@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 9/4 วันที่ 19 ก.ค. 57

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 9/4 วันที่ 19 ก.ค. 57

นวัชจ้องหน้าสิทธิพรเขม็งเพราะเกิดมาไม่เคยเจอใครหน้าด้านขนาดนี้มาก่อน
สิทธิพรหันไปยิ้มให้นิษฐา “ไว้เจอกันนะครับ”

สิทธิพรกางร่มเพื่อจะเดินไปที่รถของตัวเอง เท้าของสิทธิพรเหยียบลงไปบนพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำ ทันใดนั้น สายไฟฟ้าตรงเสาไฟก็ขาดออกเกิดเสียงดังสนั่น ประกายไฟแลบแปลบ สายไฟนั้นตกลงบนพื้นที่เจิ่งนองด้วยน้ำทันที พริบตานั้นเอง นวัชก็กระชากคอเสื้อสิทธิพรจากทางด้านหลังพร้อมกับดึงสิทธิพรกลับมาบนฟุตบาทจนสิทธิพรล้มก้นกระแทกกับพื้น แต่ก็รอดชีวิตหวุดหวิดจากการถูกไฟฟ้าช็อต สิทธิพรตกใจและไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่นวัชกับนิษฐาหน้าเครียดเพราะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกัน


พิมพ์อรกำลังเถียงกับกสิณอยู่
พิมพ์อรโมโหมาก “นับวันเธอจะยิ่งพลาด เรื่องเจติยาก็จัดการไม่ได้ เรื่องสิทธิพรก็เหลวอีก ตกลงเธอทำจะอะไรสำเร็จได้อีกมั้ย”
กสิณปั้นหน้าจ๋อยๆ “พลังฉันมีจำกัด สูญเสียไปกับการต่อสู้กับเจติยาคราวก่อน ยังไม่ฟื้นตัวเลย” พิมพ์อรโมโหจึงพูดแดกดัน “พูดง่ายดีนี่ ฉันอยากจะพูดแก้ตัวง่ายๆได้อย่างเธอบ้างจัง”
กสิณพูดหน้านิ่งอย่างไม่ค่อยพอใจ “เรายังมีวิธีสุดท้ายอยู่” กสิณจ้องหน้าพิมพ์อรเพื่อท้าทาย “แต่ไม่รู้ว่าเธอจะยอมทำรึเปล่าล่ะ”
“วิธีอะไร”
“ทำร้ายลาภิณ เพื่อบีบให้เจติยามอบเหรียญให้เธอ”
พิมพ์อรตกใจมาก “ไม่ ฉันไม่มีวันทำร้ายน้องต้นเด็ดขาด”
“ฉันรู้ ว่าเธอต้องตอบแบบนี้ แต่ฉันก็หมดทางแล้วเหมือนกัน ยิ่งเจติยาชำระเหรียญมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งอ่อนแอลงมากเท่านั้น จนในที่สุด ฉันก็คงช่วยเหลืออะไรเธอไม่ได้อีก ทั้งเรื่องงาน แล้วก็เรื่อง” กสิณจงใจเน้น “พ่อของเธอ”
กสิณจ้องหน้าพิมพ์อรเป็นเชิงท้าทาย พิมพ์อรเครียดหนักเพราะพอเอาเรื่องพ่อมาต่อรอง เธอก็ลังเลจนไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน
“เธอต้องตัดสินใจแล้วล่ะพิมพ์อร ว่าจะเลือกชีวิตพ่อ หรือความหลงโง่ๆ” กสิณแสดงสีหน้าดูถูก
พิมพ์อรตัดสินใจยากลำบากิณพูดด้วยน้ำเสียงหยันๆ ดังนำมาก่อน “ที่แท้ เธอก็ทำงานอยู่ที่นิราลัยนี่เอง”
เจติยาเหลือบตามองยิ้มๆ “พูดเหมือนเพิ่งทราบ”
ลาภิณมีสีหน้าบึ้งตึงไม่พอใจ “เธอกำลังจะตำหนิฉันว่าเป็นผู้บริหารประสาอะไรถึงไม่รู้จักพนักงานล่ะสิ”
เจติยาทำหน้าตาย จ้องหน้าลาภิณ “คุณพูดเองนะ”
ลาภิณจ้องหน้าเจติยาด้วยแววตาเขม่นๆ หมั่นไส้ “เธอนี่มันกวนประสาทจริงๆเลยนะ”
เจติยาน้ำเสียงอ่อนลง ดูตัดพ้อน้อยใจอยู่ในที “ตอนที่เราเจอกันครั้งแรก คุณก็มองเจด้วยสายตาแบบนี้ พูดกับเจด้วยความรู้สึกแบบนี้” หญิงสาวน้ำตารื้น “ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ ว่าเรารักกันจนแต่งงานกันไปแล้ว แต่จะต้องถอยกลับมาอยู่ที่เดิมอีก”
ลาภิณอึ้งๆไปเล็กน้อย ก่อนตัดอารมณ์ ปันหน้าไม่พอใจ “ฉันไม่หลงกลเธอหรอก ถ้าเราแต่งงานกันจริง ฉันก็ต้องจำเธอได้สิ พูดมาตรงๆเลยดีกว่า เธอต้องการอะไรจากฉันกันแน่”
เจติยาเห็นแววตาลาภิณก็รู้ว่าเค้าจำไม่ได้จริงๆ แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ “คุณต้นมาดูอะไรนี่สิคะ”
เจติยาพาลาภิณมาที่เตียงที่มีศพคลุมผ้านอนอยู่ ก่อนจะเปิดผ้าคลุมศพออก
ลาภิณไม่ได้มีทีท่าตกใจกลัวแต่แปลกใจมากกว่า “เธอให้ฉันดูศพทำไม”
“คุณไม่กลัวเหรอคะ”
“เมื่อก่อนก็กลัวอยู่หรอก แต่ฉันเข้ามาห้องนี้บ่อยๆ เห็นจนชินก็เลยหายกลัว”
“แล้วทำไมคุณถึงต้องเข้ามาห้องนี้บ่อยๆ ด้วยล่ะคะ ผู้บริหารอย่างคุณ ไม่จำเป็นต้องเข้ามาที่นี่ก็ได้”
ลาภิณตอบโพล่งออกไป “ก็ฉันเข้ามาหา...” ลาภิณหยุดกึกพอจะจำได้ก็เหมือนถูกบีบให้จำไม่ได้
“ตั้งสติให้ดีนะคะคุณต้น ไม่ว่าคุณจะถูกครอบงำด้วยอะไรก็ตาม ถ้าคุณมีจิตใจที่เข้มแข็ง คุณก็จะเอาชนะมันได้”
ลาภิณพยายามนึกก็เริ่มปวดหัวมากขึ้น ปวดเหมือนถูกบีบสมอง...
ลาภิณรู้สึกเจ็บปวดมาก ต้องยกมือขึ้นกุมหัว ทรุดลงนั่งคุกเข่ากับพื้น สีหน้าเจ็บปวดมากทนไม่ได้ “โอ๊ย”
เจติยาเห็นลาภิณปวดหัวหนักก็เป็นห่วงรีบเข้าประคองกอดเอาไว้ “คุณต้นพอแล้วค่ะคุณต้น หยุดคิดได้แล้ว ตั้งสติอยู่ที่ลมหายใจเข้าออกค่ะ”
ลาภิณพยายามทำตาม
“ผ่อนคลายขึ้นมั้ยค่ะ”
ลาภิณผลักเจติยาออกไป “อย่ามาถูกตัวฉัน” ชายหนุ่มลุกเดินโซซัดโซเซออกจากห้อง
เจติยารู้สึกเสียใจมองตามลาภิณไปด้วยความเป็นห่วง
พอลาภิณเดินพ้นมุมตึกไปพิมพ์อรที่ซุ่มแอบมองอยู่มุมหนึ่งค่อยๆ ปรากฏตัวออกมา พิมพ์อรมองตามลาภิณไปด้วยความหวั่นใจกลัวจะจำเจติยาได้

พิมพ์อรกำลังเดินหน้าเครียดมาตามทาง บริเวณทางมีภาพเขียนแขวนอยู่เพื่อความสวยงาม พิมพ์อรเดินผ่านภาพเขียนไป ทันใดนั้น ภาพเขียนก็โป่งพองออกมา เป็นรูปใบหน้าคน
“เธอไม่ต้องกลัว ลาภิณไม่มีทางหลุดจากอำนาจฉันไปได้หรอก”
พิมพ์อรหันกลับมาคุยกับกสิณ “ก็เพราะฉันเชื่อเธอนั่นแหละ ถึงได้ยอมให้เค้ามาที่นี่”
ภาพเขียนโป่งพองออกมาเรื่อยๆ เป็นรูปคนคลานออกมาจากภาพ ก่อนจะกลายเป็นกสิณ “เธอไม่ควรสงสัยในพลังของฉัน”
พิมพ์อรชักหงุดหงิด ไม่สบายใจ “นี่เธอต้องการอะไรกันแน่ ฉันรู้สึกเหมือนเธอปิดบังอะไรฉันอยู่”
กสิณยิ้มบางๆ ไม่ตอบ แต่หันไปมองตามทางเดิน เหมือนรอใครซักคนกำลังมา
ขณะนั้นเอง ชาครก็เดินเข้ามาหาพิมพ์อร “คุณอรครับ” ชาครมองไปรอบๆหากสิณ แต่มองไม่เห็น กสิณ “คุณอรอยู่คนเดียวรึเปล่าครับ”
กสิณยิ้มขำๆที่ชาครหวาดกลัวตน
พิมพ์อรหงุดหงิด “มีเรื่องจะพูดกับฉันแค่นี้ใช่มั้ย”
“เอ่อ เดี๋ยวครับคุณอร ผมจะมาแจ้งข่าว คุณกัมปนาทเพิ่งถูกฆ่าตายครับ”
พิมพ์อรตกใจคิดไม่ถึงว่ากัมปนาทจะตายง่ายดายแบบนี้

นวัชพยายามฝ่ากองทัพนักข่าวเข้าไปในห้องทำงานของผู้บังคับบัญชา โดยนักข่าวพยายามทำข่าวการตายของกัมปนาท ต่างยิงคำถามจนฟังกันแทบไม่ทัน
“ขอทางด้วยครับ เดี๋ยวรอแถลงข่าวนะครับ ขอบคุณครับ” นวัชฝ่าเข้ามาในห้อง แล้วปิดประตูห้องจนได้ นวัชถอนใจโล่งอก ก่อนจะหันไปยืนตรงเคารพผู้บังคับบัญชา “สวัสดีครับท่าน”
“อ้ะ นั่งก่อนผู้กอง ขอโทษทีนะ วันนี้วันหยุดคุณแท้ๆ แต่ต้องถูกเรียกตัวมาช่วยงาน”
“ผมเข้าใจครับท่าน แต่คนอย่างนายกัมปนาท มีศัตรูรอบทิศ ไม่รู้จะจับมือใครดมเลยนะครับ”
“ที่จริงก็ยังไม่ได้มืดแปดด้านซะทีเดียวหรอกนะ ลูกน้องนายกัมปนาทให้การว่าเจ้านายเพิ่งมีเรื่องทะเลาะกับญาติห่างๆ บางทีอาจจะเป็นชนวนการฆาตกรรมก็ได้”
ผู้บังคับบัญชายื่นแฟ้มผลสอบปากคำให้นวัช
นวัชรับแฟ้มมาอ่านต้องตกใจอย่างนึกไม่ถึงรำพึงออกมา “คุณต้น”

พิมพ์อรกำลังให้ปากคำตำรวจอยู่ในห้องสอบสวน ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ดิฉันก็แค่ไปพบเค้า เพื่อคุยเรื่องโปรเจคต์กาสิโนซิตี้เท่านั้นเอง แค่ไม่ได้งาน ทำไมต้องไปฆ่าเค้าด้วยล่ะค่ะ เดือนนึงฉันไม่ได้งานตั้งหลายที่ นี่ฉันไม่ต้องฆ่าคนตายทุกเดือนเลยเหรอคะ”
“ใจเย็นๆสิครับ ทางตำรวจยังไม่ได้สรุปว่าการตายของคุณกัมปนาทเกี่ยวข้องกับคุณเลยนะครับ เราเพียงแต่เรียกคุณมาสอบปากคำ เพราะมีพยานให้การว่าผู้ตายมีปากเสียงกับคุณไม่นานก่อนตายเท่านั้นเอง”
พิมพ์อรจะบอกว่าถูกลวนลามก็อาย เลยยิ่งหงุดหงิดหนักพูดกลบเกลื่อน “เราก็แค่เถียงกันเรื่องงานน่ะค่ะ”
ขณะนั้นเอง นวัชก็เปิดประตูนำลาภิณเข้ามา
ลาภิณเห็นพิมพ์อรก็แปลกใจ “อ้าวพี่อร นี่พี่ก็โดนเรียกมาสอบปากคำด้วยเหรอครับ”
พิมพ์อรพยักหน้ารับด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ไม่สบายใจที่ทั้งลาภิณทั้งตนต้องมาสอบปากคำพร้อมกันอีก

ในห้องทำงานส่วนตัวของเจติยาที่นิราลัย
เจติยากำลังอ่านข้อมูลพร้อมดูรูปถ่ายของกัมปนาท โดยมีนิษฐาอยู่ด้วย
“ฉันหามาให้แกได้แค่นี้แหละ มากกว่านี้เดี๋ยวโดนข้อหาเปิดเผยความลับของราชการ”
“แค่นี้ก็ขอบใจมากแล้วล่ะฐา” เจติยาอ่านข้อมูลไปอย่างตั้งใจ
“เค้าเป็นญาติคุณต้นไม่ใช่เหรอ” เจติยาพยักหน้ารับ “คุณต้นไม่เคยเล่าเรื่องตานี่ให้แกฟังบ้างเลยเหรอะ”
“เคยพูดถึงนิดหน่อย แต่ดูเหมือนคุณต้นก็ไม่ชอบนายนี่ซะเท่าไหร่หรอก”
เจติยาดูรูปในมือต่อ เห็นรูปกัมปนาทหลายรูปมีอยู่รูปนึง เป็นภาพถ่ายกัมปนาทมุมหันข้าง ทันใดนั้น รูปกัมปนาทในภาพถ่าย ก็หันมาจ้องเจติยา “บอกความจริง!!!”
เจติยาผงะด้วยความตกใจ โยนรูปในมือทิ้งทันที รูปถ่ายของกัมปนาทสีหน้านิ่งแววตาดุดัน

มุมหนึ่งของนิราลัย เจติยากำลังคุยกับกัมปนาทอยู่
กัมปนาทเคียดแค้น “คนอย่างฉันไม่ยอมตายฟรีหรอก ยังไงก็ต้องลากคอไอ้คนที่ฆ่าฉัน ไปลงนรกกับฉันให้ได้”
เจติยารู้สึกไม่ชอบนิสัยแบบนี้เลย “ฉันช่วยคุณได้แค่หาตัวฆาตกรเท่านั้นนะคะ ถ้าคุณจะล้างแค้น ฉันคงช่วยอะไรคุณไม่ได้”
“เออ รู้แล้วน่ะ งั้นเธอก็หาตัวมันออกมาสิ ฉันจะได้ไปตามทางของฉันซะที”
“มันไม่ง่ายอย่างงั้นหรอกค่ะ คนอยากฆ่าคุณมีเต็มไปหมด ทั้งคนที่เกลียดคุณ แล้วก็คนที่มีผลประโยชน์ขัดกับคุณ”
“ฉันรู้ ว่าศัตรูฉันมีเยอะ แต่คนที่วางระเบิดฆ่าฉันได้ มันมีไม่กี่คนหรอก”
กัมปนาทบอกด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง อาฆาตแค้นเต็มเปี่ยม

ย้อนไปช่วงเวลาเกิดเหตุกัมปนาทเดินมาที่รถของตนที่จอดอยู่ริมถนน พอเปิดประตูขึ้นไปขับรถ รถยนต์ของกัมปนาทก็ระเบิดเสียงดังลั่นทันที
“ฉันขับรถออกมาจากบ้าน แล้วก็แวะทำธุระนิดหน่อย ถ้าจะวางระเบิดฆ่าฉัน ก็ต้องอาศัยช่วงเวลานี้แหละ”
“ข้อมูลแค่นี้ ตำรวจคงหาได้ไม่ยากหรอกค่ะ แต่ฉันว่ามันก็ยังไม่พอจะสาวไปถึงตัวฆาตกรได้อยู่ดี เพราะถ้าใครคิดจะฆ่าคนอย่างคุณ ก็ต้องวางแผนมาอย่างรอบคอบ คงไม่ถูกกล้องวงจรปิดตามถนน หรือคนผ่านไปผ่านมาเห็นตอนวางระเบิดอยู่แล้ว”
“งั้นเธอก็หาตัวมันออกมาสิ หน้าที่ของเธอไม่ใช่เหรอะ”
“ฉันทำเพื่อช่วยวิญญาณที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่มันไม่ใช่หน้าที่ค่ะ เข้าใจให้ถูกต้องด้วย”

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 9/4 วันที่ 19 ก.ค. 57

ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณี
ละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ