@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 6/6 วันที่ 28 ก.พ. 57

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 6/6 วันที่ 28 ก.พ. 57

รสสุคนธ์มองหลานอย่างเหลืออด
“เลิกเรียกหาผู้ชายสักทีได้ไหม คนที่ผึ้งตื่นมาแล้วควรถามหาคนแรก คือเด็กที่นอนหายใจพะงาบๆอยู่ในตู้อบโน้น”
รสสุคนธ์หยิบหนังสือพิมพ์ที่เปิดหน้าข่าวสังคม ภาพกะรัตกำลังด่ากับสายน้ำผึ้งในงานแต่ง รสสุคนธ์วางหนังสือพิมพ์ตรงหน้าอย่างแรง

“เด็กที่มันไม่รู้เรื่องอะไรด้วย แต่มันเกือบต้องตายเพราะความอิจฉาริษยาของแม่มัน”
“น้ารสไม่เป็นผึ้ง น้ารสไม่เข้าใจหรอก”


“ใช่ น้าไม่เข้าใจ หมูหมามันเป็นสัตว์ มันยังรักลูก แต่ผึ้งเป็นคน ผึ้งไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ผึ้งก็รู้ว่าผึ้งเสี่ยงจะคลอดก่อนกำหนด แต่ผึ้งก็ยังไปอาละวาดที่งานแต่งกั้ง ตื่นมาก็ถามหาผัวกั้ง ผึ้งไม่เคยรัก ลูกตัวเองเลยใช่ไหม ผึ้งอยากให้มันเป็นเด็กที่ไม่มีใครรักแม้แต่พ่อแม่ เหมือนผึ้งใช่ไหม”
สายน้ำผึ้งชะงักอึ้งไปทันที
“ผึ้งจำได้ไหมว่าผึ้งอยากมีพ่อมีแม่ขนาดไหน ผึ้งเคยบอกว่าถ้าผึ้งมีลูก ผึ้งจะรักลูกมากๆเหมือนที่ผึ้งอยากได้ความรักจากพ่อแม่ จะไม่ปล่อย ให้ลูกเหงา จะไม่ยอมให้ใคร มารังแกลูกของผึ้ง แต่ตอนนี้…ผึ้งนั่นแหละที่รังแกลูกตัวเอง”

สายน้ำผึ้งอึ้งความเจ็บปวดในอดีต ถาโถมเข้ามาจุกอกจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่
สายน้ำผึ้งยืนเกาะกระจกห้องเด็กแรกเกิด มองลูกที่อยู่ในตู้อบด้วยความ รู้สึกผิด สามีพยุงภรรยาที่เพิ่งคลอดลูกไม่นานเดินมาเกาะกระจกดูลูกที่อยู่ในอ่างแก้ว ข้างๆ สายน้ำผึ้งมองสามี ภรรยาที่โอบกอดกัน พากันชี้ให้ดูลูก และโบกมือเล่นกับลูกที่อยู่ใน ห้องเด็กอย่างมีความสุข เธอสะท้อนใจที่ตัวเองไม่มีใครยืนเคียงข้าง แล้วคิดถึงพิศุทธิ์ สายน้ำผึ้งนึกถึงเหตุการณ์หน้าห้องคลอดเมื่อคืน เธอจับมือข้างซ้ายพิศุทธิ์อย่างอ้อนวอนให้เขาเข้าห้องคลอดด้วย
“คุณพิศุทธิ์อย่าทิ้งผึ้งไปนะคะ”
พิศุทธิ์มองสายน้ำผึ้งอย่างลำบากใจ ไม่รู้จะทำยังไง ทันใดนั้นเขามองที่มือข้างซ้ายตัวเองที่โดนสายน้ำผึ้งจับไว้ ซึ่งสวมแหวนแต่งงาน พิศุทธิ์ตัดสินใจจับมือ ของเธอ สายน้ำผึ้งยิ้มดีใจคิดว่าเขาจับมือเพื่ออยู่เคียงข้างตัวเอง
“ผมขอโทษครับคุณผึ้ง”
มือของพิศุทธิ์ค่อยๆเลื่อนมือของสายน้ำผึ้งออก

สายน้ำผึ้งมองคิดถึงพิศุทธิ์ด้วยความรู้สึกเจ็บปวดที่สุดท้ายเขาก็ทิ้ง เธอไปหากะรัต สุดท้ายตนก็กลายเป็นคนแพ้ สายน้ำผึ้งหันไปมองลูกแล้วเสียงพูดของรสสุคนธ์ก็ดังก้องในหัว
“ผึ้งจำได้ไหมว่าผึ้งอยากมีพ่อมีแม่ขนาดไหน ผึ้งเคยบอกว่าถ้าผึ้งมีลูก ผึ้งจะรักลูกมากๆเหมือนที่ผึ้งอยากได้ความรัก จากพ่อแม่ จะไม่ปล่อย ให้ลูกเหงา และจะไม่ยอมให้ใคร มารังแกลูกของผึ้ง แต่ตอนนี้…ผึ้งนั่นแหละที่รังแกลูกตัวเอง”
สายน้ำผึ้งมองลูกพร้อมพูดพึมพำกับลูก
“แม่ขอโทษนะลูก ต่อไปแม่จะทำทุกอย่างให้ชีวิตเราสองคนแม่ลูกดีขึ้นไม่น้อยหน้าใคร แม่จะไม่รอบุญ ไม่รอวาสนามาโปรด อีกแล้ว แม่จะสร้างความยุติธรรมให้เรา ในเมื่อแม่มีทุกอย่างไม่ แพ้นังกั้งและอาจมีมากกว่าด้วยซ้ำ เราก็ต้องมีทุกอย่างได้ อย่างนังกั้งเหมือนกัน...มันต้องมีทาง”

พยาบาลพยุงศิวามานั่งที่รถเข็น เพื่อพาไปห้องกายภาพ ศิวาโวยวาย ด้วยอารมณ์หงุดหงิด
“ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่อยากไปกายภาพ ผมเบื่อ ผมอยากนอนดูหนังเฉยๆ”
“ไม่ได้ค่ะ คุณหมอสั่งไว้ ยังไงคุณก็ต้องไปทำ”
อาจารย์หมอเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกันตาและหมอดิว กันตายังมีอาการเหนื่อยจากการดู สายน้ำผึ้งและการช่วยงานแต่งกะรัต กันตายิ้มให้ ศิวาทำหน้าหงุดหงิดใส่ เธอมองงงๆว่าเป็นอะไร
“สวัสดีครับคุณศิวา วันนี้เป็นยังไงบ้างครับ” อาจารย์หมอทักทาย
ศิวามองกันตาอย่างไม่พอใจ น้อยใจ และงอน
“ก่อนหน้านี้...ผมก็โอเค แต่พอพวกคุณมา ผมก็รู้สึกหงุดหงิด รำคาญ”
หมอดิวกระซิบอาจารย์หมอ
“เป็นผลข้างเคียงของยาตัวใหม่รึเปล่าคะ”
กันตากระซิบหมอดิว
“ไม่ใช่ผลของยาหรอก แต่เป็นผลจากนิสัย”
ศิวาโวยวายกันตาทันที
“คุณไม่มีสิทธิ์มาว่าคนอื่น ในเมื่อคุณเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าใคร ว่าผู้ชายโกหก...เจ้าชู้ กะล่อน ตัวคุณเองก็โกหกไม่แพ้กัน”
กันตามองศิวาอย่างงงๆ
“นี่คุณพูดเรื่องอะไร ฉันไปโกหกคุณตอนไหน”
ศิวาหันไปพูดกับอาจารย์หมอ
“ผมขอร้องเรียนว่าผมไม่ต้องให้แพทย์ฝึกหัดคนนี้มาดูแลผมอีก” ศิวาหันไปถามพยาบาล “ไม่ไปกายภาพแล้วเหรอ”
พยาบาลสะดุ้ง
“ไปค่ะ”
พยาบาลรีบเข็นรถของศิวาออกจากห้องไป กันตามองตามอย่างมึนตึ๊บว่าตัวเองทำอะไรให้เขาไม่พอใจขนาดนี้

สายน้ำผึ้งและพยาบาล เดินเข้ามาในลิฟท์ พยาบาลกดปิดประตูลิฟท์ ทันใดนั้นมือของศิวายื่นมาขวางประตูลิฟท์ไว้
“ไม่เห็นรึไงว่ามีคนจะเข้าลิฟท์ด้วย”
พยาบาลรีบกดเปิดประตู
“ขอโทษค่ะ”
ประตูลิฟท์เปิดออก สายน้ำผึ้งเห็นศิวานั่งรถเข็นโดยมีพยาบาลเข็นเข้า มาในลิฟท์ ศิวามองสายน้ำผึ้งเช่นกัน เธอเบือนสายตาไปมอง ทางอื่นสงวนท่าที ศิวาทำทีนิ่งสงวนท่าทีเหมือนกัน ขณะเดียวกันนั้นมือถือของเขาดังขึ้น เขากดรับสายแล้วพูดด้วยเสียงแบบ เด็กเอาแต่ใจ
“พ่อเหรอครับ...ใช่ครับ...ผมอยากออกจากโรงพยาบาลวันนี้ หมอไม่ให้ออกก็เรื่องของหมอสิครับ ผมลูกชายคนเดียวของนายศรัทธา ลีพาณิชย์นะครับ”
สายน้ำผึ้งชะงักเริ่มสนใจ ศิวาแต่ยังสงวนท่าทีที่ดูนิ่งเฉยอยู่
“จ้างหมอมาดูแลเราที่บ้านก็ได้...ตกลงนะครับ...สวัสดีครับพ่อ”
ศิวาวางมือถือแล้วเหลือบมองสายน้ำผึ้ง เห็นนิ่งไม่มีปฏิกิริยาตื่นเต้นอะไร ตัวเลขลิฟท์เคลื่อนถึงชั้นที่ศิวากด ประตูลิฟท์เปิด พยาบาลจะเข็น ศิวาออกจากลิฟท์ เขารีบพูดกับพยาบาล
“คุณไม่ต้องเข็นผมแล้ว ผมไปเอง เข็นอืดอาด”
ศิวาใช้มือไถล้อรถเข็นออกไปจากลิฟท์ ทันทีที่ประตูลิฟท์ปิด สายน้ำผึ้งมองศิวาแล้วยิ้ม มั่นใจว่าหาทางทำให้ชีวิตตัวเองดีกว่ากะรัตได้แล้ว

กะรัตใส่ชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว นั่งแต่งหน้าให้ดูโทรมเหมือนคนไม่ได้นอนทั้งคืน และทำผมยุ่งๆเพื่อพิศุทธิ์มาเห็น จะเรียกร้องความสงสาร แล้วเดินไปแอบเปิดประตูแล้ว ชะโงกหน้ามองว่าเขาจะขึ้นมาง้อไหม กะรัตไม่เห็นวี่แววใครจะเดินมาที่ห้อง เธอปิดประตูแล้วเดินไป เดินมาในห้องอย่างเซ็งหงุดหงิดว่าจะทำยังไงดี เสียงเคาะประตูดังขึ้น กะรัตยิ้มดีใจที่พิศุทธิ์มาง้อตัวเองแล้ว
“ในที่สุด คุณก็ต้องง้อฉัน”
กะรัตรีบขึ้นไปนอนบนเตียงโดยหันหลัง ให้ประตู ดูว่านอนซมร้องไห้ นวลเปิดประตูห้องเข้ามาเห็นกะรัตนอนอยู่ คิดว่าหลับจึง ค่อยๆย่องเข้าห้องแต่งตัวเพื่อเก็บเสื้อผ้า กะรัตตั้งใจฟังเสียงฝีเท้าและรอพิศุทธิ์มาง้อ แต่เสียงฝีเท้ากลับเงียบ เธอหันมามองหา เห็นประตูห้องแต่งตัวเปิดจึงแอบย่องไปดูว่าพิศุทธิ์ทำอะไร ทันใดนั้นนวลถือชุดแต่งงานของกะรัตออกมา ทั้งสองตกใจ
“เว้ย”
“ทำบ้าอะไรเนี่ยนวล”
“นวลมาเอาชุดคุณกั้งให้พี่สมหวังไปส่งซักค่ะ” นวลมองหน้ากะรัตที่ดูโทรม “อุ้ยตาย ทำไมคุณกั้งโทรมอย่างนี้ล่ะคะ หรือว่าไม่ได้นอนทั้งคืน...นี่คงรอคุณพิศุทธิ์ ใช่ไหมคะ”
กะรัตพูดเสียงแข็ง
“ทำไมฉันต้องรอ ในเมื่อเขาเห็นคนอื่นสำคัญกว่า ความสุขของฉัน ก็ปล่อยเขาไปสิ”
นวลถอนใจกับความปากแข็งของกะรัต
“คุณกั้งจะทานอาหารเช้าเลยไหมคะ นวลจะได้ให้เด็กตั้งโต๊ะให้เลย”
“ฉันเอากาแฟแก้วเดียว นวลไปดูคุณชายเถอะ เขาเป็นเด็กอนามัย กินอาหารตรงเวลา สายป่านนี้ยังไม่ตั้งโต๊ะ ไม่หิวแย่แล้วเหรอ...รีบไปดูเขาสิ”
นวลรีบเดินออกจากห้องกะรัตไปหาพิศุทธิ์

พิศุทธิ์ทำข้าวต้มอยู่ในครัว เด็กรับใช้คอยช่วย นวลยืนข้างๆ
“กาแฟแก้วเดียวจะไปอิ่มอะไร” พิศุทธิ์ยกถาดใส่ถ้วยข้าวต้มให้นวล “เอาข้าวต้มไปให้เขากิน แล้วไม่ต้องบอกเขานะว่าฉันให้เอาไป”
“ค่ะ”
นวลรีบถือถาดใส่ถ้วยข้าวต้มไปหากะรัต

กะรัตผลักถาดข้าวต้มคืนให้นวล
“สาระแน ฉันสั่งกาแฟ ไม่ใช่ข้าวต้ม ไปเอามาให้ฉันใหม่”

นวลถือถาดออกจากห้องอย่างระอา
พิศุทธิ์อยู่ในห้องรับแขกมองนวลที่ยืนถือถาดใส่ถ้วยข้าวต้ม เริ่มเหนื่อยเพราะวิ่งขึ้นลงบันได
“บอกเขาว่าเครื่องต้มกาแฟพัง”
นวลวิ่งขึ้นบันได...นวลยืนหอบตรงหน้ากะรัต
“เครื่องพัง ก็ไปซื้อใหม่สิ”
นวลวิ่งลงบันได...นวลยืนหายใจหอบๆตรงหน้า พิศุทธิ์เริ่มหงุดหงิด
“บอกเขาว่าฉันสั่งให้เขากินข้าวต้ม”
นวลจับราวบันไดพยุงตัวเองให้เดินขึ้นบันไดอย่างเหนื่อยหอบ นวลนั่งกองกับพื้นอย่าง เหนื่อยล้าตรงหน้ากะรัต
“ฉันไม่กิน ถ้าเขาอยากให้ฉันกิน ต้องขึ้นมาบอกเอง”
นวลนั่งเอาตูดไถบันไดลงมาเพราะขาล้าแล้ว มีเหงื่อท่วมตัวเดินแทบไม่ไหว
“บอกเขาว่าถ้าเขาไม่กิน ฉันจะขังเขาไว้ในห้องอย่างนั้นแหละ”

นวลคลานขึ้นบันได เหงื่อโทรมถือถาดข้าวต้มคลานมาหากะรัต
“ไปบอกเขาเลยว่าฉันไม่กลัว”
“ต้องลงไปบอกอีกเหรอคะ” นวลจะร้องไห้
กะรัตดีดนิ้ว ป๊อก ป๊อก แล้วชี้ไปทางประตูบอกให้ไป นวลคลานลงบันได พิศุทธิ์หน้าปั้นปึง
“บอกเขาว่าต้องกิน”
นวลขึ้นลงหลายรอบ กะรัตไม่ยอมกิน พิศุทธิ์ก็ไม่ยอมขึ้นไปง้อ นวลหมดแรงนอนหมอบคาบันได พวงหยกเดินเข้ามาบ้านมาเห็นนวลนอนหอบอยู่
“แกมานอนเป็นแย้โดนรถทับอะไรตรงนี้ นังนวล”
นวลเงยหน้ามองพวงหยกแล้วเบะปากจะร้องไห้
“ความวัวยังไม่ทันหาย…ความควายก็เข้ามาแทรก อีนวลตาย”
พวงหยกเท้าสะเอวมองนวลอย่างคาดคั้นว่ามีเรื่องอะไร

กะรัตนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องนอนอย่างหงุดหงิด พวงหยกเปิดประตูเข้ามาพร้อมนวล
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่กิน” กะรัตหันไปเห็นเป็นพวงหยกก็ชะงัก “อ้าว...แม่มาได้ยังไง”
พวงหยกเสียงเยาะมีความสุข
“ฉันก็จะมาช่วยแกขนของย้ายกลับบ้านไง ได้ข่าวว่าเมื่อคืนแยกกันนอนไม่ใช่เหรอ”
กะรัตหันขวับไปมองนวลอย่างรู้ทันว่านวลโทรไปรายงายใครสักคนจนถึงหูพวงหยกแน่ๆ นวลหลบตาต่ำ
“เก๊าขอโต๊ด”
“แกไม่ต้องไปว่านังนวลมันหรอก มันหวังดี...เอาน่า...รีบๆเก็บของเร็วจะได้กลับบ้านกัน”
พวงหยกเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า กะรัตวิ่งมาปิดตู้เสื้อผ้า
“กั้งไม่ไปไหนทั้งนั้น”
พวงหยกหงุดหงิด
“แกจะอยู่ทำไมยายกั้ง แกไม่เห็นเหรอว่าเมื่อคืนหมอนั่นทิ้งแกไปกับนังเพื่อนทรยศแกนะ”
นวลอดไม่ไหวที่จะแทรก
“แหม...คุณนายพูดอย่างกับคุณพิศุทธิ์ทิ้งคุณกั้งไปโรงแรมกับคุณผึ้งงั้นแหละ...เขาพาไปคลอดลูกนะคะ”
“นั่นแหละ ถึงเมื่อวานมันไม่ไป วันหน้ามันก็ต้องไป ก็ในงานแต่งมันประกาศปาวๆ ว่าทำงานใกล้ชิดกัน สันดานผู้ชาย...ทำงานใกล้ใคร...ก็ไม่แคล้วทำท้อง”
กะรัตนั่งเครียดคิดถึงตอนที่พิศุทธิ์กับสายน้ำผึ้งมีความสัมพันธ์กัน อย่างที่พวงหยกบอก
“คุณนาย...” นวลปราม
“ทำไม...ก็ฉันพูดเรื่องจริง ยิ่งตอนนี้นังผึ้งเป็นม่ายสาวด้วย เนื้อตัวกำลังมีน้ำมีนวล คุณชายของแกอดใจไม่ได้หรอกยายกั้ง” พวงหยกตวาด
กะรัตเริ่มกระสับกระส่าย พวงหยกพูดต่อ
“ดังนั้นแกเลิกกับหมอนั่นตอนนี้ดีแล้ว หย่าๆกันไปเลย ถ้ามันไปยุ่งกับนังผึ้ง แกจะได้ไม่ช้ำใจรอบสอง”
กะรัตลุกพรวดขึ้นทันที แล้วเดินไปที่ประตูทันที
“นั่นแกจะไปไหนยายกั้ง”
“ก็จะไปทำให้คุณพิศุทธิ์ ไม่มีใจไปคิดถึงนังผึ้งน่ะสิแม่”
กะรัตเดินออกจากห้องไปทันที พวงหยกกับนวลมองอย่างงงๆ
“ยายกั้งมันจะไปทำอะไรฮ่ะนังนวล”

พิศุทธิ์อยู่ที่ระเบียง กำลังวาดรูปวิวตรงหน้าเพื่อผ่อนคลายรอเวลาให้กะรัตคิดได้ กะรัตเดินมายืนข้างหลัง
“วาดรูปอยู่เหรอคะ”
พิศุทธิ์ชะงักแล้วพูดนิ่งๆพร้อมวาดรูปต่อ
“คุณก็เห็นแล้วนี่”
กะรัตหน้าเสียเพราะฟังเสียงที่พิศุทธิ์ตอบก็รู้ว่ายังโกรธ
“คุณยังโกรธกั้งอยู่เหรอ”
“เปล่า…”
“งั้นคุณวาดรูปให้กั้งหน่อยได้ไหมคะ” กะรัตอ้อน
“ผมก็อยากวาดให้คุณนะ แต่คุณบอกไว้...ว่าไม่ให้ผม แตะต้องคุณ” พิศุทธิ์แกล้งเหน็บ
“กั้งก็ไม่ได้บอกให้คุณแตะต้องกั้ง ให้คุณแค่มอง…”
กะรัตเดินมายืนตรงหน้า เธอใส่ชุดคลุมอาบน้ำพูดเสียงอ้อนเซ็กซี่ยั่วยวน
“...แล้ววาด”
พิศุทธิ์มองชะงัก กะรัตเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรงหน้าเขาพร้อมกับค่อยๆปลดสายผูกเอวอย่างเซ็กซี่
“กั้งเคยดูหนังเรื่องไททานิค แล้วกั้งฝันว่าอยากให้ใครสักคนวาดรูปกั้ง แบบพระเอกวาดให้นางเอกบ้าง”
พิศุทธิ์มองอึ้งๆ กะรัตมองอาการของเขาแล้วยิ่งสนุกที่ได้แกล้งยั่ว
“แต่กั้งใจไม่กล้าเหมือนนางเอก ที่จะถอดออกหมดทุกชิ้น กั้งเลยขอใส่ทูพีช…”
พิศุทธิ์แอบถอนใจโล่งอกที่เธอใส่ทูพีช ไม่ใช่แก้ผ้าอย่างในหนังไททานิค กะรัตมองแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
“ตกลงนะคะ”
“ได้ครับ”
กะรัตยิ้มแล้วเปิดเสื้อคลุมลงกองกับพื้น พิศุทธิ์มองกะรัตที่เปลือยอย่างอึ้งตกใจ แล้วรีบลุกขึ้นไปหยิบชุดคลุมมาโอบปิดร่างของเธอ แล้วมองไปรอบๆเพราะกลัวว่าใครจะเห็น ก่อนจะดุ
“คุณทำบ้าอะไรเนี่ย ไหนคุณบอกว่าใส่ทูพีชไง”
กะรัตแกล้งทำหน้าซื่อพูดใกล้ใบหน้าเขา
“ก็ใส่ทูพีชไงคะ ตุ้มหู...กับรองเท้า”
พิศุทธิ์กอดร่างกะรัตแน่น ใบหน้าทั้งสองอยู่ใกล้กัน กะรัตเงยหน้ามองอย่างตาสบตาเย้ายวน พิศุทธิ์จะผงะตัวเองออก แต่กะรัตไม่ยอมรับเสื้อคลุมตัวเอง ถ้าเขาผงะผ้าคลุมจะร่วง เธอจะเปลือยอีกครั้ง
“ใส่ชุดคลุมเดี๋ยวนี้”
“ถ้าอยากให้ใส่ ก็ใส่ให้กั้งเองสิคะ” กะรัตยิ้มยั่ว
“กั้ง…” พิศุทธิ์เสียงดุ
กะรัตเอื้อมมือลูบไล้ใบหน้าของเขาโดยไม่กลัวเสียงดุ
“ตัวคุณสั่นจัง…กลัวกั้งเหรอ”
“เปล่า” พิศุทธิ์พยายามข่มความอายไว้
“งั้นก็ตื่นเต้น” กะรัตพูดเสียงกระซิบ
“เปล่า” พิศุทธิ์พยายามข่มความอายไว้
“แล้วคุณเป็นอะไรล่ะคะ” กะรัตแกล้งทำหน้าซื่อ
พิศุทธิ์ทั้งอายทั้งขำกะรัต
“คุณอยากรู้เหรอ”

พิศุทธิ์อุ้มร่างกะรัตแล้วพาเดินเข้าบ้านทันที
พวงหยกกับนวลแอบดูกะรัตกับพิศุทธิ์อยู่ที่หน้าต่างด้วยหน้าตาแตกตื่น คาดไม่ถึงว่ากะรัตจะกล้าทำขนาดนั้น พิศุทธิ์อุ้มกะรัตที่สวมชุดคลุมเข้าบ้าน พวงหยกกับนวลเขินกลัวสองคนรู้ว่าแอบดูจึงรีบซ่อนตัวในผ้าม่านหน้าต่าง พิศุทธิ์อุ้มกะรัตขึ้นบันไดไป พวงหยกกับนวลโผล่หน้า มาจากการซ่อนในผ้าม่าน
“คุณนายจะตามขึ้นไปดูต่อไหมคะว่าคุณกั้งทำอะไร”
“นังบ้า จะดูให้ตาฉันเป็นกุ้งยิงรึไง”
นวลเดินไปมองที่บันได หัวเราะคิกคักอย่างมีความสุขถอนใจโล่งอก
“ดีใจจังที่คุณกั้งกับคุณพิศุทธิ์คืนดีกันสักที ไม่อย่างนั้นอีนวลเหนื่อย”
พวงหยกยืนเท้าเอวมองนวลอย่างหมันไส้อยู่ด้านหลัง
“ไม่อยากเหนื่อยเหรอ ฉันจะได้หาคนทำงานใหม่”
นวลหันมาเห็นสายตาเพชรฆาตของพวงหยกแล้วสะดุ้ง รีบถอยกรูดแสดงความกระตือรือร้นขึ้นทันที

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 6/6 วันที่ 28 ก.พ. 57

ละครเรื่อง สามีตีตรา บทประพันธ์โดย นาวิกา
ละครเรื่อง สามีตีตรา บทโทรทัศน์โดย วรรณวิภา สามงามแจ่ม
ละครเรื่อง สามีตีตรา กำกับโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง
ละครเรื่อง สามีตีตรา ผลิตโดย บริษัททองเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยผู้จัด แอน ทองประสม
ละครเรื่อง สามีตีตรา ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง สามีตีตรา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557
ที่มา ไทยรัฐ