@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 22 วันที่ 19 เม.ย. 57

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 22 วันที่ 19 เม.ย. 57

“หนูเล็กขอเซ็นรับหลังจากที่คุณอัมออกจากโรงพยาบาลนะคะ”
เอื้อเลิกคิ้ว ด้วยความสงสัย “ทำไม?”
“คุณอัมเครียดเพราะเรื่องนี้ ถ้าหนูเล็กเซ็นรับไปตอนนี้ อาจจะทำให้อาการเธอทรุดลง เพื่อความ
ปลอดภัยของตัวเธอเอง หนูเล็กของเซ็นรับหุ้นหลังจากที่สุขภาพคุณอัมพ้นขีดอันตรายแล้วดีกว่าค่ะ”
เอื้อมองสุริยงด้วยความชื่นชม

“ผมขอพูดประโยคนี้ เป็นรอบที่ล้านสาม คุณพ่อเลือกคนไม่ผิดจริงๆ”
สุริยงหัวเราะเบาๆ
เอื้อ เก็บเอกสารใส่ซองแล้วยื่นให้สุริยง


“ผมให้คุณเก็บเอกสารเอาไว้ อยากเซ็นเมื่อไหร่ ก็เซ็น”
“ขอบคุณค่ะ”
สุริยงยิ้ม ก่อนที่จะตัดบท
“หนูเล็กต้องไปก่อนนะคะ วันนี้ต้องพาไก่ ไข่ ไปลองชุดป่านนี้คุณชนะกับน้องฮันนี่คงใกล้จะถึง
แล้ว”
สุริยงพูดพลางคิดถึงสองคนพ่อลูก

เขมชาติลองชุดไทยที่จะใส่ในวันงาน ด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ทว่าเกนหลงกลับมองด้วยความชื่นชม
“เขมเท่มากๆ เลยค่ะขอถ่ายรูปเก็บไปอวดเพื่อนๆหน่อยนะคะ”
เกนหลงหยิบโทรศัพท์มาจะถ่ายรูป เขมชาติยิ้มเขินๆ ทันใดนั้นเสียงฮันนี่ก็ดังขึ้น
“น้าสุ คุณพ่อคะ ฮันนี่ กับ ไก่ ไข่ เท่ มั้ยคะ?”
เขมชาติหันขวับไปที่ต้นเสียงทันที ในขณะที่ฮันนี่ ไก่ ไข่ อยู่ในชุดไทยที่จะใส่ในวันงาน พลางโพสต์
ท่าอย่างน่ารัก
สุริยง ชนะ ที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็ส่งเสียงด้วยความตื่นเต้น
“เท่มากๆเลยค่ะ” สุริยงรีบบอก
ฮันนี่ยิ้มแป้น “ถ่ายรูปกันดีกว่าค่ะ”
จากนั้นทั้งห้าคนก็มารวมตัวกันและถ่ายจากโทรศัพท์ที่ใช้กล้องหน้า ทำให้ทั้งห้าคนต้องบีบเข้าหากัน
ชนะได้โอกาสอยู่ใกล้กับสุริยงก็ยิ้มกริ่มพอใจ
เขมชาติถึงกับหน้าหงิก หันกลับมา แล้วก็ชะงัก เพราะเกนหลงมองไม่วางตา เขมชาติรู้ตัวรีบทำ
เสียงเข้มกลบเกลื่อน

“เสียงดัง วุ่นวายแบบนี้ไง ผมถึงไม่อยากมาลองชุดวันเดียวกับพวกเขา รู้อย่างนี้ มากับคุณเกนแค่
สองคนก็ดี”
เขมชาติส่ายหน้าด้วยความเซ็ง แล้วก็เดินกลับเข้าไปในห้องแต่งตัว เกนหลงชะงักคิด พลางหันไป
มองสุริยง ชนะ ฮันนี่ และไก่ กับไข่ ที่ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน แล้วก็หันหน้าหนี ด้วยความสะท้อนใจ ที่ตัวเองกลับ
ไม่มีความสุขแบบนี้
สุริยงหันมาเห็นจังหวะนั้นพอดี สุริยงชะงักกึก มองหาเขมชาติ แต่ก็ไม่เห็นอยู่ตรงนั้นแล้ว เกนหลง
เดินไปนั่งด้วยความเซ็ง สุริยงทั้งสงสาร ทั้งรู้สึกผิดลึกๆ ข้างใน

อัมพิกายังคงนอนพักรักษาตัวอยูในโรงพยาบาล อรทัยกับวนิตา กำลังนั่งคุยกันอย่างออกรสที่โซฟา
โดยไม่ได้สนใจคนป่วยแม้แต่น้อย
“ฉันหล่ะหมั่นไส้เกนหลงจริงๆ ทำเป็นเซเลบไฮโซ เชิญแขกมางานหมั้นแค่ไม่กี่คน เพื่อนฉันไม่มีใคร
ได้รับเชิญสักคน บอกว่าขอจัดเฉพาะคนในครอบครัว และก็ต้องมีบัตรเชิญเท่านั้นนะยะ ถึงจะเข้างานได้ ไม่มีห้ามเข้า”
วนิตาเปิดประเด็น อรทัยรีบหันมาถาม
“แล้วเธออยากจะไปหรือเปล่า”
วนิตาตอบกลับไปอย่างลืมตัว
“อยากสิ” หากแล้วก็นึกขึ้นได้ รีบอกตัว “แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรหรอกนะ ฉันก็แค่อยากจะไปดูหน้า
เขม อยากรู้ว่าเขมหมั้นกับเกนหลงด้วยความเต็มใจ หรือว่าแค่หมั้นในหน้าที่”
“ถ้าอยากไปดู ก็รีบไปเตรียมชุดพรุ่งนี้ฉันจะให้เธอไปกับฉัน ไปแทนพี่อัม”
วนิตาตาวาว “จริงเหรออร? เธอจะให้ฉันไปแทนพี่อัมจริงเหรอ? แล้วเธอได้รับเชิญด้วยเหรอ? ใน
ฐานะอะไรอ่ะ?”
สองสาวยังคุยไม่หยุด ใม่ทันสังเกตอัมพิกา ที่เริ่มมึนหัวตึ๊บหน้าเครียดดดดด
“ฉันกับพี่อัมเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของโรงแรมใหม่ที่เขากำลังสร้างนะยะ แค่นี้เขาก็นับฉันเป็นครอบครัว
เดียวกันแล้วย่ะ ถ้าเธอไม่เชื่อ ก็ตามใจ ฉันชวนคนอื่นไปก็ได้”
“โอเคๆ ฉันเชื่อแล้ว ฉันไปเป็นเพื่อนเธอเอง ห้ามชวนคนอื่นเด็ดขาด”
อัมพิกาทนไม่ไหวโพล่งออกมา
“เอาล่ะๆ พอได้แล้วคุยกันรู้เรื่อง ก็กลับไปกันได้แล้ว ฉันปวดหัว ฉันจะนอน ถ้ายังไม่ไป ฉันจะให้
เลขาทิ้งการ์ดเชิญไปให้หมด ไม่ว่าใครก็ไม่ต้องไปทั้งนั้น”
อรทัยกับวนิตาสะดุ้งนิดๆ
“อย่านะคะ อย่าทิ้งนะคะ นิต้ากลับแล้วค่ะ ไปนะคะ พี่อัมหายไวๆนะคะ” พลาง รีบหยิบกระเป๋า
“สวัสดีค่ะ ไปเร็วอร”
อรทัย รีบหยิบกระเป๋าตาม
“อรไปก่อนนะคะพี่อัม เอาไว้ไปงานพรุ่งนี้ถ้ามีอะไรหนุกจะเอามาเม้าให้ฟัง”
วนิตาหัวเราะคิกคักพอใจมากๆ แล้วทั้งสองสาวก็พากันเดินออกไป
“เบาหูไปเยอะเลย”
อัมพิกาถอนหายใจเบาๆ แล้วค่อยๆ หลับตาลง

ก่อนจะถึงวันงานหมั้นระหว่างเขมชาติ และเกนหลง 1 วัน ในขณะที่สมคิดรายงานความคืบหน้า ของการตระเตรียมงาน ทว่าเขมชาติกลับนั่งเหม่อลอย เหมือนไม่มีอารมณ์ร่วมกับสิ่งที่สมคิดรายงานแม้แต่น้อย
“เรื่องขบวนขันหมากทุกอย่างลงตัวแล้วนะครับ ในขบวนมีแต่พนักงานระดับพรีเมี่ยม เสื้อผ้าก็จัดไว้
พร้อม เป็นชุดไทยประยุกต์ สั่งตัดพิเศษ สวยงาม อลังการ ส่วนสินสอด ทองหมั้น ผมจัดเตรียมตามที่คุณเขมสั่ง
เรียบร้อยแล้วครับ”
สมคิดรายงานพลางหันมาทางเขมชาติ พอเห็นนั่งเหม่อก็ถอนใจ
“คุณเขมครับ งานหมั้นจะมีวันพรุ่งนี้แล้วนะครับ”
“ผมรู้” เขมชาติตอบเสียงเศร้าๆ
“รู้แล้วทำไมยังทำหน้าแบบนี้หล่ะครับ?”
เขมชาติคิด และที่สุดก็ยอมเปิดปากพูดระบายออกมา
“ถ้าเราเกลียด โกรธแค้นใครสักคนมานานแสนนาน รอวันที่จะแก้แค้นอย่างสาสม แต่พอวันนั้นมาถึง
จริงๆ พอเราได้แก้แค้น ได้ทำในสิ่งที่เราต้องการ แต่ทำไมเราถึงไม่มีความสุข ทำไมความรู้สึกที่มันค้างคาอยู่ในใจมัน
ไม่หายไป”
เขมชาติพูดด้วยความเจ็บปวด และสับสน สมคิดฟังอย่างเข้าใจ และพยายามจะปลอบใจ
“อะไรก็ตามที่มันเกิดขึ้นในชีวิตเรา มันไม่มีวันหายไปหรอกครับคุณเขม เพราะมันคือส่วนหนึ่งของ
ชีวิต ส่วนหนึ่งของความทรงจำของเรา ยิ่งคุณพยายามจะทำอะไรก็ตาม จะเพื่อแก้แค้น เพื่อความสะใจ มันก็เท่ากับ
เพิ่มสิ่งที่เราจะต้องจำมากขึ้นไปอีก”
เขมชาติสะอึก จุก และเห็นจริงตามที่สมคิดพูด
“และไม่ว่าอะไรก็ลบมันไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่า เราจะกลับไปคิดถึงมันหรือเปล่า”
“ผมไม่ได้อยากจะคิดถึงมัน แต่มันมาของมันเอง” สีหน้าของเขมชาติอมทุกข์
“ที่มันมาก็เพราะคุณเขมไม่อยู่กับปัจจุบัน ปัจจุบันคือตอนนี้ตรงนี้ “พลางปรายตามองของหมั้นที่
วางอยู่ “สิ่งที่คุณเขมจะต้องคิดถึงคือการเตรียมงานหมั้นของคุณกับคุณเกนหลง ไม่ใช่อดีตของคุณกับผู้หญิงคนอื่น”
เขมชาติยิ่งคิด ยิ่งเครียด สมคิดจับไหล่ทั้งสองข้าง
“จำไว้นะครับคุณเขม อดีตทำอะไรคุณไม่ได้ ถ้าคุณไม่กลับไปคิดถึงมัน”
เขมชาติฟังแล้วหลบตา ไม่กล้าสบตาสมคิด เพราะรู้ตัวว่าทำไม่ได้อย่างที่สมคิดพูด

สุริยงยืนอยู่ในบ้าน รอบๆ แวดล้อมไปด้วย ขนมในขบวนหมั้นที่ถูกวางเรียงเตรียมไว้อย่างสวยงามพลางคิดถึงเขมชาติ ลึกๆ แล้วเธอก็ไม่เคยลืมเขาเช่นเดียวกัน
สุริยงสะบัดหน้านิดๆ ไล่ความคิด เชิดหน้า เข้มแข็ง และตัดสินใจบางอย่าง

จากนั้นสุริยงก็ขึ้นมาบนห้องนอน ก่อนที่จะหยิบกล่องที่เก็บของเก่าๆ ระหว่างเธอกับเขมชาติออกมา เปิดกล่องออกเห็นรูปเก่าๆ และสรรพสิ่งนานา ที่มีความหลังร่วมกัน
สุริยงมองกล่องด้วยความแน่วแน่แล้วมองซ้ายมองขวาหยิบเอาถุงเปล่าที่วางอยู่แถวนั้นมาหนึ่งใบ

ในช่วงเวลาเดียวกัน เขมชาติก็มาจอดรถอยู่ที่หน้าบ้านของสุริยง ด้วยใบหน้าเศร้า แววตาครุ่นคิด สับสน ลึกๆ แล้ว อยากจะลงไปหาใจแทบขาด แต่ก็ไม่รู้จะลงไปหาในฐานะอะไร
เขมชาตินั่งอยู่ในรถ มองหลังคาบ้านสุริยงด้วยความคิดถึง ทันใดนั้นก็ต้องชะงักเพ่งมองไปที่ประตูรั้วเห็นสุริยงเดินออกมาในมือถือกล่องและถุงขยะมาหนึ่งใบ
เขมชาติมองด้วยความสงสัย
สุริยงหยุดคิดชั่วเสี้ยววินาที ก่อนที่จะตัดสินใจทิ้งถุงขยะ และกล่องของลงในถังหน้าบ้าน เขมชาติเห็นจังหวะนั้นพอดี ยิ่งรู้สึกว่า กล่องนี้ต้องสำคัญ
เมื่อสุริยงเข้าบ้านไป เขมชาติตัดสินใจเดินไปที่ถังขยะ เมื่อเห็นว่าปลอดภัยก็หันไปหยิบกล่องมาดู ทว่ากล่องนั้นเบาหวิว ว่างเปล่า ไม่มีอะไรอยู่ข้างใน
เขมชาติหน้าผิดหวัง ก่อนจะวางกล่องไว้ที่เดิม และกำลังจะหันหลังกลับไปที่รถ แต่ฉุกคิดเอะใจบางอย่าง หันกลับมาที่ถังขยะอีกครั้ง มองไปที่ถุงขยะที่สุริยงถือมาพร้อมกับกล่อง
เขมชาติหันไปหยิบถุงมาและเปิดดู ทันทีที่เขมชาติเห็นของที่อยู่ในถังขยะถึงกับอึ้งไป

เช่นเดียวกับเกนหลง ที่ยืนอยู่กลางบ้าน แวดล้อมไปด้วยซุ้มดอกไม้ที่พร้อมสำหรับงานวันพรุ่งนี้ หากหน้าตากลับไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย
พลันเสียงเอื้อดังขึ้นด้านหลัง
“คุณยายฝากให้พี่เอาของสำคัญมาให้”
เกนหลงหันกลับมา เห็นเอื้อเดินเข้ามาพร้อมกับกล่องเครื่องเพชรขนาดใหญ่
เกนหลงยิ้มรับนิดๆ “ขอบคุณมากค่ะ”
และเมื่อเปิดดู ภายในเป็นเครื่องเพชรแบบโบราณ มีสร้อย ต่างหู เกี้ยวสำหรับติดผม เข็มกลัด สายสะพาย และเข็มขัดทอง
“โห สวยจังเลย”
“เราไปทำเสน่ห์อะไรมา คุณยายพี่ถึงได้เอ็นดูขนาดนี้ เครื่องทองชุดนี้คุณยายหวงมากเลยนะ ขนาดพี่
อัม ยัยอร ขอยืมไปใส่ออกงานยังไม่เคยให้ แต่นี่ถึงกับเรียกพี่ไปรับมาส่งให้เราด้วยตัวเอง คนรถ คนรับใช้ เต็มบ้านยัง
ไม่ไว้ใจ ต้องให้พี่เอามาให้เอง”
เกนหลงยิ้มอายๆ

“เกนก็ไม่ได้ทำอะไรนะคะ เมื่อตอนกลางวัน คุณยายท่านโทร.มาเอง ให้เกนถ่ายรูปเครื่องเพชรที่จะใส่กับชุดพรุ่งนี้ไปให้ดู เกนก็ส่งไป ท่านก็โทรกลับมาบอกว่า เครื่องเพชรมันทันสมัยไป ไม่เข้ากับสไบ แล้วท่านก็บอกว่าเดี๋ยวให้พี่เอื้อเอาของที่เหมาะสมมาให้”

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 22 วันที่ 19 เม.ย. 57

ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทประพันธ์ : ทมยันตี
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทโทรทัศน์ : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันกำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันผลิต : บ. ละครไท จำกัด โดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3