@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 7/4 วันที่ 2 มี.ค. 57

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 7/4 วันที่ 2 มี.ค. 57

“แกอย่ายุ่งกับคุณพิศุทธิ์นะ”
“ฉันเองก็ไม่อยากยุ่ง แต่พอคิดถึงความสุขของลูกแล้ว...จะไม่ยุ่งก็คงไม่ได้ เพราะลูกฉันมันต้องการ… พ่อ”
“นังหน้าด้าน ถ้าจะหาพ่อให้เด็กนั่น ก็ไปลากไอ้ภูจากนรกโน้น ไม่ใช่มาแย่งผัวคนอื่น ไม่อายบ้างรึไง”

“ความอายมันกินไม่ได้นี่จ๊ะกั้ง แต่ผู้ชายดีๆ...มันกินได้ ว่าแล้วก็เปรี้ยวปาก ไม่รู้ว่ารสชาติของคุณพิศุทธิ์ จะอร่อยเหมือน คุณภูไหม”
สายน้ำผึ้งยิ้มสะใจกดวางสายทันที กะรัตกรี๊ดอย่างโกรธเกรี้ยวใส่มือถือ
“อ๊าย...นังผึ้ง แกตาย”
กะรัตกลับรถอย่างไม่สนใจรถที่กำลังขับมา เธอขับไปทางบริษัทของพิศุทธิ์อย่างเร็ว


พิศุทธิ์เดินไปห้องประชุมโดยมีฟองดาวถือแฟ้มงานเดินตามหลัง สายน้ำผึ้งเดินสวนมา พิศุทธิ์เห็นสายน้ำผึ้งแล้วชะงัก ฟองดาวมองอาการพิสุทธิ์กับสายน้ำผึ้งแล้วรู้สึกเป็นส่วนเกินเลยเดินเลี่ยงไป
“ขอบคุณนะคะที่ทำให้กั้งยอมโยนเศษเงินจ่ายค่าพยาบาลให้ฉันกับลูก แต่ฉันไม่ต้องการรับส่วนบุญจากเขา ฉันเลี้ยงลูกเองได้”
“กั้งเขาเต็มใจช่วยคุณ”
“ฉันรู้จักเขามาสิบกว่าปี ฉันรู้ดีว่าเขาเป็นคนยังไง”
“แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปแล้ว เขาอภัยให้คุณ”
สายน้ำผึ้งหัวเราะเยาะ
“ฉันจะบอกคุณให้นะคุณพิศุทธิ์ คนอย่างกั้งไม่มีคำว่าให้อภัยและไว้ใจใคร”
“แต่กั้งก็เคยไว้ใจคุณ” พิศุทธิ์จ้องหน้า
สายน้ำผึ้งนิ่งอึ้ง พิศุทธิ์เดินผ่านไปทางห้องประชุม
“คุณกำลังจะได้เห็น ว่าคนอย่างกั้ง...เปลี่ยนแปลงไม่ได้”

รถกะรัตขับเข้ามาจอดหน้าบริษัทอย่างเร็ว กะรัตลงจากรถด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวยามวิ่งเข้ามาขวาง
“คุณครับ แลกบัตรก่อนครับ”
“นังสายน้ำผึ้งมันอยู่แผนกไหน” กะรัตตวาด
“ใจเย็นก่อนครับคุณ”
“ฉันถามว่านังสายน้ำผึ้งมันอยู่แผนกไหน”
ยามและพนักงานที่เดินผ่านไปผ่านมามองกะรัตเป็นตาเดียวกัน

สายน้ำผึ้งเดินมาที่โต๊ะทำงาน ภาพที่สะท้อนบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เห็นเงาของกะรัตเดินตรงมา ก็ตั้งรับทันที กะรัตเดินพุ่งทะยานเข้ามาแล้วล้วงหยิบขวดน้ำเกลือที่ใช้ล้างแผลจากในถุง มาเปิดขวดแล้วราดใส่
“นี่มันอะไรกันน่ะกั้ง” สายน้ำผึ้งโวยวายเสียงใสซื่อ
“น้ำเกลือไง ฉันแวะซื้อมาล้างแผลให้แก เผื่อความแสบของน้ำเกลือ จะทำให้แกสำเหนียกได้...ว่าช่องคลอดแกยังไม่ตกสะเก็ด อย่าริร่านแย่ง ผัวชาวบ้าน”
สายน้ำผึ้งพูดอย่างกลัวกะรัต
“ฉันขอร้องนะกั้ง ฉันไม่ได้คิดอะไรกับคุณพิศุทธิ์ ตอนนี้ชีวิตฉันคิดถึงแต่ลูก เธอเลิกหึงฉันเถอะนะ”
ชายนี่ ยี่หวา พนักงานอื่นๆมองสายน้ำผึ้งอย่างสงสาร กะรัตชี้หน้า
“ตอแหล แล้วเมื่อกี้หมาตัวไหนมันโทรไปหาฉัน อย่ามาเล่นละครเรียกร้องความสงสาร มันไม่ได้ผลหรอก”
สายน้ำผึ้งทำท่ากลัวกะรัตแล้วรีบลนลานลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินหนีกะรัตออกจากแผนกไป
“นังผึ้ง แกจะหนีไปไหน”
กะรัตรีบเดินตามสายน้ำผึ้งไป พนักงานในแผนกมองสายน้ำผึ้งกับกะรัตอย่างตื่นตระหนก

สายน้ำผึ้งเปิดประตูเข้ามาที่บันไดหนีไฟ กะรัตเปิดประตูตาม ดึงแขนไว้
“แกจะไปไหน”
สายน้ำผึ้งสะบัดแขนออกจากการจับของกะรัต แล้วจ้องด้วยสายตาแข็งกร้าวต่างจาก สายตาเมื่ออยู่ต่อหน้าคนในแผนกยิ้มเยาะ
“ก็ถ้าพูดต่อหน้าคน คนอื่นเขาจะสงสารฉันเหรอ”
“แกนี่มันยิ่งกว่างูพิษอีก ฉันบอกไว้ก่อนนะว่าอย่ามายุ่งกับผัวฉัน ถ้าอยากได้พ่อให้ลูก ก็ไปยืนเสนอราคาให้ฝรั่งแก่ข้างทางโน้น”
สายน้ำผึ้งยิ้มเยาะ
“จะไปยืนให้เมื่อยทำไม ในเมื่อยืมผัวเพื่อนก็ได้”
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ให้”
สายน้ำผึ้งทำหน้ากวน
“แต่ฉันจะแย่ง”
“นังหน้าด้าน คุณพิศุทธิ์ไม่ใฝ่ต่ำไปเอาแกหรอก”
“อย่าลืมสิว่าคุณภูของเธอ ฉันก็แย่งมาแล้ว แถมเขายังจดทะเบียนและมีลูกกับฉันด้วย แล้วทำไมจะเกิดกับคุณพิศุทธิ์อีกไม่ได้ เธอรู้ว่าขนาดเธอเอาเงินปรนเปอคุณภู คุณภูยังทิ้งเธอมาหาฉัน แล้วกับ คุณพิศุทธิ์ที่ไม่แคร์เรื่องเงินของเธอ เธอเลยกลัวว่าจะเสียเขาให้ฉัน เธอถึงต้องจดทะเบียนตีตราเขาไงล่ะ น่าสมเพชที่สุดเลยกั้ง” สายน้ำผึ้งหัวเราะเยาะ
เสียงหัวเราะของสายน้ำผึ้ง เหมือนน้ำมันที่สาดไปในอารมณ์ของกะรัต ที่กำลังร้อนระอุดั่งเปลวไฟ ให้โหมกระพือจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ กะรัตพุ่งเข้าไปจิกทึ้งผมของสายน้ำผึ้งจนใบหน้าเงยขึ้นจ้องตา กะรัตพูดพร้อมชี้หน้า
“จำไว้นะนังผึ้ง เศษดินใต้รองเท้าฉัน มันยังมีค่ากว่าแก อย่าเผยอหลงตัวเองว่าฉันจะกลัวแก แกก็แค่เด็กกำพร้าขี้อิจฉา ขาดพ่อ ขาดแม่ จนต้องแย่งความอบอุ่นจากผัวคนอื่น คุณพิศุทธิ์ ไม่มีทางมองแก แกไม่มีวันแย่งเขาไปจากฉันได้”
สายน้ำผึ้งโกรธที่กะรัตพูดจี้ปมในใจ ยกมือฟาดแขนกะรัตให้ออกจากการจิกหัวตัวเอง
“ลองดูไหมล่ะกั้ง ว่าสุดท้าย...เขาอยู่ข้างฉัน ไม่ใช่เธอ” ทันใดนั้นสายน้ำผึ้งร้องกรี๊ดอย่างหวาดกลัว “อ๊าย กั้งอย่าทำฉัน อย่าทำฉัน”
กะรัตมองสายน้ำผึ้งอย่างอึ้งงง
“แกทำบ้าอะไร”
สายน้ำผึ้งโวยวายเสียงดังให้คนได้ยินมากขึ้น
“กั้งอย่าผลักฉัน อย่ากั๊ง ว๊าย”

ทันใดนั้นชายนี่กับยี่หวาเปิดประตูหนีไฟเข้ามา กะรัตเผลอหันไปมองชายนี่กับยี่หวา สายน้ำผึ้งฉวยโอกาสกะรัตเผลอ คว้ามือกะรัตทั้งสองข้างมาที่หน้าอกตัวเองให้ดูเหมือนว่าถูกผลัก จงใจตกบันไดลงไป กะรัตหันไปมองอย่างตกใจอึ้ง ไม่คิดว่าสายน้ำผึ้งจะยอมลงทุนทำขนาดนี้
พิศุทธิ์นั่งประชุมกับหัวหน้าและพนักงานอย่างเคร่งเครียด ฟองดาวคอยจดรายละเอียดการประชุม ทันใดนั้นพนักงานเปิดประตูเข้ามาด้วยหน้าตาตื่น
“คุณพิศุทธิ์คะ แย่แล้วค่ะ ภรรยาคุณผลักคุณผึ้งตกบันได”
พิศุทธิ์ตกใจอึ้ง รีบวิ่งออกจากห้องประชุมไปทันที

ชายนี่กับยี่หวาประคองสายน้ำผึ้งที่ยังนอนอยู่ โดยมีเลือดไหลออกจากหัว กะรัตมองอย่างอึ้ง พิศุทธิ์แหวกไทยมุงเข้ามามองสายน้ำผึ้งที่ยังนอนเจ็บและหัวแตก แล้วหันมามองกะรัต
“กั้ง คุณกลับมาอีกทำไม” พิศุทธิ์มองสายน้ำผึ้งที่นอนเจ็บ “เกิดอะไรขึ้น”
“กั้งไม่ได้ทำอะไรมันนะ”
“แต่ชายนี่เห็นคุณกะรัตผลักน้องผึ้งตกบันไดนะคะ”
ชายนี่แทรกขึ้น กะรัตโวยวาย
“มันเล่นละคร ไม่เข้าใจกันรึไง”
“แต่ฉันก็เห็นนะคะ” ยี่หวาเสียงแข็ง
พิศุทธิ์มองกะรัต เธอมองเขาแล้วมองไทยมุงคนอื่นที่มองเธอ
“มองอะไร ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ทำ” กะรัตพุ่งเข้าไปดึงแขนสายน้ำผึ้งให้ลุกขึ้น “หยุดสำออยแล้วลุกขึ้นมานะนังผึ้ง”
“หยุดได้แล้วกั้ง”
พิศุทธิ์พุ่งเข้าไปจับกะรัตไว้ กะรัตยังพยายามดิ้น
“ไม่หยุด มันกำลังทำให้ตัวเองเป็นนางเอก แต่กั้งเป็นนางร้าย กั้งไม่ยอม”
กะรัตจะเข้าไปเอาเรื่องสายน้ำผึ้งอีก พิศุทธิ์อุ้มตัวกะรัตที่ดีดดิ้นโวยวายแล้วพาออกไป สายน้ำผึ้งมองแล้วแอบยิ้มสะใจ

พิศุทธิ์อุ้มกะรัตออกมาจากบริษัท กะรัตยังคงดิ้นโวยวายด่าสายน้ำผึ้ง
“นังผึ้ง นังลิ้นสองแฉก กั้งจะฉีกหน้ากากมัน นังงูพิษ”
พิศุทธิ์ปล่อยกะรัตลงตรงข้างๆรถของเธอโดยยังจับแขนไว้ แล้วหยิบกระเป๋าของเธอมาเปิดเพื่อหยิบกุญแจรถออกมาแล้วเปิดประตูรถ
“ขึ้นรถกั้ง”
“ไม่ขึ้น กั้งจะไปจัดการมัน”
กะรัตจะเดินเข้าตึก พิศุทธิ์ทนไม่ไหวที่กะรัตใช้แต่อารมณ์จนขาดสติ เขาเดินไปอุ้มรัดเอวมายัดใส่รถ กะรัตจะออกจากรถ พิศุทธิ์พูดเสียงดังอย่างโมโหมาก
“อย่าลงมานะ”
กะรัตชะงัก ไม่เคยเห็นพิศุทธิ์โมโหขนาดนี้มาก่อน เธอจำใจต้องขึ้นรถด้วยความรู้สึกโกรธ น้อยใจ ที่พิศุทธิ์โมโหตัวเอง ทั้งๆที่ตัวเองไม่ผิด พิศุทธิ์ขึ้นรถตามพร้อมสตาร์ทรถแล้วขับรถออกไป พนักงานในบริษัทยืนดูเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความตื่นตระหนก

พิศุทธิ์ขับรถของกะรัตเข้ามาจอดหน้าบ้านอย่างแรง นวลวิ่งออกมาดูด้วยความตกใจ
“อ้าว นี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลย ทำไมกลับกันเร็วนักล่ะคะ”
พิศุทธิ์ลงจากรถโดยไม่ตอบนวล แล้วเดินอ้อมไปเปิดประตูให้กะรัต แต่เธอไม่ยอมลงจากรถ พิศุทธิ์พูดนิ่งๆ
“ลงมาเถอะกั้ง...”
“ไม่ กั้งจะไปจัดการมัน” กะรัตจะปิดประตู
พิศุทธิ์จับประตูไว้
“กั้ง คุณยังไม่เห็นอีกเหรอว่าการใช้อารมณ์ ผลมันเป็นยังไง”
“ถึงกั้งจะเป็นคนใช้แต่อารมณ์ แต่ฉันก็ไม่เคยตอแหลใคร กั้งเลวกั้งก็บอกว่ากั้งเลว กั้งบอกไม่ได้ทำ ก็แปลว่ากั้งไม่ได้ทำ กั้งอยู่ของ กั้งเฉยๆ แต่มันเป็นคนเข้ามาหาเรื่องกั้งก่อน แล้วทำไมกั้งต้องยอมด้วย”
พิศุทธิ์ถอนใจอย่างเหนื่อยใจ
“ไหนคุณบอกว่าคุณจะเปลี่ยนตัวเองไง”
“ถ้าการเปลี่ยนตัวเอง มันรวมถึงกั้งต้องยอมแพ้นังผึ้ง กั้งไม่เปลี่ยน กั้งบอกคุณแล้วไง ว่าถ้ามันมายุ่งกับกั้งเมื่อไหร่ กั้งไม่เอามันไว้แน่ มันคิดจะทำลายครอบครัวเรา คุณต้องลาออก”
พิศุทธิ์รู้สึกว่ากะรัตพูดต่อไปก็ไม่รู้เรื่อง จึงอุ้มเธอออกจากรถไปส่งต่อให้นวล...นวลรับตัวกะรัตแล้วเซเกือบล้มทั้งคู่ พิศุทธิ์เดินไปขึ้นรถตัวเองที่จอดอยู่ขับออกไป กะรัตผลักนวลให้ออกไป
“ปล่อยฉัน...คุณพิศุทธิ์ กลับมานะ ฉันบอกให้กลับมา” กะรัตกรี๊ดแตก

พิศุทธิ์เดินหน้าเครียดเข้าบริษัทมา พนักงานมองแล้วหันไปซุบซิบกัน พิศุทธิ์มองพนักงานจนไปถึงยาม ทุกคนหลบตา เขารู้สึกละอายอย่างไม่เคย เป็นมาก่อน ตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องของหัวหน้า
“ไปส่งภรรยาคุณเรียบร้อยแล้วเหรอ”
“ครับ...ผมขอโทษที่เกิดเหตุการณ์นี้”
“ผมว่าคุณควรไปขอโทษสายน้ำผึ้งเถอะ ผมพอจะได้ข่าวเรื่องในงานแต่งของคุณมาบ้าง ดูแลภรรยาดีๆนะ ผมไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก”

พิศุทธิ์ยืนนิ่งเครียด
สายน้ำผึ้งนั่งพักอยู่มุมหนึ่งในส่วนที่พักของพนักงานมีผ้าพันแผลปิดอยู่ที่หน้าผาก และผ้าพันแขน พิศุทธิ์เดินเข้ามาหา เธอแสร้งขยับตัวแต่ทำเจ็บแขน

“โอ้ย”
“คุณเป็นยังไงบ้าง”
“ก็หัวแตกกับเจ็บแขน ยังนึกไม่ออกเลยค่ะว่าจะอุ้มให้นมลูกยังไง”
“ผมขอโทษแทนกั้งด้วย” พิศุทธิ์รู้สึกผิดแทนกะรัต
สายน้ำผึ้งเอื้อมมือไปแตะที่แขนพิศุทธิ์ แสดงความเห็นใจและเข้าใจ
“ฉันอยากให้กั้งรู้จังว่าคุณรักเขาขนาดไหน เขาจะได้ไม่มองคุณเป็นเพียงแค่เครื่องมือของเขา”
พิศุทธิ์ชะงักมองสายน้ำผึ้งอย่างสงสัย
“เครื่องมือ”
“เครื่องมือแก้แค้นฉันไงคะ กั้งรู้ว่าฉันรู้สึกยังไงกับคุณ เขาถึงทำทุกอย่างให้ได้คุณไปจากฉัน เขาลงทุนจดทะเบียนตีตราคุณ เพื่อแก้แค้นที่คุณภูทิ้งเขามาหาฉัน…ฉันรู้ทันเขา เขาทนไม่ได้ เลยผลักฉัน”
พิศุทธิ์มองสายน้ำผึ้งแล้วตัดสินใจลุกขึ้น
“ผมไม่รู้ว่าความจริงที่คุณสองคนคุยกันมันคืออะไรกันแน่ แต่สิ่งที่ผมเชื่อ...คือผมรักกั้ง และกั้งรักผม เราแต่งงานกันเพราะความรัก และผมไม่ยอมเป็นเครื่องมือการแก้แค้นของใคร”
“ฉัน…” สายน้ำผึ้งจะแถว่าไม่เคยคิดว่าพิศุทธิ์เป็นเครื่องมือ
“ถือว่าผมขอร้องล่ะครับ ขอให้กั้งเขาอยู่ส่วนเขา คุณ...ก็อยู่ส่วนของคุณ ส่วนผมกับคุณ เรายังคุยกันได้ไม่มีปัญหา เพราะเราไม่มีเรื่องอื่นนอกจากเรื่องงานเท่านั้น ...ผมขอตัว”
พิศุทธิ์เดินออกไปจากห้องพยาบาล สายน้ำผึ้งมองอย่างแค้นที่ทำให้พิศุทธิ์หวั่นไหวไม่ได้ แล้วคิดว่าไม่ยอมแพ้แค่นี้แน่

กันตาเดินคุยมือถือกับนวล ขณะที่เดินอยู่ในโรงพยาบาล
“จริงเหรอนวล พี่ผึ้งลงทุนทำร้ายตัวเองขนาดนั้น ร้ายกาจไม่ใช่เล่นแล้วนะ แล้วพี่กั้งเป็นยังไงบ้าง”
นวลยืนคุยมือถืออยู่หน้าบ้าน มองกะรัตที่นั่งดื่มไวน์ด้วยใบหน้าเครียดแค้นสายน้ำผึ้ง
“นั่งกอดเพื่อนเก่าอยู่ริมสระน้ำเนี่ยล่ะค่ะ คุณกุ้งก็ติดประชุม เหลือแต่คุณก้อยนี่แหละ ที่จะมาปลอบใจคุณกั้งได้”
“เดี๋ยวก้อยเสร็จงานแล้วจะรีบเข้าไปหา”
กันตากดวางสายแต่ยังไม่วายโกรธสายน้ำผึ้งอยู่ ศิวาไม่ได้ใส่ชุดคนไข้ถือไม้เท้าค้ำขาเท่านั้น โผล่มาจากมุมตึกจ๊ะเอ๋
“แฮ่”
กันตาตกใจจนเผลอชกเบ้าตาเขา
“เฮ้ย”
“โอ้ย” ศิวากุมเบ้าตา
“คุณเป็นยังไงบ้าง” กันตารีบดูตาให้เขา
“เจ็บสิครับ...” ศิวาอ้อน “ไหนเป่าให้ผมหน่อยสิ”
“ฉันกำลังหงุดหงิดอยู่ อย่ามาแกล้งฉันนะ” กันตาตีแขนศิวา
“ผมต่างหากที่ต้องหงุดหงิด วันนี้ผมกลับบ้านนะ คุณไม่คิดจะส่งผมหน่อยเหรอ”
“จริงด้วย...งั้นก็ขอให้คุณโชคดี ฉันไปล่ะ”
กันตาจะเดินไป ศิวารีบยืนดักหน้าไว้ มองหน้ากันตาที่ดูเครียด
“มีเรื่องอะไรรึเปล่า ดูหน้าเครียดๆให้ผมช่วยอะไรได้บ้างไหม”
“คุณช่วยไม่ได้หรอก เป็นเรื่องของผู้หญิงโรคจิต ชอบแย่งสามีคนอื่น” กันตาชี้หน้าศิวา “จำไว้นะคุณ ถ้าฉันรู้ว่าคุณไปยุ่งกับผู้หญิงแบบนี้ ฉันจะตัดคุณออกไปจากชีวิตฉันทันที”
ศิวารีบพูดรับปาก โดยไม่รู้เล้ยว่าผู้หญิงคนนั้นคือสายน้ำผึ้ง ผู้หญิงที่เขาต้องการ
“คุณไม่ต้องห่วง ผมไม่ยุ่งกับผู้หญิงแบบนี้อยู่แล้ว...” ศิวาชะงักคิดได้ “เอ๊ะๆ คุณพูดแบบนี้ แปลว่าคุณตกลงคบกับผมแล้วใช่ไหม”
ศิวายิ้มล้อ กันตาชะงักที่เผลอพูดไปด้วยอารมณ์ก่อนคิด

พวงหยกนั่งดื่มชากับกลุ่มคุณหญิงไฮโซอยู่ในโรงแรมหรู
“อะไรนะคะ หม่อมมลุลีกับคุณชายอ๊อดไปทัวร์ยุโรปอีกแล้วเหรอคะ เท่าที่ดิฉันทราบ นี่มันครั้งที่ 3 หลังจากงานแต่งงานลูกสาวฉัน แล้วนะเนี่ย”
“ใช่ค่ะ พวกเราก็สังเกตว่าหลังคุณพิศุทธิ์แต่งงานกับหนูกั้ง ดูคุณชายอ๊อดกับหม่อมมลุลีรวยขึ้นผิดหูผิดตา ถ้าเป็นญาติทางเจ้าสาว ก็คงคิดว่ารวยขึ้นเพราะสินสอด แต่นี่เป็นญาติฝ่ายชายเอาสินสอดไป ให้แล้วเอาที่ไหนรวยล่ะคะ”
พวงหยกกำแก้วชาแน่นด้วยความเครียด
“อันที่จริง...เดี๊ยนได้ข่าวแว่วๆเหมือนกันว่าคุณชายอ๊อดได้เงินจากไหน แต่ไม่อยากพูดเลย กลัวจะผิดใจกับคุณพวงหยก”
พวงหยกวางแก้วชาอย่างแรง
“โฮ้ย...ถ้าคุณพี่พูดด้วยความหวังดี ดิฉันจะผิดใจทำไมล่ะคะ ตกลงข่าวว่ายังไง...บอกมา”
คุณหญิง มองหน้าคุณหญิงอีกคนอย่างลังเลว่าจะบอกพวงหยกดีไหม พวงหยกมองคุณหญิง ทั้งกลุ่มว่ามันต้องเกี่ยวกับครอบครัวตัวเองแน่

เจ้าสัวบัญชานั่งคุยงานกับกฤชอยู่ในบ้าน
“ตอนนี้ตลาดทางจีนสั่งของเราเพิ่มขึ้นอีก 5 % ส่วนประเทศทางอื่น ยังคงเหมือนเดิมครับ ผมว่าอาทิตย์หน้าจะไปดูตลาดทางแอฟริกา”
ขาดคำของกฤช พวงหยกเดินปึ่งปังเข้ามาวางกระเป๋าบนโต๊ะตรงหน้าเจ้าสัวดัง ปัง
“เตี่ย”
“ลื้อไม่ต้องเรียก อั๊วก็รู้แล้วว่าลื้อมา วางกระเป๋าดังไปยันปากซอย”
“ไม่ต้องมาว่าอั๊วเลยนะ อั๊วต่างหากที่ต้องว่าเตี่ย เตี่ยเอาเงินให้คุณชายอ๊อดกับหม่อมมลุลีใช่ไหม”
เจ้าสัวชะงักที่พวงหยกรู้ แต่ทำนิ่ง ตีหน้าสงบ กฤชเหลือบมองเจ้าสัวแล้วนิ่งคิดบางอย่าง
“พูดอะไรเลอะเทอะ ลื้อนี่…ตามหึงผัวจนเพี้ยน”
“อั๊วไม่ได้เพี้ยน ใครๆเขาก็ลือกันให้แซ่ด ว่าพักนี้คุณชายอ๊อดเข้าออกบ้านเราบ่อย เตี่ยให้เงินเขาใช่ไหม”
เจ้าสัวหันไปคุยกับกฤช
“อาทิตย์หน้าลื้อไปแอฟริกาใช่ไหม เอาพวงหยกไปด้วยสิ ไปโยนให้สิงโตมันกิน อั๊วจะได้สบายหู”

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 7/4 วันที่ 2 มี.ค. 57

ละครเรื่อง สามีตีตรา บทประพันธ์โดย นาวิกา
ละครเรื่อง สามีตีตรา บทโทรทัศน์โดย วรรณวิภา สามงามแจ่ม
ละครเรื่อง สามีตีตรา กำกับโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง
ละครเรื่อง สามีตีตรา ผลิตโดย บริษัททองเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยผู้จัด แอน ทองประสม
ละครเรื่อง สามีตีตรา ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง สามีตีตรา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557
ที่มา ไทยรัฐ