขาเจ็บช้ำไม่น้อย น้ำผึ้งโต้เสียงกร้าว

“แล้วที่ผึ้งต้องอยู่กินหลบๆซ่อนๆกับภูมานานไม่ใช่เพราะมัวแต่รักษาน้ำใจมันเหรอคะ”

“แต่ผึ้งรู้แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร ไอ้ที่ไปลักลอบได้เสียกับสามีเขา ผึ้งไม่รู้สึกผิดบ้างเลยรึ”

น้ำ ผึ้งเถียงว่าภูเบศร์รักตน รสสุคนธ์ปลอบประโลม คำว่ารักของผู้ชาย จะใช้อ้างเพื่อแย่งเขามาจากใครไม่ได้ น้ำผึ้งชูซองเอกสารขึ้นมาว่าตนมีทะเบียนถูกต้อง รสสุคนธ์ ตกใจที่หลานสาวตั้งใจหลอกลวงเพื่อน น้ำผึ้งอ้างว่าภูเบศร์ตั้งใจทำเพื่อตนและลูกเอง สายตาเธอกร้าวขึ้น

“ในเมื่อกั้งเขาดี เขาวิเศษสูงส่งนัก ผึ้งก็แค่อยากรู้ว่าเขาจะเป็นยังไงถ้าเราต้องใช้สามีคนเดียวกัน”

รส สุคนธ์น้ำตาร่วงเสียใจ น้ำผึ้งเข่นเขี้ยวว่ากะรัตทำให้ลูกตนไม่มีพ่อ ตนกลายเป็นคนเลวในสายตาทุกคน ตนก็จะดึงเธอลงมาดูว่า นรกที่ตนต้องเผชิญ มันโหดร้ายทรมานขนาดไหน...

ในห้องคนไข้ กะรัตเดินออกจากห้องน้ำ เอ่ยถามจะให้ตนออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ พลันเห็นน้ำผึ้งในชุดดำถือกระเช้าดอกไม้ยืนอยู่ ก็ตกใจไล่ให้กลับไป น้ำผึ้งยั่วว่าเพื่อนไม่สบายทั้งทีตนก็ต้องมาเยี่ยม กะรัตสวนว่าเธอไม่ใช่เพื่อนตน

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 2 วันที่ 12 ก.พ. 57

ละครเรื่อง สามีตีตรา บทประพันธ์โดย นาวิกา
ละครเรื่อง สามีตีตรา บทโทรทัศน์โดย วรรณวิภา สามงามแจ่ม
ละครเรื่อง สามีตีตรา กำกับโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง
ละครเรื่อง สามีตีตรา ผลิตโดย บริษัททองเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยผู้จัด แอน ทองประสม
ละครเรื่อง สามีตีตรา ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง สามีตีตรา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557
ที่มา ไทยรัฐ